bloggang.com mainmenu search
มีอยู่ครั้งหนึ่งเป็นจุดวิกฤติ ของชีวิตครู ระหว่างที่พยายาม จะออกจากการทำงานประจำ เพื่อมาทำงานที่ รักและอยากทำ เรียกว่าออกมาตามหาความฝัน ทำในสิ่งที่คิดอยากจะทำ ทำในสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะทำ

ในตอนที่ออกจากงาน แทบไม่มีเงินอยู่เลย มีชีวิตอยู่ไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไร เลย และไม่คิดที่จะกลับไป ขอความช่วยเหลือจากใคร ปล่อยให้ตัวเอง ลอยไปเรื่อยๆ

เหมือนคนที่อยู่บนฝั่ง ก็เป็นเหมือนที่ทำงานประจำก็สบายดีมีความมั่นคงเฉพาะตอนที่เรายังหนุ่มแน่ในตอนนี้ แต่ครูมองข้ามไปเห็นเกาะ อีกเกาะหนึ่ง ซึ่งไม่อาจรู้ว่า เกาะนั้น จะดีหรือร้าย รู้สึกแต่ว่า อยากจะไปที่เกาะนั้น แล้วก็ กระโดดลงทะเล และพยายามว่ายน้ำและเผอิญ ว่ายไปแล้วเหนื่อย ท้อ หมดหวัง และยังไม่ถึงฝั่งที่อยากจะไป.....และหันมา มองไปยังฝั่งที่เคยอยู่ก็ง่ายนิดเดียว ที่จะว่ายกลับไป ถ้ากลับไปก็คง ไม่ตาย และคงสบายเหมือนเดิม

แต่ด้วยความตั้งใจ ที่จะไปให้ได้.. ก็ต้อง ว่ายต่อไป เมื่อไปแล้ว หมดแรงว่าย ก็เหมือนกับที่ เจอจุดวิกฤติ ไม่มี งาน ไม่มีเงิน เหมือนกับคนจะจมน้ำตาย และก็ปล่อยให้มันตาย ไป จะขอความช่วยเหลือยจากคนอื่น ก็เหมือนกับเรา ต้องกลับไปฝั่งเดิม ที่เคยมา แล้ว จะว่ายน้ำให้เหนื่อยทำไม

จากที่ปล่อยให้ตัวเอง ตาย ก็เหมือนกับคนจม น้ำ ที่พยายามตะเกียกตะกาย เพื่อให้ตัวเองได้หายใจ เพื่อให้มีชีวิตรอดให้ได้ ครูเป็นแบบนั้น พยายามให้ตัวเอง ไม่จมน้ำ ตะเกียกตะกาย หายใจให้ได้ และไปต่อ จนกระทั่ง ถึงฝั่งฝันที่ตัวเองอยากจะทำ

ครูเคยถามคนที่อยู่รอบข้าง และถามคนที่เป็นกำลังใจให้ตลอดให้ครูข้ามฝั่งฝันให้ได้ ถ้าเป็นพ่อแม่ หรือพี่น้อง ที่รักเรา เขาจะเอามือเข้ามาช่วยดึงให้เราพ้นน้ำ และพากลับฝั่งเดิม ....แต่ครูกลับพบคนที่พยายามผลักดันให้ครู ขึ้นไปอีกฝั่ง เขาเป็นคนที่เฝ้ามอง ครูว่ายน้ำ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย และใกล้จะจมน้ำตาย เขาก็มอง ด้วยความเป็นห่วงและให้กำลังใจ แต่ไม่ยื่นมือมาช่วย คอยแต่บอกให้ว่ายน้ำไป สู้ต่อ หายใจให้ได้ แต่ไม่ยื่นมือมาดึงขึ้น ไม่แม้แต่จะช่วย ..........

เมื่อครูสามารถ ข้ามวิกฤติ และว่ายน้ำไปถึงฝั่งและสามารถเดินด้วยตัวเองได้ และย้อนกลับไปถาม เขา คนที่ได้แต่มองเราจมน้ำตาย ว่าทำไมไม่ช่วย..

ครูได้คำตอบ หนึ่งกลับมา เขาบอกว่า ตอนที่เราจะจมน้ำตาย มันก็เป็นเหมือนทุกครั้ง ที่เราเป็น เมื่อก่อนเรายัง ไม่มีประสบการณ์ ยังว่ายน้ำไม่เก่ง เขาจะคอย ประคอง และช่วย แต่ตอนนี้เขามองเราแล้ว ว่าสามารถเอาชีวิตรอดได้ และจะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเด็ดขาด เมื่อช่วย ครูก็จะกลับไปฝั่งเดิม ใช้ชีวิตเหมือนเดิม มองไม่เห็นความสามารถของตัวเอง มองไม่เห็นศักยภาพของตัวเอง และไม่พยายามที่จะดิ้นรน ค้นหาความฝันของตัวเอง ไม่พยามหาฝั่งฝัน และว่ายน้ำต่อ และจะคอยให้เขาช่วยเหลือ คอยให้คนอื่นช่วยเหลืออยู่ตลอด

เมื่อเป็นอย่างนั้นครูก็จะทำงาน และใช้ชีวิตอย่างไร้ค่า เป็นคนที่ไม่มีค่า จำใจทำในสิ่งที่ตัวเอง ไม่รัก และใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข ทุกๆ วัน มีความสุข เมื่อหยุดงาน หรือวันหยุด แต่ไม่มีความสุข เมื่อได้ทำงาน มีชีวิตเหลืออีกไม่เท่าใหร่ แต่ใช้ชีวิตให้มีความสุขน้อยเหลือเกิน เมื่อทำงาน ที่ไม่รัก งานที่ออกมา ก็ไม่สวยงาม ไม่มีค่า ไม่มีราคา ไม่มีคุณภาพ ... แต่เมื่อเราทำในสิ่งที่รัก ทำด้วยความตั้งใจเกินร้อย ใส่ความรู้สึกที่ดีลงไป ใส่ความรักลงไป ใส่ใจ ลงไป ก็เหมือนคนทำอาหารที่ใส่ความรักความใส่ใจลงไปในอาหาร รสชาติของอาหาร ก็จะอร่อย และทำให้คนทานมีสุขภาพดี

ที่ครูเขียนขึ้นมานี้ พอดีได้ไปสอนในที่ที่เขาได้พบกับวิกฤติน้ำท่วม และได้พบเจอกับคนที่ประสบภัย หลายคนต่างอาชีพ ต่างงาน หวังว่าเรื่องราวของครู จะช่วยเป็นกำลังใจให้ค่ะ
Create Date :01 มกราคม 2555 Last Update :20 มกราคม 2555 10:35:31 น. Counter : Pageviews. Comments :2