คืนพุทธศาสนิกอินเดีย ในชมพูทวีป - พุทธภูมิ
บันทึกประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนายุคใหม่ในประเทศอินเดีย ต้องจารึกเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ชาวอินเดียกว่า 1,000 ชีวิต ประกาศกึกก้องเปล่งเสียงร้องดังๆ พร้อมกันว่า "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ...ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ...สังฆัง สรณัง คัจฉามิ..."
ถือเป็นการคืนศาสนิกให้พุทธศาสนาของแดนดินถิ่นชมพูทวีปกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2557 พระเทพโพธิวิเทศ หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ผอ.หลัก สูตร สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 มอบหมายให้พระครูนิโครธบุญญากร รองผู้อำนวยการ นำพาคณะสงฆ์ในโครงการส่งเสริมพระสงฆ์ไปศึกษาและปฏิบัติธรรมเชิงลึก ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล ที่จัดขึ้นโดยสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 และพระสงฆ์จากวัดไทยกุสินารา ประเทศอินเดีย จำนวนกว่า 40 รูป
ร่วมเดินทางไปร่วมกับคณะสงฆ์นานาชาติ เพื่อเข้าร่วมในพิธีการปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะของชาวอินเดีย จำนวนกว่า 1,000 ชีวิต ณ เมืองหัตถีคาม รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
งานนี้มีพระสงฆ์จากประเทศต่างๆ ทั้งจากไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม ศรีลังกา และอินเดีย เข้าร่วมรวม 80 รูป มีชาวอินเดียมาร่วมงานกว่า 1,000 คน
|
ชาวพุทธใหม่กลุ่มนี้ ต้องการประกาศความยิ่งใหญ่ของพระสัทธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เป็นที่ประจักษ์ จึงมีการต้อนรับคณะสงฆ์ ด้วยขบวนรถมอเตอร์ไซค์ติดธงพระพุทธศาสนากว่า 200 คัน แห่แหนอย่างอลังการต้อนรับเป็นระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร
ภายในงานมีการจัดถวายภัตตาหารเพลด้วยอาหารที่ดีที่สุดของชาวเมือง เช่น ข้าวมธุปายาส อาหารพื้นเมืองและขนมหวานที่ขึ้นชื่อของชาวอินเดีย จากนั้นจึงมีการประกาศตนเป็นผู้ถึงไตรสรณคมณ์และสมาทานศีล 5 ตลอดชีวิตของชาวอินเดีย คณะสงฆ์ทั้งหมดจึงเจริญชัยมงคลคาถาและให้โอวาทธรรมตามลำดับ
นอกจากจะเป็นวันประกาศเปลี่ยนศาสนาของชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งแล้ว ยังมีการจัดงานสมโภชพระสถูปหัตถีคาม ที่ชาวบ้านพึ่งขุดค้นเจอด้วย
พระสถูปแห่งนี้ตั้งอยู่ในเส้นทางการเสด็จผ่าน ก่อนไปฉันภัตตาหารมื้อสุดท้ายที่บ้านนายจุนทะ เมืองปาวา ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 35 กิโลเมตร สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าอาจเป็นสถูปที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุ เพราะไม่ไกลกันนั้นยังมีการขุดค้นเจอเสาศิลาของพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อยุคสองพันกว่าปีที่ผ่านมาอีกด้วย จึงนับเป็นการค้นพบพุทธสถานครั้งสำคัญอีกครั้งของชาวพุทธในประเทศอินเดีย
|
พระใส สุรปัญโญ ประธานรุ่นพระสงฆ์ในโครงการ กล่าวถึงความรู้สึกในการเข้าร่วมงานครั้งนี้ ว่า "น่าภูมิใจ น่ายินดีจริงๆ ตอนแรกทราบว่าจะมีชาวอินเดียเข้าร่วมประมาณ 600 คน แต่พอไปเห็น มีเป็นพันคน เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์จริงๆ คนพวกนี้เค้าตั้งใจมากันจริงๆ เห็นบางคนเป็นคนตาบอดที่ภรรยาจูงมือมาร่วมงานนี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงพระสงฆ์กล่าวว่า นะโม ตัสสะ...ก็สลัดมือขึ้นประนมกรน้อมกายใจไปตามกระแสเสียงบูชาพระที่ตนได้ยินในทันที เป็นสิ่งที่เมื่อได้เห็นแล้วปลาบปลื้มใจจริงๆ"
สิ่งที่น่าสนใจภายในงาน คือ ศรัทธาของชาวพุทธใหม่ในอินเดียเหล่านี้ เพราะทุกคนตั้งใจเปลี่ยนศาสนาด้วยหัวใจ ทุกคนได้เรียนรู้หลักศีล 5 มาอย่างเข้าใจก่อนจะเปลี่ยนศาสนา ทุกคนเชื่อและรักในพระพุทธเจ้า การประกาศตนในครั้งนี้ คือ การประกาศความพร้อม ว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะขอถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นที่พึ่งอันสูงสุด จะรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัดจนตลอดชีวิต และจะปฏิบัติตามคำสั่งสอนอันเป็นไปเพื่ออิสรภาพสูงสุด คือ พระนิพพาน
ชาวบ้านเหล่านี้แม้จะไม่มีวัดพุทธหรือพระสงฆ์ในพื้นที่ ต้องข้ามรัฐข้ามเมืองไปนิมนต์พระสงฆ์ที่ห่างไปกว่า 50 กิโลเมตร แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชาวพุทธเหล่านี้มีศรัทธาต่อพระรัตนตรัยน้อยลง กลับขวนขวายปฏิบัติในธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
พระใสกล่าวทิ้งท้ายว่า "เมื่อมีโอกาสได้พบพระสงฆ์องค์สามเณร ก็เบิกบานมีศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม อุปัฏฐากดูแลเป็นอย่างดี แม้ชาวบ้านหลายคนอาจไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่ร่ำรวยศรัทธา เปี่ยมล้นไปด้วยหัวใจของชาวพุทธ ที่มั่นคงต่อธรรมคำสั่งสอนของพระศาสดาเป็นอย่างดี แล้วพวกเราคนไทยที่เป็นชาวพุทธมาโดยตลอด มีวัด มีพระให้กราบไหว้ทำบุญอยู่ทุกหมู่บ้าน มีพระไตรปิฎกให้สืบค้นเพียงแค่คลิกที่หน้าจอ ก็คงไม่ต้องรอให้พระพุทธศาสนาเลือนหาย และต้องกระหายหลักธรรมเหมือนชาวอินเดียทุกวันนี้ จึงค่อยเริ่มหันมาสนใจศึกษาและปฏิบัติธรรมกันอย่างจริงจัง"
หน้า 28
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 26 สิงหาคม 2557 |
Last Update : 26 สิงหาคม 2557 10:06:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1392 Pageviews. |
|
|