Group Blog
 
 
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
21 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 

Manali - ณ หุบเขาแห่งพระเจ้า









ป่าซีดาร์หิมาลัยต้นสูง ที่กั้นเขตพื้นที่ระหว่างมะนาลีใหม่และมะนาลีเก่า 



ลาก่อน!

ฉันปิดฉากอำลาเดลีในวันนี้อย่างที่ไม่คิดจะหวนคืน วิถีชีวิตในเมืองใหญ่ 
มันช่างดูวุ่นวายยิ่งมากคนก็มากความ ...

ในเวลาบ่ายสามของวันนี้ที่จะต้องไป Tourist Information บ้าบอนั่น ตรง
ถนนจันปาท ฉันรีบกุลีกุจอเดินเข้าสถานีรถไฟฟ้าโดยที่ต้องแบกสัมภาระทั้งหมด
หิ้วใส่เครื่องสแกนตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยและแยกไปยังช่องค้นตัว แต่แล้วก็เจอ
กับเรื่องไม่คาดคิด 

"เปิดกระเป๋าใหญ่ให้ดูหน่อย" ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ฯ จะพบภาพวัตถุประหลาด
ปรากฏผ่านทางหน้าจอ 

เฮ้อ...ทำไมต้องมาสงสัยอะไรในวันที่รีบเดินทางด้วยนะ?

พอรูดซิปกระเป๋าออก พร้อมกับหยิบสิ่งที่เจ้าหน้าที่ระบุถามถึงวัตถุโลหะทรง-
กระบอก ที่ชี้ให้ดูผ่านหน้าจอเมื่อสักครู่นี้ ทั้งร่ม กระติกน้ำอะลูมิเนียม กระเป๋า
ใส่ของเล็ก ๆ โน่นนี่นั่น ...ฉันรื้อค้นให้ดูร่วม 10 นาทีได้ จนพวกเขาแน่ใจว่าไม่ได้
พกระเบิดเข้ามาจึงได้ปล่อยให้ผ่านไป


15.05 น. บวกลบเวลาไม่ขาดไม่เกินที่ออฟฟิศดังกล่าว ฉันมานั่งตากแอร์
ที่เปิดจนลมโกรก จิบชาฟรี ที่เขาต้มมาแจก และแอบหวั่นนิด ๆ ว่าจะโดนวางยา
ไหมเนี่ย?  ก็บรรยากาศแลดูไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่  
ฉันนั่งรอเวลานานจนถึงบ่ายสี่โมงครึ่งโน่น และเมื่อได้เวลาก็มีตุ๊กตุ๊กมารับ
พร้อมกับพนักงานของอีกคนที่จะตามประกบส่งไปยังจุดรอรถฯ

"อากาศข้างนอกมันร้อน เลยอยากให้มานั่งตากแอร์เย็น ๆ 
ให้สบายใจก่อนไปที่ท่ารถ"

ก่อนเดินออกไป ตาอ้วนผู้เป็นคนออกตั๋วฯ บอกเหตุผลกับฉัน
ที่กำลังหงุดหงิดจากการที่ต้องมานั่งรอเป็นเวลานาน ๆ

ปัดโธ่ ก็นัดมาสี่โมงไม่ดีกว่าเรอะ?




ตรงนี้คือ จุดรอรถที่สามล้อพามาส่ง  

ที่จุดรอรถแห่งหนึ่ง พนักงานที่ตามมาส่งได้บอกให้ฉันยืนรอที่นี่พร้อมกับชี้
ไปยังผู้ชายชุดสีดำที่สวมแว่นกันแดด นั่งถือโพยกระดาษบนมอเตอร์ไซค์แดงนั่น
จะเป็นคนบอกฉันเองว่าต้องขึ้นรถคันไหน และนั่งเบาะหมายเลขอะไร

"หมดหน้าที่แล้ว ผมกลับบ้านแล้วนะ" พนักงานคนนั้นได้จ่ายเงิน
ให้กับตุ๊กตุ๊กที่จ้างมาและขอลากลับบ้าน

"เฮ้ย!.....ไม่ได้"  ฉันแย้ง 

"จะแน่ใจได้ยังไง ว่าจะได้ขึ้นรถและมีหมายเลขที่นั่ง"

"ผู้ชายบนมอเตอร์ไซค์แดงนั่น จะพาคุณไปขึ้นรถเอง 
เพื่อนเอ๋ย... อย่ากังวลไป"  พนักงานแจ้งเหตุผล 

ก็ตั้งแต่มาอยู่อินเดียไม่ว่าจะ my friend หรือ no problem 
แบบนี้ทีไร มันต้องส่อแววว่ามีปัญหาเกือบทุกรอบ

"ฉันไม่รู้จักเขา จนกว่ารถจะมาและยืนยันว่ามีที่นั่งจริง ๆ 
คุณถึงจะกลับได้ ตกลงตามนี้ห้ามทิ้งลูกค้า" 

ฉันรอจนเกือบ 20 นาทีได้ ...เมื่อรถมาจอดเทียบท่าพี่มอเตอร์ไซค์แดงก็
ส่งสัญญาณให้ขึ้นรถพร้อมบอกตำแหน่งเบาะที่นั่งให้ ส่วนพนักงานที่มาส่ง
ก็ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระได้กลับบ้านตามสะดวก 




สภาพการจราจรของเดลีในยามเย็น ผ่านมุมหน้าต่างรถ 


สู่ มะนาลี .... ที่ฉันต้องนับถอยหลัง ไปจากนี้ 14 ชั่วโมง 

กิจกรรมสันทนาการบนรถได้เริ่มต้นขึ้นจากกลุ่มของวัยรุ่น 8 คนที่เบาะด้านหน้า
พวกเขามาขึ้นรถในช่วงสับเปลี่ยนโอนย้าย ผู้โดยสารที่จะไป ดารัมซาลา
(Dharamshala) ระหว่างทาง  มันช่างได้บรรยากาศเข้าค่ายรับน้องดีชะมัด 
แต่ผิดตรงที่ว่า แก็งนี้ไม่ได้เหมารถโดยสารและนอกเหนือจากกลุ่มนี้คนบนรถที่
เหลือก็ไม่ได้มามีส่วนร่วมเฮฮาอะไรด้วยนี่หว่า

ฉันนั่งดูการละเล่นตั้งแต่ผลัดกันถ่ายรูปหมู่ ใบ้คำปริศนาแล้วแย่งกันทาย 
และอีกมากมาย ...ถูกใจก็กรี๊ดกร๊าด หัวเราะดังลั่น หรือหน้าแตกเพราะทายผิด
พวกก็จะตบเบาะกันเสียงสนั่นหวั่นไหว

ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงพวกเขาก็ทิ้งท้ายด้วยการต่อเพลงด้วยอักษรลงท้าย
มลภาวะทางเสียงแตรที่เดลี ว่าแย่แล้ว แก็งนี้ช่างแย่ซะยิ่งกว่า 

ช่วงค่ำรถบัส จอดรถให้ลงไปกินข้าวตอน 23.30 น. ผู้โดยสารชาวอินเดีย
ทั้งหลายต่างลงไปนั่งจับจองโต๊ะที่นั่งกัน ฉันเดินตามครอบครัวของเด็กผู้หญิง
ที่นั่งเบาะข้าง ๆ ตอนอยู่บนรถ โดยตามไปแบบไม่รู้เรื่องราวอะไรเท่าไหร่ 

ทุกคนต่างสั่งอาหารด้วยความคุ้นเคย เหลือแต่ตัวเองที่ไม่มีอะไรกิน
แบบพวกเขา เรานั่งที่โต๊ะเดียวกัน และได้แต่มองสำรวจคนรอบข้าง 
ว่าตอนนี้้ควรจะทำอะไรดี?

แม่ของเด็กผู้หญิง วานให้น้องเป็นล่ามถามฉันทีว่าจะเอาอะไรหรือปล่าว 
พอรู้ดังนั้นก็เลยชี้ไปที่แกงผักกับโรตีปิ้ง แบบที่ลุงคนข้าง ๆ กำลังกินอยู่นี่แหละ
จากนั้นพวกเขาก็เป็นธุระสั่งให้  ทั้งที่จริงแล้ว ก็ด้วยความที่กลัวจะขาดทุน
กับค่าโดยสารต่างหากล่ะ เลยตกลงสั่งอาหารมากิน พออิ่มแล้ว ฉันก็เดินไป
ล้างมือล้างหน้าอย่างสบายใจก่อนขึ้นรถ 

แต่ปรากฏว่าดันมีพนักงานร้านฯ เดินมาสะกิดให้ไปจ่ายค่าข้าวด้วย

ปั่ดโธ่! นึกว่ากินฟรี แบบเวลานั่งรถทัวร์ที่ไทยนิ  มื้อนี้ต้องจ่ายไปอีก 160 รูปี แน่ะ !!!

หลังจากกินอิ่มท้องตึงหนังตาหย่อน พลพรรคกลุ่มข้างหน้าคงเริ่มหมดมุก
และหมดแรง ต่างทำท่าจะงีบนอนกันแล้ว รถบัสเจ้ากรรมดันกลัวผู้โดยสารเหงา
ระหว่างทางเลยเปิดหนังอินเดียให้ดู พร้อมด้วยพลังเสียงเต็มพิกัด พาลให้กลุ่มนั้น
หน้าได้ทีลุกขึ้นมาเฮฮากันต่อ 

โอละหนออออ...เมื่อไหร่จะเช้าสักที




วัดฮินดูที่ถูกสร้างขึ้นตรงเชิงเขาที่อยู่ริมแม่น้ำ นี่คือภาพแรกที่ฉันได้ตื่นมาเห็น
อินเดีย ในอีกบรรรยากาศที่เปลี่ยนไปจากเมื่อวานนี้โดยสิ้นเชิง  


เมื่อแดดยามเช้าเริ่มส่องมากระทบบานกระจกรถ สะท้อนแสงวิบวับตรงผืนน้ำ
ด้านล่าง ที่เป็นแม่น้ำไหลผ่านตรงริมเขา ภาพบรรยากาศรอบข้างเริ่มเปลี่ยน
ไป และดูต่างจากเดลีที่ฉันเพิ่งตีจากมาเมื่อวานอย่างกับคนละโลก
ถัดมาตัวรถได้วิ่งผ่านอุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขา ก่อนพาหลุดมิติมาสู่ภายนอกที่เริ่ม
มี
กลิ่นอายของชนพื้นเมืองเข้ามาเป็นระยะ ๆ ฝูงแกะ ฝูงแพะ ที่เดินข้ามสะพาน
จากอีกฝั่งของแม่น้ำได้เดินเข้ามาเต็มลานถนน ก่อนที่คนเลี้ยงจะคอยเอาไม้มาไล่
กำกับเพื่อจัดระเบียบฝูงปศุสัตว์ให้หลบหลีกทางบนท้องถนน

ประมาณแปดโมงเช้า เมื่อรถจอดเทียบท่าที่มะนาลี กลุ่มตุ๊กตุ๊กยังคงเดินกรูเข้ามา
ไล่จับนักท่องเที่ยวเหมือนเคย ฉันเหลียวมองไปเจอสองสาวชาวตะวันตก
ที่ยืนเฝ้า
กระเป๋ารอคอยเพื่อนของเขาต่อรองราคาค่าโดยสารอยู่  ซึ่ง
ไม่ยากเลยที่ฉันจะ
เข้าไปขอร่วมทางด้วยพร้อมหารค่ารถและหาที่พักใน 
มะนาลีเก่า กับกลุ่มนี้ 

โดยพวกเรามีกันทั้งหมด 4 คน 
เป็นชาวฝรั่งเศส 3 คน และชาวสยาม อีก 1 คน



สะพานข้ามแม่น้ำ Beas ที่ตั้งอยู่ตรงไม่ไกลจาก Club house และดงป่าสน




บริเวณด้านหน้าทางเข้าเกสท์เฮาส์ ที่เราตามหา 



กลุ่มฝรั่งเศสที่ฉันขอติดรถมาด้วย

ที่พักที่ได้อยู่ถัดไม่ไกลไปจาก Club House ซึ่งตั้งอยู่บนทางเนินเล็ก ๆ 
ทำให้ต้องออกแรงกันนิดหน่อย แต่ก็เงียบสงบดีและไม่มีคนพลุกพล่านนัก 
ฉันได้หารค่าที่พักกับสาวฝรั่งเศสร่างเล็กที่มาด้วยกันคืนนึง ก่อนที่เธอจะแยก
ตัวไปเดินเขาพร้อมกลุ่มเพื่อนในวันพรุ่งนี้ 

ขณะที่ตอนนั้นฉันมีเงินเหลือติดกระเป๋าแค่ 200 รูปี กับจำนวนเศษอีกเล็กน้อย
จึงดูมีทีท่ากังวลนิดหน่อย และได้ขอคำแนะนำเรื่องการแลกเงินกับเจ้าของที่พัก
ว่าในมะนาลี จะมีตู้ ATM หรือจุดรับแลกเงินแถวไหนบ้าง ... เนื่องจากคุณลุง
เจ้าของที่พักเคยต้อนรับพระและนักท่องเที่ยวชาวไทยบ่อยครั้ง เลยดูใจดีเป็น
พิเศษและชอบมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอยู่ตลอด 

"แลกเงินได้แล้วค่อยเอามาคืนก็ได้"

พอรู้ว่าฉันยังไม่ได้แลกเงินไว้ใช้ ลุงราเบท ก็หยิบยื่นความช่วยเหลือ 
ด้วยการควักเงินมาให้ยืมก่อน 500 รูปี ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะรู้จักวันแรกเท่านั้น 



วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งบนเขาที่ได้สร้างอุทิศให้กับเทวีฮาดิมบา ในเวลานี้เต็มไปด้วยผู้คนที่มาขอพร



บริเวณมุมด้านหน้าวัดฮาดิมบา



ชิงช้าสวรรค์ ที่ตั้งอยู่ตรงลานไม่ไกลไปจากที่ตั้งของวัดนัก 


มุมมอง มะนาลี จากบนที่สูง 


เราสี่คนเดินสำรวจมะนาลีที่เนินเขาแห่งหนึ่ง เซดริค ผู้เป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม
ถือคัมภีร์กันหลง Lonely Planet เล่มหนาเตอะฉบับใหม่ล่าสุด นำทางเหล่าสตรี
ทั้งสามขึ้นเขาเพื่อตามหาวัดฮินดูเก่าแก่แห่งหนึ่ง


ฝูงชนทั้งหลายเข้ามายืนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอการสักการะ อีกทั้งยังมีซุ้มขาย
ขนมหวาน กระทั่งมุมสันทนาการอย่างเช่น ปาลูกบอลล้มแก้วเพื่อแลกรางวัล 
โยนบอลลงห่วง และอื่น ๆ หรือแม้แต่เครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์ก็ด้วย  ซึ่งดูคล้ายกับ
ว่ากำลังมีงานเทศกาลอะไรสักอย่างรออยู่

บางครั้งก็มีคนมาตื๊อขายหญ้าฝรั่นเส้นสีแดง ที่บรรจุลงหีบใส ๆ ใบเล็ก 
ที่มีอยู่ไม่กี่เส้น ฉันรู้ว่ามันเป็นเครื่องเทศยอดนิยมและมีราคาค่อนข้างสูง 
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะซื้อไปทำอะไรได้

เมื่อเราเดินลงจากเนินเขาไปยังถนนด้านล่างที่มีร้านค้า เกสท์เฮาส์ และเอเจนซี่
รับจองเที่ยวรถโดยสาร ตลอดจนโปรแกรมท่องเที่ยวต่าง ๆ เรียงรายกันเต็มสอง
ฝั่งทาง ฉันเลยถือโอกาสนี้แลกเงินเพิ่มตลอดจนหาเที่ยวรถไปยังเมืองอื่นต่อ

เอโลดี สาวฝรั่งเศสที่เป็นรูมเมทห้องฉัน ก็ได้ใช้เวลาเดินหาเที่ยวรถกลับเดลี 
คู่รักอีกสองคนก็พากันไปเลือกจองโปรแกรมเดินเขากัน  ... ส่วนฉันไม่ได้คิด
จะซื้อทัวร์อะไรเพิ่มเติมอีก หลังจบธุระแล้วจึงขอแยกตัวออกมาเดินคนเดียว 




บริเวณ Mall Road ย่านมะนาลีเก่า 


บ้านที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิมของชาวมะนาลี 

ห่างจากถนนคนเดินไปหนึ่งกิโลเมตร บนทางเนินที่ค่อนข้างชัน พอเดินมาเรื่อย ๆ
จนเกือบถึงทางเลี้ยวเข้า
วัดมานู ฉันก็เกิดเปลี่ยนใจเดินย้อนกลับลงมายังเส้น
Mall Road เพราะดูเหมือนจะไม่มีอะไรไปมากกว่าหมู่บ้านของคนพื้นเมือง และ
จากนั้นก็ได้หยุดแวะพักที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเพราะเห็นว่ามีสัญญาณ wifi เลย
แวะมากินข้าว และถือโอกาสติดต่อกับทางบ้านพร้อมกับหาข้อมูลการเดินทางต่อ

ตามกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เคยมาเยือนทำรีวิวไว้ให้ตามรอย 
มันก็มีอยู่หลัก ๆ ไม่กี่เรื่อง คือ ไปเล่นสกีที่โรตัง พาส (Rohtang Pass), 
กินปลาเทร้าต์, และแช่น้ำพุร้อนที่วาชิช 


ฉันเคยแวะไปหาข้อมูลการเดินทางตามที่คิดไว้กับทัวร์ท้องถิ่นรายหนึ่ง 
แต่น่าเสียดายเมื่อได้รับคำตอบกลับมาว่า Rohtang pass ยังคงปิดอยู่
และ Solang Valley อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีในตอนนี้... 

เนื่องด้วย ฉันยังคงต้องรักษาโรคหวาดระแวงการนำเสนอทริปท่องเที่ยว
ไปอีกสักระยะหนึ่ง ดังนั้นคำแนะที่โผล่มาเหนือแผนแบบนี้จึงต้องปัดทิ้งไป

ในเมื่อมีเวลาค่อนข้างน้อย ตัวเลือกในการตัดสินใจจึงดูยากพอควร
ยังคงเหลือแค่น้ำพุร้อนที่ วาชิช ที่ฉันสามารถไปเองได้ และอาจใช้เวลา
ที่มีเหลืออยู่อีกเพียงหนึ่งวัน มาทำความรู้จักมะนาลีเพิ่มขึ้นสักหน่อย

ฉันกลับไปยังที่พักช่วงบ่ายคล้อย ขณะที่มีฝนเทลงมาอย่างไม่ขาดสาย 
หลังจากที่ได้ใช้เวลาพักใหญ่ในดงป่าสนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ก็พบว่ากลุ่มฝรั่งเศส
ได้กลับมาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว 

"ที่นี่มีสัญญาณ wifi ด้วยนะ ดีใช้ได้เลย" เอโลดี บอกข่าวดีกับฉันขณะที่นั่งเล่น
แล็ปท็อปอยู่ตรงโต๊ะหน้าห้องพร้อมแจ้งรหัสให้ ...แทบไม่น่าเชื่อเลย ว่ามันจะมี
สัญญาณเชื่อมต่อฯ ด้วย ดูท่าทางคุณลุงเจ้าของที่พักจะทันสมัยไม่เบาเลยแฮะ 



ค่ำคืนนี้อากาศในฤดูร้อนของมะนาลีตกอยู่ที่ 12 องศาฯ หนาวเฉียบเชียวล่ะ 

ก๊วนฝรั่งเศสได้ไปรวมตัวดูหนังกันอีกห้อง

คงเหลือแต่ฉันเท่านั้นที่ยังนั่งดูท้องฟ้าตามลำพัง ...มันมีกลุ่มดาวที่ลอยเด่นชัด
ในคืนเดือนมืด
กับแสงไฟตามหมู่บ้านตรงไหล่เขาที่เห็นจากที่ไกล ๆ โน่น
ตรงหน้าระเบียงอันเงียบเชียบไร้เสียงรบกวนจากผับบาร์ที่อึกทึกแถวถนนบน 
ที่ ๆ ฉันชอบมานั่งมองวิวป่าซีดาร์ฟากตรงข้ามกับฟังเสียงการไหลของแม่น้ำ





อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่...


ฉันไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมถึงคิดอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้



"ข้อมูลอื่น ๆ" 

มะนาลี ตั้งอยู่ในเขตปกครองกุลลู (Kullu) รัฐหิมาจัลประเทศ 
มีเที่ยวรถโดยสารวิ่งตรงจาก เดลี ที่ใช้เวลานานถึง 14 ชั่วโมง
(หรืออาจมากกว่านั้น) ไม่มีทางเชื่อมต่อโดยรถไฟ หรือสนามบิน

การเดินทางครั้งถัดมาเราได้ลองต่อรถจากเส้นทางอื่นมายังมะนาลี คือ

- จันดิการ์  ใช้เวลา 10 ชั่วโมง  
- เดห์ราดูน ใช้เวลา 16 ชั่วโมง (มีรถวิ่งเที่ยวเดียว / วัน)
- ชิมลา ใช้เวลา 8 ชั่วโมง 
- ดารัมซาลา ใช้เวลา 8 ชั่วโมง

ทั้งนี้ มะนาลียังถือเป็นทางผ่านสำหรับมุ่งตรงไปยัง เลห์
ผ่านเส้น Rohtang pass อีกด้วย

ชาวอินเดียมักนิยมเดินทางมาพักตากอากาศ เพราะมีอากาศหนาวทั้งปี
โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ส่วนฤดูหนาวค่อนข้างหนาวจัด

ท่ารถขนส่ง ของมะนาลี ตั้งอยู่ที่ย่าน "มะนาลีใหม่" ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดร้านค้า
ร้านอาหาร แหล่งชุมชนที่ดูคึกคักกว่า และชาวอินเดียนิยมไปพักกันที่นั่น

ส่วน "เขตมะนาลีเก่า" จะตั้งห่างไกลไปแค่หนึ่งกิโลเมตรหากจะเดินเท้าเข้าไปก็อาจ
ต้องทะลุเขตป่าซีดาร์ที่กั้นกลางเข้าไป (หรือถ้ามาคนเดียว ควรเดินเลียบเส้นถนน
ข้างป่าจะดีกว่า) มันมีบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบ และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2557
26 comments
Last Update : 27 ธันวาคม 2560 15:40:38 น.
Counter : 957 Pageviews.

 

อินเดียเป็นประเทศที่พี่ก๋าประทับใจมากๆ
ขนาดยังไม่ได้ไปในสถานที่ท่งเที่ยวเลยนะครับ
ไปแค่ 4 สังเวฯก็ประทับใจแล้วล่ะครับ

อยากกลับไปอีกจริงๆครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 21 มิถุนายน 2557 13:42:22 น.  

 

ตามมาเที่ยวค่ะ
สงบ ดีเหมือนกันนะคะ
แต่ไม่ตัดขาดการสื่อสาร



กาบริเอล Travel Blog

 

โดย: เริงฤดีนะ 21 มิถุนายน 2557 14:04:28 น.  

 

สวัสดีค่ะ
มาติดตามเรื่องราวจากอินเดียต่อค่ะ ^^
รอไปเที่ยวงานวัดด้วยนคะ

 

โดย: Nepster 21 มิถุนายน 2557 18:33:09 น.  

 

สวัสดีค่ะ มาเที่ยวด้วย
วิวธรรมชาติสวยจังเนอะ
ขอบคุณที่แวะไปอ่านความงามจ้า

 

โดย: mambymam 21 มิถุนายน 2557 19:45:54 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ

วิวสวยมากนะคะ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 21 มิถุนายน 2557 20:30:15 น.  

 

ตามไปเที่ยวด้วยครับ ธรรมชาติงดงามมาก

 

โดย: แมวเซาผู้น่าสงสาร 21 มิถุนายน 2557 21:40:09 น.  

 

สวัสดีค่า ตามเที่ยวอินเดียต่อค่ะ^^

เพิ่งรู้ว่าอินเดียก็มีวิวธรรมชาติสวยเหมือนกันนะคะ
เคยได้ยินกิตติศัพท์มาแบบน่ากลัวตลอดเลย
ที่เกี่ยวกับที่นี่
แต่พอดูรูปแล้ว สวยจัง

ขอบคุณมากๆค่า

 

โดย: lovereason 22 มิถุนายน 2557 0:53:06 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า

 

โดย: กะว่าก๋า 22 มิถุนายน 2557 6:21:13 น.  

 

อินเดียมีอะไรน่าสนใจมากกว่าแดนพุทธศาสนา ?
เท่าที่รู้ ออกไปทางน่ากลัวมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย
คุณเก่งมากนะคะ ที่ไปเที่ยวคนเดียวและกลับมาโดยสวัสดิภาพ ^^

ทำน้ำบีทรูทดื่มเองด้วย เยี่ยมเลยค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปนะคะ

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 22 มิถุนายน 2557 16:17:31 น.  

 


ตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ

 

โดย: อุ้มสี 22 มิถุนายน 2557 21:03:15 น.  

 

ชิงช้าสวรรค์บ้านเค้า ดูสวยเป็นเอกลักษณ์ดีนะคะ น้องซีเห็นคงชอบ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

 

โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) 23 มิถุนายน 2557 8:39:08 น.  

 

น่าจะเปลี่ยนแผนได้นิ เจอบรรยากาศดีๆแบบนี้

ชีวิตในบั้นปลายคงจะทนความหนาวเหน็บไม่ได้นะครับวาชิ

 

โดย: สำรวจฟ้า IP: 27.55.2.5 23 มิถุนายน 2557 8:56:32 น.  

 

หวัดดีค่ะ ตามมาเที่ยวอินเดียด้วยคน

อ่านตั้งแต่ตอน 1 ดูถ้าไปเองนี่คงต้องใจแข็งน่าดูเรื่องต่อราคานะคะ
อิชั้นก็คงไม่กล้าไปคนเดียวอยู่ดี กับอินเดีย

รอตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย 23 มิถุนายน 2557 11:22:35 น.  

 



เพลงเพราะ
ตามมาเที่ยวมาชมอีกหน 2 หน 3 หน
เพลินๆๆๆค่ะ


ลืมไปว่ากด Vote ไปแล้ว
กดใหม่ มันไม่ติด

 

โดย: เริงฤดีนะ 23 มิถุนายน 2557 14:04:08 น.  

 

เขียนเรื่องราวได้น่าติดตามมากค่ะ เก่งมากเลยค่ะไปสถานที่แห่งนี้คนเดียวได้ เป็นคนสัตหีบเหรอคะ? ป้าโซ(เคย)เป็นคนเมืองชลค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบคุณที่แวะไปเยือนนะคะ..

 

โดย: ป้าโซ 23 มิถุนายน 2557 16:12:25 น.  

 

ฟังเพลงไป อ่านบล็อกไป ได้บรรยากาสมากๆค่ะ
แต่อ่านแล้วเหนื่อยตั้งแต่นั่งรถแล้วค่า
ทั้งนานทั้งหนวกหูเนอะ ^_^

แต่เมืองมันดูคุ้มค่าต่อการไปเยือนนะคะ
ดูธรรมชาติ สดชื่น อากาสกำลังดีเลย

 

โดย: AdrenalineRush 23 มิถุนายน 2557 22:50:05 น.  

 

ผมรู้สึกว่าถ้าเค้าจัีดการเรื่องการท่องเที่ยว และจัดระเบียบรวมไปถึงเรื่องความสะอาดให้มากกว่านี้หน่อยคนจะเข้าไปเที่ยวเที่ยวมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันครับ

ที่แท้มีคู่มือ Lonely planet นี่เอง ช่วยได้เยอะเลยนะครับ

+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 24 มิถุนายน 2557 0:26:32 น.  

 

มาเที่ยวต่อ

ดูเหมือนไม่ใช่อินเดียเลยอ้ะ สงบดีจังแฮะ

ขอเอาไปแชร์หน้าแฟนเพจนะจ๊ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 24 มิถุนายน 2557 17:17:02 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องฟ้า


 

โดย: กะว่าก๋า 25 มิถุนายน 2557 5:44:59 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
haiku Movie Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
ตามมาเที่ยว หมู่นี้ป้ายุ่งๆไม่ค่อยเข้าบล๊อก
ต้องย้อนไปดูตอน1-2 อีกครั้ง

 

โดย: ป้าเก๋า (ชมพร ) 25 มิถุนายน 2557 12:50:44 น.  

 

เก่งมากเลยครับ เที่ยวอินเดียเองไม่ง้อทัวร์ ^^
อินเดียกว้างใหญ่ มีสถานที่น่าสนใจมากมายเลย ผมเคยไปแค่มุมไบกับออรังกาบัด เพิ่งเคยชมสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติในอินเดียก็หนนี้ละครับ แต่เห็นแบบนี้ก็ยังมี wifi ใช้ แจ่มจริงๆ

โหวตท่องเที่ยวให้ครับ

 

โดย: ชีริว 25 มิถุนายน 2557 22:07:21 น.  

 

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

มาแล้วๆ มาปั๊บก็ต้องย้อนบล็อกก่อนไม่ยอมพลาดแม้ตอนเดียวแน่ๆ กับเรื่องราวการผจญภัยในโลกกว้าง solo traveling ของวาชิผู้หญิงเก่งตัวน้อยๆคนนี้ ชื่นชมๆๆ
เรื่องราวเขียนอ่านสนุกเช่นเคย แหม แหม ดูสิมีหน่วงเหนี่ยวคนมาส่งไว้ด้วย มีปล่อยตัวเป็นอิสระภาพด้วย 555

มะนาลีสวยมาก จินตนาการไม่ถึงเลยว่าอินเดียมีมนต์เสน่ห์เพียงนี้ ในหัวมีแต่ภาพความวุ่นวาย

เพลงเพราะมากครับ เปิดเพลงนี้ทิ้งไว้เป็นแบ๊คกราวด์ตั้งแต่มะวาน ไปอ่านตอนต่อไปก่า เย้

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 8 กรกฎาคม 2557 9:23:26 น.  

 

ตุลาคม 58...เดินทางแน่นอนค่ะ !!! เดลี-ชิมลา-มะนาลี-ดารัมซาร่า

 

โดย: ปาริชาต IP: 1.46.10.13 29 พฤษภาคม 2558 17:28:47 น.  

 

ต้องขึ้นรถคันไหน หมายเลขอะไร

ฟ้ารอบคอบจริง 555 พอได้ที่นั่งเรียบร้อย ค่อย "ปล่อยตัว" พนักงานกลับไป เยี่ยมเลย

แวะกินข้าวระหว่างทาง พี่ก็นึกว่าฟรีเหมือนกัน

ชอบจัง ตอนฟ้าพูดว่า ชาวสยาม

อาจจะเพราะไม่ใช่เมืองใหญ่อย่างเดลี โชคดีที่ลุงราเบทเอื้อเฟื้อ

ภาพถัดจากชิงช้าสวรรค์ สวยจัง

เฮ้ย พูดเป็นเล่นน่าฟ้า ตกหลุมรักมะนาลี ตั้งแต่แรกเห็นถึงกับอยากจะมาใช้ชีวิตบั้นปลายเลยเหรอ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 27 กุมภาพันธ์ 2560 15:13:11 น.  

 

@หลานฟ้า...
ลุงแอ็ดเพิ่งอัพภาพใหม่ สำเร็จ3+ชม. ที่ลงไว้ อ่ะน่ะ ดูแล้วมันแสนเชยยยยยย
พอมาแอบอ่าน บล๊อกคุณหลานฟ้า ลุงจึงได้ความรู้อีกเพียบ"ครูพักลักจำ"

มื้อเย็นกำลังจะเริ่ม พวกสมาชิกไปกันเกลิ้ยง"เขาใหญ๋พวกเขาไม่ได้ชวน ถึงชวนก็ไม่ไป ลุงถามไอ้ปรางหลานสาวลุง"บอก....

มีเพื่อนแหละ แอบอ่านน่ะซิ การผจญภัย ที่มันสุดๆ...เฟสบุคลุงเลยเงียบ ทางนี้สนุกกว่าอ่ะจิ

ปล.
อยากชวนกินมื้อเย็น ลุงกินง่ายๆ ขนมปัง4แผ่น"ทาแยมกวนเองกับไม้และมือลุง" ไข่ไก่หลวก2ฟอง มะเขื้อเทศ2ผล ส้มคั้นเมื่อเช้าได้จากตลาดบางกะปิ โลละ10บาท2โล เมื่อวานลูกสาวแม่ไอ้ปรางเอาส้มมีลายเส้นฯ ใส่ถุงมาวางไว้ที่ถาดประจำตัว ได้การ เลยคลั้นผสมชะเลย รสกลมกล่อมมาก,
อีกปล.
ทำไม?จะต้องมาบอก หลานฟ้าด้วย หาเรื่องคุย...

 

โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) 26 มกราคม 2562 18:13:08 น.  

 

อ่านจบแหละ...
500รูปี ที่ลุงใจดีให้ยืม =225บาท มิตรภาพในโลกกว้าง ย่อมงดงามเสมอ,

ความคึกคนองของชายวัยรุ่น ลุงแอ็ดมาคิดนึกถึงตัวเองสมัยเป็น วัยรุ่น ลุงกับเพื่อนๆในยุคนั้น ปี2508+ จัดนำเที่ยว"ฉิ่งฉับทัวร์"ไปทะเลบางแสน,ไปน้ำตกนางรอง,ไปไหว้พระพุทธบาทสระบุรี,ไปน้ำตกสาริกา,สนุกมั้กๆมาก ขอบอก"ก่อนจะมาพบคุณนายเธอ,

ชาวสยามร้อยละ99.9%น้อยนามนัก ที่จะยอมออกจาก????อาจจะเพราะ? มีสาเหตุอันใด? ก็จนปัญญาของชายแก่ๆ จะจินตนากาล,

เมื่อเข้าสู่ สว.ที่เดินทางมาชีวิต มานานแสนนาน โลกแห่งความสงบเงียบ, ได้นั่งทบทวนหวลคิดย้อนกลับ, กับอดีตที่ผ่านมา, ความเงียบสงบ,จึงมีมูลค่ายิ่งนัก.....

 

โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) 27 มกราคม 2562 1:25:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.