ความแรงในระดับ 280 แรงม้าในแบบเดิมๆ จากโรงงาน ของ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน X หรือเจนเนอเรชันที่ 10 อาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับลูกค้าบางกลุ่มที่ต้องการความแตกต่างและความแรงที่ เพิ่มขึ้น นี่ก็เลยเป็นที่มาของการเปิดตัวเวอร์ชันพิเศษที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับ ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งรหัส FQ ที่ขายอยู่ในประเทศอังกฤษ ถือเป็นเวอร์ชันตัวแรงของสายพันธุ์อีโวลูชันที่ได้รับการยอมรับมานาน และล่าสุดเพิ่งจะมีการเปิดตัวรหัสร้อนรุ่นใหม่ FQ-400 ออกสู่ตลาด

FQ-400 ถือเป็นทางเลือกแห่งความแรงรุ่นที่ 4 ของรหัส FQ ต่อ จาก FQ-300 (295 แรงม้า) FQ-330 (329 แรงม้า) FQ-360 (359 แรงม้า) โดยตัวรถเป็นการอัพเกรดมาจากรหัส FQ-360 เสริมความสวยรอบคันด้วยชุดแอโรพาร์ตทรงใหม่ และลิ้นใต้กันชนหน้าซึ่งผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ขณะที่ภายในห้องโดยสารตกแต่งยกระดับความสปอร์ต พร้อมกับเปลี่ยนเบาะนั่ง Recaro มาเป็นแบบหุ้มหนัง โดยที่บนเบรกมือมีการระบุคันที่ผลิตเอาไว้ด้วย (แต่ไม่ได้บอกว่าเวอร์ชันนี้มีผลิตออกสู่ตลาดกี่คัน)

ตัวรถถูกลดความสูงลงจากรุ่นปกติ 30 มิลลิเมตร ด้วย ชุดสปริงของ Eibachs ซึ่งจับคู่กับโช้กอัพจาก Bilstien แถมด้วยล้อแม็กลายใหม่ขนาด 18 นิ้วจับคู่กับยาง Toyo Proxes R1R พร้อมดิสก์เบรกหน้าหลังขนาดใหญ่และคาลิเปอร์จาก Alcon

มั่นใจได้ในความแรง เพราะ ว่าเครื่องยนต์ 4B11T บล็อกใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวกับแลนเซอร์ อีโวลูชันรุ่นนี้ ถูกอัพเกรดความแรงอย่างสะใจ แถมยังพ่วงด้วยความทนทานต่อการใช้งาน เพราะผ่านการทดสอบอย่างต่อเนื่องนานถึง 500 ชั่วโมง โดยขุมพลังแบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี เทอร์โบพร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ได้รับการเปลี่ยนกล่อง ECU ใหม่ เปลี่ยนเทอร์โบใหม่เป็นแบบ Hybrid เช่นเดียวกับหัวฉีดแบบ High Flow ส่วนท่อไอดีที่ต่อเข้าสู่อินเตอร์คูลเลอร์ในการลดความร้อนของลมที่ถูกอัดโดย เทอร์โบมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 3 นิ้ว

ผลที่ได้คือ กำลังสูงสุดขยับขึ้นมาเป็น 403 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 53.5 กก.-ม. ที่ 3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์แบบทวินคลัตช์ SST สู่การขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา S-AWC (Super All Wheel Control)ที่สามารถเลือกปรับการกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับ สภาพเส้นทาง เช่น ทางราดยาง, ทางกรวด หรือหิมะ

สมรรถนะถือว่าไม่เป็นรองซูเปอร์คาร์ค่าตัวเรือนแสน (ปอนด์) เพราะว่า FQ-400 ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วปลายถูกล็อกเอาไว้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่ 155 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ค่าตัวของ FQ-400 ถือว่าแรงไม่แพ้สมรรถนะ เพราะ มิตซูบิชิตั้งเอาไว้ที่ 49,999 ปอนด์ หรือ 2.75 ล้านบาท และเริ่มวางขายในอังกฤษตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ ส่วนบ้านเราสาวกอีโวลูชันที่สนใจน่าจะสั่งได้ผ่านทางผู้นำเข้ารายย่อย แต่ราคาสุดท้ายจะเป็นเท่าไรนั้น คงต้องไปตกลงกันเอง คาดว่าน่าจะ 3 เท่าจากราคาขายในอังกฤษ