|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Niacinamide (วิตามินB3) รักษาสิว / ปรับผิวขาว / ลดริ้วรอย < ครบมั้ย
เรื่องของNiacinamide ในทางCosmetic และในเชิงDIY skincare วิตามินB3นั้นมีหลายโครงสร้างมากค่ะ เราจะแจกแจงตามที่เราพอรู้มาละกัน อาจจะไม่ครบ เพราะไม่ได้ค้นหาเพิ่มเติมว่ามีอีกหรือเปล่า แล้วเราก็เขียนในเชิงระบายความอยากใช้ของเราซะมากกว่า อยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือต้องการตรวจสอบข้อมูลก็ไปหากันเอาเองนะคะ เราจะเน้นไปในทางCosmeticนะ ถ้าแบบทาน อาจจะยกไปเขียนอีกหมวดนึง
-Niacin หรือ Nicotinic acid ตัวนี้เราว่าไม่คงสภาพเลย ลองผลิตโทนเนอร์ที่ใช้Niacin (พยายามห่อหุ้มสารด้วยBGเพื่อคงสภาพแล้วนะ) ผ่านไป2เดือน น้ำโทนเนอร์เริ่มมีสีเหลืองๆ อาการเดียวกับL-ascorbic acidเลย Niacin ใช้แล้วผิวแดงคันขึ้นผื่นเอาง่ายๆ (Flushing) เค้าก็เลยสร้างตัวใหม่ขึ้นมาที่เป็นDerivativeของมัน -Niacinamide หรือ Nicotinamide นี่ก็คือDerivativeของNiacin จากที่ทดสอบความคงตัวแล้ว สีไม่เปลี่ยนแม้จะใช้สูตรน้ำ ไม่ได้ใช้BG โครงสร้างนี้แหละที่ช่วยเรื่องสิวได้ ที่ความเข้มข้น4%ขึ้นไป ถ้าน้อยกว่านี้จะไม่ได้ผล -Niacinamide ถ้ามาพร้อมกับ N-acetyl-Glucosamine ในสูตร2+4 มีงานวิจัยรองรับว่ามันช่วยปรับสภาพผิวให้แลดูขาวขึ้นได้ สำหรับใบหน้าเรา เราใช้ 4+4 เพราะB3ต้องถึง4%ถึงจะมีผลต่อการบำบัดสิวClinically proven นะจ๊ะ (จากผลการทดลองเค้าบอกว่า อาจใช้แทนClindamycin ได้ โดยปราศจากอาการดื้อยา)
ผลิตภัณฑ์ที่พบเห็นNiacinamideอยู่บ่อยๆ -Olay แทบจะทุกรุ่นที่ใส่Niacinamide รุ่นที่พิสูจน์ความคุ้มค่าของniacinamide ว่าทำได้หลายอย่าง ก็คือ Total effects นั่นเอง -Ponds แทบจะทุกรุ่นเช่นกัน นึกไม่ออกบอกB3ไว้ก่อนเลย -SKII คงเพราะว่ามันเป็นเจ้าเดียวกับOlayอะนะ ฯลฯ
เรื่องสรรพคุณโดยสรุป -ในด้านAnti-wrinkle วิตามินB3กับผิวหนัง เท่าที่ทราบ มันจะช่วยเพิ่มระดับของเซรามายด์และระดับของกรดไขมันอิสระต่างๆที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อผิวที่เป็นสิวและลดริ้วรอยเล็กๆที่มาจากความแห้งกร้าน ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์ collagen, involucrin, filaggrin,และkeratin ก็น่าจะมีผลทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้นได้บ้าง -ในด้านLightening วิตามินB3หรือNiacinamide นี้จะช่วยลดการส่งเม็ดสีผิวมาที่ผิวชั้นบนสุด ดังนั้นเราคิดว่าสารปรับผิวให้ขาวขึ้นตัวนี้ค่อนข้างปลอดภัยนะคะ เพราะว่ามันไม่ได้ยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ดังนั้นเม็ดสีผิวยังอยู่ครบ ผิวของเรายังคงมีปราการป้องกันแสงUVตามธรรมชาติ แต่ไม่แสดงออกมาที่ผิวชั้นบน ก็เลย "แลดูขาวขึ้น" นั่นเอง แล้วที่สำคัญ วิตามินB3ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ก็เลยอาจจะมีผลพลอยได้เล็กน้อยให้ผิวดูอมชมพูขึ้นบ้าง แต่ไม่มากเท่าไหร่นัก ยกเว้นว่า ถ้าใช้แบบNiacin ตัวนั้นผิวจะแดงสุกภายใน1นาทีเลยล่ะค่ะ -ในด้านAnti-Acne วิตามินB3 4% มีผลการทดลองทางการแพทย์ บอกว่ามันช่วยลดการเกิดสิวได้ ซึ่งอาจจะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่แพ้ยาแก้อักเสบที่ชื่อว่า Clindamycin ในแบบทา ผลลัพธ์คือ 1% Clindamycin Solution = 4% Niacinamide Gel
DIY Skincare วิตามินB3แบบเพียวๆที่Skincatives.com ได้ให้มูลค่าของผลลัพธ์สินค้าไว้ที่ 8.5$ต่อ5กรัม ซึ่งถือว่าOver price มาก แต่ก็ไม่แน่นะ เพราะสรรพคุณมันค่อนข้างครอบจักรวาล ถ้าให้เลือกระหว่าง Vitamin C และ Vitamin B3 บางทีเราอาจจะเลือกVitamin B3ก่อนอื่น การผสม เราใช้ครั้งต่อครั้ง แต่มันก็มีโอกาสแพ้ได้ในบางคน ก็อาจจะทดสอบที่หลังใบหู (ใกล้เคียงผิวหน้าคนเราที่สุดแล้ว) ดูว่าคันมั้ยหรือมีผื่นแดงขึ้นมั้ย ถ้าไม่มี แสดงว่าโชคดีมากเลย เพราะมันเป็นสารออกฤทธิ์ที่ไม่แพง เรายังเอามาแจกลูกค้าเราเลย ด้วยคุณสมบัติระดับHigh-end แต่เราใช้เป็นของแถม ลูกค้าก็เลยมองข้ามไปซะส่วนใหญ่ นี่มันผงอะไรเนี่ย บางทีก็ใช้ผสมในโลชั่นทาตัว เพราะเห็นว่าราคาไม่แพงนั่นเอง แต่จิงๆ จะเหมาะกับหน้าคนไทยมาก เพราะคนไทยต้องเจอแสงแดดที่แรง วิตามินB3มันไม่ได้ยับยั้งการผลิตเม็ดสี ดังนั้น ถ้าอยากจะขาว ใช้แต่ตัวนี้ก็อาจจะพอ By ชุติกาญจน์ //woman.bloggang.com
Create Date : 13 กรกฎาคม 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 6:27:19 น. |
Counter : 6185 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
พอดีมีคนมาบอกในบล็อกว่าใช้ OP ตัว Boosting Serum แล้วสิวไม่ค่อยขึ้น คงเป็นเพราะมันมี VitB3 เยอะนั่นเอง