BlogGang.com : : sirivinit :

“เฟร้นฟราย” รับเหตุบึ้มกลางกรุงโหดร้ายมาก

เปิดใจมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 “เฟร้นฟราย ธัญชนก” หลังอาสารับหน้าที่ล่ามให้เหยื่อระเบิดย่านราชประสงค์ เผยจะมาตั้งแต่คืนเกิด เหตุแต่ถูกขอไว้ ลั่นให้กำลังใจ ตร. จับคนร้ายให้ได้ รับเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย แต่เชื่อทุกคนจะผ่านมันไปได้

ได้รับคำชื่นชมไปไม่น้อยทีเดียวสำหรับเจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ คนล่าสุด “เฟร้นฟราย ธัญชนก มูลนิลตา” หลังเข้าไปอาสาสมัครเป็นล่ามภาษาจีน ให้กับคนจีนจำนวนมาก ที่ตกเป็นเหยื่อเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อสองวันที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2015 ได้เปิดเผยว่า จริง ๆ ตนต้องการจะไปทำหน้าที่ดังกล่าวตั้งแต่คืนที่เกิดเหตุแล้ว ทว่าทางกองประกวด รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ได้ขอร้องไว้

โดยขอให้ดูสถานการณ์ก่อน...“ตอนนั้นติดภารกิจกองประกวดอยู่ มาทราบข่าวอีกทีก็ประมาณ 2 ทุ่ม ก็คือ 4 ทุ่ม หนูจะไปแล้ว”

“แต่คุณพ่อคุณแม่ก็มาเบรกไว้ บอกใจเย็นนะ เพราะไม่รู้ว่ามันจะมีระเบิดหลงเหลือหรือเปล่า แล้วทางกองประกวดเขาก็บอกว่าให้รอดูสถานการณ์ก่อนไหม ถ้าเกิดอะไรขึ้นมารับผิดชอบไม่ไหว

ตอนนั้นมีวิธีเดียวเลยก็ตัดสินใจโทร.ไปที่โรงพยาบาลตำรวจ กับ โทร.ไปที่ 1669 ฝากเบอร์ไว้ว่า พี่คะ ถ้าต้องการล่ามเพิ่มเติม โทร.มาหาได้เลยนะคะ แล้วทางพี่เขาก็บอกว่าล่ามเพียงพอแล้วค่ะ”

“หลังจากนั้นอีกวันหนึ่งก็ไปที่โรงพยาบาล ไปเจอคนจีนที่เขาได้รับอุบัติเหตุจากระเบิด เราก็ไปเยี่ยมให้กำลังใจเขา รวมถึงพยาบาล คุณหมอ ตอนนั้นรู้สึกว่าภาพข่าวมันโหดร้ายมาก

ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในบ้านเรา ซึ่งถ้าเกิดเราไปเที่ยวเมืองจีน หรือไปเที่ยวต่างประเทศ เราไปด้วยความสนุก เราต้องการไปพักผ่อน แต่โดนเหตุการณ์แบบนี้มันหดหู่ไปหมดเลย”

เผยหลักการคุยพยายามชวนผู้ประสบเหตุสนทนาเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวระเบิด เพราะไม่อยากให้เกิดความกระทบกระเทือนจิตใจ...“วิธีการคุยคือ เราจะไม่ถามเขาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่จะถามว่าตอนนี้รู้สึกดีขึ้นไหม เป็นใครมาจากไหน แล้วเราก็แนะนำตัวเองว่าเราชื่ออะไร มาจากไหน ก็คือ พยายามคุยเรื่องส่วนตัว จะไม่ไปถามเรื่องเหตุการณ์ เพราะมันจะทำให้เขารู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจค่ะ”

พร้อมให้กำลังใจทุกคนให้ผ่านเรื่องเลวร้ายนี้ไปให้ได้

“ก็อยากให้กำลังใจกับชาวต่างชาติทุกคนที่ประสบเหตุ แล้วก็ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจหาคนที่วางระเบิดมาให้ได้ ซึ่งมันเสียภาพลักษณ์ของประเทศอย่างมาก ๆ เลย...

คือ หนูคนเดียวจะไม่สามารถสร้างภาพลักษณ์อะไรให้มันดีขึ้นได้หรอก มันต้องช่วยกันหลาย ๆ คนค่ะ แต่ในส่วนของเรา เราก็จะทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการใช้ภาษาสื่อสารออกไปให้ดีที่สุด”

“ก็มีหลายคนที่เข้ามาอยากให้ฝากถึงคนจีนในประเทศไทย เพราะประเทศไทยกับประเทศจีนมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน และก็คงไม่มีใครคาดหวังให้มันเกิดขึ้น แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราก็จะเดินแล้วผ่านมันไปด้วยกันค่ะ...”

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ

Create Date : 20 สิงหาคม 2558

0 comments

Last Update : 20 สิงหาคม 2558 10:32:24 น.

Counter : 1437 Pageviews.