เอลิชา (Elisha) ตายและถูกฝัง ปัจจุบันมีโจรเข้ามาทุกฤดูใบไม้ผลิ ครั้งหนึ่งขณะที่ชาวยิวกำลังฝังศพอยู่ เห็นโจรกลุ่มหนึ่ง ชาวยิวจึงจับโจรโยนลงไปในที่ฝังศพของเอลิชา เมื่อร่างของโจรถูกกระดูกของเอลิชา โจรฟื้นชึวิตขึ้นมาและยืนบนขาของตัวเอง (New International Version (คัมภีร์สากลฉบับใหม่ ))
หมู่บ้านระหว่างเมืองทัวร์ไปจนถึงปัวตีเย ต่างหวังได้ร่างของท่านมาเป็นสมบัติแต่เมืองทัวร์เป็นผู้ได้ไป บางครั้งความที่อยากเป็นเจ้าของทำให้มีการโขมยกัน เช่นร่างของนักบุญนิโคลัสแห่งไมรา (St Nicholas of Myra)
ตำนานหนึ่งว่ากลาสีจากอิตาลีไปเอามาจากบาทหลวงออร์ทอดอกซ์ ที่อาร์มีเนียหลังศึกแมนซิเคิท (Battle of Manzikert) เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11
อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่าวัตถุมงคลของท่านเกือบทั้งหมด ถูกนำไปไว้ที่เมืองเวนิส หรือความชื่อที่ว่าเรลิกที่เรียกว่า รูปเอเดสสา (Image of Edessa) ซึ่งเป็นผืนผ้าที่มีรูปพระพักตร์ของพระเยซู สามารถปกป้องเมืองไม่ให้ศัตรูเข้าเมืองได้
ตามธรรมดาแล้ววัตถุมงคลจากนักบุญ ที่พลีชีพมีค่ากว่านักบุญที่มิได้พลีชีพ และส่วนของร่างกายแต่ละส่วนมีค่ามากน้อยต่างกัน เช่น แขนขวาของนักบุญสตีเฟนแห่งฮังการี (King St. Stephen of Hungary) มีความสำคัญมากกว่าส่วนอื่นของร่างกาย เพราะเป็นสัญลักษณ์ของฐานะการปกครองของพระองค์