นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

 
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 สิงหาคม 2558
 

[แผนรักกำมะลอ] 2 : รูปในมือถือ



ตอนที่ 2

รูปในมือถือ




รถยนต์ของพัชฏะขับผ่านประตูรั้วบานใหญ่เข้ามาในตัวบ้านกว้างขวางโอ่อ่า สมเป็นเคหสถานของเศรษฐีเจ้าของตลาดและโครงการหมู่บ้านนับสิบ อาณาเขตของบ้านหลังนี้มีเนื้อที่เกือบห้าไร่เลยทีเดียว ตัวบ้านหลังใหญ่ที่อาจเรียกว่าคฤหาสน์ก็ไม่ผิดนักตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางพรรณไม้นานาชนิดสร้างความร่มรื่น ในลานจอดรถรองรับรถยนต์ได้เกือบสิบคันเลยทีเดียว และตอนนี้ก็มีรถจอดอยู่จนเกือบเต็มลานจอด ซึ่งจำนวนรถยนต์มีเยอะกว่าจำนวนสมาชิกของบ้านหลังนี้เสียอีก


และนอกจากจะมีคฤหาสน์หลังใหญ่กลางพื้นที่แล้ว ยังมีบ้านหลังเล็กขนาดสองร้อยตารางวาอยู่ถัดไปอีกด้วย เป็นบ้านส่วนตัวของลูกสาวเจ้าสัวที่ขอแยกออกไปเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งเจ้าของบ้านหลังใหญ่ก็ไม่ขัดข้อง

พัชฏะเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีเข้ามาในบ้าน เขาเดินผ่านโถงรับแขกที่มีโซฟาขลิบทองหรูหราสั่งตรงจากนอกวางอยู่ ชุดรับแขกราคาแพงนี้มีไว้สำหรับโชว์ ไม่ได้มีไว้นั่งพักผ่อน เพราะมีห้องพักผ่อนสำหรับครอบครัวแยกต่างหากอยู่แล้ว

“ทำไมวันนี้ถึงอารมณ์ดีจังค่ะคุณเพชร” ป้านาด แม่บ้านสูงวัยร่างผอมท่าทางคล่องแคล่วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู

“ไม่มีอะไรนี่ครับ” เขายกไหล่เล็กน้อย สีหน้ายังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม “คุณพ่อกับคุณปู่ล่ะครับ อยู่ข้างบนหรือว่าอยู่ในห้องนั่งเล่น”

“ในห้องนั่งเล่นค่ะ กำลังดูหนังตลกกันอยู่ หัวเราะเสียงดังเชียวค่ะ คุณพัชกับน้องพลอยก็อยู่ในห้องด้วยค่ะ” แม่บ้านสูงวัยบอก

“วันนี้เป็นวันอะไรกัน ทุกคนถึงได้มารวมตัวกัน” พัชฏะแปลกใจ

คุณพัชหรือพัชรีเป็นอาแท้ๆ ของเขาที่ขอแยกตัวออกไปสร้างบ้านหลังใหม่แต่อยู่ในรั้วเดียวกันลูกสาวคือน้องพลอยหรือพัชริดา และโดยปกติแล้ว คนที่แวะมาเยี่ยมเยือนคุณปู่ของเขาบ่อยๆ ก็คือพัชริดา ส่วนคนเป็นแม่ นานๆ ถึงจะแวะมากินข้าวมื้อเย็นสักที

“คุณพัชเธอคิดถึงคุณท่านมั้งคะ ป้าก็ว่าดีเสียอีกที่เธอแวะมาบ่อยๆ คุณท่านจะได้ไม่เหงา ท่าทางท่านเงียบๆ เหมือนจะเฉยๆ แต่จริงๆ แล้วป้าดูออกค่ะว่าท่านดีใจที่คุณพัชแวะมา”

“ผมก็ว่างั้น” เขาเห็นด้วยก่อนเดินไปยังห้องนั่งเล่นที่ติดสวนด้านข้าง

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณพฤกษ์ เจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่กับลูกสาวไม่ค่อยดีนัก เพราะท่านอับอายที่ลูกสาวคนเดียวที่เฝ้าเลี้ยงดูอย่างดีเกิดใจแตกและหนีออกจากบ้านสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น แต่สุดท้ายก็ซมซานกลับมาพร้อมลูกในท้องที่ฝ่ายชายไม่ยอมรับ เพราะถึงแม้เธอรวยล้นฟ้า แต่นิสัยเอาแต่ใจแบบสุดขั้วก็ทำให้ฝ่ายชายระอาและทิ้งไปในที่สุด

ตอนนั้นคุณพฤกษ์โกรธมากถึงขนาดไม่ยอมพูดกับลูกสาวนานหลายเดือน กระทั่งเด็กน้อยพัชริดาลืมตาดูโลกก็ทำให้ความโกรธของคุณพฤกษ์ลดลงไปมาก เขาเห่อหลานสาวและเฝ้าประคบประหงม แต่กับลูกสาวยังเหมือนมีเส้นบางๆ มากั้นอยู่ ทำให้พัชรีขอแยกตัวออกไปอยู่บ้านอีกหลัง ซึ่งคุณพฤกษ์ก็ใจดี โดยสร้างบ้านให้อยู่ในอาณาเขตเดียวกันและยังทำทางออกต่างหากให้อีกด้วย

เมื่อเปิดประตูไม้เข้าไปในห้องนั่งเล่น พัชฏะก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วมา เขาจำได้ว่าเป็นเสียงของพัชริดา ลูกพี่ลูกน้องตัวแสบแสนงอนของเขานั่นเอง

“ระวังคุณตาจะตกใจกับเสียงหัวเราะของเธอ” ชายหนุ่มเตือน เขามักเรียกคุณพฤกษ์ว่าตาเมื่อพูดกับน้องสาว

“อ้าวพี่เพชร” พัชริดาเอ่ยทัก ตามมาด้วยเสียงทักของพศิน ผู้เป็นพ่อและคุณพฤกษ์ผู้เป็นปู่

“ไปไหนมาหรือเพชร” ผู้เป็นปู่วัยแปดสิบปีเอ่ยถาม พัชฏะเดินไปนั่งใกล้ก่อนพูด

“ไปหาเพื่อนมาครับ”

“ปู่เห็นสีหน้าของเพชรดูมีความสุข เพื่อนผู้หญิงหรือเปล่า” คุณพฤกษ์ถามด้วยแววตาเป็นประกาย

“ผู้ชายครับคุณปู่ กันต์น่ะครับ ผมไปดูรถรุ่นใหม่ที่เขาเพิ่งนำเข้ามาเมื่อสองสามวันก่อน สวยเชียวครับ” พัชฏะบอกสีหน้าตื่นเต้นแล้วหยิบมือถือออกมาเพื่ออวดรูป

“พี่เพชรจะหลอกให้คุณตาซื้อรถให้อีกใช่ไหมล่ะ พลอยดูออกนะ” น้องสาวพูดอย่างรู้ทัน

“พูดมาก” เขาทำหน้ายักษ์ใส่พัชริดาก่อนหันไปยิ้มประจบคุณพฤกษ์ต่อ

“รถทรงสปอร์ตครับคุณปู่ สีสวยมากเลยนะครับ พวกอุปกรณ์ต่างๆ ก็ไฮเทค รวมนวัตกรรมที่มีอยู่ไว้ในคันนี้เลยนะครับ ระบบความปลอดภัยไม่ต้องห่วง เซฟตี้รอบคันเลยครับ” เขาให้ข้อมูลแล้วเลื่อนรูปภาพในโทรศัพท์ให้ดู หนึ่งในนั้นมีภาพระหว่างเขากับนัทมนที่กฤติพงศ์ได้ถ่ายไว้และส่งให้เขาทางโปรแกรมไลน์ ซึ่งเขาได้บันทึกเก็บไว้

“พาแฟนไปดูรถหรือ” คุณพฤกษ์ถาม

“ห๊า! แฟน แฟนพี่เพชรหรือคะ ไหนๆ ขอพลอยดูหน่อย” พัชริดาพูดแทรกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นก่อนยื่นหน้ามาร่วมวงด้วยพร้อมกันนั้นก็คว้ามือถือไปดู

“โห น่ารักเชียวพี่เพชร ไม่เห็นพามาแนะนำให้รู้จักบ้างเลย นี่ดูสิคะคุณตา มีทั้งส่งสายตาหวานซึ้ง มีทั้งส่งยิ้มให้กันด้วย”

“พรุ่งนี้พามาแนะนำให้ปู่รู้จักหน่อย ปู่อยากเจอ”

“คือ...ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ คือผู้หญิงในรูปเนี่ย” พัชฏะตกใจเมื่อถูกยัดเยียดคนรักให้โดยไม่รู้ตัว

“เราจะบอกว่าไม่ใช่แฟนงั้นเหรอ กี่คนแล้วนายเพชร เมื่อไหร่ลูกจะลงหลักกับใครสักคนเสียที คบคนนั้น เลิกคนนี้มาตั้งไม่รู้เท่าไหร่แล้ว แบบนี้เมื่อไหร่คุณปู่จะได้อุ้มเหลน” พศินพูดพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับนิสัยของลูกชาย

“ก็ผมยังรับอิสระอยู่นี่ครับ ผมยังไม่อยากผูกมัดกับใครตอนนี้” เขาพูดเสียงอ้อมแอ้ม

“แสดงว่าหนูคนนี้ยังไม่ใช่ตัวจริงน่ะสิ” คุณพฤกษ์พูดพลางทำหน้าซึม ใบหน้าดูแก่ลงไปกว่าเดิมเกือบสิบปี หนังตลกในโทรทัศน์จอใหญ่ไม่น่าสนใจเสียแล้ว “น่าเสียดาย เห็นไปดูรถด้วยกันแบบนี้ ปู่ว่าจะซื้อให้เป็นของขวัญซะหน่อย ถ้าไม่ใช่ก็คงต้องอด”

“ใช่ครับคุณปู่ นี่แหละครับ แฟนตัวจริงของผม” พัชฏะรีบพูด “พรุ่งนี้ผมจะพามาแนะนำให้คุณปู่รู้จักครับ” ชายหนุ่มรับปาก พร้อมรถสปอร์ตคันหรูที่กำลังลอยมาลิบๆ ในหัว






ช่วงเย็นวันเดียวกัน นัทมนเปิดประตูรั้วเข้ามาในบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียวขนาดยี่สิบตารางวาซึ่งมีอายุมากว่าเธอเสียอีก ด้านหน้าของตัวบ้านมีต้นไม้ร่มรื่นปลูกเรียงรายตามกำแพงรั้วและมีพืชผักสวนครัวบางชนิดที่แม่ของเธอปลูกไว้กิน
ด้านในบ้าน พ่อกับแม่ของเธอกำลังนั่งดูรายการข่าวภาคเย็นอยู่ตรงโถงกลางบ้าน นำความแปลกใจมาให้นัทมนเป็นอย่างมาก เพราะน้อยครั้งจนแทบนับได้ที่เธอจะเห็นผู้เป็นพ่ออยู่บ้าน และความแปลกใจก็เพิ่มมากขึ้นเมื่อเธอสังเกตเห็นว่ารอบตัวของทินกรไม่มีขวดเหล้าเหมือนทุกครั้งที่เธอเจอพ่อ

“วันนี้พ่อมาแปลก” เธอเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น

“แปลกตรงไหน” ทินกรร้องถาม

“พ่ออยู่บ้านและไม่มีขวดเหล้า” เธอบอก

ภาพพ่อของเธอนั่งดื่มเหล้าคนเดียวเงียบๆ เป็นภาพที่เห็นชินตามาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ปกติแล้วพ่อของเธอไม่ค่อยดื่มที่บ้านเท่าไหร่นัก เพราะเขามีกลุ่มก๊วนขาประจำ แล้วก็เป็นเพื่อนพ่อกลุ่มนี้เหมือนกันที่ทำให้พ่อของเธอไม่ค่อยกลับบ้าน และที่สิงสถิตก็คือวงไพ่ในบ้านของเพื่อนคนใดคนหนึ่ง

พ่อเธอติดการพนันและมักดื่มเหล้าทุกครั้งไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ และแม่ของเธอก็จะบ่นเป็นประจำ ทำให้บ้านหลังนี้ไม่ค่อยใช้เป็นสถานที่สิงของเพื่อนๆ พ่อ และทุกครั้งที่โดนบ่น โดนด่า พ่อก็จะหายออกจากบ้านไปประมาณสองวัน และเมื่อกลับมาอีกครั้ง ก็จะได้รับความห่วงใยจากแม่เสมอ

และแม้ว่าพ่อของเธอจะดื่มเหล้าและติดพนันแต่ก็ดีอย่างคือ เขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับภรรยาและลูกสาว แต่...ในข้อดีย่อมมีข้อเสีย เพราะเงินทุกบาทที่พ่อหามาได้ไม่เคยถึงมือภรรยาและลูกเลย ทุกอย่างหมดไปกับวงไพ่และการดื่มกิน แม่บ่นเรื่องนี้ประจำ เพราะต้องรับผิดชอบทั้งค่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟและค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับลูกสาว และสิ่งที่พ่อทำเป็นประจำก็คือการเงียบ และบางครั้งถ้าอารมณ์ดี เขาก็จะให้เงินนัทมนใช้
พ่อควรจะอยู่เป็นโสดมากกว่าแต่งงาน...นัทมนเคยคิดแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธออยากให้เป็นแบบนั้น เพราะเธอก็มีความสุขดีที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อและแม่ แม้ทั้งสองจะมีเรื่องทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวันแต่ท่านก็รักลูกสาวคนเดียวมาก

“พ่อจะอยู่บ้านและไม่กินเหล้าบ้างมันแปลกตรงไหนวะ หรือเอ็งอยากให้พ่อไปเล่นไพ่และกินเหล้า” ทินกรถาม

“ใครอยากให้พ่อเป็นแบบนั้นล่ะ ถ้าพ่อเป็นแบบนี้ได้ทุกวันก็คงจะดีเนอะ” ผู้เป็นลูกพูดแล้วหันไปพยักหน้าเพื่อให้นารี ผู้เป็นแม่สนับสนุน

“เงินหมดซะมากกว่า” นารีพูด

“แม่ก็” นัทมนรีบห้ามทัพ “วันนี้แม่ทำอะไรกินบ้าง นัทหิวมากๆ เลย”

“มีปลากะพงนิ่งบ๊วย ทอดมันปลากราย แล้วก็ผัดผัก ไปล้างมือล้างหน้าก่อนไป เดี๋ยวแม่จัดโต๊ะไว้รอ หิวหรือยังพ่อ” ท้ายประโยค นารีหันไปถามสามี ขณะที่นัทมนยิ้ม เพราะเมนูที่แม่พูดมา ล้วนเป็นของโปรดของผู้เป็นพ่อทั้งสิ้น
ครอบครัวเธอก็เป็นแบบนี้ แม้ไม่หวานใส่กันแต่ก็รักกันดี





หลังจากที่รับปากคุณพฤกษ์ว่าจะพาแฟนหลอกๆ มาแนะนำตัว วันรุ่งขึ้น พัชฏะก็แวะมาที่โชว์รูมของเพื่อนสนิทอีกครั้ง เมื่อคืนนี้เขาได้โทรคุยกับกฤติพงศ์แจ้งความต้องการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในตอนแรกเพื่อนก็แปลกใจไม่น้อยที่คุณปู่ของเขาคิดแบบนั้น แต่เมื่อนึกถึงรูปที่ตัวเองถ่ายและส่งให้เพื่อนแล้ว เขาก็ลดความแปลกใจลงและยอมรับว่าภาพที่เขาส่งให้นั้น แสดงถึงความสนิทสนมเกินกว่าคนที่เพิ่งรู้จักกันจริงๆ
ซึ่งเรื่องที่พัชฏะขอ กฤติพงศ์ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ เพราะเรื่องนี้เขาก็มีส่วนรับผิดชอบที่ทำให้พฤกษ์เข้าใจผิดแบบนั้น พร้อมทั้งบอกว่านัทมนเป็นเด็กดี ตั้งใจทำงานและเชื่อว่าเธอต้องให้ความร่วมมือกับเขาแน่นอน

เมื่อถึงเวลาเข้างาน นัทมนก็เดินทางมาถึง เธอเดินมาทำงาน เพราะบ้านห่างไปแค่สองซอยเท่านั้น ความจริง พัชฏะก็รู้ที่อยู่บ้านของเธอแล้ว แต่เลือกที่จะมารอที่โชว์รูม เพราะไม่อยากให้เธอตื่นตกใจเกินไป

เพราะขนาดเขามารอยังโชว์รูม เธอยังแสดงความแปลกใจเลย

“คุณเพชรมีอะไรกับฉันหรือคะ” เธอถามเมื่ออยู่ตามลำพัง เมื่อเช้า กฤติพงศ์เพียงแจ้งสั้นๆ ว่าพัชฏะมีธุระจะคุยด้วยแต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลย

“ผมมีข้อเสนอและอยากให้คุณช่วยสักหน่อย” เขาบอก ขณะที่นัทมนไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

“ผมอยากให้คุณไปที่บ้านของผมในฐานะคนรักเพื่อให้คุณปู่ของผมสบายใจ”

“ไปที่บ้านของคุณในฐานะคนรัก?” หญิงสาวทวนเพราะเกรงตัวเองจะฟังตกหล่น

“ใช่”

“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยคะ” เธอยังไม่เข้าใจ

“เมื่อวานนี้” พัชฏะเริ่มต้น “ผมเอารูปรถที่เพิ่งมาดูให้คุณปู่ดู หนึ่งในนั้นมีรูปของคุณด้วยและคุณปู่ของผมก็เข้าใจผิด คิดว่าผมพาแฟนมาเลือกรถ ท่านเลยอยากเจอคุณ” เขาสรุปง่ายๆ

“มันจะดีหรือคะ แบบนั้นเท่ากับหลอกท่านเลยนะคะ”

“จะเรียกว่าหลอกก็ได้ ถ้าสิ่งนั้นทำให้คุณปู่ของผมสบายใจ” ... และเขาก็จะได้รถหรูคันใหม่ล่าสุดมาครองด้วย พัชฏะไม่ได้บอกเหตุผลอย่างหลังกับเธอไป

“คุณปู่ของผมท่านอายุมากแล้วและอยากให้ผมมีแฟน แต่ผมยังรักอิสระอยู่ เมื่อวานตอนที่ผมมีท่าทีปฏิเสธท่านดูเศร้าและซึมลงไปมาก ผมไม่อยากทำให้คุณไม่สบายใจ คุณจะช่วยผมได้มั้ย” ท้ายประโยคเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน

“แต่...” นัทมนยังอึกอัก

“แค่วันเดียวเท่านั้น และงานนี้ผมมีค่าจ้างให้คุณด้วย หนึ่งหมื่นบาท คงไม่น้อยเกินไปใช่ไหม”

“ตกลงค่ะ” หญิงสาวรับปากอย่างเร็วรี่เหมือนกลัวเขาเปลี่ยนใจ เงินตั้งหมื่นบาท ใครไม่คว้าไว้ก็โง่เต็มทีแล้ว

“คุณจะให้ฉันไปเมื่อไหร่คะ ฉันจะได้ขออนุญาตคุณกันต์ไว้แต่เนิ่นๆ”

“เรื่องนี้ผมบอกเขาแล้ว และเขาก็ยินดีให้คุณลาหยุดเพื่อช่วยผม” เขาบอก “พรุ่งนี้ตอนเที่ยงผมจะมารับคุณที่นี่ แต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อยไว้นะ แต่ไม่ต้องถึงขนาดใส่สูท รองเท้าคัทชูหรอก แค่ให้ถูกกาลเทศะก็พอ” เขาทิ้งท้ายก่อนยื่นเงินให้เธอจำนวนหนึ่ง โดยบอกว่าเป็นเงินมัดจำล่วงหน้า





เที่ยงของวันถัดมา รถยนต์ของพัชฏะที่มีนัทมนนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถก็ขับเข้ามาภายในพื้นที่กว้างขวางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ หญิงสาวถึงกับตาโตด้วยความตื่นเต้น สวนของที่นี่เล็กกว่าสวนสาธารณะแค่นิดเดียวเท่านั้น ส่วนบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางพื้นที่นั้น เธอเดาว่าสามารถจุคนได้เกือบครึ่งร้อยทีเดียวและเชื่ออย่างสุดใจว่าขนาดของมันใหญ่กว่าอพาร์ตเม้นให้เช่าบางแห่งเสียอีก

พัชฏะมองอาการตาค้างของหญิงสาวหน้าหวานด้วยแววตายิ้มๆ วันนี้นัทมนแต่งกายได้สมวัยและเข้ากับเธออย่างไม่ต้องสงสัย เธอสวมเสื้อคอปกสีอ่อนและมีเสื้อแขนยาวบางๆ ทับอีกชั้นคู่กับกางเกงยีนทรงตรงสีเข้ม ไม่รัดรูปแต่ก็ไม่หลวมโคร่งเกินไป

“ชอบที่นี่มั้ย” เขาถามเมื่อนำรถเข้าจอดเรียบร้อยแล้ว และนั่นก็ทำให้นัทมนตาโตอีกครั้งเมื่อเห็นรถยนต์หลายคันจอดเรียงรายอยู่ แต่ละคันมูลค่าไม่ใช่น้อยๆ

“ชอบค่ะ ที่นี่ยังกับสวนสาธารณะและบรรยากาศก็เหมือนรีสอร์ทตามหุบเขา” เธอบอกตามความรู้สึกจริง

“แล้วอยากอยู่หรือเปล่าล่ะ ผมมีข้อเสนอให้คุณ ไม่รู้ว่าคุณจะสนใจมั้ย” เขาบอกแล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆ พร้อมมือที่เอื้อมมาพาดตัวเธอด้วย ทำเอานัทมนถึงกับขยับตัวชิดประตู

“ถึงที่นี่จะสวยและน่าอยู่แต่ฉันชอบและรักที่จะอยู่บ้านตัวเองค่ะ ช่วยเอามือออกไปด้วยค่ะ” เธอบอกและพยายามบังคับไม่ให้น้ำเสียงสั่นเกินไป

“คิดว่าผมจะทำอะไร” เขากระซิบถามยิ้มๆ เขาชอบจริงๆ เวลาที่เห็นดวงตาโตๆ กลมๆ ของเธอแสดงอาการตกใจ

“คุณเอื้อมมือมาพาดตัวฉันแบบนี้ คิดจะทำอะไรล่ะคะ” เธอถามกลับ

“ผมจะดูประตูว่ามันล็อกจากด้านในหรือเปล่า กลัวว่าถ้าจู่ๆ คุณเปิดประตูไม่ได้ เดี๋ยวคุณจะตกใจ” เขาบอกยิ้มๆ แล้วเอื้อมมือไปแตะประตู แต่ด้วยระยะที่ห่างพอสมควร ทำให้เขาต้องโน้มตัวมาใกล้เธอมากขึ้น และเมื่อเขาลองเปิดประตู ก็พบว่ามันเปิดไม่ออก

“เห็นมั้ยว่าเปิดไม่ได้ แบบนี้แสดงว่าต้องเปิดจากข้างนอก”

“ฉันเป็นเซลล์ขายรถ ทราบดีค่ะว่ามันคือระบบชิลด์ล็อกและรถรุ่นนี้ก็มีระบบนี้ที่ประตูหน้าด้วย” เธอบอกเสียงเรียบ

“ผมชอบลืมทุกทีว่าคุณขายรถ คิดว่าเป็นแค่คนรักของผมอย่างเดียวซะอีก” เขายังพูดยิ้มๆ และรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

“รีบไปกันดีกว่าค่ะคุณเพชร ป่านนี้คุณปู่ของคุณคงรอแย่แล้ว” หญิงสาวตัดบท

“ก็ได้ครับ ผมอยากแสดงเป็นแฟนของคุณเต็มทีแล้วเหมือนกัน” เขาบอกแล้วลงจากรถก่อนเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ หลังจากนั้นก็โอบเอวนัทมนเพื่อจะพาเข้าบ้านแต่หญิงสาวจับมือเขาไว้

“เพื่อความสมจริงไงครับ” เขาบอก ทำให้หญิงสาวลดมือตัวเองลงและยอมให้เขาโอบเอวด้วยความไม่เต็มใจ




ในบ้านหลังใหญ่ คุณพฤกษ์และลูกชายของเขานั่งรออยู่ในโถงรับแขกด้านข้างที่ใช้รับรองแขกแบบไม่เป็นทางการ บ้านหลังนี้มีส่วนรับแขกมากกว่าห้าจุด เพื่อให้เหมาะกับแขกแต่ละประเภทที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน

ชายชราวัยแปดสิบหรี่ตามองสาวเอวบางร่างน้อยใบหน้าหวานที่ถูกหลานชายของเขาโอบเอวอยู่

“เข้ามานั่งใกล้ๆ ปู่หน่อยสิลูก” ท่านพูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ยิ่งเห็นกิริยามารยาทของเธอแล้วด้วย ยิ่งทำให้เขาถูกใจมากขึ้น

“น่ารักเรียบร้อยจริงๆ ชื่ออะไรหรือหนู”

“นัทค่ะ”

“รู้จักกับตาเพชรมานานหรือยัง”

“ก็...” เธออึกอักและหันไปทางพัชฏะเพื่อให้เขาตอบ

“หลายเดือนแล้วครับคุณปู่ เราเป็นเพื่อนกันก่อน หลังจากนั้นจึงตกลงเป็นแฟนกัน นี่เพิ่งจะเป็นแฟนกันได้ไม่ถึงเดือนครับ” หลานชายให้ข้อมูล

“หนูมั่นใจในตัวเพชรหรือยัง” ชายชราถามต่อ

“ก็...คือ” เธออึกอักอีกครั้งและมองไปทางพัชฏะแต่เขาพยักหน้าให้ คล้ายให้เธอเป็นคนพูด “คุณเพชรเป็นคนดีค่ะ เราสองคนเข้ากันได้ดี หนูมั่นใจในตัวเขาค่ะ”

“ดีมาก ปู่รู้สึกถูกชะตากับหนูอย่างบอกไม่ถูก และอยากให้หนูคบกับตาเพชรไปนานๆ แล้วนี่วางแผนที่จะแต่งงานกันหรือยัง” คำถามของคุณพฤกษ์ทำเอานัทมนถึงกับสะดุ้งเช่นเดียวกับหลานชาย

“แต่งงานหรือคะ” เธออุทาน นี่มันนอกเหนือจากที่คุยกับเขาไว้นี่นา

“หนูกับเจ้าเพชรคบกันเป็นแฟนถ้ามั่นใจแล้วจะรออะไรอีก ปู่อยากให้หนูตบแต่งมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน หรือว่าจะมาอยู่ก่อนก็ได้นะ หาฤกษ์ได้เมื่อไหร่ก็ค่อยจัดงาน ปู่อยากอุ้มเหลนแล้ว”

“คะ! อุ้มเหลน” นัทมนอุทานอย่างตกใจอีกครั้ง

นี่มันเรื่องอะไรกัน แต่งงานงั้นเหรอ อุ้มเหลนงั้นเหรอ มันนอกเหนือจากที่คุยกันไว้แต่แรกนี่นา...นอกเหนือไปไกลทีเดียว




......................................


ตอนนี้แผนรักกำมะลอ มีให้อ่านในรูปแบบอีบุ๊กนะคะ โดยได้จัดเป็นเช็ตคู่กับอีกเรื่องคือ "แผนรักเสน่ห์ร้าย" สามารถติดตามได้ที่เมพค่ะ


 




โหลด -->> SET แผนรัก




Create Date : 23 สิงหาคม 2558
Last Update : 23 สิงหาคม 2558 17:34:15 น. 0 comments
Counter : 788 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com