BlogGang.com : : sirivinit : “ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช" 1 ใน 10 ดร.ที่โดดเด่นที่สุดทั่วโลก

“ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช" 1 ใน 10 ดร.ที่โดดเด่นที่สุดทั่วโลก

ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช

ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต คนไทยเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 ดอกเตอร์ที่โดดเด่นที่สุดจากทั่วโลก ลงในหนังสือ Secrets of Promising PhD Scholars Revealed ของสำนักพิมพ์ Enzed Publishing House ประเทศนิวซีแลนด์

ที่คัดเลือกมาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก อาทิ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และมหาวิทยาลัยเคโอ

ดร.คนเก่งตัวแทนคนไทย

ผมรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งสำหรับการได้รับเลือกในครั้งนี้ มันเหมือนผมได้เป็นตัวแทนคนไทยได้มีสิทธิ์พูดให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้นว่าเป็นอย่างไร เพราะหนังสือเล่มนี้มีวางขายที่อะเมซอน ซึ่งสามารถซื้อได้จากทั่วโลก

สำหรับสิบดอกเตอร์ที่ได้รับคัดเลือกนั้นมีตั้งแต่คนจีน เนเธอร์แลนด์ อิสราเอล รัสเซีย เวียดนาม ไทย ฯลฯ ซึ่งมาจาก 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก "สำหรับตัวผมเองนั้นจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเคโอ ประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ในการคัดเลือกของทางหนังสือฯ จะพิจารณาจากประวัติการศึกษาที่ดีเป็นหลัก โดยจะต้องเป็นดอกเตอร์จบใหม่ และดูภาพรวมทั้งหมดในการเรียนปริญญาเอก ทั้งงานวิจัยและผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา"

กว่าจะเป็น 1ใน 10 ดร.คนเก่งระดับโลก

ผมถูกสัมภาษณ์ลงนิตยสาร Secrets of Promising PhD Scholars Revealed เป็นเรื่องราวของการศึกษาในระดับปริญญาเอก เกี่ยวกับมุมมองต่างๆ พร้อมทั้งเคล็ดลับในการเรียน ปัญหาและอุปสรรค สำหรับตัวผมเองตอนสอบจบปริญญาเอกอายุ 25 ปี และใช้เวลาในการศึกษาเพียง 2 ปีครึ่ง

ซึ่งนี่คือข้อแตกต่างเพราะบางคนใช้เวลาเรียนกว่า 10 ปีก็มี นอกจากนี้ยังมีพูดถึงงานวิจัยด้วยครับ เพราะปริญญาเอกจะเน้นที่งานวิจัย การตีพิมพ์งานวิจัย

โดยส่วนตัวผมมีงานวิจัยเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วจึงไม่ยากสำหรับเรื่องนี้ และอีกประเด็นที่สำคัญคือ ความหลากหลายของเชื้อชาติ เขาจึงเลือกทั้งสิบคนมาจากหลากหลายทวีป เพื่อแตกประเด็นเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการเรียน

ซึ่งบางคนมีปัญหาเรื่องการแต่งงานมีลูก การแยกจากครอบครัวเพื่อมาเรียนไกลจะทำอย่างไรให้การเรียนเป็นไปด้วยดีและยังสามารถกระชับความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ให้ราบรื่นได้ด้วย ซึ่งทุกคนก็จะเจอปัญหาที่ต่างกันไป

สำหรับตัวผมนั้นปัญหาที่เจอจะเป็นเรื่องการบอกตัวเองให้ไม่ย่อท้อในการทำงานวิจัย เพราะการทำวิจัยจะมีหลายองค์ประกอบร่วมด้วย ซึ่งบางอย่างเราควบคุมได้ แต่บางอย่างเราไม่สามารถควบคุมได้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของมัน

สิ่งเดียวที่ให้กำลังใจตนเองในการทำงานคือจะต้องไม่ย่อท้อกับทุกปัญหาที่เข้ามา

ในแต่ละปีจะมีการจัดการนำเสนอผลงานวิจัย หรือ Conference เวียนไปเรื่อยๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่า Conference ดังๆ จะไปจัดที่ไหน เรามีหน้าที่ทำงานวิจัยแล้วส่งผลงานเพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบ แล้วผลว่าจะได้รับการตีพิมพ์หรือไม่

ในกรณีที่ได้รับการตีพิมพ์ก็จะแบ่งอีกว่าจะได้การตีพิมพ์ในรูปแบบของการนำเสนอ หรือจะเป็นแบบโปสเตอร์เฉยๆ หากต้องทำการเสนอด้วยก็จะยากขึ้นมาอีก เราจะต้องนำเสนอในสิ่งแปลกใหม่ว่างานวิจัยของเรามีอะไรที่โดดเด่นกว่างานวิจัยชิ้นเก่าที่ผ่านๆ มา สำหรับผมเองนั้น จะทำการวิจัยเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่วนใหญ่

นักศึกษาในอนาคตกับการศึกษาต่อ

"หลายคนอาจคิดว่าการศึกษาต่อระดับปริญญาเอกนั้นสูงเกินไปหรือเปล่า แล้วการประสบความสำเร็จมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนสูงๆ ซะหน่อย บางคนมีคำถามมากมายว่าไม่ต้องเรียนได้หรือเปล่า อย่างสตีฟ จอบส์ บิลเกตส์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ไม่มีใครได้เรียนสูง เขายังประสบความสำเร็จในชีวิตได้

แต่สำหรับผมนั้น ประเด็นด้านการศึกษาเป็นเหมือนตัวประกันขั้นต่ำ การเรียนสูงนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการประกันขั้นสูง เพราะทุกสิ่งไม่มีอะไรที่เป็นสูตรสำเร็จ อย่างน้อยที่สุดหากเรามีการศึกษาที่ดี เราจะไม่ลำบาก พ่อแม่ทุกคนไม่ได้อยากให้ลูกรวยที่สุดด้วยการเรียนสูงๆ

เพราะคนเราจะรวยได้หรือไม่นั่นก็วัดไม่ได้ด้วยระดับการศึกษา เพียงแต่เขาไม่อยากให้คุณลำบาก จึงต้องการปูพื้นฐานการศึกษาที่ดีให้กับคุณ"

ดังนั้น การศึกษาจะเป็นหลักประกันขั้นต่ำของชีวิตที่เราสามารถนำไปต่อยอดทำอย่างอื่นได้ หากมีโอกาสเรียนสูงๆ เท่ากับคุณจะมีที่ยืนในจุดที่เป็นประกันขั้นต่ำได้ในกรณีที่ผิดพลาด จากการทำสิ่งใดๆ ซึ่งมันจะดีกว่าการต้องตกลงไปอยู่ในเหว

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ

Create Date : 17 ธันวาคม 2555

Last Update : 17 ธันวาคม 2555 9:38:59 น.

0 comments

Counter : 2638 Pageviews.