Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Interlude : ความโลภมา ปัญญาหด



ผมโดนความโลภในตัวเล่นงานเข้าให้แล้วครับ

เรื่องมันมีอยู่ว่า....

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาผมซื้อหมึก Printer ที่เป็นหมึกเลียนแบบมาชุดหนึ่งด้วยเหตุว่าราคาถูกกว่าของแท้ไม่กี่บาทและสามารถเติมใหม่ได้อีกหลายครั้ง

แต่ผลลัพธ์คือ....มันทำหัวพิมพ์เครื่องผมพังครับ

พอยกไปซ่อม ทางร้านแจ้งราคาค่าซ่อมแพงหูฉี่ เรียกว่าถอยเครื่องใหม่ได้เครื่องหนึ่งเลยทีเดียว ผมจึงตัดใจจ่ายค่าเปิดเครื่องแล้วยกกลับบ้าน นั่งจ้องเครื่อง Printer แบบไม่รู้จะทำอะไรกับมันดี

สรุปรวมความว่า ผมประหยัดค่าหมึกได้ 500.- บาทครับ

ขณะที่ผมต้องเสียตังค์ค่าหมึกเลียนแบบที่ไม่สามารถใช้การอะไรได้อีกแล้วในราคา 1,300.- บาท ค่าเปิดเครื่องของร้านซ่อมอีก 300.- บาท และค่า Printer ตัวเก่าหลังหักค่าเสื่อมราคาอายุ 1 ปีแล้วอีกประมาณ 4,000.- บาท

เบ็ดเสร็จแล้ว ผมขาดทุนสุทธิ 5,100.- บาทครับ

นั่นเพราะความโลภตัวเดียว.....
พึ่งมาสำนึกได้เมื่อต้องสูญเสียไปแล้วครับ

ความโลภนี่ ผมว่ามันเป็นเหมือน Chip ที่ฝังอยู่ในตัวเรานะครับ โดยปกติแล้วมันจะทำงานเบาๆพอที่จะทำให้เรารู้สึกกระตือรือล้นและขวนขวาย แต่ในบางจังหวะที่ Chip ตัวนี้ทำงานหนัก มันจะกลับกลายทำให้เรากลายเป็นคนที่มีนิสัยเอารัดเอาเปรียบ

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เจ้า Chip ตัวนี้ทำงานเบาลงได้ นั่นคือปัญญาครับ เวลาที่เราเกิดความต้องการอะไรขึ้นมาสักอย่าง ถ้าใช้ปัญญาให้มากๆ เราก็จะระงับความโลภได้ ในทางกลับกัน ถ้าเราใช้ปัญญาน้อย ความโลภก็จะยิ่งเพิ่มทวี

โดยสายอาชีพผม มักจะมีคนเข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนบ้าง การทำธุรกิจบ้าง ภาษีอากรบ้าง บางคนที่มาปรึกษาเป็นปัญหาที่เกิดจากความโลภ จ่ายก่อนแล้วค่อยคิด เช่น มัดจำค่าคอนโดไป 1 แสนบาทแล้วค่อยมาถามผมว่าจะทำยังไงต่อดี ควรผ่อนต่อไหม โครงการจะดีไหม ให้เช่าต่อแล้วคุ้มไหม

ผมก็สงสัยว่า....อ้าวน้า แล้วทำไมไม่หาข้อมูลก่อนจ่ายเงินล่ะครับ คำตอบที่ได้มักจะเป็นในทำนองที่ว่าฟังโครงการแล้วน่าสนใจ ราคาถูก ดูมีอนาคต สามารถนำไปให้คนอื่นเช่าต่อได้ในราคาที่สูง แต่พอจ่ายเงินไปแล้วถึงกลับมากังวลภายหลังว่าที่คิดไปน่ะ ถูกไหม (ปัญญาพึ่งเกิดหลังความโลภทำงานเบาลงแล้ว)

จริงๆผมเคยคิดเล่นๆนะว่า ผมเองก็ไม่น่าใช่คนโลภ หวยก็ไม่เล่น ไม่น่าจะต้องตกเป็นเหยื่อของความโลภได้ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ.....

ความโลภไม่ใช่จะเกิดเฉพาะการลงทุนที่เป็นเงินนับแสนนับล้าน หรือเกิดกับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ซื้อหุ้นแบบเก็งกำไรเอาส่วนต่างราคา หรือเกิดเฉพาะพ่อค้าที่คิดฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้อื่นอยู่เป็นนิจ

แท้จริงแล้ว แม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่เราคิดเอาเปรียบผู้อื่น ผมก็ถือว่านั่นคือความโลภแล้วล่ะครับ ยกตัวอย่างง่ายๆดังเช่นเรื่อง Printer ที่เล่ามาครับ ผมโลภที่อยากจะได้น้ำหมึกในราคาถูกและปริมาณมาก Chip ความโลภผมทำงานหนัก ปัญญาที่ใช้จึงหดหาย คิดเอาเปรียบบริษัท Epson ผู้ผลิต Printer ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นอย่างที่เล่าให้ฟังครับ

ดังนั้น อย่าประมาทความโลภในตัวคุณนะครับ เดี๋ยวจะเป็นเหมือนผมอีกคน

.........................................................................

ผมชอบเสียงหัวเราะที่ดูเหมือนจะเย้ยหยันหน่อยๆของ Mr.Renato Carosone จริงๆ ลองฟังกันเลยครับ CHELLA LLA ของ Renato Carosone ปี 1957 ครับ




Create Date : 30 มกราคม 2550
Last Update : 31 มกราคม 2550 0:59:16 น. 21 comments
Counter : 685 Pageviews.

 
เสียงหัวเราะฟังดูเหมือนเย้ยหยันจริงๆอย่างคุณว่า

แต่ฉันไม่ได้ตามมาเยาะคุณน๊า

อย่าคิดว่าเป็นความโลภในตัวเลยค่ะ คิดว่าเป็นความงกเอ๊ยความผิดพลาดเล็กน้อยๆดีกว่าค่ะ

ความผิดพลาดทำให้เกิดการเรียนรู้ค่ะ อิ อิ


โดย: random-4 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:1:59:01 น.  

 
อืมค่ะ เป็นบทเรียนราคาไม่แพงจนเกินไป แต่ก็ทำให้เราได้คิดทบทวนอะไรบางอย่างให้ถี่ถ้วนขึ้น แต่เสียงเพลงนี่เยาะหยันได้ใจจริงๆ

เห็นด้วยค่ะ ว่าความโลภแม้เล็กๆ น้อยๆ นี่ก็สำคัญ เพราะบางทีเราไม่ได้ระวังไง คนดีในสังคมโดยทั่วไป ก็คงตระหนักอยู่ในใจว่าเราไม่เอาเปรียบ ไม่โกงใคร แต่เรื่องเล็กน้อยเราอาจจะไม่ได้ระวังและนึกถึงอย่างว่าแหละค่า พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนว่า ความดีเล็กน้อยก็อย่าดูถูก (และไม่ทำ) ความชั่วเล็กน้อยก็อย่าประมาท (ไปทำ) อิอิอิ เยาะเย้ยเล็กน้อย แต่ก็จะเก็บไว้เตือนตัวเองเช่นกันค่า


โดย: Together In 80s Dream วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:10:27:53 น.  

 
ปริ๊นเตอร์เสียแล้วก็เสียไปครับ คิดมากเครียดปวดหัวเปล่าๆครับ
ว่าแต่ถ้าซื้อปริ๊นเตอร์ใหม่ ลองหาร้านติดถังหมึกปลอมดีๆก็น่าจะช่วยได้นะครับ

เชียร์เค้าติดถังหมึกปลอม แต่ตัวผมเองก็ไม่ได้ติดหรอกครับ


โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:15:41:54 น.  

 
5,100 บาทเองครับ ผมไม่มีปัญญาจ่ายหรอก ถ้าเป็นผมคงน้ำตาไหลเลย

ขอบคุณเรื่องแบบสอบถามนะครับ


โดย: ปืนกล IP: 203.131.220.50 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:18:48:41 น.  

 
ความโลภ ความอยากได้ใคร่มี มันเป็นกันทุกคนล่ะครับ ไอ้พวกนักการตลาด นักวางแผนทั้งหลายแหล่มันถึงเล่นจุดอ่อนของคนเราตรงจุดนี้จนรวยกันมานักต่อนักแล้วอ่ะครับ เอ ยิ่งเจ้าพวกสินค้าเทคโนโลยีนี่ ผมเห็นมาเยอะเลยพวกประหยัดแบบไม่เข้าเรื่อง (เอ่ะ ป๋มพูดอะไรไปนี่) เจ๊งกันทั้งนั้นล่ะครับ อุอุ

ขอบอกว่าถ้าผมกำลังเฮริ์ทอยู่ แล้วเจ้านี่มาหัวเราะแบบนี้นะ ฮึ่ม มีตื้บแน่ หัวเราะกวนบาทามากๆ


โดย: คูต้าว IP: 203.113.0.194 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:21:04:32 น.  

 
*
สวัสดีค่ะ
มาเยี่ยมเยีน ค่ะ
สบายดีนะค่ะ


โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:21:19:55 น.  

 
แหม ท่านครับ เห็นภาพข่าวแมเนเจอร์แล้วฮามาก ๆ แทบตกเก้าอี้

ว่าแต่เรื่องโลภะเนี่ยนะครับ มันเป็นชิปที่ฝังติดตัวจริง ๆ ครับ

อยากให้มันหายก็ไม่หาย

ทีอย่างอื่นดันหาย เช่น

Shif หาย ไงครับ

เสียงหัวเราะกับเพลงประกอบเหมือนจะมาไว้หัวเราะให้กับหมึกพิมพ์เลยอะครับ 5555

เรียนท่านโทนี่คูน กระผมอัพบล็อกใหม่แล้ว อยากเจิมก็ไปเจิมได้ตามสะดวกนะครับ



โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:52:07 น.  

 


Why do you help Damrongheha?.....

Ban!...55555


โดย: law of nature IP: 129.11.77.198 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:38:44 น.  

 
เข้ามาได้ยินเสียงหัวเราะ........เหมือนสะใจอะไรสักอย่าง

จริงๆค่ะ ความโลภมักทำให้ปัญญาเราหดหายไป ความโลภทำให้ตาเราบอด มองไม่เห็นความดีความชั่ว

ปล.ถ้าหมดไปห้าพันกว่าซื้อเครื่องใหม่ไปเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ (ไม่ใช่หัวเราะเยาะนะค่ะ แต่หัวเราะตอบเสียงหัวเราะในบล็อกอ่ะ)


โดย: fonrin วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:7:08:40 น.  

 
ขอบคุณที่ช่วยกันแสดงความเห็นนะครับ

คุณ random-4 ถูกต้องนะคร้าบบบ ความผิดพลาดทำให้เกิดการเรียนรู้ และเป็นบทเรียนราคาแพงด้วยครับ

คุณพี่ข่อย เห็นด้วยครับ อย่าประมาทแม้เป็นเพียงเรื่องอันน้อยนิด

คุณตู่ เข็ดแล้วครับ ไม่ใช้ Tank แล้วล่ะ

น้องปืนกล เดี๋ยวส่งแบบสอบถามให้นะครับ รอแป๊ปนึงๆ

ตาข้าวตู อะจึ๋ย.... เหมือนโดนกระทบกระเทียบเล็กน้อย เห็นด้วย ตานี่ขืนมาหัวเราะขณะที่กำลังเฮิร์ทอยู่ มีหวังโดนถีบกระเด็น

STAR ALONE ขอบคุณค้าบ

คุณดำฮา 5555 เล่นวางไว้แผ่หลาหน้า Blog ใหม่เลย ฤ ดีใจที่ถูกใจนะคร้าบบบ

คุณ law of nature หวายๆๆๆ อย่ามา Ban ป๋มนะ

คุณ เปิ้น fonrin งั้นเรามาหัวเราะพร้อมๆกันเลยครับ มามะ มา ฮ่าๆๆๆๆ วู้ว ฮ่าๆๆๆๆ


โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:34:46 น.  

 
หันมาทำตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงกันดีกว่าครับ

printer ผมก็พึ่งเสีย คือเปิดไม่ได้เลยครับ สงสัยหมดอายุขัย


โดย: King Of Pain วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:01:44 น.  

 
วันนี้แวะมาหัวเราะอีกซักรอบ...
เพราะชอบเสียงหัวเราะนี้มากๆ ฮ่าๆๆๆๆ

จะเข้านอนแล้วค่ะ หลับฝันดีน๊า...พรุ่งนี้วันหยุดแล้วเย้ๆๆๆๆ


โดย: fonrin วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:43:55 น.  

 
ปริ้นเตอร์ที่บ้านตอนนี้ไม่มีหมึกมาสี่เดือนแล้วค่ะ มันแพงอ่า หมึกที่นี่ แล้วก็ไม่ค่อยได้ปริ้นท์อะไร ก็เลยไม่ซื้อซะเลย มีอะไรไปปริ้นท์ที่ม.หรือที่ทำงานเอา :D งกไหมเนี่ย ฮ่าๆ

คิดว่าความโลภมีกันทุกคน ตอนนี้กำลังโลภอยากไปดูคอนเสิร์ตเยอะๆ พยายามหาทางซื้อตั๋วให้ถูกๆ

เพลงนี่เสียงหัวเราะเย้ยหยันกันมากเลยค่ะ


โดย: DropAtearInMyWineglass IP: 85.230.109.135 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:37:16 น.  

 
555555555555555555555

แบบว่ามายี่ยมอ่ะ


โดย: lemym14 IP: 58.10.128.61 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:47:45 น.  

 
เป็นบ้างเหมือนกันค่ะประมาณว่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย (เอ..ใช่ป่าวหว่า )


ก็ได้แต่หวังว่าตัวเองคงไม่ได้มีเจ้าชิพตัวนี้หลายอันที่ถูกซ่อนฝังอยู่ไหนซักแห่งก็แล้วกันหุหุ

หลังไมล์แว้วนะคะ


โดย: renton_renton วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:03:28 น.  

 
อืม ผมก็เคยเป็นอ่ะครับ ไอ้หมึกเลียนแบบอ่ะ
มันใช้ได้ไม่ถึงเดือนเลย เจ๊ง ต้องไปซื้อพริ๊นตัวใหม่มาใช้เลย


โดย: หลานยายจุล วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:27:49 น.  

 
มาบล็อกนี้ทีไร สะใจทุกทีกับเสียงหัวเราะของหนุ่มคนนี้
สะใจเสร็จก็ต้องแอบโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะน่ารักๆ ของเพลง

จขบ.มาโยกด้วยกันป่าว....


โดย: fonrin วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:12:22 น.  

 
แวะมาฟังเสียงหัวเราะกวนประสาทอีกรอบ



โดย: random-4 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:03:57 น.  

 
ขอบพระคุณเป็นล้นพ้นที่ช่วยกันสร้างมุกใหม่ ๆ

ผมฮาคลี่แตกคลี่แตนอีกแล้วสำหรับเม้นท์คุณปวีณา

สุดยอดจริง ๆ


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:44:26 น.  

 
คุณขาม ใช่ครับ ใช่เศรษฐกิจพอเพียงกับเครื่อง Printer ใช้หมึกแท้ และไม่พิมพ์มากเกินจำเป็น

คุณเปิ้น ยินดีๆครับ มาโยกกันมา

คุณอาย อ้าวร๋ครับ พึ่งทราบว่าหมึกที่นั่นแพง ตอนแรกคิดว่าเป็นแหล่งผลิต น่าจะถูกซะอีก เหอๆๆ

lemym14 ขอบคุณมากจ้า

renton_renton มีฝังหลายตัวก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้มันทำงานได้ล่ะ อิอิอิ
ปล.ขอบคุณมากๆครับ สำหรับเรื่องแผ่นหนัง

หลานยายจุล แสดงว่าเจอโรคหมึกปลอมเป็นพิษเหมือนกัน

คุณสุ่ม 4 ขอบคุณคับ

ตาดำฮา เดี๋ยวจะมีฮากว่านี้อีก คอยดูๆ


โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:29:38 น.  

 
น่าจะเป็นความประหยัด มิใช่ความโลภ

แต่... ความประหยัดที่ยังขาดการศึกษาข้อมูลก่อนให้รู้จริง

ผมเคยใช้พริ้นเตอร์แบบราคาถูก แล้วใช้หมึกปลอม และเติมหมึกเอง คุ้มสุดๆ ใช้ได้ 2 ปีครึ่ง จนเรียนจบปริญญาโท นั่นแหละ

พอจบปั๊บ หัวหมึกพิมพ์ก็เสีย สาเหตุที่เสีย มิใช่เพราะหมึกปลอม แต่เป็นเพราะมิได้ใช้งานหลายวันเกิน ก็เรียนจบแล้วเลยไม่ค่อยได้ใช้

ปกติ ถ้ามีการใช้เครื่องทุกวัน หัวหมึกพิมพ์จะไม่ตัน ไม่เสีย ที่เสียเพราะไม่ได้ใช้เป็นสัปดาห์



โดย: RT. IP: 125.27.200.138 วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:4:55:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tk_station
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add tk_station's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.