มีนาคม 2563
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มีนาคม 2563
 

ไม่อยากเปลี่ยน ก็ต้องเปลี่ยน

จริงๆอยากเขียนเรื่องอื่น  แต่ยามนี้  เรืองไหนๆก้ไม่อิน  ไม่อยู่ในใจ เท่ากับเรื่องนี้
ก็คงเหมือนกับหลายๆคน  ที่ทั้งกังวลทั่งกลัว
ในขณะที่อีกๆหลายคนก็กลับเป็นตรงกันข้าม  เห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย  จนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องอกเกณฑ์มาบังคับ
ถึงอย่างนั้น  ก็ยังทำตามบ้าง ไม่ทำตามบ้าง  จนเจ้าหน้าที่ต้องมาไล่จับ ไล่ตรวจกันอีก

แรกเริ่มเดิมทีที่คุณโควิดเขามาเดินเล่นอยุ่แถวแถบไทย จีน  อัตราส่วนผู้เสียชีวิต เทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อ  อยู่ในอัตราที่ต่ำมาก  จนดูเหมือนว่่า  เขาก็แค่เด็กเกเรธรรมดา  เกะกะระรานไปทั่ว  ก็เท่านั้น
แต่พอเขาข้ามทวีปไปถึงยุโรป อเมริกา  เขากลายร่างเป็นมาเฟีย  นอกจากจะแผ่อิทธิพลไปอย่างรวดเร็วแล้ว  ยังไม่มีความปราณีไดๆให้ใครทั้งสิ้น
แอบขำๆว่า อเมริกาเขาพยายามจะเป็นพี่ใหญ่สุดในโลก  คราวนี้  ก็เป็นอีกครั่งที่ทำสำเร็จ
จำนวนผู่ติดเชื่อพุ่งพรวดเดียวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกไปแล้ว

เคยฟงหมอดูตั้่งแต่ปีที่แล้วว่า มฤตยูจะเขย่าดวงเมืองอย่างแรง  แล้วบ้านเมืองเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่  ใครไม่ยอมเปลี่ยน  จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด  แล้วในปี 2565  เราจะต้องกลับมาถามตัวเองว่า  เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ตอนฟัง  พยายามอย่างไรก็นึกไม่ออกว่า  บ้านเมืองจะเปลี่ยนใหญ่อะไรได้  โลกเดี๋ยวนี้  มันก็มีอะไรแปลกๆใหม่ๆมาให้เห็นแทบจะทุกวัน  จนไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น  หรือจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
ใครจะไปคิดว่า  สิ่งที่คุ้นเคย  จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้
พูดได้ว่า คุ้นเคย  เพราะได้ยินชื่อมาเป็นสิบปีแล้ว  ตั้งแต่เริ่มอาชีพขายของเกีี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
เชื้อนี้ทำให้น้ลูกหมาตัวน้อยลำไส้อีกเสบ ป่วยตัวเดียวไม่พอ  อยู่ใกล้ๆกัน เล่นกัน กินข้าวด้วยกัน  ก็พากันติดลามไปหมด  ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้ำก็ดีหรอก  พอรักษาหายได้  แต่ถ้าโชคร้าย  เจอเชื้ออื่นซ้อนเข้าไปด้วย  บางตัว ไม่รอดก็มี

เวลานี้  เชื้อโรคตัวน้อยนิดแต่พลังมหาศาลนี้  กำลังทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไปแล้วหลายอย่าง
ชัดเจนที่สุดคือ จากรักต้องกอด  รักต้องอุ้ม  กลายเป็นรักต้องห่าง  และจะต้องห่างกันอีกนานแค่ไหนก็ไม่มีใครตอบได้
แต่ก็ยังดันมีข่าวความกังวลว่าถุงยางอนามัยจะขาดตลาด   เพราะโรงงานผลิตในมาเลเซีย  ซึ่งเป็นผู้ผลิตให้กับหลายยี่ห้อดังระดับโลก  ต้องหยุดทำการตามนโยบายของรัฐบาล
แนบแก้มกัน กอดกัน จับมือกัน  ก็ติดเชื้อกันจนแทบจะควบคุมไม่ได้
แล้วความสัมพันธ์ถึงขึ้นต้องใช้ถุงยาง  จะไปเหลืออะไร
ทั่วโลก รณรงค์เรื่อง  เว้นระยะห่างทางสังคม  จึงต้องสั่งปิดสถานที่  ปิดเมือง  ปิดประเทศ
ยังจะมาห่วงว่าจะไม่มีถุงยางอนามัยใช้  คุณพระ
รักกันจริง  ควรงดพฤติกรรมที่ต้องใช้ถุงยางอนามัย  ใช่มั้ย  จะได้มีโอกาสแก่ไปพร้อมๆกัน

สถานที่ในทางบันเทิงทั้งเริงอารมณ์ทั้งหลาย  ไม่ว่าจะเป็น ผับ บาร์ คาราโอเกะ  โรงหนัง โรงมหรสพ  ฟ้างสรรพสินค้า  หรือแม้แต่สนามกีฬา  ก็ปิดบริการกันแทบจะหมด  ทำให้คนชอบสังสรรค์  มีอนต้องอยู่บ้าน  เพราะไม่มีทีี่ให้ไป  ฉันเป็นคนชอบอยู่บ้าน  เย็นย่ำค่ำแล้ว  ก็ไม่ค่อยอยากออกไปไหน  ก็เลยไม่ค่อยเดือดร้อนอะไรนัก
เดาเอาว่า สายปาร์ตี้ เขาคงไม่ได้รู้สึกอย่างฉัน
กว่าจะผานพ้นสถานการณ์นี้ไปได้  หลายคนอาจจะหงุดหงิดจนประสาทเสีย
แต่อีกหลายคนก็อาจจะได้ใช้เวลาที่โดนบังคับให้อยู่บ้านนี้  ได้อยู่กับตัวเอง  และอาจจะได้ค้นพบว่า  ตัวเองก็มีสิ่งที่ชอบที่ทำในบ้านได้  และมีความสุขได้  โดยไม่ต้องพิ่งพาสิ่งใด  หรือ ใคร

สำหรับคนที่ยังจำเป็นต้องออกจากบ้านไปทำงานอย่างฉัน  ทุกวันนี้  ก็ต้องคอยเตือนตัวเองให้ทำทุกอย่งอย่างมีสติที่สุด  ใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา  ยกเว้นเวลากินข้าว  อดทนแม้จะรู้สึกร้อนบ้าง  คันบ้าง  และต้องพูดให้ดังขึ้น  เพื่อให้ลูกค้าได้ยิน  มันทำให้เหนื่อยกว่าเดิม  แต่ก็ไม่ได้ขนาดจะทนไม่ไหว  ล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งก่อนหยิบของเข้าปาก  ก่อนหน้านี้อนามัยไม่ค่อยมี  ทอนเงินลูกค้าเสร็จ  มานั่งจกข้าวเหนียว  ตอนนี้  ถึงใช้ช้อนส้อม  ก็ย้งต้องท่อง ล้างมือก่อนกิน

กลับมาถึงบ้าน  ก็ยังต้องมีสติ  ทำตัวตมสบายยังไม่ได้  เพราะพ่อแก่แม่เฒ่ารออยู่  เรามาจากข้างนอก  ไม่รู้พาเชื้อมาด้วยมั้ย  เพราะฉะนั้น  ระยะห่างทางสังคมในบ้าน  ก็ต้องทำ  เก้าอีตัวเดิมที่เคยนั่งประจำ  ต้องขยับให้ห่างออกมาให้ได้ระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร   คุยกันพองามแล้วรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

แม้แต่แม่ฉัน  ซึ่งอายุ 70 กว่าแล้ว  แต่ยังเพลิดเพลินกับการไปตลาด  หาซื้อของมาทำกับข้าวกินเอง  ก้ยังเริ่มหันมาเรียนรู้การสั่งอาหารผ่านระบบออนไลน์  เพื่อจะได้ไม่ต้องไปตลาดบ่อยนัก  และยังได้กินอาหารแปลกปากบ้าง
ก่อนหน้า โควิด จะมา  วันไหนเบื่อกับข้าว  ก็ขับรถไปกินก๋วยเตี๋ยวบ้าง  ร้านดังในห้างบ้าง  ตอนนี้พยายามไม่ไปไหน  เพราะกลัวตาย ^__^

ทั้งคนทำงาน  ทั้งนักเรียนนักศึกษา  ก็ได้ปรับมาทำผ่านระบบออนไลน์กันอย่างจริงจังมากขึ้น  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้  ก็มีความพยายามที่จะผลักดันเรื่องพวกนี้  แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร  ด้วยเหตุใด  ฉันก็ไม่ทราบได้  แต่ในเวลานี้  พอมีสถานการณ์ฉุกเฉิน  หลายๆที่ที่มีแผนงานเหลี่านี้  เตรียมไว้อยู่แล้ว  ก็ได้เอาออกมาใช้กัน  ก็ดูเหมือนจะได้ผลตอบรับที่ดี  คือ ฉันเดาเอาว่า  ถึงจะไม่ดี  มีปัญหาขลุกขลักอย่างไร  เจ้าของระบบ  เขาก็คงพยายามหาทางแก้ไขให้ใช้งานได้อย่างราบคื่นจนได้นั่นแหละ
เพราะคาดว่า  น่าจะต้อง work from home เรียนออนไลน์  กันไปอีกพักใหญ่
และถ้ามันได้ผลดี  เป็นที่น่าพอใจ  หลายๆที่อาจจะใช้วิธีนี้  ยาวๆไปเลยก็ได้

ในสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ว่า มันจะดำเนินไปอย่างไร  ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเม่่อไหร่
คนที่ยอมรับ พร้อมปรับ  พยายามเปลี่นย   ก็น่าจะเป็นพวกที่รอด
คนที่ไม่อยากปรับ  รับไม่ได้  เปลี่ยนไม่เป็น  อาจไม่แค่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังแบบที่หมอดูทำนาย
แต่อาจจะตายได้ด้วย
ใหญ่ขนาดไดโนเสาร์  ยังตายหมดโลก  ก็เพราะปรับตัวไม่ทัน

อยากได้อย่างไร  ทำอย่างนั้น  เลือกเอา


 




 

Create Date : 28 มีนาคม 2563
2 comments
Last Update : 22 เมษายน 2563 22:42:19 น.
Counter : 359 Pageviews.

 
 
 
 
ขำดีครับ เมกา...ได้เป็นใหญ่ที่สุดในโลก แต่คิดดูแล้ว เขาคงไม่ชอบ
ใจแน่เลย..

ไวรัสทำเอาคนตกงานเยอะ ... ได้แต่คิดว่าเมื่อไรจะควบคุมโรค
ได้ พวกเราจะได้ไม่เดือดร้อนมากนัก

ผมก็ชอบอยู่บ้านสบาย ๆ แต่ก็ต้องไปจ่ายตลาดเหมือนกัน แต่จะ
ไปแบบไหนต้องดูที่บล๊อกผมครับ แหะ ๆ ประชาสัมพันธ์หน่อย
 
 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 30 มีนาคม 2563 เวลา:5:57:31 น.  

 
 
 
โธ่...อ่านมาตั้งนาน
ที่แท้จะจีบให้ไปดู Blog นี่เอง ^^
 
 

โดย: วัลยา วันที่: 30 มีนาคม 2563 เวลา:20:52:25 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com