สวัสดีค่ะ
วันนี้เมจะมาเปิดถุงและรีวิวเล็กๆ น้อยๆ นะคะ

เกริ่นก่อนว่าได้รับคำสั่งจากแม่ว่าให้ไปซื้อครีมให้แม่หน่อย ครีมแม่หมดแล้ว ส่วนเงินให้เมออกไปก่อนนะ - -' บรึ๋ย...
แล้วไปซื้อครีมให้แม่ มีหรือว่าเมจะอดกิเลสจากแบรนด์อื่นไหว 55+
วันนี้เมไปซื้ออะไรบ้างมาดูกันค่ะ



สถานที่ช้อปปิ้งในครั้งนี้มีทั้งหมด 3 ที่ด้วยกันนะคะ
คือ เซนทรัลปิ่นเกล้า สยามพารากอน และเมกะบางนาค่ะ

ชิ้นแรกเลยเป็นน้ำหอม YvesRocher ซื้อมาจากเซนทรัลปิ่นเกล้า
ด้านซ้ายมือจะเป็น Irisnoir EDP เป็นขนาดเล็กๆ 5 ml ราคา 200 บาทค่ะ
ส่วนด้านขวามือจะเป็น SoElixir EDP ขนาด 5 ml ราคา 200 บาท
ทั้งสองตัวหอมกันคนละแบบนะคะ แต่เมเองไม่สามารถจริงๆ ที่จะอธิบายกลิ่นออกมาเป็นคำพูดได้
นี่ยังนั่งแอบนึกชมคนที่เค้าดมน้ำหอมแล้ววิจารณ์ออกมาเป็นคำพูดได้ เทพจริงๆ!!
เมชอบซื้อน้ำหอมขวดเล็กๆ นะ จะได้เปลี่ยนกลิ่นได้บ่อยๆ ถ้าใช้ขวดใหญ่กว่าจะใช้หมด เฮ้อ!! คงหลายปี
ยังไงลองไปเทสกลิ่นที่เคาน์เตอร์กันได้นะคะ

ต่อไปเป็นเทสเตอร์ที่ได้
ซองสีฟ้าเป็นโลชั่นสำหรับสิว
ส่วนกระดาษสีเขียวๆ ที่มีซองสีขาวสอดอยู่ถ้าเมจำไม่ผิดเห็นว่าเป็น Anti-Age ตัวใหม่ของอีฟเค้าค่ะ
แต่ให้มา 1 ml ใช้ยังไม่ทันรู้สึกอะไรเลย
น่าจะให้เยอะๆ เน้อะ (แอบงก)

ต่อไปจะเป็น Skinfood จาก MegaBangna นะคะ
เนื่องจากเมเป็นคนที่ไม่ชอบทำความสะอาดหน้าด้วยอะไรที่มันๆ ไม่ว่าจะเป็นออย ครีม น้ำนม
เมว่าใช้พวกนั้นแล้วล้างหน้าเท่าไหร่ก็ไม่สะอาด (อันที่จริงก็พอจะรู้นะคะว่ารู้สึกไปเองทั้งนั้นเลย)
ก็เลยต้องหันมาใช้ทิชชู่ทำความสะอาดหน้า เช็ดๆ แล้วทิ้ง สะบาย

นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ลองใช้ของสกินฟู้ด 30 แผ่น ราคา 290 บาท ถือว่าไม่แพงเลยนะคะ
แต่ยังไม่ได้ลองคุณภาพของกระดาษเลย ไม่รู้จะนิ่มจะแข็ง
พอกลับมาบ้านแอบเสียใจ ลืมขอเทสเตอร์ T^T

ทีนี้ก้าวมาถึงฝั่งสินค้าของจากห้างพารากอนบ้างค่ะ

ตัวแรกที่รีวิวเลย เป็น Grapeseed Glossing Serum
เซรั่มใส่ผมที่เมใช้มาหลายขวดจนเลิกนับไปแล้วค่ะ มันให้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใส่เยอะผมก็ไม่มัน ใส่ปุ๊ปนั่งไดร์ๆ ผม ผมนุ่มอ่า อ๊ากกกกชอบ รักเลย
ขนาด 75 ml ใช้ได้นานอยู่นะ ราคา 590 บาท แต่วันนี้มีลดราคา เมซื้อมา 502 บาทค่ะ

ต่อไปเป็นแบรนด์ใหม่มั้งนะคะ แต่ว่าเมไม่เคยเห็นนะ ไม่รู้จักด้วย
วันนี้เค้ามาดึงตัวเมไปนั่งทามาร์คให้ ก็คือเจ้าขวดสีขาวตัวโตนี่แหละค่ะ
มันคือ Triple Oxygen Instant Energizing Mask พอทาไปปุ๊ปก็จะเกิดเป็นฟองๆ ขึ้นมา เค้าให้ใช้ 5 นาที
ส่วนความรู้สึกหลังจากที่โดนทามาร์คที่มือแล้วเช็ดออกนะคะ เมว่ามันยังเฉยๆ อยู่นะ (อ้าว! แล้วซื้อมาทำไมเนี่ย)
เมชอบฟองอ่า มันนุ่มๆ คิดว่าถ้าเอามานั่งทาตอนกำลังดูทีวีก็คงจะเคลิ้มไปกับฟองดี
ส่วนเทสเตอร์ที่ได้ซองๆ คือ อายเจล ขนาด 2 ml หลอดๆ เป็นอายครีมขนาด 5ml ค่ะ

ขนาด 100 ml ราคา 2750 บาท เมซื้อมาในราคา 2475 บาทค่ะ
(ปอลิง บีเอกฮาร์ดเซลล์ไปนิดนะคะ)

มาถึง SKII
ตัวที่เมเลือกมาเป็น Clear Lotion นะคะ เพราะเคยเห็นรีวิวของพี่คนหนึ่งบอกว่า
"เป็นสิวอุดตันมานานรักษาไม่หาย ใช้เคลียร์โลชั่นเช็ดหน้าประมาณ 2 สัปดาห์สิวเกลี้ยงเลย"
เมเลยจัดมาลองบ้างค่ะ ด้วยความที่ขนาด 150ml กับขนาด 215 ml มันต่างกันแค่ 400 บาท
เมเลยจัดเต็มขอขนาด 215 ml 2500 บาทมาลองเลยแล้วกัน
บีเอเรียกเมว่าคุณผู้หญิง ... กรี๊ด ชอบอ้ะ



พูดถึงสิวแล้วต้องขยายความ เมเองก็เป็นสิวมานานนะคะ รักษาไม่หายซะที ใช้ครีมถูกๆ แพงๆ สำหรับรักษาสิวมาก็เยอะ ไม่หาย
เปิดไปเจอรีวิวรักษาสิวด้วยผงวิเศษตราร่มชูชีพ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองสักนิดคงไม่เสียหาย
เมใช้ผงวิเศษผสมกับคลินดาเอ็มทาก่อนนอนหลังจากที่ทา Dior Hydra Life เสร็จแล้ว ส่วนตอนเช้าเมใช้ Dalacin T ตัวนี้มันจะคลายๆ คลินดาเอ็มแต่เมว่ามันดีกว่านะคะ
เมใช้ทำแบบนี้ประมาณ 1 อาทิตย์ สิวหายไปอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ แต่หน้าจะแห้งมากเลยนะคะ
แล้วก็ประมาณ 2 อาทิตย์ผ่านไป หน้าเมเหลือแต่รอยสิว
สุดท้ายหน้าเมก็รักษาสิวหายด้วยผงวิเศษตราร่มชูชีพ ใครที่เป็นสิวรักษาไม่หายก็ลองวิธีเมได้นะคะ ถูกและไม่แพง

มาถึงนางเอกของงานค่ะ
ครีมคุณแม่ที่เป็นสิ่งที่เมตั้งใจไปซื้อ นอกนั้นมันผุดมาได้ไงไม่รู้ค่ะ

มาดูกล่องแรกกันก่อน
มันคือเซต Dior Capture Totale ค่ะ



เปิดมาข้างในก็เจอกันกระเป๋า สวยนะเนี่ย เนื้อดี ข้างในก็สวย สกรีนคำว่า Dior ด้วย



ส่วนของข้างในกระเป๋าก็ประกอบด้วย
Dior Capture Totale One Essencetial Skin Boosting Super Serum ขนาด 50 ml
Dior Capture Totale One Essencetial Ultra-Detox Treatment Mask 15 ml
Dior Capture Totale Eye Essencetial 5 ml
Dior Capture Totale Emulsion Multi-Perfection 7 ml



ราคาอยู่ที่ 6000 บาทค่ะ ก็เท่ากับว่าซื้อเจ้าขวดใหญ่ขวดเดียว ส่วนชิ้นอื่นเป็นของแถม คุัมสุดๆ

แม่เมเองอายุ 51 แล้วค่ะ ลองใช้ครีมมาก็เยอะ แต่มีแบรนด์เดียวที่เอาอยู่คือ Dior
เจ้าขวดนี้ครั้งแรกที่แม่ของเมใช้เห็นผลภายใน 1 อาทิตย์ค่ะ
หน้าดีขึ้นมากๆ แล้วแม่ก็บอกว่าขวดนี้มันดีนะ ใช้แล้วสะบายหน้าจัง (เมก็นึกในใจว่าอย่าให้แม่รู้ราคาเลย)
คือปกติเมจะเป็นคนเลือกครีมให้แม่ ซื้อให้ โดยที่แม่ไม่รู้ราคา แล้วก็จะมีหน้าที่ใช้ครีมอย่างเดียวค่ะ

ต่อมาเป็นไฮไลท์ของการเปิดถุงครั้งนี้ค่ะ ครีมที่โดนมนตร์สะกดมาจากคุณบีเอพี่เก๋ค่ะ
ตอนแรกเมก็จะซื้อตัวเดิมคือ XP ให้แม่ แต่พี่เก๋บอกว่าคุณแม่อายุ 50 กว่าแล้วน่าจะใช่ตัวนี้นะคะ
แล้วก็หยิบ Dior Prestige มาให้ เมเห็นปุ๊ปปฏิเสธปั๊ปเลยค่ะ ไม่ไหวค่ะพี่ หนูสู้ราคาไม่ไหวจริงๆ
แต่พี่เก๋ก็ยังยืนยันว่า "ต้องลอง" ก็เลยเชิญเราเข้าไปนั่งในเคาน์เตอร์ พร้อมเสิร์ฟน้ำให้ค่ะ

ขออภัยนะคะ ลืมถ่ายตอนยังไม่ดื่ม



แล้วก็มาลองครีมให้ที่มือ ครีมมันนุ่มและหอมมากเลยค่ะ
พอทาเสร็จมือเม(ปกติเป็นคนขี้เกียจทาครีมมาก มือเมที่่ขาดการบำรุงมานาน) มันนุ่มมาก ทีนี้แอบกรีดร้องอยู่ในใจว่าฉันจะเอาขวดนี้ แต่ฮึ่ม... ราคาสูงนะจ๊ะเธอ จะไหวเหรอ ก็นั่งตัดสินใจอยู่นาน
ระหว่างตัดสินใจพี่เก๋ก็จัดเค้กมาให้ทานเล่น อร่อยดีนะ



สุดท้ายและท้ายที่สุดก็ตกลงค่ะ เอาขวดนี้
ครีมขนาด 50 ml สนนราคาที่ 10800 บาทค่ะ
กล่องสีทองไฮโซเว่อร์

ภายในกระปุกดูหรูหรามาก
พี่เก๋บอกว่ากระปุกจะรักษาอุณหภูมิครีมเอาไว้ จึงไม่จำเป็นต้องน้ำครีมไปแช่ตู่เย็นค่ะ
ถ้าใช้ครีมหมดสามารถมาซื้อรีฟิลได้
คือตัวด้านในจะสามารถหมุนออกเพื่อถอดตัวขวดครีมออกมาจากขวดใหญ่ได้ค่ะ
เมชอบมาก



ตอนนี้แม่เมลองทาครีมแล้ว บอกว่าชอบมาก
ส่วนผลลัพธ์ต้องรออีกประมาณ 1 อาทิตย์นะคะ ไม่รู้ว่าจะเห็นผลขนาดไหน

ส่วนตรงนี้เป็นของแถมที่ได้มาค่ะ
เป็นกระเป๋าสีชมพู มาพร้อมกับ
Dior Capture Totale One Essencetial Skin Boosting Super Serum ขนาด 5 ml
Dior Capture Totale One Essencetial Ultra-Detox Treatment Mask 15 ml
Dior Capture Totale Eye Essencetial 5 ml
Dior Addict Lip Gloss 5 ml

สรุปโดยรวมวันนี้การช้อปปิ้งผ่านได้ด้วยดีทุกแบรนด์
และยังคงประทับใจดิออร์ทุกครั้งที่เข้าไปซื้อ ไม่ว่าจะแต่งตัวดีหรือไปแบบซ่อมซ่อแค่ไหนก็ตาม
นี่ซิคือบีเอที่ดี ดิออร์เป็นเคาน์เตอร์แบรนด์แบรนด์แรกที่เมซื้อ และพี่บีเอแนะนำดีมาก มากจนกลับมาเป็นลูกค้ากันต่อเนื่องเลยค่ะ

ส่วนอีกอย่างวันนี้หลังจากซื้อดิออร์เสร็จก็เดินไปหา MAC แฮ่... ให้เดาว่าบีเอทำไง

เมก็ยืนเลือกลิปอยู่วันนี้ตั้งใจจะไปซื้ออยู่แล้ว 4 แท่ง จดชื่อลิปไว้แล้วด้วย
เดินไปยืนดูสีลิป บีเอเดินกันเต็มไปหมด วางด้วย ไม่มีใครสนใจ ไม่เป็นไร ดี เมไม่แคร์จะได้ยืนเลือกแบบสะบายใจ
แต่ในขณะที่เมกำลังยืนเลือกสีลิปอยู่นั้น บีเอผู้ชายท่านหนึ่งเดินมาเอาตัวแทรกและบังตรงที่ลิปวางอยู่ทั้งหมด เพื่อเลือกลิปให้กับพี่ผู้หญิงอีกท่านหนึ่ง
เสียความรู้สึกนะคะ และก็คิดว่าจะไม่แตะแบรนด์ MAC อีกแล้วไม่ว่าผลิตภัณฑ์คุณจะดีขนาดไหนก็ตาม

ขอบคุณที่ติดตามเปิดถุงครั้งนี้นะคะ
เจอกันใหม่เมื่อแม่สั่งให้เมไปซื้อครีมนะคะ