****ทำความดีวันละนิดจิตแจ่มใส**** ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ทุกขังและอนัตตา สิ่งที่ตามเราไปมีเพียงแต่บุญและบาป
Group Blog
you4lucky
RFID
ข่าวประชาสัมพันธ์
แสงสว่างแห่งชีวิต
OnIT
<<
มิถุนายน 2550
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
1 มิถุนายน 2550
รางวัลที่1
ตายไม่สูญ..แล้วไปไหน
งามอย่างแท้จริง
อานิสงส์ของการสวดมนต์
อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์
โทษของการละเมิดศีล ๕ มีดังต่อไปนี้
อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕
มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์(401)
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (223)
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (206)
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (1)
พ่อค้าหมู จุนทสูกริก
เหตุแห่งความรัก
All Blogs
โยนิโสมนสิการ....จากหนังสือพุทธธรรม ฉบับขยายความ ของท่านพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต)
บอกบุญค่ะ...มาร่วมอนุโมทนากันนะคะ
๘. ธรรมทานที่บริสุทธิ์แท้จริง ...พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร เรื่อง รสแห่งความเมตตา ชุ่มเย็นยิ่งนัก
๖. อานุภาพแห่งความดี ...พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร เรื่อง รสแห่งความเมตตา ชุ่มเย็นยิ่งนัก
๓. อันความกรุณา มหัศจรรย์ยิ่งนัก ...พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร เรื่อง รสแห่งความเมตตา ชุ่มเย็นยิ่งนั
๑๐.ตนที่ฝึกดีแล้ว ย่อมเป็นที่พึ่งที่ดี ...พระนิพนธ์ เรื่อง ธรรมเพื่อความสวัสดี
๕. พึงหลีกเลี่ยงกรรมชั่ว...พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวรเรื่อง ธรรมเพื่อความสวัสดี
๓. ศีลเท่านั้น เป็นเลิศในโลก
พุทธวิธีควบคุมความคิด...สมเด็จพระญาณสังวร
ทุกชีวิตมีเวลาอันจำกัด...สมเด็จพระญาณสังวร
แสงส่องใจ ส.ค.ส. ๒๕๔๑ ...สมเด็จพระญาณสังวร
ปลดปล่อยใจจากสิ่งทั้งหลาย ก่อนถูกความตายบังคับ
พุทธวิธีเพื่อการหัดตาย
ทุกชีวิตมีเวลาอันจำกัด
ความสุขที่ถูกมองข้าม...พระไพศาล วิสาโล
ฉลาดทำบุญ...การทำบุญให้มีผลมากอานิสงส์มาก
เถรส่องบาตร
วางไม่เป็นเย็นไม่ได้... หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
กรรม อวิชชา สันโดษ (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
สมบัติ ๔ วิบัติ ๔
โอวาทปาติโมกข์ หลักการ ๓ อุดมการณ์ ๔ วิธีการ ๖
เบญจศีล เบญจธรรม : เรื่องสำคัญที่ถูกมองข้าม
การเจริญอานาปาณสติ
จริต หรือ จริยะ ...อภิธรรม
หมวดที่ ๓ อนุสสติ ๑๐ ...อภิธรรม
วิปัสสนากัมมัฏฐาน ...อภิธรรม
อุบายการเจริญกัมมัฏฐาน
กัมมัฏฐาน พระอภิธรรม ปริเฉทที่ 9
หมวดที่ ๔ อัปปมัญญา ๔...พระอภิธรรม ปริเฉทที่ 9
ความหมายและระดับของสมาธิ
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนเอาไงกันแน่
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนอร่อย
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนอย่าหาเงิน
ระดับของสมาธิ...จากหนังสือธรรมลีลา
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนหลวงพี่อ้วนเพียรสู้
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนหลวงพ่อคง
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนเสมอกัน
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนสีกามาแล้ว
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนสวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนไล่มดแบบพุทธ
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนแรงโน้มถ่วง
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนรักพระมันบาปนะโยม
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนระวังอาจารย์เฉิ่ม
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอน ย ยุง ยุ่งจัง
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนพระกับรถยนต์
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนผีหลอก
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนบุญ
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนบาปไม่บาป
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนธรรมะในออฟฟิต
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนตัวฉันของฉัน
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนตักส้วม
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนดับไฟ
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนจิตว่าง
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนคิดดีมีสุข
บุคคล ๔ ประเภท
....อุปสมบท....
โลกียสุข โลกุตรสุข.เสียงธรรม ชุด ๑ โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ
ศรัทธา ๔ ประการ
นิยาม ๕ ....กฏธรรมชาติ
กรรม ๑๒
การให้ผลของกรรม... ดีหรือชั่ว
...เคล็ดลับความสุข...
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนคำขอโทษ
ฆราวาสธรรม หรือ ธรรมสำหรับชีวิตครองเรือน ๔ ประการ
ไตรลักษณ์
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนคนไหนรู้จักพอคนนั้นรวย
สัปปุริสธรรม (หลักการของคนดีแท้)คนดีแท้หรือมนุษย์ที่แท้
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน...ตอนขโมยของวัด
วาสนาสร้างเองได้ ... พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
มรรค By วั ด ห น อ ง ไ ท ร
อิทธิบาท 4 By วั ด ห น อ ง ไ ท ร
อริยสัจ 4 By วั ด ห น อ ง ไ ท ร
การเห็นอริยสัจ นั้น เห็นอย่างไร ?โดยคุณดังตฤณ
เรื่องราวแนวคิดใหม่ เพื่อเตือนสติ สำหรับคนเราที่ประมาทในชีวิต....
ปริศนาธรรม...3 นิ้ว!
ปรัชญาพุทธกับคนรัก(ที่ไม่รักเรา)
ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร
รักได้...แต่เจ็บให้เป็น โดย พระมหาสมปอง ตาลปุตโต
หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน ตอนกิ๊ก
การ์ตูนธรรมะสนุกๆจ้า หลวงพี่เอี้ยง...วัดมะนาวหวาน
เหตุแห่งความสุขที่แท้จริง..สมเด็จพระญาณสังวร ฯ
มงคลสูตร
สาระจากเรือนธรรม ชุดที่ 72 ...ความรัก...ความร้าย
... ชีวิตที่วิ่งตามความอยาก... ท่าน ว.วชิรเมธี
... ชีวิตที่วิ่งตามความอยาก... ท่าน ว.วชิรเมธี
...ความสุข ที่เลือนหายไป...ท่านว.วชิรเมธี
หิริและโอตตัปปะ ผู้มีเทวธรรมในโลก
บุคคลผู้มีปัญญารู้จักใคร่ครวญ ย่อมตั้งตนได้ด้วยทรัพย์อันเป็นต้นทุน
ทางเดินของชีวิต
รางวัลที่1
ตายไม่สูญ..แล้วไปไหน
งามอย่างแท้จริง
อานิสงส์ของการสวดมนต์
อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์
โทษของการละเมิดศีล ๕ มีดังต่อไปนี้
อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕
มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์(401)
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (223)
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (206)
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (1)
พ่อค้าหมู จุนทสูกริก
เหตุแห่งความรัก
พลังแห่งบุญ
กรรมทำให้แตกต่าง
งามอย่างแท้จริง
งามอย่างแท้จริง
คนเราจะสวยสดงดงาม แต่เพียงสรีระร่างกายและเครื่องประดับนั้นยังไม่เพียงพอ
ต้องงดงามทางด้านจิตใจด้วย
คำกล่าวที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องโดยปราศจากข้อสงสัย ถ้าไม่เชื่อลองหลับตานึกภาพของไก่ที่ถูกถอนขนวิ่งโทง ๆ นอกจากจะดูไม่สวยงามแล้ว ยังดูน่าเกลียดพิลึก หรือดูแล้วกลายเป็นเรื่องน่าขบขันหรือน่าสังเวชทั้งนี้เพราะไก่นั้นมีขนเป็นอาภรณ์ปกปิดกายและป้องกันอากาศร้อนและหนาว
มนุษย์เราก็เหมือนไก่ คือต้องมีเสื้อผ้าอาภรณ์ประดับกายเพื่อความงดงาม และปกปิดอวัยวะที่ไม่ควรเปิดเผย อันเป็นที่ตั้งแห่งความละอาย และเสื้อผ้าอาภรณ์ที่นำมาตกต่างร่างกายนั้น ยังเป็นเครื่องป้องกันความร้อนและหนาวได้อย่างดี ทำให้คนเราประกอบกิจการให้ลุล่วงไปได้ โดยไม่ต้องกังวลกับอากาศร้อนหนาว และการสัมผัสยุง มด แมลง ทั้งหลายที่จะมารบกวน
ดังนั้น มนุษย์เราจึงแสวงหาเครื่องประดับตกแต่งกันอย่างสุดความสามารถ มีเสื้อผ้าแล้วยังไม่พอ ต้องมีเครื่องประดับอย่างอื่นเข้ามาเสริม เช่น สร้อยคอ ต่างหู เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีเครื่องบำรุงผิวให้ดูงดงามตามยุคตามสมัยแต่งแต้มสีสันกันจนกลายเป็นแฟชั่นยอดนิยม
ที่กล่าวมานี้เป็นการตกแต่งในทางร่างกายเท่านั้น แต่ไม่มีการตกต่างทางจิตใจ และเครื่องประดับตกแต่งจิตใจนั้นก็ไม่มีบริษัทห้างร้านใดผลิตออกมาขาย เพราะฉะนั้นก้อยากจะบอกว่า คนเราจะสวยสดงดงามแต่เพียงสรีระร่างกายและเครื่องประดับนั้นยังไม่เพียงพอ ต้องงดงามทางด้านจิตใจด้วย การที่จิตใจจะงดงามนั้น ท่านกล่าวถึงธรรมะ ๒ ประการ ที่จะทำให้คนเรางดงามอย่างสมบูรณ์ นั่นคือ
๑. ขันติ ความอดทน
๒. โสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม
ขันติ เป็นธรรมที่มีกล่าวไว้ในที่หลายแห่ง ในโอวาทปาติโมกข์ ในมงคลสูตร แม้ในเรื่องพระเจ้าสิบชาติ หรือในบารมี ๑๐ ก็มีกล่าวเอาไว้ เพราะถือว่า เป็นธรรมสำคัญที่จะขาดไม่ได้ ใครจะปฏิบัติธรรมสูงเพียงใดก็ตามต้องมีความอดทนเป็นพื้นฐาน และในชีวิตประจำวันยิ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะคนเราต้องสมาคม สังคมกับคนรอบข้าง ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี
ความอดทนจำแนกออกเป็น ๓ อย่างคือ
๑. อดทนต่อความยากลำบากในการทำงานหรือประกอบกิจการ ในการดำเนินชีวิต ที่ต้องอดทนต่อสู้กับดินฟ้าอากาศที่ร้อนและหนาว เป็นต้น จนนำพากิจการงานนั้น ๆ ให้ผ่านพ้นลุล่วงไปด้วยดี
๒. อดทนต่อความเจ็บไข้ได้ป่วย ทนต่อทุกขเวทนาไม่โอดโอยร้องครวญครางให้เป็นที่น่ารำคาญคนอื่น เช่นพยาบาลและหมอ หรือคนใกล้ชิด ที่ให้การดูแลรักษาทั้งไม่บ่นจู้จี้จุกจิกจนกลายเป็นคนเอาใจยาก ก็จะเป็นความงามที่ไม่ต้องอาศัยอาภรณ์ใด ๆ มาประดับ เป็นความงดงามของจิตอย่างแท้จริง
ในทางตรงข้าม ถ้าคนเราประดับตกต่างร่างกายสวยงามด้วยอาภรณ์อันมีค่า แต่เวลาป่วยไข้แล้วไม่อดทนต่อทุกขเวทนา ส่งเสียงโอดครวญให้เกิดความรำคาญแก่ผู้รักษาพยาบาล หรือผู้ใกล้ชิด เครื่องประดับตกต่างเหล่านั้นก็ไม่สามารถจะทำให้คนคนนั้นน่ารักยินดีได้เลยเพราะความงดงามทางจิต คือความอดทนนั้นไม่มีอยู่ในจิต ซึ่งจะทำให้คนคนนั้นมีสภาพเหมือนเด็ก ๆ ที่ขาดการควบคุมตนเอง
๓. อดทนต่อความเจ็บใจ หรืออดทนต่อการกระทบกระทั่งทางจิตใจในการอยู่รวมกันในสังคมของคนส่วนใหญ่ย่อมมีอยู่บ้างที่จะต้องมีการกระทบกระทั่งทางกาย ทางวาจา เพราะคนในสังคมนั้น บางคนเป็นคนดี บางคนเป็นคนไม่ดี คนดีไม่จำเป็นต้องพูดถึง เพราะคนดีมีประโยชน์และทำในสิ่งที่ดีที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่คนไม่ดีนี่สิก่อปัญหาความเดือดร้อนไม่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับคนไม่ดี ต้องมีความอดทนอดกลั้นอย่างยิ่ง มิฉะนั้นตัวเราเองจะเป็นผู้ที่ทำอะไร ๆ ให้เสียมรรยาทในสังคม รวมทั้งความเป็นผู้มีชื่อเสียงไปในทางติดลบได้ง่าย ๆ
คนบางคนแต่งตัวดี ดูดีไปหมด แต่พอถูกคนกระแหนะกระแหนเท่านั้น ก็โกรธฉุนเฉียว อดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ แสดงอาการโกรธตอบทันที ชุดเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องประดับต่าง ๆ ไม่ช่วยให้เกิดความงามขึ้นมาเลย
ครูบางคนลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ก็เพราะทนกิริยาท่าทางของเด็กนักเรียนที่แสดงออกต่อครูไม่ได้เพราะครูตั้งมาตรฐานตัวเองไว้ว่า เด็กทุกคนต้องเคารพครู แต่ครูมีความรู้สึกว่า เด็กไม่เคารพและมีท่าทีก้าวร้าว ท้าทาย ครูอาจทำอะไรรุนแรงแกนักเรียน จนกลายเป็นผู้ร้ายของนักเรียนไปได้ในชั่วพริบตา ความงดงามในความเป็นครู ในความเป็นผู้ให้ความรู้อบรมบ่มนิสัยที่ดีของเยาวชนก็จะหมดไป เครื่องหมายความเป็นครู จะไม่มีอะไรเหลืออยู่ กลบความดีที่เกิดขึ้นช้า ๆ และสั่งสมเป็นเวลานาน แต่ความชั่วเกิดแผล็บเดียว ทำลายความดีไม่ให้เหลืออยู่เลย
อีกอย่างหนึ่ง ความอดทน ต้องแยกออกมาให้ชัดเจน ในการควบคุมตัวเอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งยั่วยุที่ไม่ดี คือ อดที่จะไม่โกรธตอบ หรืออดต่อการที่จะนำเข้ามาไว้ในใจ คือไม่นำเอาสิ่งที่ได้ยินได้เห็นที่ไม่ดีเข้ามาไว้ในใจเรา แล้วก็ทน คือทนต่อการเจ็บใจ การเสียดแทงทางใจ ที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจเหล่านี้ หรือในบางครั้งเราพบเห็นสิ่งที่น่ายินดี น่ารักใคร่ แล้วเกิดอยากได้ เช่น เดินไปในห้างสรรพสินค้า พบของที่ถูกใจมากมายอยากได้ไปหมด ก็ต้องใช้ความอด คืออดใจไว้ไม่ให้สิ่งที่เราอยากได้เข้าอยู่ในใจเรา แล้วก็ทนที่จะต้องไม่มีสิ่งเหล่านั้นให้ได้ เราก็จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินออกไป เพราะพอเราพ้นออกมาจากห้างสรรพสินค้าไม่นานเท่าไหร่ เราก็อาจลืมความอยากได้ไปแล้ว ใช่หรือไม่ ?
ความอดทนต่อการกล่าวร้ายป้ายสี การด่าว่าจากบุคคลอื่นนั้น พระพุทธเจ้าทรงกระทำให้เป็นตัวอย่างมาแล้ว เรื่องของเรื่องมีว่า
พราหมณ์คนหนึ่งพบพระพุทธเจ้าทีไร แกก็จะด่าว่าพระพุทธเจ้าเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ร่ำไป เพราะโกรธที่พระพุทธเจ้าบวชน้องชายแก เพราะแกเป็นพราหมณ์ ไม่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าเห็นว่าพราหมณ์ด่าว่าอยู่เสมอ ไม่เลิกราเสียที ก็เลยตรัสถามว่า
พราหมณ์ ในเรือนของท่านนั้น มีแขกมาเยือนหรือไม่ ?
พราหมณ์ก็ตอบว่า ในเรือนของข้าพเจ้านั้นมีแขกมาเยือนเสมอ
จึงตรัสถามต่อไปอีกว่า เมื่อมีแขกมาเยือน ท่านต้อนรับอย่างไร
พราหมณ์ก็ตอบว่า ข้าพเจ้าก็ต้อนรับด้วยอามิสสิ่งของเครื่องบริโภคตามสมควรแก่ฐานะของแขกผู้มาเยือน
พระองค์จึงตรัสว่า พราหมณ์ เมื่อแขกที่มาเยือนท่าน ไม่รับของต้อนรับจากท่าน สิ่งของเหล่านั้นจะตกเป็นของใคร
พราหมณ์ก็ตอบว่า ก็ตกเป็นของข้าพเจ้า
ดังนั้นจึงตรัสว่า พราหมณ์ การที่ท่านด่าเราทุกวัน ๆ เราไม่ได้รับเอาไว้ คำด่าเหล่านั้นจะตกเป็นของใครเล่า ?
พราหมณ์เลยจำนนต่อพระดำรัส แล้วหันมานับถือพระพุทธศาสนาแต่นั้นมา
เพราะฉะนั้น การอดทนก็คือการไม่รับเอา หรือการที่ไม่ให้สิ่งที่ไม่ดีนั้นมามีอำนาจอยู่เหนือใจตน อย่าไปรับเอา เมื่อเราไม่รับสิ่งนั้นก็จะกลับไปหาเจ้าของนั่นเอง ทำใจให้สบาย ๆ
การที่เรามีความอดทนอดกลั้นเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่พอที่จะทำให้เป็นคนมีความงามอย่างแท้จริงได้ ต้องมีธรรมะอื่นเข้ามาร่วมเติมต่อ ธรรมะที่คู่กับขันติ ก็คือ โสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม
ความสงบเสงี่ยมคือความที่มีจิตชื่นบาน ประณีต มีจิตที่ราบเรียบ ไม่ว่าจะเผชิญกับภาวะที่น่าพอใจรักใคร่หรือภาวะที่ไม่น่าพอใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะไม่แสดงอาการให้ผิดแผกไปจากเดิม
คนเรารู้จักอดทนอดกลั้น ไม่โกรธต่อผู้อื่นก็จริง แต่ในความอดทนนั้นอาจจะมีสีหน้าที่บึ้งตึ้ง หรือสีหน้าที่แสดงความไม่พึงพอใจ ต่อเมื่อมีโสรัจจะ คือความแช่มชื่นเข้ามากำกับ ก็จะทำให้ผู้นั้นมีความอดทนที่งดงามปรากฏแก่ผู้พบเห็น เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของผู้อื่น โสรัจจะจึงทำหน้าที่เสริมความอดทนให้งดงามเด่นชัดขึ้น
ขันติ ความอดทน และโสรัจจะ ความสงบเสงี่ยมนี้ เป็นธรรมคู่กัน จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ เพราะมีทั้งสองอย่างอยู่ร่วมกัน จึงเป็นธรรมที่จะทำให้บุคคลงดงามอย่างแท้จริง งามยิ่งกว่าอาภรณ์ทั้งปวงที่มีในท้องตลาด
บอกต่อ ๆ กันไปด้วยว่า ขันติและโสรัจจะนั้น ไม่มีใครทำขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง โรงงานก็อยู่ที่ใจท่านนั่นแหละ
จาก หนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 50 มกราคม 2548
โดย ธมฺมจรถ
//www.kanlayanatam.com/sara/sara35.htm
Create Date : 01 มิถุนายน 2550
Last Update : 1 มิถุนายน 2550 22:38:03 น.
0 comments
Counter : 323 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
you4lucky
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ
Friends' blogs
Webmaster - Bloggang
[Add you4lucky's blog to your web]
Links
you4lucky
ลานธรรมเสวนา
ดังตฤณ
หนังสือประทีปส่องธรรม
บางกอกแมค
สารบัญอานิสงส์
สุชีพ ธรรมะเกตเวย์
หนังสือธรรมะมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
วิทยาศาสตร์กับสมาธิ
หนังสือธรรมะโรงเรียนทอสี
บทความธรรมะดีๆกัลยาณธรรม
พระไตรปิฎก
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.