[R]ตะลอนนั่งรถไฟไปรัสเซีย 17 - บนรถไฟ
หลังสิ้นคำชวนของลุงนิโคไล มีเหรอที่ฉันอยากจะไปนั่งจมอยู่กับระบบนิเวศน์เชิงปิดแบบนี้ไปจนถึงมอสโก ยิ่งพอได้แอบมองผ่านหน้าต่างไปยังด้านนอกแล้ว ...ดูคึกคักซะไม่มี
ฉันเพิ่งเข้าใจว่า...ตลอดระยะเวลาที่เดินทางหลายวันบนรถไฟ มันก็ใช่ว่ามันจะวิ่งรวดเดียวโดยไม่ปล่อยให้ผู้โดยสารลงมาสูดอากาศ เห็นเดือนเห็นตะวันที่ด้านนอกกันเสียเมื่อไหร่ล่ะ บ้างครั้งก็จะมีการจอดหยุดพักตามสถานีใหญ่และใช้เวลาราว ๆ สิบห้า-ยี่สิบนาที หรือไม่ก็อาจนานถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งนี้บริเวณหน้าห้องพักเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลตู้ขบวน และใกล้ ๆ กับห้องน้ำจะมีตารางเวลาบอกแจ้ง ว่าจะไปถึงสถานีใดและใช้เวลาหยุดนานเท่าไหร่กัน ... ที่พูดมามันก็ดูใช่ว่าจะไม่ง่ายแต่ก็ถือว่าไม่ยาก
เวลาที่ใช้ในตารางนั้นจะเทียบค่าให้ตรงกับ มอสโก (GMT+4) ก็ไม่ยากที่จะปรับนาฬิกาย้อนลงไป 5 ชั่วโมง ซึ่งเรื่องเวลานี้เรายึดอิงจากที่เก่าใน อีร์คุตส์ก์ (GMT+9) นะคะ
แต่อีกเงื่อนไขหนึ่งที่ฉันคิดว่าปรับจูนยากกว่าเวลา นั่นคงเป็นภาษารัสเซียที่ติดบอกเอาไว้บนป้ายตาราง
หากไม่แน่ใจจริง ๆ แล้วละก็ ให้สังเกตดูท่าทีของผู้คนบนรถไฟดูเอาก่อน ถ้าสถานีถัดไปมีทีท่าว่าจะจอดนาน ผู้โดยสารหลายคนมักจะคว้าเสื้อมาสวมคลุมทับ เพื่อเตรียมตัวลงไปด้านล่างกัน และเอาให้แน่นอนกว่านั้น ให้ถามคนคุมตู้ขบวนของเราอีกทีเพื่อความแน่ใจนะคะ แต่จะว่าไปคุณเจ้าหน้าที่เองก็ต้องซื้อหาของสด มาใช้ปรุงอาหารกินเองในห้องพักเช่นกัน
(เคยแอบชะโงกไปเห็นห้องเจ้าหน้าที่ ตอนเดินไปกดน้ำร้อน ในตอนนั้นพวกเขากำลังตั้งหน้าตั้งตาหั่นผัก ต้มน้ำ กันอยู่พอดี)
ช่วงที่จอดพักยังสถานีใหญ่ ก็จะมีผู้คนขนย้ายข้าวของลงจากรถไฟ ไม่ก็เตรียมตัวหอบกระเป๋าเพื่อเดินทางกันให้ขวักไขว่
ป้าโอเลีย และ ก๊วนของลุงนิโคไล ฉันเข้าใจว่าพวกเขาเพื่อนกันมาก่อน แต่ที่จริงแล้วก็เข้ามาทักทายและเพิ่งทำความรู้จักกันต่างหาก
ลุงอเล็กซ์ คนที่สวมเสื้อกล้ามอยู่คนละตู้ขบวนกับเรา แต่เป็นเพื่อนร่วมงานของนิโคไลอีกที เอาเป็นว่า หลังจากนี้ก็มีแค่ลุงอเล็กซ์เท่านั้นที่มีที่อยู่อีเมล ... และคนที่ยังคงติดต่อกันได้ ก็คือเจ้า ดาเนียล ลูกชายลุง ช่วยทำหน้าที่ตอบข้อความให้ 555 (อ่อ น้องดาเนียล เพิ่งจะ 16 ขวบเองนะ)
และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดไป อเล็กซ์ก็ส่งภาพตอนที่กำลังลงไปแช่ตัวยังบ่อน้ำแข็งมาให้ดู ฉันเลยไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมวันนั้นลุงถึงกล้าใส่แต่เสื้อกล้ามลงมาเดินเล่น เชิ๊บ ๆ อย่างสบายใจงี้ได้
นอกจากจะเป็นนักดื่มที่ไม่แพ้ชาติใดในโลกแล้ว ชาวรัสเซียยังขึ้นชือว่าสูบบุหรี่จัดอีกด้วย ช่วงรอยต่อระหว่างตู้ขบวน มักจะเป็นพื้นที่ชุมนุมขนาดย่อยของสิงอมควัน แต่ในภาพนี้นอกเหนือไปจากคนยืนสูบบุหรี่แล้ว ไกลจากตรงนั้นก็จะเห็นสุนัขตัวใหญ่ที่มีคนคอยจูง พวกมันจะทำหน้าที่คอยดมกลิ่นไปตามขบวนรถไฟ ในขณะที่เข้าจอดพักยังสถานีใหญ่แบบนี้ (ฉันคิดว่าน่าจะเป็นการสุ่มตรวจหายาเสพติด)
เจ้าหน้าที่ประจำตู้ขบวนรถไฟของเราค่ะ กำลังเดินคุยกับเพื่อนทหารอยู่
แต่ก่อนนี้ก็เคยเข้าใจว่า 'ชาวสลาฟ'เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ตัวโต เป็นยักษ์ กันหมด พอมาเจอ ปราว้าดนิก ผู้นี้แล้วก็ถึงกับต้องคิดใหม่เลยทีเดียว เพราะเขาดูสูงพอ ๆ กับเราด้วยซ้ำ (157 ซม.) และข่าวว่า นักบินอวกาศคนแรกของโลกฯ ยูริ กาการิน ก็สูงไม่เกินจากนี้เท่าไหร่นัก
สถานีใหญ่จะมีร้านค้าปลีกย่อยเล็ก ๆ ที่อัดบรรจุสินค้านานาชนิดสุมเอาไว้ให้เราซื้อหา อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ชีส โยเกิร์ต อาหารกระป๋อง แฮม ขนมปัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นิตยสาร ฯลฯ
ตลอดจนกลุ่มหาบเร่ เอ้ย....พ่อค้าแม่ค้า ที่หอบเอาสินค้ามาเร่ขาย ซึ่งก็มักจะเป็นคนสูงวัย ที่ยังดูแข็งแรงและกระฉับกระเฉงมาก พวกเขาต่างเอาข้าวของมาขายกันที่ข้างทางรถไฟ โดยสินค้าจากชาวบ้านนั้น ก็มักเป็นผลิตผลจากครัวเรือนทั้งหลายนี่แหละ
อย่างเช่น...แอปเปิ้ล ที่น่าจะเก็บมาจากสวนหน้าบ้าน
นอกเหนือจากนั้นก็ยังมี... ผักสด, ปลารมควัน, ไข่ต้ม, ต้นกล้าของพันธุ์ไม้ในกระถาง, ผลเบอรี่ป่า ดอกไม้ที่ห่อมาเป็นช่อ (ก็เห็นว่า พวกเขามักปลูกกันตามบ้าน), อาหารแปรรูป ซอสปรุงรส มายองเนส แยม รวมไป เบียร์ท้องถิ่น ...
ฉันเห็นลุงนิโคไล กว้านซื้อวัตถุดิบทั้งหลายแหล่มาเตรียมทำครัวต่อในคืนนี้ รวมไปถึงขวดซอสสีแดงใส่งาขาว ที่มองยังไงมันก็เหมือนน้ำจิ้มสุกี้ชัด ๆ ดังนั้นเมื่อใดที่รู้ว่ารถไฟจะจอดนาน ฉันก็มักจะเห็นผู้คนทั้งหลายดูคึกคัก และรีบเตรียมพร้อมเพื่อการลงไปซื้อของกิน ... ดูแล้วน่าจะมีความสุขกันทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเนอะ
หมายเหตุ - ถ้าหากไม่คิดอยากจะลงไปข้างล่าง เราก็ควรดูตารางเวลาการเข้าจอดสถานีใหญ่เช่นกัน เพราะเจ้าหน้าที่ จะทำการปิดล็อคประตูล่วงหน้าก่อนเข้าเทียบจอด และไม่ให้เข้าใช้บริการในระหว่างที่รถหยุดพักด้วย
วิตารี่ (ชายชุดสีฟ้า) ที่นอนอยู่เตียงข้างล่างฝั่งเดียวกับฉัน จำไม่ได้ว่าตอนนั้นลงมาซื้ออะไรกัน แต่ที่แน่ ๆ เมืองนี้เริ่มมีฝนพรำ และอากาศหนาวถึง 7 องศาฯแล้ว พรรคพวกบางกลุ่มยังคงแต่งตัวท้าหนาวกันไม่สะท้าน
เรื่องการทำความสะอาดบนรถไฟ แน่นอนว่าโดยสารกันข้ามวัน- ข้ามคืนนานขนาดนี้มันก็ต้องมีเศษอาหารขยะตกหล่นบ้าง ทุกช่วงบ่ายจะมีพนักงานมาทำการถูพื้นวันละครั้ง (เนื่องจากพื้นของรถไฟตู้ขบวนนี้เป็นไม้ค่ะ ...ส่วนตู้ฯ อื่นไม่แน่ใจ)
คนทำความสะอาดเป็นสาวผมบลอนด์ซีดยาวประบ่า ร่างสูงยังกับนางแบบ หน้าสวย มีอายุไม่มากเท่าไหร่ แต่งตัวทะมัดทะแมงมาก และคงไม่มีใครกล้าหือ แบบว่าถ้าใครแซวมา...แม่คงตบคว่ำ 55 (คือต้องเข้าใจด้วยว่า บรรยากาศบนรถไฟรัสเซีย มักจะมีคนเมาค่อนข้างเยอะ ไอ้ครั้นจะมาทำตัว แบ๊ว ๆ คงอยู่ไม่ไหว)
เธอจะเดินถือถังใส่น้ำผสมน้ำยาถูพื้นและไม้ถู ไล่ทำความสะอาดไปเรื่อยจนเกลี้ยงและจบลงด้วยการล้างห้องน้ำ ... มาซวยอยู่ก็คืนหนึ่ง ที่ดันมีผู้โดยสารเมาแล้วไปอาเจียนเรี่ยราดในนั้น
ฉันไม่เห็นการโวยวายของเธอเมื่อมาเห็นเข้าสักแอ่ะ และคิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับที่นี่ แต่โชคยังดีนะ ที่มันเกิดขึ้นให้เห็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
....
" คาราโช่! "
นิโคไล เอาซอสที่มีหน้าตาเหมือนน้ำจิ้มสุกี้มาเทใส่ ในถ้วยพลาสติกที่ขอยืมมาจากฉัน พร้อมใช้ช้อนตักใส่ปาก หยิบเอากระเทียม หอมใหญ่ มากัดอย่างละคำ ...ตามด้วย ขนมปังข้าวไรย์ และดวดวอดก้าตาม เขายกนิ้วโป้งบอกให้ฉันรู้ว่า... ยอดเยี่ยม ! แต่สีหน้าของฉันคงแปลให้เห็นแล้วว่า พิลึก ! แกคงมองออกว่าฉันไม่กล้าลองกินแน่ เลยรอดตัวไป
มาถึงตอนนี้ ก็คงไม่น่าแปลกใจแล้วแหละ ไม่ว่าพลพรรคของลุงจะมาร่วมวงมากแค่ไหน เปิบอาหารกันกี่มื้อ กี่วัน หรือนานเท่าไหร่ เสบียงที่นี่ก็ไม่เคยพร่องลง ... ฉันก้มมองดูอาหารแห้ง และของกินที่พกติดมาเผื่อการเดินทางอันแสนยาวไกลหนนี้ มันช่างดูไร้โภชนาการสิ้นดี
ยังจำเรื่องของ 'สตีเฟ่น' เพื่อนข้างห้องบนรถไฟจีน ที่เขาตั้งใจจะนั่งรถไฟตียาวจากปักกิ่งไปถึงมอสโกได้ไหมล่ะ ?
ฉันเคยสะดุดกับจำนวนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เขาตุนซื้อจากจีนมาซะเยอะมาก ๆ
มากเสียจนกินได้เป็นอาทิตย์เลยล่ะ
และมั่นใจว่านายนั่นต้องร้อง "ว้าว" แน่ ถ้าได้มาเห็นโต๊ะอาหารอันแสนอลังการ ของชาวรัสเซียเพื่อนร่วมเขตนอนของฉัน
ก่อนที่คืนนี้ฉันจะขึ้นไปหลับที่เตียงนอนชั้นบน ขณะที่เตียงด้านล่างยังคงสังสรรค์กันตามเรื่องตามราว นิโคไล ยังคงทำตัวเป็นพี่เลี้ยงที่ดีเสมอในการสอนคำโน้นคำนี้ และคะยั้นคะยอให้กินแซนวิชหมูสามชั้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ครั้งนี้ ฉันกินไม่ไหวแล้วนะ!
นิโคไล ไม่เคยสอนคำว่า "อิ่มแล้ว" ให้รู้ เหล่าเพื่อน ๆ ที่เหลือ คงต่างจะรอดูท่าทีของฉันด้วย ว่าจะลงมาร่วมกินมื้อค่ำกับพวกเขาด้วยไหม ดังนั้นก็คงต้องหาทางออกอื่น ...
ฉันเคยจำประโยคหนึ่งที่ฟังมาจากรายการทางโทรทัศน์เมื่อหลายปีก่อน ผู้ดำเนินรายการคนนั้นมักชอบพูดบอกตอนปิดรายการว่า
นิทราราตรีสวัสดิ์ ครับท่านผู้ชม...แล้วพบกันใหม่... ไปละครับ...สวัสดีครับ ลาก่อนครับ ซึ่งในวันนั้นพิธีกรได้เกริ่นลาเป็นภาษารัสเซียทิ้งท้ายเอาไว้ ไม่รู้ว่านึกครึ้มยังไงถึงรีบหยิบปากกามาเขียนจด ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเยือนรัสเซียกะเขาได้...
ฮ่า ๆ นึกออกละ ขอพลิกเปิดหาคำที่ว่านี้แป้บนึง " สปาโกยนอย โนชี่! "
ราตรีสวัสดิ์ ค่าาา
.....
เหนือขอบหน้าต่างเขตนอนของเรา บริเวณกึ่งกลาง จะมีเครื่องรับสัญญาณกระจายเสียงขนาดเล็กติดตั้งไว้ด้วย ที่จริงแล้วมันก็เพิ่งมาเปิดใช้งานเมื่อตอนช่วงบ่ายของวันที่สามนี่แหละ และยังคงดำเนินรายการเพลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งก็ดูผิดคาดมากสำหรับฉัน ที่มาได้ยินเสียงเพลงของศิลปินจากฝั่งตะวันตก แทนที่จะเป็นเพลงรัสเซีย
อัลบั้มนั้นน่าจะเป็น Greatest Hits เพราะมีแต่เพลงดัง มันถูกเปิดวนซ้ำไปมาอยู่หลายรอบ และมีหนึ่งบทเพลงที่วันนี้ฉันฟังเป็นหนที่สี่แล้วมั้ง
Is this the real life? Is this just fantasy? Caught in a landslide, No escape from reality.
Open your eyes, Look up to the skies and see,
I'm just a poor boy, I need no sympathy,
Because I'm easy come, easy go, Little high, little low, Any way the wind blows doesn't really matter to me, to me.
แม่เจ้าาาา... นี่ฉันกำลังนอนฟัง Bohemian Rhapsody ของวง Queen แห่งอังกฤษ เพลงจากโลกฝั่งทุนนิยมบนรถไฟรัสเซีย!
ก่อนที่จะเคลิ้มหลับไปในคืนนี้ เสียงผลักประตูของชายชุดขาวร่างใหญ่ ที่แบกถาดใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบรรจุถ้วยทรงสี่เหลี่ยมใส่น้ำร้อน มาขายเป็นรอบสุดท้ายของวัน ร้องเรียกเชิญชวนให้มาอุดหนุน และเสียงกรนของใครบางคนที่หลับล่วงหน้าไปตั้งแต่หัววัน ดังแทรกขึ้นมาท่ามกลางการสรวญเสเฮฮาตรงเตียงล่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันกำลังจะเข้าใจและคุ้นชิน...รวมไปถึงการจากลาก็ด้วย
ป้าโอเลียจะลงจากรถไฟคืนนี้เมื่อถึงเมืองเยคาเตรินเบิร์ก ช่วงประมาณตีสอง ซึ่งในตอนนั้นฉันคงไม่มีโอกาสลุกตื่นขึ้นมาทันส่งแล้วล่ะ
Create Date : 29 มิถุนายน 2560 |
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2560 7:55:23 น. |
|
19 comments
|
Counter : 1797 Pageviews. |
|
|
ลงมาสูดอากาศบ้างมันก็ดีครับ อากาศข้างนอกสดชื่นกว่าอยู่แล้วล่ะ
พนักงานอาจจะชินแล้วก็ได้ครับ เจอคนเมาอยู่เรื่อยๆ แต่น่าเห็นใจนะ
ฮาราโช~
เห็นเค้ากินแล้วรู้สึกแปลกดีครับ คนดื่มเหล้า ขอให้มีกับแก้มก็เพียงพอแล้วมั้งครับ ผมก็ไม่ใช่คนดื่มด้วย