Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2561
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
24 มิถุนายน 2561
 
All Blogs
 
[R]MOSCOW - มอสโก (ที่ฉันพลาด) 2



ฉันไม่ค่อยชอบที่พักในมอสโกเท่าไหร่...
ไม่ใช่เพราะต้องมาอยู่รวมกับคนอื่น แต่มันติดที่ผู้ดูแลนั่นแหละ
หนนี้ไม่ใช่เรื่องภาษาเพราะพวกเขาเหล่านี้ล้วนพูดอังกฤษกันคล่องปร๋อ
โดยเฉพาะหนุ่มสกินเฮด (ฉันระแวงว่าอิตานี่จะมีรอยสักสัญลักษณ์นาซีซ่อน
รึป่าวฟระ?) ที่มักจะทำหน้าอารมณ์เสีย เมื่อต้องเดินออกมาปลดล็อคประตู
หน้าโฮสเทลหรือตอนได้ยินสัญญาณโทรเรียกจากทางเข้าหน้าตึก จากบรรดา
กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้มาเข้าพัก

แม้ว่า 'รหัสปลดล็อคประตูเข้าของอาคาร' จะมีเขียนเอาไว้หราบนกระดาน
น่าตลกที่มันกลับใช้ไม่ได้จริง ๆ และหนทางเดียวที่จะตัดปัญหาอันยุ่งยากนี้ไปได้
ก็คือต้องเสียเงินค่าคีย์การ์ดเพิ่มโดยจ่ายเป็นเงินวางมัดจำไว้อีก 100 รูเบิ้ล

ด้วนความที่ฉันไม่มีแผนจะไปเตร็ดเตร่ที่ไหนบ่อยนัก 
ส่วนมากก็คือออกไปเที่ยวข้างนอกทั้งวันและกลับที่พัก
มารอบค่ำทีเดียว คงไม่มีความจำเป็นอะไรมากขนาดนั้น 
ถ้าไม่ได้ขยันเดินทางเข้าออกอาคารบ่อยเกินไปล่ะนะ

แต่เหล่านักท่องเที่ยวรายอื่นที่ชอบสาละวน
ไปโน่นและกลับที่พักมากกว่าสามหนต่อวัน 
มันก็น่าจ่ายเพิ่มอยู่หรอก  

"ออด ๆ" 

เสียงโทรเรียกจากด้านล่างดังขึ้นมาอีกละ!

ตาหัวเหม่ง เดินลุกขึ้นมาจากโซฟาตรงมายังเคาน์เตอร์
พร้อมบ่นพึมพำเล็กน้อย ก่อนจะกดรับเพื่อโต้ตอบกับปลายสาย
และปลดล็อคประตูอาคารให้ 

"ติ๊งต่อง"

อีกไม่กี่นาทีถัดมา กริ่งสัญญาณหน้าประตูที่พักก็จะดังขึ้น 
(ที่พักอยู่ชั้น 7 ขึ้นน่าจะใช้เวลาขึ้นลิฟท์ไม่นานเกินห้านาที)
ตาคนดูแลก็ต้องเดินไปเปิดให้อีก และก็จะวนเวียนเป็นเช่นนี้
อยู่หลายหนในรอบหนึ่งวัน

โดยหากความถี่มีบ่อยหนอย่างเช่นรอบค่ำแล้วล่ะก็ 
เสียงพึมพำผสมคำสบถระหว่างเดินลุกก็จะเพิ่มเยอะขึ้น 

bull sh**
bull sh**

เฮ้อ...จะว่าไป ถ้าเอ็งไม่อยากวุ่นวายแบบนี้ 
แล้วจะมาเปิดกิจการที่พักทำไมกัน? 

ซึ่งมันก็น่าอึดอัดอยู่หรอก หากว่าช่วงไหนฉันจะลงไป
ซื้อของจากซุปเปอร์มาร์เก็ตด้านล่าง หรือกลับมาจากเที่ยวแล้วต้อง
มากดออดเรียกจากทางเข้าหน้าตึกและที่ประตูหน้าที่พัก 
คงเดาถึง
อากัปกิริยา(ลับหลัง) ของหนุ่มสกินเฮดหัวร้อนคนที่ว่าได้ไม่ยาก




...



หลังจากหนึ่งวันอันแสนพลาดในมอสโก ได้ผ่านไปแล้วบรรดาลิสต์รายชื่อของ
สถานที่ ๆ ต้องไปก็มาสุมกองเต็มท่วมอยู่ในหัวเต็มไปหมด  
ฉันตั้งใจจะกลับไป
เก็บสิ่งที่พลาดทั้งหลาย .
..และต่อจากนั้นก็ว่าจะลองแอบไปดูมุมมองของเมือง
ในส่วนต่าง ๆ ที่เคยเห็นผ่านการ
นำเสนอเรื่องราวทั่วไปของผ่านการนำเสนอของ
นายเซอร์เก เจ้าถิ่นผ่านทาง youtube ในชื่อ
Real Russia ซึ่งฉันก็ได้ติดตามดู
การทำรายการของเขาให้พอคุ้นกับหน้าตาของมอสโกก่อนที่จะมาเยือนพักใหญ่


แต่ว่า เป้าหมายของฉันในวันนี้
ก็คือการเข้าไปเห็นหน้าตาของเครมลินด้านในบ้างซะที!
หลังจากที่เดินข้ามสะพานมายังอีกฝั่งถนน ซึ่งเป็นที่ตั้งของจตุรัสแดง และนี่ก็
เป็นอีกครั้งที่ฉันเหลือบมองมหาวิหารเซนต์บาซิล
แบบผ่าน ๆ อย่างไม่รีบร้อนที่จะ
แวะไปหา เพราะ
ตารางเดินทางของวันนี้มันก็เยอะเสียเหลือเกิน แต่...ถ้าเป็นไป
ได้ก่อน
กลับที่พักในช่วงค่ำของวันนี้ ฉันคงแวะมาเก็บบรรยากาศอีกทีก็แล้วกัน



ด้านหลังกำแพงแดงที่ป้อมเครมลิน

ที่จริงแล้ว เครมลิน หมายถึง 'ป้อมปราการ' ซึ่งภายในป้อมเครมลินแห่งมอสโก
นั้นก็
ที่ตั้งของ พระราชวังในอดีต มหาวิหาร และที่พำนักของประธานาธิบดี อีกด้วย

Trinity Gate tower หรือ Troitskyaya Tower (Троицкая башня) ทางเข้าเครมลิน 



ด้วยความที่พื้นที่ภายในเครมลิน ถูกใช้เป็นที่ตั้งของที่ทำการรัฐบาลฯ ด้วยก็ตาม 
แต่เราก็ไม่สามารถไปทำเนียนหลงแถว ๆ สถานที่ราชการเพื่อซุ่มไปจ๊ะเอ๋ขอเซลฟี่
กับ
ปูติน ได้โดยง่ายหรอกนะ ... ใช่แล้ว ในปี 2013 นั้น ชื่อของประธานาธิบดี
แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ก็คือ
วลาดิมีร์ ปูติน คนเดิมนั่นไง เช่นเดียวกับที่ฉันกำลัง
นั่งเขียน re-write นี้ในอีก 5 ปีถัดมานับจากที่ได้ไปเยือน หรือหากใคร
ไปรัสเซีย
ตั้งแต่ปี 2000 โน้นนน ล่ะก็ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียุคนั้นก็ยัง
ชื่อนี้อยู่ดี ถึง
แม้ว่าจะไม่ได้นั่งเก้าอี้นี้มาช่วงหนึ่งก็เถอะ ... Amazing! 


เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ ชักจะเลยเถิดไปไกลเกินเรื่องบันทึกการเดินทางซะแล้วสิ
นี่ฉันกำลังพูดถึงเรื่องเครื่องหมายกำกับทางอยู่นี่เนาะ :)  หลังจากที่ผ่านด่าน
ตรวจค้นและบัตรเข้าชมแล้ว ก็
ให้มองทางเดินตามที่เขาทำลูกศรชี้กำกับเอาไว้
และ
หากเกิดหลุดนอกเส้น ไปยังเขตห้ามเข้าก็จะเจอทหารเดินออกมาไล่อยู่ดี



'Arsenal' อาคารสีเหลิองที่เป็นคลังเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยก่อน และทหารยาม




ฉันซื้อบัตรเข้าชมเฉพาะพื้นที่ด้านใน แต่ไม่ได้รวมไปถึงห้องแสดงเครื่องเพชร
(Armoury Chamber) ที่แยกบัตรจำหน่ายไว้ -- นี่ไม่ใช่เรื่องพลั้งพลาด แต่ว่า
รอบจัดแสดงที่แบ่งเวลา
เอาไว้อาจทำให้เสียเวลารอมากเกินไป ดังนั้นภาพโดย
รวมของเครมลินที่ฉันได้เข้ามาเห็น 
ก็จะมีเพียงสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ของ
รัสเซีย อย่างเช่น...



Assumption Cathedral หรือ 
The Cathedral of the Dormition

วิหารใหญ่แห่งนี้ถูกสร้างในปี 1479  ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ในการใช้
ประกอบราชพิธีของทางราชวงศ์ และของรัฐ (ช่วงก่อนเปลี่ยนการปกครอง)

ส่วนพิธีบรมราชาภิเษกที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ก็คือเมื่อปี 1886 ในรัชสมัย
ของ ซาร์ นิโคลัส ที่ 2 ทั้งนี้ยังใช้เป็นสถานที่ฝังร่างของสังฆราชแห่งกรุงมอสโก
และรัสเซียทั้งมวล ไปจนกระทั่งตำแหน่งนี้ถูกยกเลิกในปี 1721 โดย ซาร์ ปีเตอร์
ที่ 1  (แต่หลังจากรื้อฟื้นตำแหน่งนี้กลับมาอีกครั้งในปี 1917 มหาวิหารอัสสัมชัญ ก็ไม่ได้ถูกใช้
เป็นสถานที่ฝังร่าง
ของสังฆราชฯ แล้วนะ)  ส่วนยุคที่อยู่ใต้การปกครองของสหภาพ-
โซเวียต วิหารนี้ได้ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันได้กลับมาเป็นของศาสนจักรอีกครั้ง 




The Tsar Phuskar (Tsar Cannon) ปืนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ถูกหล่อด้วยบรอนซ์ สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16  มีขนาดลำกล้อง 35 นิ้ว
ยาว 5.34 เมตร และหนัก ถึง 39.3 ตัน ในขณะที่ลูกปืนมีน้ำหนักถึง 1 ตัน
เราก็อยากรู้ว่าถ้ามันใช้ยิงได้จริงจะมีระยะหวังผลเท่าไหร่กัน เพราะหลังจากที่
สร้างขึ้นแล้วก็ไม่เคยได้ถูกใช้งานสักหน เอาแค่นึกถึงภาพการกรอกลูกปืนใส่
กระบอกก็ปวดหัวแทนแล้ว 




Ivan the Great Bell Tower  หอระฆังอันสูงลิ่วนี้หากจะขึ้นไปก็ต้องเดินขึ้น
บันไดถึง 137 ขั้น หากจะขึ้นไปต้องจ่ายค่าเข้าแยกเฉพาะ และเปิดให้เข้าชมเป็น
รอบเวลา 


ใกล้ ๆ กับหอระฆัง ก็จะมีระฆังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่พื้น มันได้ถูกหล่อด้วยบรอนซ์
หนักราว 200 ตัน ถือว่าเป็นระฆังที่ใหญ่โตที่สุดในโลก ... แต่ใช้งานจริงไม่ได้
หรอก และไม่เคยถูกนำไปแขวน 
เนื่องจากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นจากเหตุการณ์หนึ่ง
ทำให้มีการแตกร้าว 
และชิ้นส่วนที่หลุดออกก็หนักถึง 11,500 กิโลกรัมโน่นแล้ว
('ตัวเลข' ความหนา 
เส้นผ่าศูนย์กลางความสูง ของแต่ละสำนักที่อ่านมาอาจลงไว้
ต่างกัน ดังนั้นเราขอ
ใช้ภาพเปรียบเทียบความใหญ่โตนี้เทียบกับขนาดของเด็ก ๆ
รัสเซียกลุ่มนี้แทนก็
แล้วกัน) 

ส่วนบริเวณพื้นผิวระฆังที่เกิดช่องจากการร้าวนั้น ก็มีการขึงตาข่ายปิดกั้นไว้
ไม่สามารถแอบมุดเข้าไปส่องดูโครงสร้างด้านในได้ 




จำไม่ได้แล้วว่าเป็นภาพถ่ายประตูของวิหารไหน
เราคิดว่ามาจาก Archangel Cathedral นะ 
(โดยความน่าจะเป็นนี้มาจากการมองเทียบแบบไกล ๆ)



Archangel Cathedral (ภาพอาคารมุมซ้าย) ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจ
ใช่มั้ยล่ะ แต่ว่าหากได้เข้าในที่นี้แล้วก็เหมือนกับได้เจอกับบรรดาซาร์และซาริน่า
ยุคแรกใน
ช่วงสมัยที่ยังปกครองอยู่ในกรุงมอสโก (ราวปี 1320 -1690 ยกเว้น
ซาร์บอริส โกดูนอฟ : Boris Godunov) ... จริง ๆ แล้วเราชอบที่นี่นะ เพราะ
ความ
อบอุ่นของเครื่องปรับอุณหภูมิในห้องนี้ที่ทำให้หลบหนาวชั่วคราวได้แต่
ยากที่จะ
อยู่นานได้ ... มีแต่โลงหินเรียงราย  ^^"

Annunciation Cathedral (ภาพอาคารมุมขวา ที่มีโดมทองเก้ายอด)
ภาพที่เห็นในของวิหารดูสวย แต่ว่ารายละเอียดต่าง ๆ คงต้องอาศัยโบรชัวร์ที่ทำ
แจกเทียบเคียงความจำเอา และช่วงที่ไป ก็มีการกั้นเขตแบ่งไว้สำหรับบูรณะพื้นที่
บางส่วนด้วย  -- 
และทั้งสองวิหารที่เราได้เข้าไปเยือนด้านในต่างไม่อนุญาตให้
ถ่ายรูปค่ะ 


.....



ภาพเก็บตกบางส่วน 


ลานจอดเฮลิคอปเตอร์


กลุ่มทหารต่างชาติ ที่ดูเหมือนจะมาจากทางแถบเอเชียใต้
ที่เพิ่งเดินออกมาจากบริเวณอาคารที่จัดแสดงเครื่องเพชร   


บริเวณสวนหย่อมและม้านั่ง  




พระราชวังเครมลิน (The great kremlin palace) โดยห้องจัดแสดงเครื่องเพชรจะตั้งอยู่ด้านใน

สำหรับบางคนที่อยากจะอยู่ในเครมลินนาน ๆ แบบให้คุ้มค่าเข้าล่ะก็ ที่นี่มีสวนและ
ร่มไม้ทั้งม้านั่งให้แวะพักค่ะ แต่ว่าในนี้ไม่มีจุดขายอาหารและเครื่องดื่มบริการนะคะ
ฉันไม่สามารถอยู่ได้นานตามที่คิดไว้เท่าไหร่ 
เพราะอากาศยังคงหนาวเย็นพอ ๆ
กับเมื่อวานนี้ ถึงมันจะแอบอุ่นเพิ่มมาหนึ่งองศาฯ 
ก็ตาม หลังจากที่เดินเที่ยวจนคิด
ว่าทั่วและอยู่นานคุ้มแล้ว ก็ต้องย้ายตัวเอง
ออกมาตามทางเดินที่เขากำหนดบอก
เอาไว้



รูปปั้นของ Patriarch Hermogen : 1530-1612 
ที่เพิ่งจะถูกนำมาตั้งวางไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2013 (ปีเดียวกับที่เราไป)
เพื่อรำลึกถึงวาระครบรอบ 100 ปี ของการสถาปนาเป็นนักบุญมรณสักขี เมื่อปี 1913



ลานน้ำพุที่ Alexander garden 




ฉันเลี้ยวเข้าไปยังพื้นที่แห่งหนึ่ง อาจด้วยความบังเอิญหรือจังหวะของการชุลมุน
ของนักท่องเที่ยวในตอนนั้น
ก็ด้วย ที่พาให้อยากเดินตามไปยืนอยู่ยังจุดด้านหน้า
ที่มีแต่คนมายืนออเต็มไปหมด 
พวกเขาต่างถือกล้องมาส่องเตรียมไว้ เหมือนกับ
จะมีภาพบางอย่างรอให้กดถ่าย 
ตรงด้านหน้าของฉันมีทหารใส่เครื่องแบบคล้าย
กับเสื้อ
โค้ทสีดำที่คลุมยาวมาจนถึงหน้าแข้ง(น่าจะเป็นชุดสำหรับใส่ในช่วงฤดูนี้)
ถือปืนยืนนิ่งอยู่ด้านในกรอบกระจกสองด้าน และยังมีอีกนายหนึ่งที่ยืนอยู่ห่าง ๆ 

จุดกลางของลานดังกล่าวคือ เปลวไฟไม่มีวันดับ (Eternal flame) ซึ่งเป็นรูปแบบ
เดียวกับที่ฉันเคยเห็นมาก่อนใน เมืองอีร์คุตส์ก์ แต่ว่าสำหรับที่นั่นจะดูไม่เป็น
ทางการเท่านี้เพราะ ผู้ที่มายืนเฝ้าเปลวไฟดังกล่าวจะเป็นเด็กนักเรียน ที่ผลัด
เปลี่ยนเวรกันมายืนเฝ้าในทุก ๆ 15 นาที



สำหรับ มอสโก จะเป็นทหารที่ยืนเฝ้าและดูขึงขังกว่ามากและพวกเขาจะทำการ
ผลัด
เปลี่ยนเวรยามกันทุกหนึ่งชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่า(เผลอ)แวะเลี้ยวมาถูกช่วงเวลา
พอดีหากไม่อย่างนั้น ตัวเองคงพลาดจุดนี้ไปแน่

ทีแรกก็นึกว่าจะเห็นแต่ทหารยืนกันนิ่ง ๆ บนนั้นเฉย ๆ แค่นั้น แต่ไม่นานนัก ก็มี
ทหารเดินมาจัดระเบียบเหล่าผู้ชมไม่ให้ยืนล้ำเส้นที่ขีด
กำหนดเอาไว้ เพราะกำลัง
ถึงช่วงผลัดเปลี่ยนเวรยามพอดี


ทหารทั้งสามนายกำลังเดินตบเท้า เข้ามาเปลี่ยนเวรยาม
ส่วนอีกนายที่เดินอยู่ด้านนอก จำไม่ได้ว่าทำหน้าที่อะไร


เทียบกับภาพวิดีโอประกอบเพลง Go west ของ Pet shop boy 


ลำดับภาพการเปลี่ยนตำแหน่ง


คนที่ยืนอยู่ด้านในกรอบกระจก ก้าวออกมายืนข้างนอกและขยับเบี่ยงไปทางขวา
เพื่อให้คนที่มาทำหน้าที่นี้ต่อยืนรอจังหวะเดินเข้าไปยังข้างใน


เมื่อแลกเปลี่ยนตำแหน่งเวรยามแล้ว ทหารชุดเดิมก็จะเดินตบเท้าออกจากลาน


พอเมื่อพิธีการนี้จบสิ้นลง และจะวนกลับมาเป็นเช่นนี้ในอีกหนึ่งชั่วโมงถัดไป
บรรดาคนที่มาเก็บภาพถ่าย ต่างพากันเดินออกไปยังรั้วประตูที่เชื่อมต่อกับ
ลานด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ ที่มีรูปปั้นของนายพลที่ชื่อว่า
เกอร์กี จูคอฟ  (Georgy Zhukov) กำลังนั่งอยู่บนม้า มีผู้คนมากมายที่มาเที่ยว
กรุงมอสโก ตรงจุดนี้เยอะไปหมด โดยเฉพาะชาวเอเชียที่มีให้เห็นอย่าง
มากหน้า
ฉันเองก็แยกไม่ออกหรอกว่าพวกเขาเป็นคนจีน เกาหลี หรือเวียดนาม ฯลฯ






หน้าตาของที่ระลึกต่าง ๆ ที่เอามาวางขายกัน 



'กฏเกณฑ์แห่งกาลเวลา' 

ฉันคิดว่าเรื่องทุกอย่างหลังจากนี้คงจะไม่มีอะไรให้น่าหนักใจเท่ากับเมื่อวานแล้ว
ระหว่างที่เดินเก็บภาพไปเรื่อยเปื่อยนั้น ก็เห็นชาวตะวันตกวัยลุงท่าทางแปลก
พิกล เดินผ่านหน้าฉันไป .... มันจะไม่มีอะไรน่าขบขันเลยหากลุงฝรั่งคนนี้จะไม่
เอาผ้าเช็ดตัวสีฟ้ามาใช้เป็นผ้าพันคอ ทั้งนี้ต้องบอกเลยว่า มารยาทในการถ่ายรูป
บุคคลของฉันอาจแย่เอามาก ๆ ที่ดันยกกล้องไปไวกว่าที่จะคิดหน้าคิดหลังให้ดี
ซึ่งก็นั่นแหละเสียงกดชัตเตอร์ที่ดังขึ้น ทำให้ลุงคนที่ว่าหันขวับมาอย่างไว พร้อม
เดินตรงเข้ามาหา 

"เฮ้!"

นี่ถ้าลุงเขาจะเอาเรื่องล่ะก็ ฉันคงต้องลบภาพนี้ทิ้งไปแหง

"ฟ้า!" เอาเถอะ ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้วแกจะออกเสียงว่า 'ฟ่า' รึ 'ฝา' ก็ตาม
ฉันก็ขอติ๊ต่างไปว่าเขากำลังออกเสียงเรียกชื่อของฉันอยู่ในขณะนั้น

"มาถึงมอสโก เมื่อไหร่?" 



ลุงอันดริอาโน่ เพื่อนร่วมทางบนรถไฟที่บังเอิญมาเจอกันอีกทีในมอสโก


พอมองดี ๆ แล้ว ...
เอ๊าา ลุงอันดริอาโน่ ที่ฉันเจอบนรถไฟในอูลันบาตอร์นี่นา! หลังจากที่ลุงลงรถไฟ
ที่เมืองอูลันอูเด ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันก็ไม่รู้ข่าวคราวอีกพวกเราไม่ได้มีการ
ติดต่อสักช่องทาง ว่าแต่...กรุงมอสโกก็ออกจะกว้างใหญ่ ก็ยังอุตส่าห์
กลับมา
เจอกันอีกเนอะ 

ลุงอันดริอาโน่ เดินทางมาถึงมอสโกหลายวันแล้ว ส่วนฉันก็เพิ่งรอนแรมมาถึง
เมื่อวานนี้เอง แหม...นี่ถ้าชิงเข้าไปเที่ยวเครมลินตั้งแต่วันก่อน พวกเราคงไม่ได้
มาเจอกันแน่ 

"ข้ามาถึงมอสโกตั้งนานแล้ว นี่เอ็งเข้าไปดูทหารเดินเปลี่ยนเวรยามด้านใน
รึยัง?" 

ลุงทักถามไปตามเรื่องราวและเสียงดังลั่นตามแบบฉบับนักเลงโต

"ก็เพิ่งพลัดเวรเฝ้าเสร็จเมื่อกี้นี้เลย...ถึงได้โผล่มานี่"

ฉันชี้ไปทางซุ้มประตูทางออกที่เพิ่งเดินออกมา

"แล้วลุงเข้าไปเที่ยวในเครมลินรึยัง?" 

อันดริอาโน่ บอกว่าเคยเข้าไปเที่ยวด้านในนั้นบ่อยมากแล้ว หนนี้ก็เลยไม่ได้
แวะเข้าไปด้านใน "ข้ามาเห็นตั้งแต่สมัยโซเวียตละ ตั้งแต่ยังไม่ริทำ
ตั๋วแยกให้
เรื่องมากแบบนี้"
ก็คงน่าจะปรับตัวให้เป็นทุนนิยมขึ้นล่ะมั้ง เราคุยกันที่ลานเล็ก
น้อยก่อนที่จะขอแยกตัว เพราะลุงทักว่าอากาศแบบนี้ไม่นานจะมีฝนตกลงมา
และยังแนะนำให้ฉันรีบ ๆ ไปเดินเที่ยววิหารเซนต์บาซิล ซะตอนนี้เลยจะดีกว่า

"เย็น ๆ ค่อยมาอีกหนก็ยังทันน่า"
ฉันปฏิเสธที่จะไปตามที่บอก 
"เดี๋ยวจะเดินทางไป
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คืนวันพรุ่งนี้ ...ลุงจะไปที่นั่นรึปล่าว" 

"ข้าไม่ไปที่นั่น ต้องบินไปฮังการีต่อ"

ถ้างั้นนี่ก็คงเป็นการเจอกันหนสุดท้ายของพวกเราแล้วจริง ๆ

อันดริอาโน่ บอกว่าจะไปหามื้อกลางวันกินที่แมคโดนัลล์สักหน่อย
ตาย ๆๆๆ...นี่คือคนอิตาเลี่ยน ที่เคยพูดถึงเรื่องสุขภาพให้ฉันฟังแน่เรอะ
ไอ้อาหารแนวเมดิเตอเรเนี่ยน กับน้ำมันมะกอก ที่ดีต่อสุขภาพอะไรเทือกนั้น
"เอ็งควรกินบ้างนะเพราะมันดีต่อหัวใจ"...แล้วนี่ ลุงกำลังจะย่องไปกินจั๊งค์ฟู้ด!

เชา!

ใช่ พวกเราลากันด้วยคำนี้ แต่หนนี้กลับไม่มีชื่อเมืองในจุดหมายหน้า
และรวมไปถึงคำพ่วงที่จะบอกว่า แล้วพบกันใหม่ -- เพราะเราจะไม่ได้พบกันอีก


...


ก็เป็นไปตามที่คาดไว้ จากนั้นไม่นานฝนก็ตกลงมาจริง ๆ ซึ่งก็เป็นสายฝน
ที่ไม่ได้ร่วงหล่นลงมาจากฟ้าเป็นเกล็ดน้ำแข็งเหมือนกับเมื่อวานนี้ ก่อนที่ฉัน
จะเลี้ยวไปถึงตัวอาคารของโฮสเทล ก็มีก้อนน้ำแข็งที่หล่นกราวลงมานำร่อง
มันดูคล้ายเม็ดโฟม เมื่อตกกระทบลงพื้นก็พากันกระเด็นกระดอนเต็มไปหมด
แม้ฉันจะไม่เคยเห็นหิมะตกมาก่อน แต่ก็คิดว่ามันไม่น่าจะใช่หิมะหรอก บรรดา
คนที่อยู่ในตัวอาคารด้านล่าง พากันโผล่มาที่ช่องหน้าต่างเพื่อมองดูเม็ดสีขาว
ขนาดเล็ก ๆ นี้กันใหญ่ ...อากาศ
เริ่มอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว และเมื่อฉันก้าวมาถึง
ใต้ชายคามันก็กลับกลายเป็นฝนที่ตกลงมาห่าใหญ่พอดี!

จากนั้นฉันก็ออกไปไหนไม่ได้ต่อ นอกจากมานั่งขลุกอยู่ในโฮสเทลและจดบันทึก
เรื่องโน้นนี้ไปเรื่อย...มันก็มีอะไรให้ได้เขียนเยอะเลยล่ะสำหรับวันนี้ แล้วก็ยังมี
เรื่องที่ต้องควรจำสำหรับการขึ้นรถไฟในคืนวันพรุ่งนี้ ฉันหยิบตั๋วรถไฟขึ้นมาดู
เทียบกับหนังสือนำเที่ยวที่พกมาลองนั่งแกะอักขระประหลาดที่อ่านไม่รู้เรื่องนั่น

หนแรกที่กวาดสายตาไปมองดู ฉันรู้สึกแอบประหลาดใจกับตัวเลขวันที่
วันเดินทางของฉันคือ คืนวันที่ 2 และจะต้องไปถึงที่หมายของเช้าวันที่ 3
ในตอนแปดโมง...
ทำไม ตัวเลขของปลายทางถึงได้เป็นวันที่ 2 อีกล่ะ?

และเมื่อฉันได้กลับมานั่งคิดย้อนทบทวน ถึงกฏเกณฑ์แห่งกาลเวลา
จนเริ่มคลี่คลาย ใจของฉันก็แทบร่วงเพราะแผนเที่ยวที่เหลืออีกเพียบ
ในกรุงมอสโก กำลังถูกเทหายไปพร้อมกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และ
ช่วงเวลาสุดท้ายนี้ก็กำลังเขยิบเลื่อนเข้ามาเรื่อย ๆ




เส้นประ ที่ขีดกำกับบรรทัดบน  02. 10  01 .00 (วันที่.เดือน, เวลาที่เดินทาง)
เส้นประ ที่ขีดกำกับบรรทัดล่าง 02.10 B 08.38 (วันที่.เดือน, เวลาถึงที่หมาย)
**ไม่รู้ว่าตัว B คืออะไร  


วันนี้คือวันอังคาร (โอ๊ย...ช่างวันอังคารเถอะ) แต่ที่แน่ ๆ มันคือวันที่ 1 
และฉันควรออกเดินทางไปจากมอสโก 'คืนวันพรุ่งนี้' ไม่ใช่หลังเที่ยงคืน
ของวันนี้ ที่กฏเกณฑ์ของเวลาดันปัดไปเป็นตัวเลขของเช้าวันใหม่โดย
อัตโนมัติ...
มันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ นะ ที่ไปหลงลืมกับเรื่องแบบนี้เสียสนิท

ในเมื่อทุกอย่างมันฉุกละหุกแบบนี้ พร้อมกับฝนที่ยังตกอยู่กระทั่งเกือบสี่โมงเย็น 
ที่แผ่วเบาพอที่จะลุยออกไปข้างนอกได้ ฉันไม่ได้แวะไปแก้มือที่จตุรัสแดงอีกแล้ว
แต่เลือก
ไปเยี่ยมชมอีกสถานที่แทน นั่นก็คือ Cathedral of Christ the Saviour   




ทำไมฉันถึงอยากจะมาเห็นที่นี่ล่ะ?
คงเพราะ...ที่นี่เป็นภาพแรกที่ฉันเห็นเมื่อมาถึงมอสโก
และก็อยากมาใช้เวลาเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน  






credit :
expertmus


มหาวิหารแห่งนี้เคยถูกระเบิดทิ้งในปี 1931 เมื่อผู้ปกครองในขณะนั้นคิดสร้าง
ให้เป็น
พระราชวังโซเวียต เพื่อเป็นที่ทำการของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ที่สุด
ในโลกแทน แต่ก็เกิด
ความล้มเหลวในการดำเนินงานและพับโครงการนี้ทิ้งไป
กระทั่งถูก
เปลี่ยนแผนมาสร้างเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แทน 

ภายหลัง มหาวิหารนี้ก็ได้ถูกสร้างใหม่โดยเลียนแบบของเดิม จากการ
รวมตัวของ
ผู้นำทางศาสนา ตลอดทั้งยังได้รับ
บริจาคของชาวเมืองที่หวังอยากให้ศาสนาซึ่ง
เป็นที่ยึดเหยี่ยวทางจิตใจได้
กลับมาอีกครั้ง จนกระทั่งสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2000 

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ กับสิ่งที่ถูกทำลายไปจนราบคาบ
จะกลับคืนมาดังเดิมได้...
แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วนี่เนอะ  



รูปปั้นของ ซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ตรงบริเวณทางเข้าวิหาร


มุมภาพจากบนสะพานที่เชื่อมต่อกับ Cathedral of Christ the Saviour 
กับรูปปั้นของ ซาร์ ปีเตอร์ที่ 1 กำลังยืนอยู่ตรงเสากระโดงเรือ   


ภาพสุดท้ายในมอสโกยามค่ำคืน 

มันอาจจะไวเกินไปหน่อย สำหรับการถึงกรุงมอสโกและรีบเร่งออกไปโดยไม่ทัน
ได้ตั้งตัว คงเป็นเรื่องที่ฉันจะต้องจำไปอีกนานกับเรื่องของเวลาที่พลาดไป
และคำว่า 'วันพรุ่งนี้' ที่ตัวเองชอบบอกผลัดอยู่ตลอดนั้นกลับไม่มีวันมาถึงซะแล้ว

ฉันเดินทางออกจากที่พักในช่วงค่ำ ราว ๆ สองทุ่ม และเดินข้ามสะพานกลับมายัง
มหาวิหารนั้นอีกครั้ง เพราะไปถึงยังรถไฟใต้ดินง่ายกว่า เพื่อตรงไปยังเมโทร 
Komsomolskaya ที่เก่า แต่หนนี้ฉันจะต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานี Leningradsky 

ถึงเที่ยวโดยสารรถไฟจะออกในเวลาตีหนึ่งก็ตาม ฉันไม่อยากเดินออกมาข้างนอก
ในช่วงที่
ดึกไปมากกว่านี้ จึงยอมเสียเวลานั่งรอเวลาที่สถานีรถไฟแต่เนิ่น ๆ ...
เมื่อมาถึงที่หมายที่เป็นอาคารพักผู้โดยสาร หลังจากที่ตรงไปหาที่นั่งพักและวาง
เป้ลง ก็เข้าใจว่าในบริเวณนี้ไม่ได้เปิดเครื่องทำความร้อนเอาไว้ จึงทำให้บางครั้ง
ต้องเดินไปมา ไม่ก็หาเรื่องขยับร่างกายเอาไว้ (อาจเป็นผลพวงมาจากการเปียก
ฝนที่มันดันตกลงมาอีกครั้ง หลังเดินทางออกมาจากที่พัก) 

มีตำรวจเข้ามาตรวจตราคนที่เข้ามานั่งพักด้านในเช่นเดียวกันกับสถานีอื่น ๆ
แต่หนนี้มีหมาตัวใหญ่ (ย้ำว่าหมาตัวใหญ่ สูงเท่าเอว) เดินดมกลิ่นกระเป๋า
ดมกลิ่นข้าวของที่มันสงสัยในแบบอิสระ โดยที่ไม่ต้องมีคนมาเดินจูงเดินนำเลย
และฉันก็ควรที่จะทำตัวให้อยู่นิ่ง ๆ เสียบ้างหากมันอยากจะแวะเข้ามาหา ดูท่าทาง
แล้วคงดุเอาเรื่อง   

มีอยู่หนหนึ่ง ฉันหนีหายไปยังห้องน้ำอยู่ครู่ใหญ่ และทิ้งเป้ใบโตเอาไว้ตรงที่นั่ง
ถัดมาเมื่อเดินกลับมายังที่เก่า ฉันก็ได้เห็นพี่ตำรวจกำลังยืนซักถามคนแถวนั้น
เกี่ยว
กับเป้ของฉันว่าใครเป็นเจ้าของ ... ถึงจะฟังไม่ออกว่าเขาพูดถึงอะไรก็ตาม
แต่ของแบบนี้มันก็คาดเดาไม่ยากหรอก "มันเป็นกระเป๋าของฉันเอง" 
ฉันตรงเข้าไปบอก พร้อมกับงัดป้ายชื่อที่แขวนติดเอาไว้มาให้ดูเผื่อไม่เชื่อ  
ตำรวจจึงได้บอกว่า ห้ามวางทิ้งเอาไว้แบบนี้อีก มันอันตราย

ก็ไม่รู้ว่า อันตรายของคุณตำรวจที่ว่ามาจะหมายถึงคนลักหยิบเอาไป
หรือจะอันตราย เพราะน่าสงสัยว่าจะเป็นกระเป๋าของผู้ก่อการร้ายกันแน่นะ?

ในช่วงห้าทุ่ม ฉันเพิ่งคิดได้ว่า ควรเดินไปรอรถไฟที่ห้องโดยสารของสถานีรถไฟ
Leningradsky ซึ่งทำแยกเอาไว้ต่างหาก มากกว่าจะมารอตรงอาคาร(รวม)แบบนี้
พื้นที่ในนั้นอบอุ่น และดูเป็นระเบียบซะยิ่งกว่าจุดเดิมที่ฉันไปนั่งตัวแข็งเสียตั้งนาน
เพราะหลงคิดว่าจุดทางเข้านั้นคือทางไปชานชาลาอันโล่งโจ้งยังไงล่ะ 

แล้วเวลานั้นก็คลืบคลานมาจนถึงเที่ยงคืน เวลาที่ปัดตัวเลขของคืนวันที่ 1
ให้เปลี่ยนไปเป็น(คืน)วันที่ 2 ได้อย่างแนบเนียนและไม่น่าให้อภัย...

ถ้าฉัน...หยุดคิดตามหนุ่มฮิปสเตอร์นายนั้น ให้ดีก่อน
บางทีฉันอาจจะเลื่อนตัวเลขของวันที่ตามที่เขาพยายามสื่อให้เข้าใจ 

ถ้าฉัน...เข้าไปเที่ยวในเครมลินเสียตั้งแต่เมื่อวาน ไม่กั๊กเอาไว้เป็นวันนี้
บางทีฉันอยากจะได้ไล่ตามเก็บสถานที่อื่น ๆ ได้เกือบครบ

ถ้าฉัน... ถ้าฉัน... ถ้าฉัน....

ความคิดต่าง ๆ ที่ดังขึ้นมาในตอนนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วทั้งนั้น
ฉันมองเห็นข้อพลาดและวิธีการแก้ไขที่สามารถนำมาหักล้างความผิดเสมอ
(ในกรณีที่ย้อนเวลากลับไปได้) แต่ในความจริงแล้ว เราเองก็มีเพียงแค่เวลา
ที่อยู่
รอข้างหน้าเท่านั้น

ในเวลาเที่ยงคืนครึ่งของ(เช้า)วันที่ 2
ซึ่งอิงตามกฏเกณฑ์ของกาลเวลา ไม่ใช่ตามความเข้าใจของฉัน
ได้เริ่มส่งสัญญาณเตือนขึ้นกระดานแจ้งเที่ยวรถไฟหมายเลข 16
ที่เข้ามาจอดยังชานชาลาภายนอกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันจึงได้คว้าเป้
มาสะพายเพื่อเตรียมตัวไปขึ้นรถไฟขบวนสุดท้ายของการเดินทางครั้งนี้

รถไฟมาจอดรอก่อนเวลาออกครึ่งชั่วโมง ฉันเดินหาหมายเลขชานชาลาดังกล่าว
เจอแล้วแต่กลับไม่พบป้ายชื่อ Moscow - Saint Petersburg เสียที ฉันเดินไปยัง
ตู้ขบวนของตัวเองด้วยความไม่มั่นใจ พร้อมส่งหนังสือเดินทางและตั๋วโดยสารส่ง
ไปยังผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจตราก่อนขึ้นรถไฟ ใช่แล้วล่ะ นี่คือขบวนรถที่จะตรงไปถึง
เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จริง ๆ ด้วยแต่นั่นคือทางผ่าน...เพราะชื่อของปลายทาง
ที่มันจะไปสิ้นสุดลงก็คือเมือง Murmansk เมืองที่ตั้งอยู่ในเขต Arctic Circle
และสามารถมองเห็นแสงเหนือได้

แย่จริง! ฉันไปต่อไม่ได้แล้ว 

นี่ไม่ใช่เรื่องพลาด...
แต่ไม่มีตังค์อ่ะ










Create Date : 24 มิถุนายน 2561
Last Update : 27 มิถุนายน 2561 8:36:02 น. 26 comments
Counter : 1706 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtoor36, คุณKavanich96, คุณชีริว, คุณSweet_pills, คุณhaiku, คุณtuk-tuk@korat, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณMax Bulliboo, คุณเนินน้ำ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณอุ้มสี, คุณInsignia_Museum, คุณคนผ่านทางมาเจอ


 
คุณฟ้าเขียน เล่าได้ละเอียด ผมนั่งอ่านลงมาเรื่อย ๆ สถานที่
สวยมาก..

ที่น่าทึ่ง ทั้งที่ตัวผมเป็นผู้ชาย 555 ทหารรัสเซียหน้าตาดี หล่อ
ทีแรก คิดว่า หุ่น.. อ้าวเดินได้.. ยกเว้นที่ยืนคนเดียว นั่น
ของปลอม

มีภาพถ่ายจากที่สูง ลงสู่พื้น สวย.. ลานจอดเฮลิคอบเตอร์..

ผมอยู่ตรงสวนข้างหลัง นานเป็น ช.ม. ต้นไม้สวยมากรวมทั้ง
รูปปั้นที่อยู่ ล่าง ๆลงไป

v


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 26 มิถุนายน 2561 เวลา:19:22:43 น.  

 
เครมลิน เหมือนเป็นที่ที่ใครๆ ที่มาถึงก็ต้องแวะเยือนเลยครับ สีสดใสเชียวแดงสดเลย

ปืนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ใส่กระสุนทีก็ลำบากแล้วครับ โดนอีกฝ่ายเล่นงานก่อน แต่ถ้าคิดถึงพลังทำลายล้าง ถ้าใส่ลูกปืนแล้วยิงน่าจะพลังทำลายล้างสูงนะ

รู้สึกมีค่าเข้าแยกย่อยเยอะนะครับ ระฆังนี่น่าเสียดาย แตก!!

ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีด้วย เป็นช่วงเวลาที่ดีครับ ถ่ยภาพออกมาสวย มีสีสัน ตุ๊กตารัสเซียมีที่เป็นภาพคนจริงด้วย

เจอคนรู้จักซะอีก ต่างประเทศถ่ายรูปคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตบางทีมีเรื่องได้ง่ายๆ เหมือนกันนะ ไม่เหมือนของเรา ถ่ายเฉย เอาไปใช้เฉย เจ้าตัวยังไม่ได้ยินยอมซะหน่อย พอบอกให้เอาออกก็ไม่ยอม พอฟ้องร้องก็หาว่าใจแคบ เอากับเขาสิ

ฝนเป็นอุปสรรค์ในการท่องเที่ยวจริงๆ ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม มันเปียกแฉะ เดินทางลำบาก และเดินทางได้ช้าด้วย



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มิถุนายน 2561 เวลา:22:56:43 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 27 มิถุนายน 2561 เวลา:4:33:26 น.  

 
*** ประกาศ ๆ ***
คอมฯ เพิ่งเสียเมื่อช่วงเช้านี้
อาจต้องงดเข้าบล็อกชั่วคราวจ้าาา


โดย: กาบริเอล (ไม่ได้ log-in) IP: 1.47.36.181 วันที่: 27 มิถุนายน 2561 เวลา:9:22:08 น.  

 
อ๊ะแหน่ พลาดไปก็มาเก็บตกได้เนอะ ไปเองก็ดีแบบนี้ละครับ (แต่ถ้าไปทัวร์เขาคงไม่พาไปวันที่วังมันปิดตั้งกะแรก 555)
ตอนเดินผ่านรัฐสภาคิดเหมือนกันเลยว่าอยากเห็นปูตินง่ะ เขาคงจะออกมาให้ดูหรอก!
ผู้นำรัสเซียอยู่ในตำแหน่งทีก็อยู่กันยาวๆเลยเนอะ กอร์บาชอฟอีกคน
Armoury Chamber แสดงความหรูหราฟุ่มเฟือยของราชวงศ์มาก แต่ไม่ดีตรงถ่ายรูปไม่ได้เนี่ย
ซาร์แคนน่อน....ยิงบ่ได้
ซาร์เบล....หัก ประเทศนี้ชอบทำอะไรใหญ่ๆแต่ใช้ไม่ได้เนอะ
พวกโบสถ์นั้นโบสถ์นี้ในเขตวังก็ไม่ได้เข้าครบทุกอันง่ะ ของเขาเยอะดีจริงๆ
Eternal Flame นี่จุดกันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง เป็นการให้ความเคารพเหล่าทหารที่เสียชีวิตด้วยความตั้งใจสูงมาก
ว่าแต่นอกจากอินเดียแล้ว มารัสเซียก็ยังเจอคนรู้จักมาทักอีกนะเนี่ย คนพวกนี้ก็ช่างจำหน้าคนแม้นแม่น คิดว่าจะเห็นคนเอเชียหน้าเหมือนกันหมดซะอีก
เสียดายที่ต้องรีบออกจากมอสโก แถมฝนก็ตกไฃ่อีกนะครับ ตอนไปมอสโกก็เจอฝนเหมือนกัน เห็นหนาวๆแบบนี้ฝนตกบ่อยนะเนี่ย


ป.ล. ขอไว้อาลัยคอมด้วยจ้า มันทำหน้าที่สุดท้ายคืออัพบล็อกนี้ไปแล้ว (แกจะไม่ให้เขาซ่อมเลยรึ??)


โดย: ชีริว วันที่: 27 มิถุนายน 2561 เวลา:23:24:37 น.  

 
ภายในป้อมเครมลินน่าชมมากค่ะ มีทั้งวิหาร ปืนใหญ่ หอระฆังและระฆังขนาดใหญ่ที่ไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน
ทหารเปลี่ยนเวรยามดูเป็นระเบียบ ท่าเดินเข้มแข็งมาก
การที่พบลุงอันดริอาโนน่าแปลกใจมากค่ะน้องฟ้า
ได้พบได้ลากันและจะไม่ได้พบกันอีก

ความคลาดเคลื่อนของเวลาแท้ๆทำให้น้องฟ้าต้องเดินทางตอนตี 1
และยังคงมีสถานที่ที่อยากไป
สิ่งต่างๆที่เจอโดยไม่คาดคิดก็เป็นเสน่ห์ของการเดินทางนะคะ
ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ค่ะน้องฟ้า


โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มิถุนายน 2561 เวลา:1:41:20 น.  

 
เรื่องการเข้าออกประตูโฮสต์เทล ที่เค้าสบถบ่นเนี่ย
จะบอกว่าเจ้าของที่นี่ไม่มี service mind ก็ไม่เชิง
จริง ๆ เค้าออกแบบระบบเข้าออกแย่เองต่างหาก
ก็คงต้องบ่นอย่างงี้ไปจนปิดกิจการนั่นแหละ -_-

มอสโก เมืองหลวงรัสเซียช่างใหญ่โตมโหฬารแท้
แต่ผู้คนน้อย~น้อย ผิดกับเมืองหลวงบ้านเราลิบลับเลย
กรุงเทพฯ คนหนาแน่นจริง ๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่คนอะ
แต่โลกมันกลมเนอะ! ทำให้ลุงอันดริอาโน่มาเจอ "คุณฝา" ที่นี่ได้
(ชื่อไทยนี่ช่างออกเสียงย้าก~ยาก สำหรับชาวต่างชาติจริง ๆ ^^")

ส่วนเรื่องที่พลาดเนี่ย...ทำไงได้เนอะ
ขนาดตอนที่ซื้อตั๋วมีคนท้องถิ่นช่วยยังลำบาก (มีแต่ภาษารัสเซียอีกต่างหาก)
ถ้าจะขอเปลี่ยนตั๋วเลื่อนวันเดินทาง (แบบไม่มีตัวช่วย) คงเป็นไปไม่ได้แหง
แค่พลาดโอกาสเที่ยวเฉย ๆ คงไม่เป็นไร ขอให้เดินทางไปถึงจุดหมายได้ก็พอ ^^


ป.ล.1 สิ่งต่าง ๆ ที่กลั่นจากความชื้นลงมาจากท้องฟ้า
เช่น ฝน, หิมะ, ลูกเห็บ, ฯลฯ เค้าเรียกว่า precipitation (หยาดน้ำฟ้า) อะ
พอดีบ้านเราอยู่ในเขตร้อน เลยมีอะไรพวกนี้ให้เห็นแค่ไม่กี่ประเภท
อย่างฝนน้ำแข็งในเอนทรีย์นี้ ไม่รู้ใช่ sleet หรือเปล่านะ ^^
ถ้าอยากรู้จริง ๆ ว่าคืออะไร ลองเสิร์ชเอาจาก precipitation เอาแล้วกัน
แต่คงไม่ใช่ Houseki no Ame แน่ ๆ เพราะมันอยู่ในบล็อกทุเรียนกวนไง :D

ป.ล.2 คอมเสีย...อย่างงี้คุณฝาก็ตอบ(โต้)ไม่ได้แล้วล่ะซี่ ฮุฮุ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 2 กรกฎาคม 2561 เวลา:21:13:27 น.  

 
Dear all,

harddisk มันพังงงง
ขอเวลากู้ภาพก่อนน้อ






โดย: กาบริเอล วันที่: 6 กรกฎาคม 2561 เวลา:22:28:02 น.  

 
วิหารหรือที่เที่ยวไหนถ่ายรูปได้จะเอามาให้ชมหมดเลยค่ะ
ถ้าดูละเอียดแต่ละรูปเมื่อยคอแน่ค่ะ
แต่ดูไม่ค่อยรู้เรื่องได้แต่ผ่าน ๆ กับความสวยงามและทึ่งมาก ๆ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:16:02:46 น.  

 
harddisk พังนี่เรื่องใหญ่เลยนะ

จากบล็อกลองจินตนาการชั้นเรียนวิชาภาษาอังกฤษตามสถาบันของสถานศึกษาดูครับ บรรยากาศการเรียนมันสนุกมากเลยนะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:17:05:26 น.  

 
เรื่องใหญ่มากกกกก
ก็ต้องเปลี่ยนเครื่องเลยอ่ะ
ดีนะที่สำรองข้อมูลเอาไว้ในที่อื่นด้วย
แต่ก็มีอะไรสำคัญ ๆ ปลิวหายไปเยอะอยู่
คงรอจัดระเบียบไฟล์ ให้เรียบร้อยก่อน
กว่าจะอัพบล็อกตอนใหม่ได้ คง(ดอง)อีกนาน



โดย: กาบริเอล วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:17:21:34 น.  

 
ปกติก็ดองนานอยู่แล้ว ไม่กระทบเท่าไหร่

เคยคอมม่องอยู่หนนึง แต่ดียกเครื่องไปพันธุ์ทิพย์แล้วเขากู้ไฟล์ได้หมด จากนั้นก็ย้ายไฟล์ที่กู้มาไปลงคอมใหม่เลย ไม่มีอะไรบุบสลายครับ


โดย: ชีริว วันที่: 8 กรกฎาคม 2561 เวลา:9:24:14 น.  

 
อ่านไปๆ สะดุดตอนอิลุงแวะมา "เฮ้" ทักนี่ล่ะ 555 หากเป็นพี่ไปยืนในมอสโคว์แล้วจู่ๆมีใครมาทักแบบนี้คงตกใจทำกล้องหล่นจากมือแน่นอน กัววววว 555 บรรทัดสุดท้าย สาเหตุที่พลาดเพราะไม่มีตังค์..เหตุการณ์แบบนี้ บ้านพี่เจอบ่อย...(แอบเซรงกะความจนจริงๆว่ะ) อ่ะงั้นโหวตจ้า ปูติน ชืื่อนี้คงจะจารึกไปอีกนานในตำแหน่งนี้ แต่พี่คิดว่า ปูติน น่าจะเพลาๆเรื่องการ ฉีดโบท๊อกซ์เข้าหน้าผากได้แล้วนะ หน้าเฮียแกแบบเรียบเป๊ะเหมือนโดนเตารีดรีดมาไงงั้น แอร๊ยยยยยย ต่อไปอาจจะขยับหน้าผากไม่ได้แระ..ฮ่วยยย


โดย: Max Bulliboo วันที่: 8 กรกฎาคม 2561 เวลา:20:04:32 น.  

 
ตรงแท่งปูนก็น่ากลัวลื่นเหมือนกันค่ะน้องฟ้า
พี่ต๋าต้องท่อง ห้ามลื่น ห้ามล้ม น่ะค่ะ
ขอบคุณน้องฟ้าที่แวะเที่ยวด้วยกันนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 8 กรกฎาคม 2561 เวลา:23:47:00 น.  

 
ตามน้องฟ้ามาเที่ยวค่ะ
ใครไปรัสเซียก็ต้องถ่ายภาพปืนใหญ่และระฆังเนาะ
คุณลุงคนนั้นคงอยากกินจั๊งฟู๊ดบ้างน่ะค่ะ อาหารสุขภาพบางครั้งก็ไม่อร่อยสักเท่าไหร่ ของอร่อยบางทีก็ไม่ดีต่อสุขภาพเนาะ
ก็จะชมทุกบล็อกแหละว่าตัวเล็กแค่นี้แต่เก่งมากท่องโลกกว้างคนเดียว สุดยอดค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 10 กรกฎาคม 2561 เวลา:15:30:10 น.  

 
คอมพังนี่เอง หายไปนานเลยน่อออออ

เดี๋ยวนี้เค้าโหวตหมวดอะไรให้ฟ้ากันอ้ะ แทรเวล? ไดอาริสต์? งานเขียน? รอตอบนะจ๊ะ เดี๋ยวกลับมาโหวตให้

พี่ได้เข้านะ พิพิธภัณฑ์เพชรน่ะ สวยมาก แต่เค้าห้ามถ่ายรูป

จะรีวิวก็ไม่ได้รีวิวสักที


ขอบคุณที่ไปเมนท์น้า เลยนึกออกว่าไม่ได้ใส่ข้อมูลตรงนี้เลย ฟ้าไปอ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้นะ / พวกพิพิธภัณฑ์ พี่ว่าต้องมีเวลาค่อนข้างมาก แต่การไปทั้งสองรอบคือมีเวลาแค่สองชม.อ้ะ มันไม่พอ สำหรับพี่ อยู่ได้คืออยากอยู่ทั้งวัน 555

//qzana.blogspot.com/2010/06/blog-post.html


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 กรกฎาคม 2561 เวลา:9:38:29 น.  

 
สวัสดีค่ะ ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ

ทหารดูขึงขังจริงๆ ยกขาสูงมาก


โดย: kae+aoe วันที่: 11 กรกฎาคม 2561 เวลา:10:04:35 น.  

 
ตอนที่ไปยังมืดหลังสี่ทุ่ม สว่างตอนก่อนตี 3 ค่ะ
สว่างทั้งคืนนี้แย่เหมือนกันนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 11 กรกฎาคม 2561 เวลา:12:32:33 น.  

 
หวัดดีอีกรอบจ้าาา

มาโหวตแระนะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ตะลีกีปัส Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
The Kop Civil Sports Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Hobby Blog ดู Blog
ยังไงก็ได้ว่ามาเลย Diarist ดู Blog
กาบริเอล Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 กรกฎาคม 2561 เวลา:13:13:07 น.  

 
สุดยอด
มาโหวตไดอารี่ให้น้องฟ้าจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 13 กรกฎาคม 2561 เวลา:14:07:56 น.  

 
ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าอ่าน น่าติดตามครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 24 กรกฎาคม 2561 เวลา:15:50:02 น.  

 
คอมเครื่องใหม่จัดระเบียบเรียบร้อยยังเนี่ย
อัพซีรี่ยส์อยุธยาจบแล้วเน้อ แวะไปหน่อยน้า ♥


โดย: ชีริว วันที่: 4 สิงหาคม 2561 เวลา:22:50:25 น.  

 
ไปเห็นที่บ้านอื่นมา ยินดีต้อนรับกลับสู่บล็อกแก๊งครับ^^


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 สิงหาคม 2561 เวลา:22:58:43 น.  

 
พอดีเป็นเยื่อบุตาอักเสบน่ะ สงสัยเป็นเพราะติดเชื้อจากละอองน้ำคลองแสนแสบ T^T

ว่าแต่...คอมบ้านนี้ตกคลองแสนแสบหรือไง เมื่อไหร่จะซ่อมเสร็จซะที ฮุฮุ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 11 สิงหาคม 2561 เวลา:10:08:49 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณน้องฟ้า..

ตามมาเที่ยวรัสเซียสนุกสนานแบบน้องฟ้า

บรรยายได้เห็นภาพพจน์เลยคะ

โหวตให้เลย



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 12 สิงหาคม 2561 เวลา:7:13:31 น.  

 
สนุกจริงๆ ในการลุยเดี่ยวท่องเที่ยวไป ตามใจที่ฉันปราถนา ลุงแอ็ดหมดสิทธิ์ โดยสมบูรณ์ ที่จะลุยได้อย่างหลานฟ้ากาบริเอล,

https://www.youtube.com/user/realrussiablog เป็นแหล่งข้อมูล ชั้นเยี่ยม ที่มีผู้ติดตาม 116,075 คน ในคืนที่ลุงเข้าไปเยี่ยมชม,

ลุงผ้าพันคอ"สีฟ้า"เท่ห์มั้กๆมาก เสน่ห์ของการท่องไปในโลกกว้าง มันจะมีเรื่องให้ ชวนหลงไหลเสมอ,

ในค่ำคืนที่ลุงไปเดินหลงทาง"หาที่พักไม่เจอ"ที่ชาญเมืองณ.กรุงปักกิ่งนั้น(เขตฉ่าวหยาง)เมื่ออกช่องทางผิด เมื่อขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินสายที่6สีน้ำตาล เชื่อเถอะ มันทั้งโหดมันฮา ในยามดึกสงัดเช่นนั้น"เดินอยู่คนเดียวจริงๆ"ตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง ถึงตีสามวันรุ่งขึ้น(มีแอบพักบ้าง)มันมีคำถามเกิดขึ้นในใจ ของตนว่า ตรูมาทำอะไร? ที่นี่ว่ะ ไอ้แอ็ดไอ้เด็กวัดหางเปีย,

เรื่องสตังนับว่า เป็นเรื่องสำคัญ,


โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 20 มกราคม 2562 เวลา:2:30:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.