เมื่อช่วงต้นฤดูหนาวที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญให้เข้าไปพักผ่อนที่ Positano รีสอร์ทขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดใหม่ของอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา รีสอร์ทแห่งนี้ห่างจากถนนมิตรภาพบริเวณเขื่อนลำตะคองประมาณ 20 กิโลเมตร เข้าไปทางชุมชนคลองไผ่ จุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้าพักคือทำเลของห้องพักแบบ Positano villa ที่อยู่บนเชิงเขา สามารถเห็นวิวทุ่งนา วิวภูเขาแบบพาโนรามาจากมุมสูง ซึ่งเป็นวิวจากห้องพักที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งที่ผมเคยไปมา ในส่วน Positano villa ซึ่งเป็นอาคารหลักของรีสอร์ท เป็นอาคารสามชั้น โดยมีห้องพักชั้นละ 1 ห้อง และแต่ละชั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางเช่น ที่ชั้น 1 พื้นที่ส่วนกลางจะเป็นส่วนต้อนรับ ชั้นสองพื้นที่ส่วนกลางเป็นห้องอาหารบริการอาหารอิตาเลี่ยน ส่วนชั้นสามจะมีโต๊ะอาหารบรรยากาศดี จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของที่นี่คือชั้นดาดฟ้าที่มีอ่าง Jacuzzi สามารถชมวิวได้โดยรอบ ในส่วนอาคารหลักนี้สามารถเห็นวิวที่สวยงามจากแทบทุกส่วนเพราะตัวอาคารอยู่บนเนินเขา

ส่วนจุดด้อยของที่นี่คงเป็นที่ระยะทางที่ไกลจากถนนมิตรภาพ และบริเวณที่ตั้งของรีสอร์ทไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบ พักผ่อน นอนเล่นที่รีสอร์ท ในส่วนของห้องพักเป็นห้องค่อนข้างเล็ก ไม่มีมุมให้นั่งเล่นนอนเล่นมากนัก และในห้องน้ำก็ไม่กว้างมาก ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่วิวจากห้องพักเป็นวิวที่สวยงามโดยเฉพาะวิวจากห้องบนชั้นสาม ช่วงตอนเช้า สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้จากระเบียงห้องพักได้เลย นอกจากนี้ในบริเวณรีสอร์ทยังมีจุดชมวิวอยู่ไม่ไกลจาก Positano villa สามารถเห็นวิวทุ่งนา ภูเขาจากมุมสูง เป็นวิวที่หาชมได้ยากและสวยงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกของรีสอร์ท ลองมาชมภาพความประทับใจผ่านทางมุมมองของผมในการไปเยือนรีสอร์ทเปิดใหม่แห่งนี้ที่อำเภอสีคิ้ว

ผมขอวางแผงนิตยสาร online ชายไม้ชายเขาฉบับที่ 75 ประจำเดือนธันวาคม กับรีสอร์ทแห่งใหม่ไม่ไกลจากเขื่อนลำตะคอง ผมจะพาไปเก็บแสงตะวันยามเช้า กับรีสอร์ทบนเนินเขาที่ Positano นครราชสีมา


ป้ายชื่อหน้าทางเข้า ถ้ามาจากกทม ให้เลี้ยงซ้ายตรงข้ามกับทางเข้าสวนเมืองพร (แยกเลี้ยวซ้ายจากมิตรภาพจะมี สองแยกอยู่ใกล้กันครับ แยกแรกเข้าไปยังเขื่อนลำตะคอง อีกแยกหนึ่งเลยไปนิดเดียวอยู่ใกล้ๆกัน แยกนี้จะสะดวกกว่าครับ) จากนั้นขับต่อไปอีกประมาณ 20 กม ผ่านชุมชนคลองไผ่ และบ้านหนองน้ำใส มีป้ายบอกทางตลอด ไปง่าย


จากป้ายทางเข้าต้องขับรถไปอีกพอสมควร จะเห็นอาคารนี้ซึ่งชื่อว่า Positano Villa อยู่บนเนินแต่ไกล


ตัวอาคารนี้อยู่บนเนินสูง ทำให้เห็นวิวทุ่งหญ้า ภูเขา สวยงามมากครับ แต่จะไม่เห็นวิวของอ่างเก็บน้ำลำตะคอง


ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์น สวยงาม สวยทั้งการตกแต่ง การออกแบบ และวิวที่อยู่ด้านนอก


ภาพนี้เป็นทางเข้าไปยัง lobby ที่ชั้น 1


อาคาร Positano Villa ที่ถูกออกแบบได้สวยงามกับบรรยากาศช่วงค่ำๆ


ส่วนที่ยื่นออกมาไม่ใช่ส่วนของห้องพักครับ แต่เป็นส่วนของห้องอาหารบนชั้นสอง


ห้องพักทั้งสามห้อง ชั้นสามคือห้อง Hilltop ชั้นสองเป็นห้อง Valley view และชั้นหนึ่งเป็นห้อง Pool front มีสระว่ายน้ำส่วนกลางอยู่ที่หน้าห้องพักชั้นล่าง ถ้าพักห้องชั้นล่างก็จะเหมือนเป็นห้อง Pool access เลยครับ แต่จะไม่ส่วนตัวเวลาที่แขกห้องอื่นๆลงมาว่าย


ด้านหนึ่งของสระว่ายน้ำเป็นผนังใส ไว้ชมวิวใต้น้ำ เสียดายช่วงที่ผมไปอากาศหนาวมากครับ เลยเล่นน้ำได้ไม่นาน


ลานนั่งเล่นชมวิวที่ชั้นหนึ่ง บริเวณ lobby


ภายใน lobby เป็นห้องเล็กๆ แต่ก็เห็นวิวจากมุมสูงเช่นกัน


บริเวณห้องอาหารบนชั้นสอง ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม


ระเบียงบนชั้นสองที่อยู่นอกห้องอาหารไว้สำหรับรับลมชมวิว


บรรยากาศห้องอาหาร เป็นห้องอาหารเล็กๆครับ แต่ออกแบบได้ดีและที่สำคัญคือวิวดีมากๆ


โคมไฟที่สวยงาม ของประดับของที่นี่ถูกเลือกมาอย่างดี


ต่อไปผมจะพาเข้าห้องพักบนชั้นสาม ที่ชื่อว่า Hilltop Room


ห้องพักทั้งสามห้องจะมีพื่นที่ใช้สอยในห้องเท่ากันคือ 53 ตร.ม. ค่อนข้างเล็ก แต่ก็ได้รับการออกแบบอย่างดี เท่าที่สังเกตห้องชั้นสามเป็นห้องเดียวที่เป็นเตียงใหญ่ ห้องอื่นจะเป็นเตียงเล็กสองเตียงติดกัน


จุดเด่นที่สำคัญของห้องพักที่นี่คือวิวจากห้องพักครับ มีที่นั่งเล่นอยู่ปลายเตียงไว้ชมวิวสวยๆ


หลังเตียงนอนจะเป็นส่วนของโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น และห้องน้ำ


บรรยากาศในห้องพักกับวิวจากมุมสูง ในห้องมีทั้ง LCD ทีวีพร้อมช่องหนัง เครื่องเล่น DVD


ภาพนี้จะเห็นตู้เสื้อผ้า เครื่องทำกาแฟ ตู้เย็นอยู่หลังเตียงนอน


สิ่งของประดับเล็กๆน้อยๆที่โต๊ะข้างเตียง ทำให้ห้องดูสดใสขึ้น


ภายในห้องน้ำ ห้องน้ำที่นี่ไม่กว้างมากครับ ไม่มีอ่างอาบน้ำ ผมชอบพื้นไม้ ดูน่าใช้


มีอ่างล้างหน้าอ่างเดียว ออกแบบไว้น่าใช้


มีฝักบัวฝนตก เสียดายที่ในห้องน้ำน่าจะมีอ่างและมีส่วนที่เป็นกระจกใสเพราะวิวด้านนอกสวยมากๆ


วิวจากระเบียงห้องพักตอนเช้ามืด


พระอาทิตย์ขึ้นกลางลมหนาว ยังจำบรรยากาศของเช้าวันนั้นได้เสมอ ประทับใจมากๆครับ


บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ขึ้น พนักงานบอกว่า บางวันจะเห็นหมอกสวยๆทั่วทั้งบริเวณรีสอร์ท เสียดายวันที่ผมไปลมแรง เลยไม่มีหมอก


บรรยากาศภายในห้องนอนกับวิวสวยๆด้านนอก


บรรยากาศยามเช้าหน้าห้องพัก โต๊ะที่เห็นอีกด้านหนึ่ง สามารถมาทานอาหารเย็นที่โต๊ะตัวนั้นได้ครับ บรรยากาศดี


กลับมาที่บรรยากาศของห้องอาหารบนชั้นสอง


ไม่ว่าอยู่มุมไหนของที่นี่ก็เห็นวิวทุ่งหญ้าจากมุมสูง สวยดีครับ


ที่โต๊ะทานข้าวอีกมุมหนึ่ง


ภาพนี้เป็นบรรยากาศยามเช้าจากระเบียงด้านนอกของห้องอาหารบนชั้นสอง ผมชอบวิวภูเขาที่เห็นอยู่ไกลๆ


วิวสวยๆยามเช้าจากระเบียงห้องอาหารบนชั้นสอง


บรรยากาศที่ห้องอาหารยามเช้า ที่นี่มีห้องอาหารที่เดียวซึ่งบริการอาหารทุกมื้อ


บรรยากาศที่ชั้นสอง มีบันใดและลิฟต์ (ช่วงที่ผมไปกำลังติดตั้งลิฟต์ จวนจะเสร็จ คาดว่าตอนนี้น่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ)


มุมมองจากชั้นสามของโต๊ะทานอาหารที่อยู่ชั้นสอง กับวิวภายนอก ที่จอดรถของรีสอร์ทจะอยู่บริเวณวงเวียนในภาพ


อาหารเช้าเป็น ABF


บรรยากาศบนชั้นสาม ชั้นนี้ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางมากนัก มีทางเดินไปยังระเบียงที่สามารถใช้เป็นมุมทานอาหารเย็น


วิวจากระเบียงบริเวณห้องอาหารบนชั้นสองช่วงกลางวัน


กลับมาในห้องพักอีกนิดครับ มาชมบรรยากาศตอนกลางวัน ช่วงที่พักอยู่ที่นี่ผมชอบมานั่งเล่นชมวิวที่เก้าอี้ตัวนี้


วิวจากห้องบนชั้นสามอีกภาพ กันตกที่ระเบียงของห้องนี้เป็นกระจกใสเพื่อให้เห็นวิวได้ชัด แต่ถ้ามีเด็กโตกำลังซนมาด้วย ผมแนะนำห้องชั้นสองหรือห้องชั้นหนึ่ง น่าจะดีกว่าครับ


บริเวณป้ายชื่อทางเข้าอีกภาพครับ


ต่อไปผมจะพาไปชมร้านกาแฟที่อยู่ด้านล่างชื่อว่า English cottage cafe เป็นบ้านสไตล์อังกฤษ


ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงต้นหนาว เป็นช่วงที่อุณหภูมิลดลงเร็วมาก ต้นไม้ในสวนเลยปรับตัวไม่ทัน เฉาไปเยอะ สวนเลยไม่สวยเท่าไหร่


บรรยากาศในร้านกาแฟ เป็นร้านเล็กๆ มีทั้งที่นั่งในร้าน และด้านนอก มีของที่ระลึกจำหน่าย


ร้านกาแฟช่วงที่ผมไปไม่ได้เปิดทุกวัน ส่วนมากจะเป็นช่วงวันหยุด ถ้าตั้งใจไปทานกาแฟ อย่าลืมโทรเข้าไปเช็คก่อนนะครับ


ขนมที่น่าทาน


วิวจากบริเวณร้านกาแฟจะไม่สวยเหมือนวิวจากห้องพักที่ Positano Villa เพราะอยู่ต่ำกว่ามากครับ


อาหารมื้อเที่ยง จานนี้เป็นสปาเก็ตตี้สไปซี่เบคอน


อีกจานครับเป็น เพนเน ซอสเนื้อ


ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักอีกแบบของที่นี่ที่ชื่อว่า Tuscana House ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ ร้านกาแฟ


ห้องพักแบบนี้มีสามห้องนอนครับ สองห้องน้ำ ภายในใช้สีสดใส ภาพนี้เป็นห้องนอนเล็ก มีห้องนอนเล็กแบบนี้อยู่สองห้อง


ภายในห้องนอนเล็ก ห้องนอนทุกห้องจะมีทีวี แต่จะไม่มีห้องไหนที่มีห้องน้ำอยู่ในห้อง


ห้องน้ำที่อยู่ในพื้นที่ส่วนกลางทั้งสองห้อง มีอ่างอาบน้ำเป็นอ่างไม้


ห้องนี้เป็นห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำติดกับตัวห้อง ห้องพักแบบนี้เน้นสีสันสดใส คนละแนวจากห้องพักด้านบน เสียดายที่ห้องพักแบบ Tuscana Houseบรรยากาศด้านนอกไม่เห็นวิวมากนักและติดอยู่กับลานโล่ง วิวไม่สวยเหมือน Positano Villa


ใกล้ๆกับอาคาร Positano Villa มีจุดชมวิวที่เรียกว่า Cliff viewpoint


สามารถเดินขึ้นเนินไปไม่ไกลหรือให้รถกอล์ฟไปส่งก็ได้ครับ วิวบนนี้สวยมากๆ เป็นวิวจากมุมสูงเห็นทุ่งหญ้าและภูเขา


ดอกไม้เล็กๆบนจุดชมวิว


บรรยากาศโรแมนติกช่วงเย็นๆ สามารถมาชมพระอาทิตย์ตกจากบนนี้


พนักงานบอกว่าบางวันจะเห็นทะเลหมอกจากจุดนี้เช่นกัน เสียดายวันที่ผมไปฟ้าปิดไม่เห็นพระอาทิตย์ตกและลมแรงเลยไม่มีหมอก


มาชมบรรยากาศที่ห้องอาหารต่อครับ


บรรยากาศที่ชั้นสอง ในภาพทางซ้ายจะเป็นส่วนของลิฟต์ครับ


ต่อไปผมจะพาไปชมส่วนของอาหารครับ


เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยจานนี้ ซุปข้าวโพด อร่อยมากครับ


จานนี้เป็นสเต็กปลาแซลมอน


และตามมาด้วย พ๊อคช๊อบ จานนี้ก็อร่อย


ปิดท้ายด้วยของหวาน ช็อกโกแลต ลาวา


รูปบรรยากาศห้องอาหารอีกภาพ


ต่อไปมาเก็บตกบรรยากาศที่อื่นๆครับ เริ่มจากตัวอาคารของ Positano villa ช่วงหัวค่ำกับแสงช่วงทไวไลท์


จากบริเวณห้องพักชั้นล่างก็เห็นวิวที่สวยงามและอยู่ใกล้สระว่ายน้ำ


ต่อไปมาชมจุดเด่นสำคัญของที่นี่อีกแห่งหนึ่งครับ คือชั้นดาดฟ้า ซึ่งมีอ่าง Jacuzzi กลางแจ้ง


บรรยากาศโรแมนติกมาก เสียดายที่ถ้าจะมาใช้อ่างนี้จะมีค่าใช้จ่าย ชั่วโมงละ 1500 บาท แต่ถ้าเข้ามาพักเป็นกลุ่มเหมาห้องพักทั้งสามห้อง สามารถขึ้นมาแช่อ่างได้ฟรี


ถ้าใครตั้งใจมาแช่อ่างผมแนะนำเตรียมพวก iPod และลำโพงมาด้วย เปิดเพลงโปรดไป แช่น้ำไป ดูดาวไป มีความสุขมากๆ


มุมห้องอาหารที่ชั้นสองจากระเบียงด้านนอก


พระอาทิตย์ขึ้นหน้าห้องพักอีกภาพครับ


และก็ป้ายชื่อรีสอร์ท ผมชอบป้ายชื่อของที่นี่เป็นพิเศษ


และปิดท้ายด้วยภาพจากปก บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ขึ้นจากภายในห้องพัก ถ้าฟ้าเปิด สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นจากห้องพักในบรรยากาศส่วนตัว


หลังจากเข้าพักที่นี่ ผมประทับใจกับบรรยากาศ โดยเฉพาะวิวจากห้องพักที่หันหน้าเข้าทิศตะวันออก ถ้าเป็นเช้าที่ฟ้าเปิดจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกจุดหนึ่งที่ผมชอบเป็นพิเศษคือบรรยากาศบนดาดฟ้าช่วงเย็นๆ พอตกกลางคืน สามารถแช่อ่าง Jacuzzi ไป ดูดาวไป นอกจากนี้ที่รีสอร์ทยังมีจุดชมวิวซึ่งสามารถมาชมพระอาทิตย์ตก ชมวิวภูเขาทุ่งหญ้าจากมุมสูง

ในส่วนของห้องพักที่ Positano villa จะมี 3 ห้อง ห้องชั้นบนสุด (Hilltop Room) คือห้องที่ผมพัก วิวสวยมากครับ แต่ก็ราคาก็สูงกว่าห้องอื่น ส่วนห้องชั้นสอง (Valley ViewRoom) ก็เห็นวิวสวยเช่นกัน ส่วนห้องชั้นล่าง (Pool front Room) วิวจะสู้ห้องชั้นบนไม่ได้ แต่ก็อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ สามารถลงสระจากหน้าห้องได้เลย แต่ถ้ามีแขกจากห้องอื่นมาใช้สระก็จะไม่ส่วนตัว ส่วนอาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกไม่มากนักเพราะมีห้องพักจำนวนไม่มาก ที่จริงแล้วพื้นที่ของรีสอร์ทกว้างมากครับ แต่มีห้องพักไม่กี่ห้องซึ่งน่าจะเป็นเฟสแรก ลองมาชมจุดเด่นจุดด้อยของที่นี่ในมุมมองของผม

จุดเด่น
- ห้องพักบรรยากาศดีเห็นวิวภูเขา ทุ่งหญ้าจากมุมสูง และสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากห้องพักได้เลย
- บรรยากาศในรีสอร์ทดีมากครับ อาคาร positano villa ออกแบบได้ดี สามารถเห็นวิวสวยๆแทบทุกจุด
- ชั้นดาดฟ้าเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มีอ่าง jacuzzi บรรยากาศดี (ถ้าไม่ได้เหมาห้องพัก ทางรีสอร์ทคิดค่าใช้จ่าย 1500บาท / ชม)
- ที่รีสอร์ทมีจุดชมวิวที่อยู่ไม่ไกล เห็นวิวจากมุมสูงที่สวยงามและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก
- ภายในรีสอร์ทมีร้านกาแฟน่ารักๆ (ช่วงที่ผมไปเปิดเป็นบางวัน)
- พนักงานทุกๆคนให้การบริการเป็นอย่างดี

จุดด้อย
- ระยะทางที่ไกลจากถนนมิตรภาพประมาณ 20 กม ถนนบางช่วงเป็นหลุมบ้างครับ
- ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณรีสอร์ทมากนัก
- ห้องนอนเล็กไปนิดครับ ไม่มีมุมให้นั่งเล่นนอนเล่นมากนัก และในห้องน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำ
- ช่วงที่ผมไป ต้นไม้ในสวนยังไม่สวยงามมากนัก

ส่วนห้องแบบ Tuscana House ภายในห้องพักสีสันสดใส แต่วิวและบรรยากาศภายนอกสู้ห้องพักที่ Positano villa ไม่ได้ ผมลืมบอกไปนิดครับว่า รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งชื่อตามเมืองเล็กๆบนเนินเขาซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี่ บริเวณไม่ไกลจากรีสอร์ทจะมีชุมชนเล็กๆของบ้านหนองน้ำใส ซึ่งมีร้านสะดวกซื้อเล็กๆ สามารถมาซื้อน้ำซื้อขนมได้ครับ แต่อาจจะไม่มีร้านอาหารบริเวณนั้น

จากการมาพักที่นี่ต้องขอขอบคุณ คุณบี คุณปอง เชฟเด แม่บ้าน และพนักงานทุกๆคนที่ให้การบริการเป็นอย่างดี มีโอกาสคงได้กลับไปอีกครับ ขอบคุณทุกๆคนที่แวะเข้ามาทักทายจ่ายค่านิตยสาร กว่าจะได้เจอกันในฉบับหน้าคงเป็นปีหน้าเลยครับ ผมจะพาไปชมโรงแรมที่ผมประทับใจมากเป็นพิเศษอีกแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ ผมถือโอกาสนี้ ส่งท้ายปีเก่า 2553 ขอให้ทุกๆคนที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในเดือนนี้ เดินทางด้วยความปลอดภัย และมีความสุขในการท่องเที่ยวส่งท้ายปี ไว้เจอกันปีหน้าฟ้าใหม่นะครับ