มิถุนายน 2557

1
2
4
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
REVIEW : Care Lab Immorttelle Bye Bye Sunmist SPF35PA++ แดดแรงๆ หลบไป สเปรย์กันแดดน้องใหม่มาแล้วจ้า
ช่วงนี้แดดแรงนะคะ เอ่อ... ที่จริงมันก็แรงทุกช่วงแหละนะ ก็ประเทศไทยเน้อะ มีแต่ร้อน ร้อนมาก ร้อนเว่อร์
แต่ไม่ต้องกลัวเซเลอร์มูนมาแล้ว ป๊าด! ไม่ใช่ค่ะ วันนี้เมจะมารีวิวสเปรย์กันแดดใหม่จากเกาหลี Care Lab Immorttelle Bye Bye Sunmist SPF35PA++
สเปรย์ตัวนี้มีดีอะไร ทำไมต้องใช้ ถ้าอยากรู้เลื่อนลงไปอ่านต่อข้างล่างเลยค่ะ
(สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านข้อความอะไรยืดยาว ก็ไล่ดูข้อความตามรูปได้เลยนะคะ แล้วถ้าสนใจหัวข้อค่อยอ่านละเอียดก็ได้ค่ะ)



อย่างแรกของสเปรย์กันแดด แน่นอนว่ามันต้องกันแดดได้ค่ะ Care Lab Immorttelle Bye Bye Sunmist SPF35PA++
มาพร้อมด้วย SPF 35 PA++ พอเห็นปุ๊ป! บางคนก็จะบอกว่า SPF น้อยจัง ฉันอยากได้สัก 50 มีไหม?
ถ้าใครมีความคิดแบบนี้ กรุณาอ่านบรรทัดต่อไปด้วยค่ะ

ค่า SPF หรือ Sun Protection Factor จะบ่งบอกถึงระยะเวลาความสามารถในการปกป้องผิวจากการถูกเผาไหม้จากแสงแดด
โดยลักษณะผิวของแต่ละคนเนี่ยมีความต้องการไม่เท่ากันนะคะ
- ผิวขาวแบบชาวยุโรป  เป็นผิวบางมาก เกิดผิวไหม้ง่ายมากหลังสัมผัสกับแสงแดด จึงจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ (SPF 45-60)
- ผิวขาวอมชมพูในคนเอเชีย  ผิวชนิดนี้บอบบางมาก เกิดผิวไหม้ได้ไว เกิดผิวสีแทนได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ค่อนข้างสูง (SPF 30-45)
- ผิวขาวเหลืองในคนเอเชีย ผิวชนิดนี้บางแต่ยังมีเมลานินอยู่บ้างจึงสามารถทนต่อแสงแดด การเกิดผิวหนังร้อนแดงได้ช้ากว่าผิว 2 ชนิดแรก ควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่มีค่า SPF ปานกลาง (SPF30)
- ผิวคล้ำ มีเมลานินสูง ผิวสีน้ำตาลไม่เกิดการไหม้ ไม่เกิดสีแทน ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ต่ำ (SPF 15)

เรามาลองดูค่า SPF และปริมาณการดูดซับรังสียูวีบี กันดีกว่านะคะ
ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3%
ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%
ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%
ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%
จะเห็นได้ว่า 30 กับ 50 ไม่ได้ต่างอะไรกันมากมายเลย เพราะฉนั้น 35 ที่ทาง Care Lab ใช้ถือว่าเพียงพอแล้ว
และข้อสำคัญที่คนชอบเข้าใจผิด

***SPF ค่าสูงป้องกันได้นานกว่า ไม่ใช่ป้องกันได้ดีกว่า***

ส่วนค่า PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA ในตอนนี้ยังไม่มีหน่วยวัดที่เป็นค่ามาตรฐาน
เลยถือเอาคำว่า PA เป็นหน่วยวัดรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการไปก่อน โดยจะมีระดับดังนี้ค่ะ
PA+       หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA
PA++     หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูง
PA+++   หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูงสุด



ผิวบอบบางก็ใช้ได้นะจ๊ะเธอจ๋า เพราะว่าทาง Care Lab Immorttelle Bye Bye Sunmist SPF35PA++
ได้มี Hypoallergenic care system คือ
No Gas, No Paraben, No Artificial color, No Benzophenone, No Mineral oil, No animal derived ingredients
เพราะฉะนั้นคนผิวบอบบางวางใจได้ แต่ก็อย่าวางใจจนหมดนะคะ ถ้าหากให้แล้วเกิดอาการแพ้ควรรีบหยุดใช้ทันที ถ้าแพ้เยอะพบคุณหมอด่วนค่ะ

สเปรย์ตัวนี้ฉีดทับเครื่องสำอางได้เลยค่ะ เมลองแล้ว ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่เหนอะหนะ ที่สำคัญที่สุดไม่อุดตันด้วย
ตัวเมเองเนี่ย เป็นคนมีสิว จึงกลัวมากเวลาถึงตอนกลางวันแล้วอยากจะเติมกันแดด แต่จะให้ล้างหน้าใหม่แล้วมาทาครีมบำรุง แต่งหน้าใหม่ ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ วุ่นวายตายเลย
ดังนั้นเมจึงต้องคัดสรรหากันแดดอย่างดีที่สุดเพื่อป้องกันการอุดตันให้กับตัวเมเอง และ Care Lab Immorttelle Bye Bye Sunmist SPF35PA++
ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เมติดกระเป๋าเอาไว้ เนื่องจากสามารถเติมทับระหว่างวันได้ แล้วปริมาณ 100 ml. ก็ไม่ได้ทำให้หนักค่ะ อีกทั้งยังเอาติดกระเป๋าพกไปเที่ยวต่างประเทศได้ด้วยนะ

บอกอีกนิดเวลาฉีด สามารถเลือกได้ว่า จะฉีดใส่มือก่อนแล้วค่อยๆ แตะไปที่ใบหน้าเบาๆ แต่ถ้ามือสกปรกขอให้เลือกวิธีที่สองค่ะ  คือเอามือบังตาแล้วฉีดพ่นใส่หน้าเลย เพราะหัวสเปรย์เป็นแบบ Atomizer มันจะกระจายไปรอบๆ แบบฟุ้งค่ะ



ส่วนประกอบสำคัญ
Cyclopentasiloxane, Water, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Helichrysum Angustifolium Flower Extract,
Butylene Glycol, C12-15 Alkyl Bezoate, PEG-9 Polydimentylsiloxyethyl Dimenthicone,
Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine, Diethylhexyl Carbonate, Isoamyl p-Methoxycinnamate,
Titanium Dioxide, Sorbitan Sesquioleate, Alcohol Denat, Polyglutamic Acid,
Boerhavia Diffusa Root Extract, Lactobacillus/Soybean Ferment Extract, Saccharomyces/
Viscum Album (Mistletoe) Ferment Extract, Saccharomyces/Imperata Cylindrica Root Ferment Extract,
Caprylhydroxamic Acid, 1,2-Hexanediol, Aluminum Stearate, Polyhydroxystearic Acid, Alumina,
Sodium Chloride, Disodium EDTA, Dipotassium
พิมพ์เสร็จแล้ว เหนื่อยมากขอบอก



ข้อดี : พกพาง่าย ไม่อุดตัน ไม่ทิ้งคราบ มีกลิ่นหอม หัวสเปรย์กระจาย เติมเพิ่มได้ระหว่างวัน
ข้อเสีย : ราคาค่อนข้างสูง เพราะเวลาเมใช้ ต้องขอบอกว่าเมฉีดตั้งแต่หน้าจนถึงเท้าเลยค่ะ มันก็หมดค่อนข้างเร็วนะ พอจะซื้อขวดต่อไปก็สะดุ้งนิดนึง
เพราะราคาอยู่ที่ 850 บาท ต่อขวด 100 ml.
เวลาเมซื้อก็เลยจะรอช่วงโปรโมชั่นแทนค่ะ ก็จะลดเหลือ 550 ถึง 600 บาท ประหยัดไปตั้ง 200 แน่ะ ขี้งกเน้อะ เค้าเรียกคนใช้จ่ายเป็น ฮ่าๆ

สุดท้ายต้องขอขอบคุณ //www.carelab.in.th/ และ Nuffnang ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ลองค่ะ
ดูสิลองใช้เสร็จแล้วมีแววว่าต้องเสียเงินซื้อเองต่อเลย



Create Date : 09 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 18:25:54 น.
Counter : 1321 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

TungmayRitar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



ตังเม = เป็นผู้หญิงที่มีความสนใจทุกสิ่ง ทุกอย่างรอบตัว ชอบขีดเขียน วาดรูป ถ่ายรูป รักความสวยงาม ชอบกิน ชอบกีฬา รักหมา
ติดต่อ Thisistungmay@gmail.com

ห้ามนำภาพถ่ายภายใน Blog
ไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต


ติดตาม IG คลิกด้านล่างเลยค่ะ Follow @tungmayritar