BlogGang.com : : sirivinit : พิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ

พิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

เทียนและแสงสว่าง

นิกายโรมันคาทอลิกนั้น มีพิธีกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ พิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ ในพิธีกรรมนี้ จะประกอบด้วยสิ่งของหรือสถานที่ต่างๆ ที่เป็นเครื่องประกอบพิธีกรรมทางคริสต์ศาสนา เช่น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ประกอบพระวาจา สถานที่สำหรับนักขับ แท่นบูชา ตู้ศีล กำยาน น้ำเสก น้ำมัน รูปภาพ–รูปปั้น ฯลฯ

แต่ละอย่างในพิธีกรรมนั้น มีความเป็นมาและความหมายแตกต่างกันไป

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามกฎหมายของพระศาสนจักร กำหนดว่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คือ สถานที่ออกแบบไว้เพื่อนมัสการพระเจ้า หรือสำหรับพิธีกรรมต่างๆ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ต้องมีการเสกหรือทำให้ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คือ ส่วนที่เป็นพระสงฆ์ คือตั้งแต่แท่นบูชาเป็นต้นไป เป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์ที่ถูกแยกออกจากสัตบุรุษ

สถานที่ประกอบพระวาจา

เป็นสถานที่สำหรับการอ่านบทอ่าน จึงควรคำนึงว่าทุกคนสามารถเห็น และเป็นที่สนใจของทุกคน เพราะต้องการเน้นว่า ทุกคนจะได้ลิ้มชิมรสพระธรรมของพระ และเป็นที่สำหรับอธิบายความเชื่อ

สถานที่สำหรับนักขับ

ในอดีตจะแยกสถานที่สำหรับนักขับออกไปต่างหาก แต่ปัจจุบันนี้ถือว่านักขับก็เป็นส่วนหนึ่งของสัตบุรุษ จึงมีที่นั่งรวมกับสัตบุรุษ

แท่นบูชา

แท่นบูชาความหมายของแท่นบูชา ก่อนอื่นหมดเป็นโต๊ะอาหาร พระสงฆ์ในฐานะผู้แทนองค์พระเยซูเจ้า กระทำสิ่งซึ่งพระคริสตเจ้าทรงกระทำในวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ และทรงสั่งให้พวกท่านกระทำดังนั้นต่อๆ กันมา เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์

พระแทนของคริสตชนในสมัยแรก เป็นโต๊ะไม้เคลื่อนที่ได้ ต่อมาเป็นแบบตั้งอยู่กับที่ และในจารีตลาตินให้เป็นแบบทำศิลาหรือหิน ซึ่งแท่นหรือหินเป็นรูป แบบที่ชาวอิสราเอลใช้เป็นที่ถวายเครื่องบูชาแต่พระเจ้า

ตู้ศีล

ตู้ศีลภาษาละติน ใช้คำว่า TABERNACULUM ในปัจจุบันของเราเปรียบเสมือนเต็นท์นัดพบของอิสราเอล เป็นการจำลองพลับพลามาจากชาวยิว ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้า เป็นที่เก็บพระกายของพระเยซูเจ้า ซึ่งคริสตชนที่รับศีลมหาสนิทหรือพระกายพระโลหิตอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่าจะได้รับพระหรรษทานจากพระ

เทียนหรือแสงสว่าง

เทียนและแสงสว่างเป็นเครื่องหมายแห่งความปิติยินดี เตือนให้ระลึกการประทับอยู่ของพระเจ้า เป็นเครื่องหมายแห่งคำภาวนาหรือการเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้า พวกคริสตชนจึงจุดไว้ที่แท่นบูชา หน้ารูปศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าศีลมหาสนิท

ความหมายอีกประการหนึ่งคือ พระคริสตเจ้าทรงเป็นแสงสว่าง พระศาสนจักรได้ใช้พิธีเสกไฟหรือเทียนปัสกาในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหมายถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่จากความมืดมาสู่ความสว่าง หรือชีวิตใหม่

ดังนั้นในพิธีกรรมต่างๆ ของเรา การใช้สัญลักษณ์หรือความหมายของแสงสว่าง เป็นการช่วยให้เราเข้าใจถึงแสงสว่างของพระคริสตเจ้า เป็นเครื่องหมายถึงการประทับอยู่ของพระคริสตเจ้าท่ามกลางเรา

กำยาน

พระศาสนจักรใช้กำยานในเวลาประกอบพิธีการต่างๆ เป็นเครื่องหอมที่ถวายแด่พระเป็นเจ้า เป็นเครื่องหมายแทนคำภาวนาที่ลอยขึ้นไปสวรรค์ หรือหมายถึงเครื่องบูชาที่นำมาถวายแด่พระเป็นเจ้านอกนั้น ยังถวายกำยานแด่พระแท่น ที่เป็นเครื่องหมายแทนองค์พระคริสตเจ้าผู้ถวายบูชาเพื่อเรา

น้ำเสก

มีกำเนิด และการใช้ทั่วๆ ไปนับตั้งแต่โบราณกาล มาจนกระทั่งทุกวันนี้ เพื่อการชำระล้างสิ่งโสโครก หรือบาปมลทินให้สะอาดบริสุทธิ์ เช่นเดียวกันกับที่ชนต่างศาสนาได้ใช้มาก่อน น้ำเสกที่พรมในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือโบสถ์นั้น “ถูกทำให้ศักดิ์สิทธิ์” ด้วยคำภาวนาของพระศาสนจักร เพื่อขับไล่จิตชั่ว และทำให้น้ำสะอาดบริสุทธิ์

น้ำเสก มีจุดประสงค์ส่วนใหญ่ใช้ประพรมในสถานที่ต่างๆ อาทิเช่น บ้านเรือน โบสถ์ ท้องทุ่ง แม้แต่การพรมน้ำเสกให้แก่สัตบุรุษในวันอาทิตย์ ก็ดูจะเหมือนว่ามีกำเนิดมาจากการต้องกระทำ ให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ก่อน ตามกฎพระวินัยของนักพรต ซึ่งวิธีการยังคงมีในพิธีอภิเษกโบสถ์ และในการเสกสถานที่ต่าง ๆ

น้ำมัน

ในการฉลองธรรมล้ำลึกแห่งความรอด ในทางพิธีกรรมนั้น บ่อยครั้งพระศาสนจักรได้นำสิ่ง หรือการกระทำต่างๆ ที่เป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตมาใช้ เช่น รับประทาน (ขนมปัง) ดื่ม (เหล้าองุ่นในโต๊ะอาหาร) อาบน้ำ รวมทั้งการใช้น้ำมันด้วย

สื่อภาษาเหล่านี้สามารถแสดงออกในแง่มุมต่างๆ ถึงการกระทำที่นำความรอดมาให้จากพระผู้เป็นเจ้า เมื่อพูดถึงน้ำมัน มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์หลายรูปแบบ เช่น ใช้ประกอบอาหารโดยเฉพาะในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ใช้ในการให้แสงสว่าง เช่น น้ำมันตะเกียง ใช้เป็นยาทาผิวหนัง เช่น น้ำร้อนลวก ฟกช้ำ ใช้ผสมน้ำหอม ชโลมให้สดชื่น และบำรุงผิวให้งาม

ดังนั้นจึงเป็นการแปลก ที่น้ำมันกลายเป็นเครื่องหมายของความสดชื่น มีสุขภาพดี มีสันติสุข และในการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ ได้นำน้ำมันมาใช้เพื่อหมายถึงเครื่องมือแห่งพระคุณพระจิตเจ้า ในตัวผู้รับศีลล้างบาป ศีลกำลัง ศีลเจิมคนไข้ และศีลบวช

รูปปั้น – รูปภาพ

คริสตชนได้ใช้รูปปั้นรูปต่างๆ แม้แต่ในสถานที่ประกอบพิธีกรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นสื่อช่วยกระตุ้นจิตใจ ให้ตอบสนองความเชื่อความศรัทธา รูปปั้นหรือรูปภาพต่างๆ นั้นเป็นรูปพระเยซูเจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขนบ้าง เป็นรูปพระจิตในสัญลักษณ์ของนกพิราบบ้าง ตลอดจนรูปพระนางมารีย์และนักบุญต่างๆ

รวมทั้งรูปกระจกสีที่ประดับตามประตูหน้าต่างของโบสถ์วิหาร เป็นภาพเล่าประวัติทางพระวรสาร หรือ ภาพเดี่ยว ๆ ปัจจุบันเราอยู่ในศตวรรษแห่งภาพต่างๆ ก็ได้ อันเนื่องมาจากความเจริญทางสื่อมวลชนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางโทรทัศน์ วีดีโอ และภาพยนตร์

จึงน่าให้ความสำคัญและสนใจในเรื่องนี้ ว่าเราจะสามารถนำสื่อต่างๆ เหล่านี้มาใช้เป็นประโยชน์ นอกจากการสอนพระธรรมคำสอนแล้ว ยังเป็นการดีที่จะใช้เพื่อเป็น “ภาษา” แห่งการประกอบพิธีกรรมของคริสตชนด้วย

ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สิริสวัสดิ์จันทรวาร สิริมานรมณีย์ค่ะ

Create Date : 03 สิงหาคม 2553

Last Update : 25 สิงหาคม 2553 11:52:03 น.

0 comments

Counter : 2173 Pageviews.