สัมภาษณ์พิเศษเปิดใจ"บิ๊กตู่"9เดือนทำงานได้70% ลั่นตั้งความหวังสูง-ใช้อำนาจหน้าที่อย่างเด็ดขาด

ตั้งแต่22 พฤษภาคม 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ โดยตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาบริหารงานด้านต่าง ๆ แทนรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงวันนี้นับเป็นเวลา 9 เดือนแล้ว

โอกาสนี้ "บิ๊กตู่" เปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษ "ประชาชาติธุรกิจ" เป็นครั้งแรก

- ผลงานรัฐบาลเป็นตามที่คาดหวัง

ผมตั้งความหวังไว้สูง เพราะผมและคณะมีความตั้งใจจริงที่จะเข้ามายุติความขัดแย้งและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ งานทุกอย่างได้กำหนดแนวทางชัดเจนในการวางโครงสร้าง เพื่อให้รัฐบาลอื่น ๆ ได้เข้ามารับผิดชอบต่อไป 

 ซึ่งหากรัฐบาลอื่นเขาจะแก้ไขสิ่งที่ผมทำไว้ เขาก็ต้องมีคำตอบให้กับสังคม และเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมทำว่าสังคมรับได้หรือไม่ มันดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าเดิม ผมคิดว่าประเทศชาติและประชาชนมีประสบการณ์จากความขัดแย้งในอดีต 

 จึงรู้ว่าในช่วงรัฐบาลปกติที่มีการเล่นการเมืองสูงจะทำอะไรก็ลำบาก แต่ละเรื่องต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะดำเนินการได้ เพราะฉะนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะปรับแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น 

 จัดระเบียบสังคม วางพื้นฐานในทุกเรื่องเท่าที่เวลาจะอำนวย โดยเชื่อว่าทุกภาคส่วนของสังคมจะเข้าใจและเป็นกำลังใจให้ผม

- พอใจกับผลงานหรือไม่

ผมใช้ความเด็ดขาดของการเป็นข้าราชการทหาร และใช้ความสามารถเฉพาะด้านของกูรูด้านต่าง ๆ มาผสมผสานกันในการทำงาน เพื่อชดเชยจุดอ่อนซึ่งกันและกัน จากที่ติดตามฟังกระแสจากทุกภาคส่วน

ผมมั่นใจว่าถึงวันนี้ ผมสามารถดำเนินงานได้ 60-70% แต่ถ้าถามว่าพึงพอใจไหม ตอบได้เลยว่า "ยัง" เพราะมีหลายเรื่องที่ค้างอยู่และต้องปรับแก้ไข แต่ผมกำหนดตารางเวลาไว้ชัดเจนแล้วว่า อะไรต้องทำทันที อะไรต้องทำใน 3 เดือน ใน 1 ปี หรืออะไรต้องฝากให้คนอื่นทำต่อ

- มีอะไรที่ได้ทำและอะไรต้องฝาก

เรื่องที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง และเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่สังคมเฝ้าจับตามองได้แก่ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาราคาสินค้าเกษตรการค้ามนุษย์ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม การบริหารจัดการน้ำ การวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน และค่าครองชีพ

ถามว่าง่ายไหมสำหรับเรื่องเหล่านี้ ผมตอบได้เลยว่า "ยาก" แต่รัฐบาลจำเป็นต้องทำ และต้องทำให้ดีที่สุดด้วย

ทุกเรื่องไม่ใช่แค่สั่งครั้งเดียวแล้วเสร็จ มันมีองคาพยพที่เกี่ยวข้องอยู่มาก ทั้งข้อกฎหมาย การยอมรับ หรือการต่อต้านของสังคมผลกระทบจากต่างประเทศ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการติดตามสั่งการทุกลำดับขั้นตอนและตลอดเวลา 

 ทั้งกลไกการขับเคลื่อนในระดับรัฐมนตรี ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เพื่อดูว่ามันผิดเพี้ยนไปจากนโยบายไหม มีปัญหาอะไร ผมและรัฐบาลพร้อมที่จะปรับแก้ไขในทุก ๆ เรื่องที่มีปัญหาเกิดขึ้น

แต่มันต้องมีเหตุผลนะ และถูกต้องตามกฎกติกา ที่สำคัญที่สุดคือต้องได้รับการยอมรับจากสังคม จากประชาชน ที่ขาดไม่ได้คือ "สื่อมวลชน" จะต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่สองอย่างควบคู่กันไปแบบพอเหมาะพอดี คือสิทธิเสรีภาพ และความอยู่รอดของชาติบ้านเมือง

- เศรษฐกิจ การเมือง ให้ความสำคัญเรื่องใด

ผมตอบไม่ได้ เศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง อันไหนจะสัมฤทธิผลแค่ไหน แต่ผมมั่นใจว่าน่าจะดีที่สุดเท่าที่กำลังความสามารถของรัฐบาลภายใต้การนำของผมจะทำได้ อย่างน้อยพี่น้องประชาชนจะต้องรับรู้ว่าเรื่องอะไรบ้างที่รัฐบาลทำสำเร็จ เป็นผลสัมฤทธิ์แล้ว และเรื่องอะไรบ้างที่รัฐบาลต่อไปซึ่งมาจากการเลือกตั้ง จะต้องนำไปดำเนินการตามข้อเสนอของสภาปฏิรูปฯ

สิ่งที่ทำให้ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะนโยบายข้อสั่งการที่ผมกำหนดลงไป มาจากพื้นฐานของปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ตรงใจและความต้องการของประชาชน ไม่ใช่เพ้อฝัน นอกจากนั้นยังมีการติดตามกำกับดูแลในทุกขั้นตอน 

 ท่านจะสังเกตเห็นว่า ผมสั่งให้ตั้งคณะกรรมการและอนุกรรมการหลายคณะ ทั้งนี้เนื่องจากการทำงานตามระบบราชการปกติต้องใช้เวลานาน แม้จะปรับแก้ไขขั้นตอนให้สั้นและกระชับลงแล้วก็ตาม

ผมจึงต้องนำวิธีการแก้ปัญหาแบบทหารเข้ามาช่วย คือมีคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง ช่วยเร่งรัดติดตามแก้ไขปัญหา เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลโดยเร็ว มีปัญหาติดขัดตรงไหนจะได้แก้ไขได้ทันที

ประชาชนและภาคประชาสังคมจะต้องมีส่วนร่วม เพราะความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง มีความสำคัญเท่า ๆ กัน และสัมพันธ์ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันและกัน 

ทุกเรื่องผมยึดหลักจริงใจ จริงจัง มีตารางเวลาชัดเจน เอ้อระเหยไม่ได้ มีกฎหมายคุ้มครองทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาชน บูรณาการกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายอีกในอนาคต

- อธิบายรายละเอียด

ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมี ป.ป.ช. ป.ป.ท. คตร. สตง. เป็นหน่วยตรวจสอบ มี ศตช. เป็นหน่วยประสานงานบูรณาการ ให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพครบถ้วน ใครผิด ใครถูก ว่าไปตามนั้น ปัญหาสินค้าเกษตร แก้ปัญหาแบบครบวงจร

คือจัดระบบให้ดีมานด์และซัพพลายมีสัดส่วนเท่าเทียมกัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้หันไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ตรงกับความต้องการของตลาด หาอาชีพเสริมเข้าช่วย จ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจบ้างเท่าที่จำเป็น

แต่ยืนยันว่าจ่ายขาดครั้งเดียว ไม่ใช่ผูกพันต่อเนื่องยาวจนเป็นภาระต่อระบบเศรษฐกิจทั้งพวงของชาติ

ปัญหาการค้ามนุษย์ มีคณะกรรมการนโยบายชุดใหญ่ ผมดูแลเอง และมีอนุกรรมการในแต่ละเรื่อง ทั้งการค้ามนุษย์ แรงงาน ประมง และ IUU ทุกคณะขับเคลื่อนพร้อมกัน มีรูปธรรมและตารางเวลาให้เห็นชัดเจน ว่าแต่ละเรื่องจะเสร็จเมื่อไหร่ 

พร้อมทำความเข้าใจกับนานาประเทศแบบตรงไปตรงมา อะไรเสร็จบอกเสร็จ อะไรไม่เสร็จบอกไม่เสร็จ ส่วนเรื่องลดความเหลื่อมล้ำก็ส่งเสริมสนับสนุนให้ทำทุกรูปแบบ แม้กระทั่งแก้ไขกฎหมายจำนวนมาก ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนผู้ด้อยโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐได้เท่าเทียมกัน

ปัญหาบริหารจัดการน้ำและระบบโครงสร้างพื้นฐาน ก็คิดทำทั้งระบบไม่ได้กู้เงินเขามาทำแบบตูมเดียวหมดเป็นล้านๆ กู้เท่าที่จำเป็นที่เหลือใช้จ่ายงบประมาณเป็นปีๆ ไปจนเสร็จสิ้นโครงการ ซึ่งผมว่าดีกว่าแบบกู้เขามาทำครั้งเดียวเพราะมีโอกาสมีเวลาเพียงพอที่จะเตรียมการก่อนลงมือ

- รวมเงินกู้ทั้งหมดเท่าไหร่

วันนี้ยังไม่ได้กู้เลย แต่ต้องทำงบประมาณไว้ให้สมบูรณ์ มีเงินเท่าไร ต้องกู้เท่าไรในแต่ละโครงการ ต้องหารือให้ได้ข้อยุติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางคมนาคม จำเป็นต้องดำเนินการโดยเร็ว

เพราะถ้าเราจะชิงความเป็นผู้นำอาเซียน เราต้องทำก่อนประเทศอื่น เขาจะได้วางแนวมาเชื่อมต่อกับเรา แต่ถ้าเราช้า เราอาจต้องปรับแนวไปเชื่อมกับเขา ซึ่งไม่ตรงกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของชาติเรา ผมพร้อมรับการตรวจสอบนะ เร็วแบบมีคุณภาพ

- ปัญหาสินค้าราคาแพง

ปัญหาค่าครองชีพ นับเป็นช่วงจังหวะที่มีทั้งดีและไม่ดี ที่ไม่ดีคือสินค้าบางอย่าง เช่น ยางพาราพลอยราคาต่ำไปด้วย เนื่องจากคนหันไปใช้ยางเทียม ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ พลอยดึงให้ยางแท้ราคาต่ำไปด้วย

ผมได้ให้นโยบายแก้ไขไปแล้ว ว่าต้องเร่งจัดสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ทำจากยางในประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ควบคู่ไปกับการจ่ายเงินอุดหนุนและการปล่อยสินเชื่อ เพื่อเพิ่มปริมาณการรับซื้อยาง จัดทำอาชีพเสริมให้พี่น้องชาวสวนยาง

ส่วนข้อดีคือน่าจะปรับลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคลงได้ ผมให้กระทรวงพาณิชย์ไปหารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จัดทำตารางเปรียบเทียบ ว่าเมื่อราคาน้ำมันยังไม่ลด สินค้าแต่ละชนิดราคาเท่าไร และเมื่อน้ำมันลดลงแล้ว สินค้าเหล่านั้นควรต้องลดลงตามสัดส่วนเดียวกับน้ำมัน ตอนนี้เร่งดำเนินการอยู่

- 9 เดือนของรัฐบาล

ผมยืนยันซ้ำอีกครั้งว่า ผมไม่ได้เอนเอียงเข้ากับกลุ่มการเมืองใด และไม่ต้องการให้ประชาชนแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย วันนี้พอเสียทีกับการแบ่งสี แบ่งกลุ่ม ผมเอาวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นตัวตั้ง ก่อนหน้านี้ใครทำอะไรผิด ผมไม่ตัดสิน

แต่ทุกฝ่ายต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และขอให้เชื่อมั่นว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียมกัน แต่หลังจากวันที่ 22 พฤษภาคมเป็นต้นไป จะไม่ยอมให้ใครทำผิดกฎหมาย

และผมพร้อมใช้อำนาจหน้าที่อย่างเด็ดขาด ผมให้ความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่า เศรษฐกิจ สังคม การเมือง จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2558 9:37:27 น.		0 comments
Counter : 1207 Pageviews.
Share Tweet