bloggang.com mainmenu search




เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว จขบ.และครอบครัวได้ไปเที่ยวแถวๆ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาค่ะ
ตอนแรก คุณซะมี อยากจะไปเที่ยวแถวระยอง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่า จู่ๆ ก็เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน
แล้วก็มาถาม จขบ.ว่า อยากจะไปที่ไหน จะพักที่ไหน ยังไง
จขบ.ได้โอกาสเลยบอกไปว่า มีเพื่อนบล็อกคนหนึ่ง ซึ่งมีบ้านอยู่แถวนั้น ชวน จขบ.ไปเที่ยวบ้านเค้านานแล้ว
แต่ยังไม่มีโอกาสซะที ประกอบกับ น้องเมย์ อยากไปเที่ยว ปาลิโอ เขาใหญ่ ด้วย

ก่อนจะออกเดินทางในเช้าวันเสาร์ จขบ.ได้เปิดบล๊อกให้คุณซะมีดู ว่า บ้านของเค้าเป็นแบบนี้นะ
แล้วก็ออกเดินทาง แวะไปเรื่อย ที่แรกที่แวะคือ ฟาร์มโชคชัย
จากนั้นก็แวะซื้อผลไม้แถวกลางดง แล้วมุ่งสู่ อ.ปากช่อง
เราแวะที่บ้านรมควัน เพื่อถ่ายรูปท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด
แทบไม่น่าเชื่อ ว่า เมื่อวานฝนเทกระหน่ำ แต่วันนี้ร้อนจริงๆ












หลังจากนั้น เราก็แวะเติมพลังกันที่ร้านอาหารแถวๆ นั้น
สั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อยมา ซึ่งกว่าจะเคี้ยวหมด เสียเวลาโม่อยู่ตั้งนาน
นี่ถ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อสดมา สงสัยคงจะต้องอมๆ แล้วกลืนเลย 555
จขบ.ก็ลืมดูชื่อร้านซะด้วย คราวหน้า สัญญาว่า...จะไม่ไปกินอีก...เอิ๊ก
แต่ไม่เป็นไร ข้างๆ ร้านๆ มีป้ายนี้ เป็นที่สังเกต จขบ.ต้องจำได้แน่นอน








น้องเมย์ถามว่า แม่มาเปิดค่ายลูกเสือแถวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่โคราช มีแมลงวันเยอะมากๆ
เพราะระหว่างกินก๋วยเตี๋ยว พวกเราไม่มีใครคุยกันเลย
เพราะกลัวแมลงวันบินเข้าปากน่ะ...อิอิ



หลังจากอิ่มท้องแบบรีบ ๆ แล้ว ก็ไป ปาลิโอ เขาใหญ่ กันต่อค่ะ
คนเยอะอีกเช่นเคย มีแต่คนมาถ่ายรูป ไม่ค่อยมีคนซื้อของสักเท่าไหร่
















ถ่ายรูปกันจนพอแล้ว ก็เดินทางไปบ้านป่า ตามที่ได้โทรถามเส้นทางจากเจ้าของบ้าน
มาถึงหน้าบ้าน จขบ.ก็ยังไม่แน่ใจ แต่คุณซะมี บอกว่า หลังนี้แหล่ะ
จขบ.เลยโทรไปหาคุณเพื่อนบอกว่า พวกเราอยู่หน้าบ้านแล้ว ใช่บ้านคุณเพื่อนรึป่าว
คุณเพื่อน คุณพ่อและคุณแม่ ออกมารับ
แต่ก็อย่างที่คุณเพื่อนเล่าไว้ในบล็อกของเค้าว่า หมาสองตัวของเค้า ไม่เห่าพวกเราเลย
ปล่อยให้เราเดินเข้าบ้านแบบสบายๆ ทั้งๆ ที่ ปกติ ขนาดคนเดินผ่านหน้าบ้าน
หรือหาปลาอยู่อีกฝั่งลำราง ยังเห่าซะเสียงดังลั่น
จนคุณแม่และคุณพ่อ อดขำไม่ได้ บอกว่า แปลกดี
บ้านป่าที่เราไปเยือนครั้งแรกนี้ ไม่ใช่บ้านที่มีบรรยากาศหรูหรา
แต่เป็นบ้านป่าจริงๆ ที่คนอยู่อาศัยพอใจและมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่








หน้าทางเข้าบ้าน มีต้น hapiness ปลูกอยู่ นั่นเป็นเครื่องหมายแสดงว่า
ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน จะต้องมีความสุขในบ้านหลังนี้แน่นอน












หลังจากที่พวกเรา คุยกันสักพัก คุณเพื่อนก็นำทัวร์ชมต้นไม้ดอกไม้ในบริเวณบ้าน
มีเป็นหลายร้อยชนิดเลยมั้ง จขบ.ก็จำชื่อได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
คุณเพื่อนบอกว่า ถ้ามาตอนหน้าหนาว ดอกไม้จะแข่งกันออกดอก แข่งกันบาน
กลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบ้านป่า จนไม่รู้ว่ากลิ่นไหนเป็นกลิ่นไหน




พรมญี่ปุ่นหลากสี























บีโกเนีย















เทียนหยดสีม่วงเข้ม









โฮย่า...เค้าก็มีนะ








น้ำเต้าต้น...สรรพคุณแก้ปวดหัวจ้า








พริกฝรั่ง ชอบมากๆ น่ารักจริงๆ ค่ะ














มุมโปรดสุดหวงของเจ้าของบ้าน ไว้นั่งดูพระอาทิตย์ลับฟ้ายามเย็น










ดอกนางแย้ม...ดอกไม้สุดโปรดของใครเอ่ย











กระดุมไพลิน






เฟิร์นก้านดำ







ดอกบัวดิน






ต้อยติ่งเทศ










พระจันทร์ครึ่งซีก






ส่วนนี่...สับสนระหว่างเดซี่กับมากาเร๊ต ขอให้ เจ้าของบ้าน มาคอนเฟิร์มอีกครั้งนะจ้ะ











กุหลาบพันปี







ส่วนนี่เจ้าของบ้านเค้าบอกชื่อมาเหมือนกัน แต่ จขบ.จำไม่ค่อยได้อีก...แหะๆ





























ปู่ป๋อง...กั๊บป๋ม






หลังจากที่ชมสวนป่า จนขาแข้งลายเพราะยุงกัดแล้ว
(คุณเพื่อนบอกว่า ลืมให้ทายา กย.15 ...สายไปแระ ลายไปทั้งแขน ทั้งขาแล้ว)
ครอบครัวบ้านป่า ก็พาพวกเราไปกินอาหารนอกบ้าน...อร่อยหมดทุกอย่างเลย
น้องเมย์ติดใจ ส้มตำทอด ส่วนเรา ชอบลาบปลาช่อน...รสแซ่บจริงๆ
คุณพ่อทานข้าวได้เยอะ ตั้งสองจาน แน่ะ คุณพ่อแม้จะอายุ 82 ปีแล้ว (เท่ากับแม่เราเลย)
แต่ท่านยังแข็งแรงดีมาก ทำโน่น ทำนี่ ไม่ได้หยุด พอๆ กับคุณแม่นั่นแหล่ะ
นั่งดูท่านทั้งสองแล้ว ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ
แล้วท่านทั้งสองก็เป็นคนอารมณ์ดีมากๆ โดยเฉพาะคุณแม่...คุยสนุกจริงๆค่ะ
คืนนั้น พวกเราหลับสบายท่ามกลางบรรยากาศแบบบ้านป่า จริงๆ
อากาศสบาย ๆ ไม่มีแอร์ ไม่ต้องใช่พัดลม อากาศบริสุทธิ์แท้ๆ เลย

เราตื่นมาตอนตีห้ากว่า ๆ ได้ยินเสียงคุณแม่ทำอะไรกุกกักอยู่ในครัว
คุณแม่ตื่นมาทำก๋วยจั๊บญวณให้พวกเราทานกันแต่เช้ามืด
ขอบคุณนะคะ...น้องเมย์บอกว่า คุณยายทำก๋วยจั๊บญวณอร่อยกว่าที่แม่ทำตั้งเยอะ
อิ่มแล้ว ..คุณเพื่อนก็พาไปเล็งหาของติดไม้ติดมือกลับไป
ก็ต้นไม้นั่นแหล่ะ ชอบใจต้นไหน ก็บอก เจ้าบ้านใจดี จัดให้
คราวนี้ เราไม่ประมาท ทา กย.15 ป้องกันเรียบร้อย
พวกเราออกจากบ้านป่าประมาณสิบโมงกว่า ๆ พร้อมต้นไม้หลายกระถาง
แต่คุณพ่อบอกว่า ...ทำไมเอาไปน้อยจัง
แหะๆ คุณพ่อไฟเขียวแบบนี้ คราวหน้า หนูจะเอาสิบล้อมาขนเลยดีป่ะคะ

ขอบคุณทุกๆ คนนะคะที่ให้การต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น
บ้านป่า แม้ไม่ใหญ่ไม่โต แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น
เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยของคนในครอบครัว
ทำให้พวกเราผู้มาเยือน รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขไปด้วย










ขอบคุณนะคะ...





Create Date :06 มิถุนายน 2555 Last Update :10 มิถุนายน 2555 18:38:15 น. Counter : 4471 Pageviews. Comments :45