Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Blog tag

ด้วยการดองเนื่องจากความขี้เกียจและเพราะหนีเที่ยว
ตอนนี้หมดคนแท็กต่อแล้วค่ะ
กรุณามองไปด้านขวามือของท่าน.. โดนขโมยไปหมดแล้ว
แง...

อาทิตย์ที่แล้วก่อนไปเที่ยวปายก็โดนพี่เอ๊ด aston27 แท็กมา
แต่ก็ชะล่าใจ ไม่คิดว่าผ่านไปหนึ่งอาทิตย์จะเป็นไรมากมาย
เมื่อวานพี่ฝ้าย sanonoi กับพี่แพ็ค patsypacky ก็มาแท็กเราซ้ำ
เราก็ยังวางใจว่าเหลือคนให้แท็กอยู่บ้าง.. แต่ไตร โคอาล่าจอมหิว ก็รีบเขียนอย่างรวดเร็วเพราะกลัวคนแท็กหมด
คราวนี้หมดเลยค่ะ หมดเกลี้ยง เหลืออยู่ไม่กี่คนที่ถ้าแท็กก็ดูมีความหวังริบหรี่มากว่าจะยอมเขียน..
เริ่มเลยดีกว่า..

ความแมน..
เพื่อนจำนวนมากของเรา มักจะบอกว่าเราชอบทำตัวแมน
โดยเฉพาะพวกเพื่อนสาว แล้วเราก็ไม่ค่อยชอบให้มันมาว่าอย่างนี้หรอก
จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้หรอกว่านิสัยนี้มาจากไหน
จนไปเข้าสัมมนาที่นึงมา เค้าให้แบ่งแย่ง หาที่มาของนิสัยต่างๆ ของตัวเอง
ก็เลยรู้.. ว่าไอ้นิสัยไม่ชอบให้ผู้ชายช่วยเหลือ ผู้หญิงต้องเท่ากับผู้ชาย เกลียดผู้หญิงง่อยๆ ของตัวเองนั้นมาจากไหน

เมื่อตอนอายุน้อย.. คงซักป.3 – ป.4
มีญาติฝ่ายพ่อเป็นลูกพี่ลูกน้องของเราชอบมาเล่นที่บ้าน เป็นผู้ชายทั้งสองคน
ด้วยความที่ว่าเราอายุห่างจากพี่สาวพี่ชายมากพอสมควร
ทำให้เกิด generation gap ไม่ค่อยได้เล่นกับพี่สาวพี่ชาย
พ่อหนุ่มสองคนนี้ก็อายุไล่เลี่ยกับพี่ๆ ปกติมันมาถึงมันก็เอาแต่เล่นกับพี่ๆ ของเรา
พอเราขอเข้าไปเล่นด้วย สองคนนั้นก็ตอบเรากลับมาว่า “ไม่เอา ไม่ให้ผู้หญิงเล่น”
ประโยชน์สั้นๆ แค่นี้แหละ สร้างนิสัยคนได้เลย
ถึงแม้เราจะตะขิดตะขวงใจนิดหน่อย เพราะว่าพี่สาวเราก็เป็นผู้หญิง
แต่หลังจากนั้นมา เราก็กลายเป็นคนใหม่
ไม่ยอมใส่กระโปรง ไม่ใส่เครื่องประดับ และคิดในใจอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าเป็นผู้ชายได้ก็คงดี
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเป็นเด็กที่แรดมาก ชอบใส่ชุดกระโปรงแบบเจ้าหญิง แล้วก็ชอบเล่นแต่งหน้าซะด้วย

นิสัยต่อมานั้น เราจึงเป็นคนที่ชอบทำอะไรเอง ของหนักมากก็ไม่ยอมให้เพื่อนถือ หรืออะไรประมาณนี้แหละ
พอโตขึ้นมาหน่อย มีเพื่อนเป็นผู้ชาย เราก็มักจะไม่รับความช่วยเหลือใดๆ
และมักจะเป็นเดือดเป็นร้อน โกรธเคืองเวลาที่มีใครมาพูดว่าผู้ชายทำอย่างนี้ได้ ผู้หญิงทำไม่ได้
กลายเป็นเฟมินิสต์เล็กๆ อยู่ในที (แต่ก็เกรี้ยวกราดพอควร)

เราไม่ชอบที่จะเห็น ผู้หญิงหลายๆ คนที่ทำตัวอ่อนแอ ดูน่าปกป้อง ทะนุถนอม
ถึงแม้ว่ารู้ทั้งรู้ ว่าถ้าทำแบบนั้น ผู้ชายมันจะชอบน่ะนะ เพราะผู้ชายได้แสดงความแมน ได้ปกป้องของที่เปราะบาง
แม้แต่เรื่องที่ผู้ชายถือกระเป๋าสะพายผู้หญิงให้แฟนเนี่ย เราเห็นแล้วยังจะอ้วกเลย
คิดแต่ว่าเพราะผู้หญิงอย่างนี้แหละ ที่ทำให้ผู้ชายมันดูถูกเราได้ ทำให้โลกนี้มันเป็นโลกของผู้ชายเสมอมา..

ทั้งนี้ทั้งนั้น ตอนนี้ก็อายุ 25 แล้ว เวลาผ่านไปพอสมควร ทำให้พอรู้และเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร
รู้ว่าเราก็ไม่ต่างจากผู้หญิงง่อยที่เราตัดสินเค้า.. เราก็ต้องการใครมาปกป้องตามธรรมชาติของผู้หญิงคนนึงน่ะแหละ
แต่มันก็ค่อนข้างยาก เพราะนิสัยนั้นมันกลายเป็นสันดานไปแล้ว
พฤติกรรมบางอย่างของเราจึงดูน่าสับสน และงงงวยในบางเวลา

..อย่างที่เห็นๆ กัน


อ้า.. จบหนึ่งข้อเอง ยาวจริงๆ
เดี๋ยวไว้มาต่ออีก 4 ข้อนะ
ตอนนี้ขอไปกินเหล้าเมายาก่อน คุคิ

ปล. เราไม่แท็กใครต่อละกัน (มันหมดเกลี้ยงแล้ว..)


Create Date : 16 มกราคม 2550
Last Update : 16 มกราคม 2550 18:58:23 น. 55 comments
Counter : 639 Pageviews.

 
ลูกคุณก็สันดานอย่างใกล้เคียงเลย อ่านเรื่องนี้ แล้วนึกถึงเจ้าเด็กคนนั้นจิงๆ คนที่เรารักและเป็นห่วงอ่ะ แต่ตอนนี้อยู่ห่างๆ ดีกว่า

เราเข้า bloggang.com แล้วเจอ blog อรุ update อันแรกพอดีเลย เราเลยต้องเข้ามาแจมคอมเม้น เพราะเราเป็นคนชอบแสดงความคิดเห็น อืม ได้หัวข้อ blog tag อันนึงแล้ว...

เราอยากบอกว่า เราเข้าใจอรุมาก เราว่าอรุก็คงเข้าใจเรา ไม่งั้นเราไม่ได้รับเกียรติให้เป็น bitchy role model

แต่ก่อนเราก็มีความเป็น feminine สูง เรารู้สึกว่าเราต้องไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร เราอยู่คนเดียวได้ แต่ตอนนี้เราค่อยๆ โอนอ่นผ่อนตามกลไกง่อยๆ อันนั้น แล้วก็คิดว่า จิงๆ แล้วมันไม่ได้ง่อยอย่างที่คิด คนเราเกิดมาเป็นสัตว์สังคมจริงๆ แล้วก็ต้องเรียนรู้การอยู่ในสังคม

เราโตกว่าอรุหน่อย ความคิดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หัว(ใจ)เริ่มอ่อน(ไหว) แต่สันดานเดิมๆก็ยังอยู่

ขึ้นชื่อว่าสันดานอ่ะนะ ยังไงก็ฝังแน่นอยู่วันยังค่ำ

ดีใจที่สันดานเราทำให้เราแข็งแกร่งจนได้เป็น Role Model

เลิ๊ฟยู มายเฟมินิสซิส


โดย: le petit panx IP: 203.147.55.35 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:19:27:50 น.  

 
แท็กมันต้อง 4 ข้อเหรอรุ


โดย: เจ้าบุ้ง! IP: 202.28.27.3 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:20:17:35 น.  

 
อืม..น่าติดตาม

-ผู้ชายถือกระเป๋าสะพายให้ผู้หญิงนี่แสดงออกถึงความแมนด้วยเรอะนี่!!


โดย: อุปกรณ์ประกอบฉาก วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:22:52:53 น.  

 
ผ่านไปหนึ่งข้อ อย่างยาวเลยอรุ
กว่าจะครบห้าข้อ อาจจะไปจบเอาเดือนสิงหาคมก็ได้ เพราะอรุชอบดองบล็อก
(อิอิ ไม่ ไม่ เดี๋ยวนี้อรุอัพบล็อกบ่อยขึ้นมากเลย)
เรื่องความแมนเนี่ย บางทีกะเทยหลายคนก็แมนกว่าผู้ชายนะ
อาจเพราะกะเทยมีความเป็นผู้หญิงมั้ง เค้าเลยให้เกียรติผู้หญิง
ผู้ชายแมนแท้ๆ ก็ง่อยกันมากมาย ลองดูตอนขึ้นรถเมล์สิ
หน้าโหดแข็งแรงกันทั้งนั้น แต่นั่งหลับไร้สติ ขณะที่ผู้หญิงยืนโหนรถต่องแต่ง
แต่น่าแปลก ที่พอถึงป้ายที่จะลง พี่แมนๆกลับตื่นลงป้ายได้อย่างแม่นยำ


โดย: ชาวไร่สตรอเบอร์รี่ IP: 124.120.186.217 วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:2:36:22 น.  

 
สำหรับชายบางคน การที่หญิงแสดงความเก่งกาจ อาจทำให้แค้นฝังลึก เวลาผ่านไปยาวนานยังจดจำ เจอมากับตัวเลยล่ะ


โดย: safety belt story IP: 58.147.126.49 วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:5:55:01 น.  

 
โอ้ววววว เจ๋งดีออก ผู้หญิงแมนๆ เท่จะตาย


โดย: strawberry machine gun วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:10:18:12 น.  

 
เด็กๆพี่ก็ชอบและคิดอะไรโง่ๆ ว่ะ
คาดว่าเพราะตอนนั้นยังเด็ก และยัง depend on ปัจจัยรอบข้างเยอะไป
เช่นเคยเกลียดสีชมพู เพราะเพื่อนๆเกลียดหาว่ามันเป็นสีแร่ดๆ
เพื่ออะไรวะเนี่ย



โดย: พี่แพ็ค IP: 203.156.44.241 วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:10:36:58 น.  

 
วันนี้นั่งเรือไปวังหลัง นั่งตรงข้ามนศ.ชาย-หญิงคู่นึง ผู้ชายถือกระเป๋าให้ผู้หญิง เป็นกระเป๋าเลดี้ๆใบเล็กกระจึ๋งนึงแต่ฝ่ายหญิงไม่มีแรงฮ่า ถือเองไม่ได้ She ได้แต่ทำหน้าบึ้งๆไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมา พอตอนลุกผู้ชายแม่งดันทำกระเป๋าตก สมน้ำหน้า กระเป๋างามๆเลอะหมดเลย


โดย: N o o n ไม่มีแควนแล้วอิจฉา IP: 210.246.160.4 วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:17:45:36 น.  

 
เห็นอรุเขียน tag ยาวๆแล้วรู้สึกดี ชอบอะไรได้อ่านเยอะๆ (ชอบเรื่องชาวบ้าน) ภาคแรกเราเขียนยาว พอเว้นวรรคทางการเมืองเลยได้มีโอกาสเห็นบล็อกเพื่อนๆ เขียนกันสั้นๆทั้งนั้นเลย แต่เออ...ภาค 2 ก็จบไปแล้วจะพูดไปให้ได้อะไรขึ้นมา


โดย: N o o n IP: 210.246.160.4 วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:17:50:23 น.  

 
พี่กำลังคิดว่า จะหาแตงกวามาฝากไว้ในบล็อคของอรุ
อรุก็มาอัพพอดี..

ถ้าเอาทิ้งไว้ตั้งแต่บล็อคที่แล้ว คงได้กินแตงกวาดองพอดี ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่ไม่รู้ว่า ตัวจริงของอรุ จะดูห้าว ดูแมนขนาดไหน อย่างที่อรุบรรยายไว้ไหม

แต่พี่รู้สึกได้ว่า.. อรุเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยน อ่อนไหว

ที่สำคัญ เป็นหลานรหัส ที่คิดมาก


โดย: aston27 วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:0:36:59 น.  

 
ตกลงตา-หลานคู่นี้สายรหัสเดียวกันหรอคะ
รหัสอะไรจะเอาไปซื้อหวย


โดย: Thebrightestsunisthepurestgun วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:22:13:58 น.  

 
เข้าใจนิยาม "ความแมน" ของอรุนะ
ตั้งแต่เด็ก พี่คิดมาตลอดเลยอ่ะ ว่าแม่แมนกว่าพ่อ


โดย: King Of Pain วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:0:49:44 น.  

 
ตอนนี้ต้องฝากชีวิตกับคอมคนอื่นค่ะ
ชีวิตผูกพันกับคอมพิวเตอร์มากเกินไป
พอขาดมันเข้าหน่อยก็แทบปางตาย
แย่กว่าอกหักโดนแฟนทิ้งอีกค่ะ (ล้อเล่น)

*พี่แป้ง จริงๆ เราว่าก็เหมือนกันทั้งสามคนป่าวพี่แป้ง?
แต่เป็นคนพันธุ์เดียวกันแบบคนละยุค
ลูกสาวเราเป็นยุคต้น เรายุคกลาง พี่แป้งยุคปลาย
ต่อไปเราและลูกสาวก็จะรู้ว่าไม่มีอะไรแพ้กฎธรรมชาติ?
เราไม่สามารถแบกโลกนี้ไว้คนเดียวได้หรอกเนาะ

*เจ้าบุ้ง 5 เฟ่ย

*พวง ป่าว เรื่องผู้ชายถือกระเป๋าสะพายให้ผู้หญิงอันนั้นมันอยู่ในประเด็นผู้หญิงง่อยต่างหาก

*พี่ตู่ แล้วพี่ตู่เป็นหนุ่มประเภทไหนคะ?

*คุณ safety belt story ไม่แปลกค่ะ ผู้ชายมักชอบความเหนือเสมอ

*คุณปืนกลฯ หญิงแมนแท้ๆ หายากค่ะ บอกแล้วว่าสุดท้ายก็อ่อนปวกเปียกกันทั้งนั้น
เค้าเรียกว่าสวมหน้ากากคนละแบบ

*พี่แพ็ค ใช่เลย เมื่อก่อนโคตรจะเกลียดสีชมพู
รำคาญเพื่อนที่ชอบกรี๊ดวี๊ดว๊ายหนวกหู
แต่ตอนนี้เรานี่แหละแรดที่สุด

*นุ่น นังตัวอิจฉา!!

*พี่เอ๊ด ดีค่ะ เราชอบกินแตงกวาดอง ต้องกินกับเบอร์เกอร์นะ จ๊าบมาก
จริงๆ เราก็ไม่ได้แมนแบบทอมไรงั้นนะคะพี่
พูดไม่ถูกอ่ะ ก็เป็นแนวแบบที่อธิบายข้างบนน่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ
เราเป็นหลานรหัสพี่เอ๊ดหรอคะ? ไม่ใช่โหลนหรอคะ?

*พี่ขาม ขอบคุณที่เข้าใจค่ะ

ขออนุญาตทำงานก่อน ถ้าไม่ขี้เกียจจะรีบต่อข้อ 2 3 4 และ 5
แฟเวล


โดย: อะเระ IP: 58.9.29.53 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:3:03:35 น.  

 
โอ้ อะเระตอบบล็อกยาวเชียว

ถ้าเจอพี่ต้อมออนอย่าลืมเอาเรื่องคลิปฉาวมาขู่ จงมารับ tag ซะดีๆ


โดย: น.นังตัวอิจฉา IP: 125.25.142.183 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:11:32:35 น.  

 
เรื่อง BG อรุก็พยายามข่มใจมองให้เป็นสีเขียว
เอ๊ะ...จริงๆชอบที่มันเป็นสิบโทใช่ไหมล่า


โดย: สิบโทหญิง IP: 125.25.142.183 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:11:36:02 น.  

 
วันศุกร์แสนเศร้า..
อยู่บ้านพร้อมน้ำมูกเต็มจมูก เจ็บคอสุดๆ และกระเป๋าก็แห้งมาก

แต่ก็ดีนะ.. พักผ่อนซะบ้าง
ว่างๆ อย่างนี้เลยมาต่อข้อสองสามสี่ห้าดีกว่า..
(ขออนุญาตต่อในส่วนของคอมเมนท์ตามประสาคนขี้เกียจนะจ๊ะ)

ตาเหล่ จมูกเบี้ยว
ไม่รู้เหมือนกันว่าจะประจานตัวเองทำไม
แต่จริงๆ แล้วเราเป็นคนตาเหล่ และรูจมูกไม่เท่ากัน
ตอนเด็กๆ ตาเหล่กว่านี้อีก เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว
แต่คุณพ่อที่น่ารักของเราก็กลัวลูกสาวไม่สวย (ยังกะตาตรงๆ แล้วมันจะสวยงั้นแหละ)
พ่อของเราก็เลยพาเราไปปรึกษาคุณหมอ (อันนี้พ่อเล่านะ จำไม่ได้หรอกเพราะเด็กมาก)
หลังจากนั้นเท่าที่จำความได้ก็คือ พ่อจะคอยยกมือข้างซ้ายข้างขวาให้เรามองตาม
ให้เราเหล่นิ้วของพ่อแบบสุดตา
คุณหมอบอกว่าเป็นการบริหารกล้ามเนื้อตาให้พังผืดมันยืดหยุ่นหรืออะไรนี่แหละ
ปัจจุบันนี้ยังเขๆ อยู่นิดหน่อย
แต่ก็ยังมีปัญหาทางจิตที่ว่า ถ้าเห็นคนตาเหล่จะปวดหัว
หรือว่าถ้าเพื่อนแกล้งทำตาเหล่ก็จะปวดหัว แบบไม่กล้ามอง
มีความรู้สึกว่าเราจะตาเหล่ตามไปด้วย
โถ.. รันทดจริงๆ

ส่วนเรื่องรูจมูกไม่เท่ากันนี่.. เนื่องจากนิสัยซกมกของเราเอง
(ขอโทษที่รวมสองเรื่องในเรื่องเดียว แต่ถือว่าเป็นหัวข้อปมด้อยละกันนะ)
ตอนเด็กๆ ชอบแคะจมูกมากค่ะ
แคะ แคะ แคะ แคะ แคะ
แม่ก็ว่าว่าเดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวจมูกไม่เท่ากัน
ตอนเด็กๆ ก็ไม่แคร์หรอก จะแคะ แล้วจะทำไม
แถมแคะอยู่ข้างเดียว
ผลออกมามันก็เลยใหญ่ข้างเดียว
โตขึ้นมาหน่อยก็เขินนะ ที่มันไม่เท่ากัน
แต่ตอนนี้ชักจะเฉยๆ แล้วเพราะเห็นในทีวี ดาราหลายคนก็จมูกไม่เท่ากัน
อีกอย่าง แม่เราก็จมูกไม่เท่ากัน
เราว่าจริงๆ แล้วเป็นกรรมพันธุ์มากกว่า ไม่ใช่เพราะเราแคะเคอะอะไรหรอก
(แต่ว่าตอนนี้ว่างๆ ก็จะเอามือบีบจมูกตลอดเลยนะ หวังว่าซักวันมันจะเท่าๆ กันขึ้นมาบ้าง )

จบข้อสอง ขอคิดข้อสามก่อน


โดย: อะเระ IP: 203.118.106.121 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:23:07:53 น.  

 
ขอคั่นด้วยบล็อกพี่คุ่น
ดูสิ พี่คุ่นเค้ายังโดนบล็อกแท็กเลย
เราชอบพี่คุ่นเขียนหนังสืออ่ะ
เมื่อก่อนอ่าน แต่ไม่ชอบเค้า
เพราะว่าหมั่นไส้เค้านิดหน่อย
แต่พอได้อ่านกระทบไหล่เขาแล้วตกหลุมรักเลย
ตอนนี้ก็เลยชอบโดยไม่มีมีการแฝงความหมั่นไส้
แต่ก็ไม่ได้ชอบกรี๊ดวี๊ดว๊ายแบบที่ชอบเจมณฑลนะ

ลิงค์แบบไม่ได้ใส่ลิงค์เพราะจำโค้ดไม่ได้
//typhoonkoon.wordpress.com/2007/01/09/tag-victim/

ปล. นี่คือเรื่องเล่า ยังไม่ใช่ข้อที่สาม


โดย: อะเระ อะโระ IP: 203.118.106.121 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:23:16:34 น.  

 
เย้ !!!
ได้เมนต์ข้อ 2 คนแรก

ทำไมพี่ไม่สังเกตเรื่องรูจมูกไม่เท่ากัน กับตาเหล่อ่ะ
จริงเหรอ
จะว่าไปพี่ก็จมูกเบี้ยวล่ะ แหะๆ

ปล. เคยอ่านหนังสืออะไรไม่รู้ รีดเดอร์ไดเจสต์มั้ง
เค้าบอกว่าหาคนที่หน้าสองด้าน ซ้ายขวา สมดุลกันนี่หายาก
แต่มีการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญแล้วพบว่าดาราชายที่หน้าตาสมดุลที่สุด หมายถึงถ้าวัดจากกึ่งกลางจมูก ทุกส่วนของใบหน้าด้านซ้ายด้านขวา เท่ากันเป๊ะ คนๆ นั้นก็คือ เดนเซล วอชิงตัน


โดย: King Of Pain วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:23:28:17 น.  

 
นึกออกละ
ต่อเรื่องทุเรศๆ อีกเรื่องละกัน

ยัยขี้มูก
ตอนเด็กๆ ขี้เซามาก (โตมาก็ยังขี้เซาอยู่)
ตอนเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่ทรมาณมากๆๆๆๆๆ
ไม่ว่าจะใช้วิธีใดๆ ก็ตาม เราจะไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงมาทำกิจกรรมตอนเช้าที่ควรจะทำได้เลย
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องแปรงฟันบนเตียง โดยมีกาละมังรอง
แปรงฟันเสร็จพี่เลี้ยงก็จะอุ้มไปอาบน้ำแต่งตัวให้ทั้งๆ ที่เราหลับๆ อย่างนั้นแหละ
ระหว่างที่นั่งในรถ ก็จะกินข้าวในรถแบบสะลืมสะลือ
อมข้าวด้วย เพราะไม่เคี้ยว หลับ.. (ตอนเด็กๆ ผอมมาก อาจจะไม่เชื่อกัน)
พอถึงโรงเรียนอนุบาลหมีน้อย ก็จะถึงไฮไลท์ของเรื่อง
คนขับรถก็จะพยายามปลุกเราเพื่อลงไปเรียน
แต่ยัยคนนี้ก็ไม่ยอม จะนอนอยู่ได้ พอต้องลงไปจากรถก็อาละวาดๆๆๆๆๆๆๆๆ
(อ่านกันก็คิดว่าเราเป็นคุณหนูอีกล่ะสิ มีคนขับรถด้วย ..ป่าวนะ)

เมื่อถึงที่สุด.. ไม่รู้จะแก้ไขด้วยวิธีไหนให้สาสมใจ
ตอนนั้นแค้นอาแปะคนขับรถมาก จึงกระทำการแคะขี้มูก!!
ใช่.. แคะขี้มูกอีกแล้ว มาป้ายอาแปะคนขับรถซะเลย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ทุเรศป่าว?
อันนี้ก็จำไม่ค่อยได้อีกเหมือนกัน แต่อาแปะคนขับรถเค้าเล่าให้ฟังตอนโตแล้ว
เราก็พอจำได้ลางๆ แล้วเค้าก็บอกว่าไม่ใช่ครั้งสองครั้ง
แต่ป้ายขี้มูกอาแปะเป็นประจำจนเรียนจบอนุบาล

...ตอนนี้อาแปะคนนี้เสียชีวิตไปแล้ว
เค้าอาจจะสาปแช่งให้เราจมูกไม่เท่ากันอย่างนี้ก็เป็นได้


โดย: อะเระ สาวโสโครก IP: 203.118.106.121 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:23:29:37 น.  

 
ปล. (อีกที) อรุไม่สบายเหรอ หายไวๆ


โดย: King Of Pain วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:23:30:21 น.  

 
อ้า.. พี่ขามอัพทูเดทจริงๆ
เป็นมาตั้งแต่วันพุธ มีแต่แย่ลงๆ อ่ะพี่
ฮือ..


โดย: เระ IP: 203.118.106.121 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:23:32:50 น.  

 
เอ่อ... ได้อ่านข้อสามแล้วด้วย

ขำอ่ะ


โดย: King Of Pain วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:23:33:10 น.  

 
มาพูดเรื่องดูดีของเรามั่งดีกว่า
(ไม่รู้ว่าตอนจบคนอื่นจะมองว่าดูดีหรือโง่นะเนี่ย)

อืม... ตอนนั้นเรียนอยู่มหาลัย ไม่แน่ใจว่าปีสามหรือปีสี่
เวลาบ่ายแก่ๆ ชีวิตสวยงามวัยรุ่น..
คุ้นๆ ว่าบ่ายวันนั้นอาสาเพื่อนๆ ที่คณะไปซื้อฟิล์มทังสเตนมาเพื่อใช้ถ่ายงานส่งอาจารย์
พอจอดรถเสร็จก็เดินเข้ามหาลัยทางประตูสนามหลวง
เข้ามาทางฝั่งคณะสังคมสงเคราะห์
เดินๆๆๆๆ มาจนถึงหน้าโรงอาหารสังคมสงเคราะห์
ก็เจอน้ากึ่งลุงคนนึง อายุน่าจะประมาณสี่สิบกว่าๆ

เค้าถามเราว่า "ศาลายาไปทางไหน"
เราเง็งๆ แต่ก็ตอบไปว่า อ๋อ ทางนั้นค่ะ พร้อมชี้ทางไปทางฝั่งสะพานปิ่นเกล้า
แล้วตาคนนั้นก็พูดจาประมาณว่าจะเดินไปหรืออะไรซักอย่าง จำไม่ได้
ตอนนั้นเรางง ว่าจะเดินจากท่าพระจันทร์ไปศาลายา?!?!?!
เราก็เลยบอกเค้าว่า เดินไม่ไหวหรอกมั๊งคะ มันไกลมากเลยนะ
เค้าตอบว่า ก็คนมันกระเป๋าตังค์หายน่ะ เข้าใจมั๊ย
เราเลยหยิบตังค์ให้เค้ายี่สิบบาท บอกว่า งั้นเอานี่ไปค่ะ เป็นค่ารถ
เค้าไม่รับ.. พร้อมตอบว่า เห็นเค้าเป็นขอทานหรอไง ไม่เอา
แล้วเค้าก็เดินต่อไปเราเลยบอกว่า พอดีจะเดินไปทางนั้น เดินไปด้วยกันก็ได้
ระหว่างทาง เราบังเอิญเจอเพื่อน เลยหยุดคุยนิดหน่อย
คุณลุงคนนั้นก็ไม่รอ เดินไปเลย

พอเราคุยกับเพื่อนเสร็จ เราก็เลยวิ่งตามเค้าไปอีกที
แล้วก็ยัดเงินยี่สิบบาทให้เค้าอีกที บอกว่าเอาไปเถอะ เดินไม่ไหวจริงๆ หรอกนะ ศาลายา
เค้าเลยบอกว่า เอางี๊ ถ้าจะช่วย มานั่งคุยเป็นเพื่อนหน่อยดีกว่า เค้าเดินมาทั้งวันแล้ว เมื่อยมาก

เราก็เลยไปนั่งตรงลานปรีดีกัน..
พอถึง คุณลุงก็เริ่มพร่ำพรรณนาถึงที่มาของการกระเป๋าตังค์หาย
เหตุผลที่เค้าจะต้องไปศาลายาคือไปเป็นอาจารย์สอนอะไรซักอย่าง
แล้วเค้าก็บอกว่าเค้านามสกุล ตู้จินดา
ถามว่าเรารู้จักมั๊ย
แน่นอน... ไม่รู้จัก
เค้าบอกว่าเป็นตระกูลหมอดั้งเดิมบ้าบอคอแตก
เราก็อืมๆ ฟังๆ
นั่งคุยกับเค้าประมาณชั่วโมงกว่า
เพื่อนโทรมาตามตั้งหลายรอบ เพราะจะเอาฟิล์ม
เราก็ยังฟังด้วยสมาธิจดจ่อต่อไป

สุดท้าย เค้าบอกว่าเค้าต้องรีบกลับขอนแก่นเพื่อไปสอบอะไรซักอย่าง
ถ้าเค้าสอบได้เค้าก็จะสามารถช่วยเหลือคนมากมาย

สรุปง่ายๆ คือเค้าจะเอาตังค์จากเรา
ตอนนั้นในตัวมีตังค์อยู่สองร้อยกว่าบาทมั๊ง
เค้าบอกไม่พอ ไม่ทัน เค้าต้องนั่งเครื่องบิน
เราก็ลังเล แต่สุดท้ายก็เดินออกไปท่าพระจันทร์
กดเงินให้ชายหนุ่มผู้นั้นสี่พันบาทถ้วน!!
ที่กดให้สี่พันเพราะว่าในธนาคารมีอยู่แค่นั้น
สรุปก็คือว่ากดหมดธนาคาร เทกระเป๋าเลย
สิ้นเดือนก็กินแกลบตามระเบียบ

พอกลับไปเจอเพื่อนๆ เล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อนๆ ก็ช็อคมาก
และต่างลงความเห็นว่าเราโดนป้ายยาแน่นอน
แต่เราขอเถียงว่าไม่ใช่หรอก เรามีสติตลอดเวลา
และที่เรากดให้ก็เพราะเรามีเหตุผลส่วนตัว
ซึ่งจะเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้

1. คุณลุงคนนี้ไม่รับเงินเราตั้งแต่แรก และพร้อมจะเดินจากไปอย่างไม่รั้งรอ
(จริงๆ จะรีบไปหาเหยื่อคนใหม่แหงเลย)
2. ตอนที่ไปนั่งคุยกับเค้า เค้าเปิดขาให้ดูว่าขาปูดเพราะเดินทั้งวัน
และเราสังเกตเห็นปากเค้าว่าแห้งมาก น้ำลายก็แห้งเหมือนไม่ได้กินน้ำมาทั้งวัน
3. ระหว่างที่เค้าใช้จิตวิทยาเกลี้ยกล่อมเราเพื่อขอเงินนั้น
เค้าพูดว่าเราเรียนเอกอะไร พอบอกว่าเอกฟิล์ม
เค้าก็พูดถึงกล้องนิคคอน และสามารถพูดชื่อรุ่นได้อย่างถูกต้อง
มันก็ดูน่าเชื่อเนาะ.. ถึงแม้เราจะรู้ว่าที่เค้าพูดๆ นั่นก็เพื่อเกลี้ยกล่อมเราแหละ
4. เรารู้ ว่าเค้าอาจจะไม่ได้เป็นหมออะไรบ้าบอนั่นจริงๆ แหละ
แต่เราก็วัดดวง ว่าถ้าเค้าพูดความจริง เราก็ได้ช่วยเหลือเค้า และเงินสี่พันเราก็ไม่ตาย
แต่ถ้าเราถูกหลอก มันก็จะเป็นการซื้อประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต
ก็เลยตัดสินใจกดเงินให้เค้าไป

ลุงคนนี้เค้าพูดว่า "ขอยืมเงิน" และจะรีบคืนเมื่อถึงขอนแก่น
แต่ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าไร ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา...


สรุปว่าโง่ค่ะ ไม่ใช่คนดี


โดย: อะเระ IP: 203.118.106.121 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:0:05:56 น.  

 
อ๊ะ ลืมตั้งชื่อเรื่องที่สี่
ให้ชื่อว่า "คนควาย" ละกัน

ขอจบแค่สี่เรื่อง เพราะนึกไม่ออกละ
ไว้นึกออกจะมาต่อใหม่


โดย: อะเระเหน็ดเหนื่อย IP: 203.118.106.121 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:0:12:00 น.  

 
โอ้ อัพแล้ว อ่านๆ


โดย: N o o n IP: 125.25.143.181 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:0:15:37 น.  

 
หยิกกระัจกมาส่องรูจมูกปรากฏว่าเท่ากัน แต่ตาเราโตไม่เท่ากันอยู่แล้ว มีข้างนึงหรี่ลงมาแต่ไม่ถึงขั้นธอม ยอร์ก ขวัญใจอรุ

ส่วนปราบดา หยุ่นก็หมั่นไส้เหมือนกัน (ถึงบอกหมั่นไส้คนง่าย) แต่ยังไม่เคยอ่านงานเค้าเต็มๆนอกจากที่เขียนลงใน OPEN ตอนแรกๆ เลยไม่รู้ว่าจะชอบรึเปล่า นักเขียนไทยเราชอบคุณมุกหอม วงษ์เทศ ส่วนนักเขียนตปท.ที่ชอบไม่มีอ่ะ เพราะไม่ได้อ่าน

เรื่อง "คนควาย"...เราเคยเจอที่ท่าช้าง มีคนมาถามว่าจะไปบางแคได้ยังไง เรา็ก็บอกไม่้รู้ ลองไปถามที่ป้ายรถเมล์ดู แล้วเค้าก็ขอตังค์ เราเห็นโทรมๆเนือยๆเลยให้ไปยี่สิบ สักพักไม่รู้นึกไงซื้อน้ำเปล่ากลับไปให้อีก 2 ขวด วันต่อมาเห็นเค้ายังเร่ร่้อนอยู่ที่เดิมเลยถึงบางอ้อ

หลังจากนั้นเคยเจอรายอื่นที่ท่าพระจันทร์ ีมาสไตล์คล้ายๆกันแล้วขอยี่สิบ แต่รายนี้พอเราบอกไม่ให้็แกดันสวนกลับเสียงดังว่า "ใจร้าย" อายโคตรๆๆๆ

อรุเขียน tag มากกก ถ้า tag อีกรอบจะเขียนเบิ้ลเป็น 10 ข้อป่าว



โดย: N o o n IP: 125.25.143.181 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:0:50:06 น.  

 
ไม่เคยแคะขี้มูกป้ายคนอื่นเลยอ่ะ คงรู้สึกแปลกๆดี (ใครอยากลองบ้าง!?) สงสารอาแปะคนนั้นจัง

ตอนประถมมีเพื่อนคนนึง เป็นผู้ชายตัวผอมๆผมหยักศกชื่อเอก เป็นลูกอาจารย์ ตอนแรกเค้าปกติดีิแต่ได้ยินว่าไปตกบันไดเลยออกเพี้ยนๆ เค้าเก่งเลข เก่งวิทย์ แถมความรู้รอบตัวดีมาก แต่สื่อสารกับคนอื่นไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ตอนเช้าก่อนเข้าแถว+ตอนพักกลางวันจะพบเค้าได้ที่ห้องสมุดมุมหนังสือวิทยาศาสตร์ ...เ่อ่อ ชักไปไกลแระ...คือ เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ ทุกคนก็จะยืนตรงร้องเพลงกันใช่ป่ะ แต่เอกเนี่ยจะนั่งยองๆ แคะขี้มูกแล้วเอาป้ายรางน้ำ

เล่าตั้งยาวเกี่ยวแค่นี้แหละ

หายเร็วๆนะอรุ
รักษาตัว
งดเที่ยว


โดย: N o o n IP: 125.25.143.181 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:1:07:54 น.  

 
พิมพ์ตก
* อรุเขียน tag มันส์มากกก

เพิ่งกินโยเกิร์ตล้วต่อด้วยก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
ไม่รู้จะท้องsiaป่าว


โดย: N o o n IP: 125.25.143.181 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:1:15:49 น.  

 
บ็อกแท็กสุดยอด เขียนได้มันมากๆให้สี่ดาวเลย


โดย: อุปกรณ์ประกอบฉาก IP: 125.27.118.97 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:15:30:48 น.  

 
วันนี้ถ่อสังขารออกไปเที่ยว
........แทบตาย
เพิ่งรู้ว่ามีงานบอลจุฬา ธรรมศาสตร์วันนี้
คนแก่งแย่งชิงดีกันในการเต้นแด่วๆ ในที่แคบๆ มาก
เราเข้าไปแป๊บนึง ทนไม่ไหว ต้องรีบออกมาหาก๋วยเตี๋ยวกิน (เกี่ยวป่าวง่ะ? )

ปกติไม่ได้ไปเที่ยวแบบนี้หรอกนะ
แล้วทำไมเราถึงเลือกวันไปที่แบบนี้ได้แย่จริงๆ


โอย.. เจ็บคอ คอจะแตกแล้ว เราเป็นวัณโรคแน่ๆ ช่วยด้วย !!!!

ปล. ขอบคุณที่ชมว่ามันส์ แน่นอนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องเล่าของคนวัยมันส์


โดย: อะเระจัง IP: 203.118.110.48 วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:2:20:26 น.  

 
วัยมันส์

เมื่อวานกะไปห้องสมุดจุฬา ดีที่ไม่ได้ไป

เราขอ add Last.fm ไปนะ ใช้ชื่อ Jigchow


โดย: Thebrightestsunisthepurestgun วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:13:12:50 น.  

 
อรุไปร้านไหน
เมื่อคืนพี่ก็ไป อิอิ กลับไม่ดึกมาก
แต่เมาอ่ะ

พึ่งให้เงินผู้ชายคนนึงไปสามร้อยบาท เมื่อไม่นานมานี้
เป็นค่าตั๋วรถไฟกลับบ้าน
คือ นั่งกินเบอร์เกอร์อยู่ในมหา'ลัย
แล้วเค้าเข้ามาถามเวลาว่ากี่โมง พี่ก็บอกไป
เค้าบอกดีจัง ที่พี่ยอมคุยกับเขา เพราะคนอื่นไม่ยอมคุย
คุยไปคุยมา เค้าบอกเป็นหมอดู และดูดวงให้
ดูลายมือ ดูโหงวเฮ้ง
รู้สึกว่าแม่นดี... ก็เลยถือว่า 300 บาท เป็นค่าดูดวงด้วย
แต่สี่พันนี่เยอะไปอ่ะ


โดย: พี่ขาม IP: 58.9.139.190 วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:15:45:21 น.  

 
ตามมาจากบล๊อก 1204 นุ่นโนโนะ
สวัสดีครับ ชาวเพโคปองสาว สุดแมน
...
คล้าย ท่านนัทสึมิ ไหมนี่ขอรับ


โดย: แร้ไฟ วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:17:37:07 น.  

 
มาอ่านใหม่ ตกก๊ะใจ แอบซ่อน Tag ไว้ที่เม้นต์นี่เอง

เรื่องขี้มูกกับรูจมูกไม่เท่ากันนี่เฉยๆ นะ (ว่าแต่อย่างนี้ก็ดูบางรักซอยเก้าไม่ได้ดิ) แต่เรื่องคนควายนี่อย่างอึ้ง คืออึ้งที่ว่านั่งคุยกับคนไม่รู้จักได้เป็นชั่วโมงเชียวหรือ แถมให้เงินอีกตั้ง 4000 ถือว่าเป็นคนกล้าลงทุนซื้อประสบการณ์มากๆ แนวที่สุดในจักรวาล

ล่าสุด ผมลอง search googel หาคำว่า ตู้จินดา (ต่อมเสือกทำงาน) อรุลองไปหาดูเอาเองละกันนะ แต่ผมเดาเอาว่าสี่พันนั่นเป็นค่าประสบการณ์ไปแล้วแน่ๆ

ปล.เคยนั่งรถไปรังสิตหลังพี่คุ่นด้วยอ่ะ แบบว่าพี่คุ่นมีสิวขึ้นที่หัวด้วย


โดย: strawberry machine gun วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:11:16:03 น.  

 
เคยคิดหมั่นไส้ คุ่น (อ่ะ ทำเรียกแบบหนิดหนม หุหุ) เมื่อนานมาแล้ว ก่อนจะอ่านงานของเค้า แต่พอได้อ่าน "ความน่าจะเป็น" ก็ตกหลุมรักศัตรูั้เลยอ่ะ เขินจัง

สมัยเด็ก เคยเก๊กแมน ๆ เพื่อปกป้องอาณาเขตตัวเอง หรือบางครั้งเวลาต้องเดินผ่านแก๊งผู้ชายเยอะ ๆ แล้วก็โดนแซว ก็จะเกีกแมน 555 บ้าป่าววะ

เคยคิดเรื่องแฟมินิสต์ เคยโต้เถียง วิเคราะห์วิจารณ์กับเพื่อน ๆ แล้วพบว่า อะไรที่มันสุดโต่ง แบบพวกผู้หญิงที่พยายามเรียกร้องความเท่าเทียมแบบบ๊อง ๆ ประเภท เดี๊๊ยนทำได้ทุกอย่างเหมือนผู้ชาย แม้แต่ยืนฉี่ หรือรู้สึกโกรธถ้าผู้ชายเปิดประตูให้ตามมารยาท เป็นแบบที่เรารู้สึกกลัว ไม่ชอบ เรามองว่า เฮ้ย ความเท่าเทียมมันอยู่ข้างในว่ะ มันอยู่ที่ความคิด บางอย่างเราทำเองได้ยากหรือไม่ได้ เพราะอุปสรรคด้านกายภาพ ก็ต้องให้ผู้ชายทำอ่ะ และเรื่องความเท่าเทียมก็เปนคนละเรื่องกะความเป็นสุภาพบุรุษด้วยเนอะ
เราบอกตรง ๆ ว่า ทุกวันนี้เราเห็นผู้ชายที่มีค่านิยมความคิดเหยียดเพศ เยอะมาก เกี่ยวกับการศึกษาเลยนะ บางคนเรียนสูงเชียะ แม้แต่เพื่อนเราบางคน ก็เป็น มันจะหลบ ๆ อยู่ลึก ๆ ตามหลืบในใจ พอเผลอก็จะออกมาในคำพูด ที่จะสะดุดหูเรา ทำให้เรามองเพื่อนแปลกไป

เขียนไรยาวฟะนี่


โดย: กิโระ IP: 124.121.37.187 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:18:09:39 น.  

 
ขอแก้นิดนึง "ไม่เกี่ยวกับการศึกษา" น่ะ เรามองว่ามันเกี่ยวกับการเลี้ยงดู แล้วก็ค่านิยมของสังคม พูดแล้วก็เบื่อ แม้แต่ในแวดวงวิชาการ อาจารย์มหาลัียนี่ บางคนก็โคดจะเหยียดเพศว่ะ และบางคนก้อเฟมินิสต์สุดโต่ง เดินสายกลางดีสุดแล้วน้อง จำไว้ว่าเดินไปกลาง ๆ ก็จะปรับได้ง่าย จะไปซ้ายไปขวาแต่อย่าไปจนสุดโต่ง อ่อ แต่่ขับรถอย่าคร่อมเลนละกัน


โดย: ฝ้าย IP: 124.121.37.187 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:18:15:12 น.  

 
เบื่อเนททรูว๊อยยยยยยยยยย

แค่นี้แหละ


โดย: อะเระ IP: 58.9.31.159 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:22:02:55 น.  

 


โดย: อยากดูจัด IP: 58.9.31.159 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:0:02:16 น.  

 


เราดูในเว็บไม่ได้ แต่เอามาโพสท์ที่อื่นแล้วดูได้
เลยขอลงในนี้ละกัน


โดย: ใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ IP: 58.9.31.159 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:0:20:18 น.  

 
เน็ท ToT บางทีก็น้ำตาตกใน

อยากดูฮาร์ดเกย์จัดเลยนะเนี่ย อิอิ
หายเร็วๆเน่อ


โดย: Thebrightestsunisthepurestgun วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:0:37:42 น.  

 
อรุลง Firefox แล้วโหลด extension ที่ชื่อ Video Downloader
โหลด Youtube มาดูทีเดียวไม่ติดไม่ขัด

* Firefox
//www.mozilla.com/en-US/firefox/
* Video Downloader
https://addons.mozilla.org/firefox/2390/

พอเสร็จแล้วก็ลง FLV Player


โดย: Thebrightestsunisthepurestgun วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:0:42:15 น.  

 


มาทักทาย เซไฮทูซิสเต้อ

เราว่าจะเอาเรื่องขี้มูกลง tag เหมือนกัน


โดย: le petit panx IP: 203.147.55.35 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:13:30:10 น.  

 
ฉากที่สนามเด็กเล่น
สงสารเด็กๆ


โดย: ขามโมะ (อยากมีชื่อญี่ปุ่นมั่ง) IP: 58.9.146.232 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:18:54:01 น.  

 
ไม่รู้จะเล่าอะไรดีให้จบบล็อกแท็กทั้ง 5 ข้อ
พยายามคิดๆ มา 2 - 3 วันแล้ว
สรุปก็คือจะเล่ารวมๆ ชีวิตวัยเด็กละกันนะ
เรื่อยเปื่อย ไร้ประเด็น ไร้ข้อสรุป

จับฉ่ายวัยกระเตาะ
ตอนเด็กๆ มีชีวิตและลักษณะนิสัยที่ซับซ้อน
บางอารมณ์ก็เป็นสาว บางอารมณ์ก็เป็นแมน
โตมาภาวะทางอารมณ์จึงสับสนวุ่นวายอย่างนี้

มีบางที บางช่วงมุมของชีวิตวัยเด็ก ที่ชอบใส่ชุดเป็นเจ้าหญิง
มีชุดโปรดอยู่ไม่กี่ชุด และจะต้องใส่ชุดนั้นๆ เป็นประจำทุกวัน
บางครั้งพี่เลี้ยงซักไม่ทัน ก็ต้องใส่ซ้ำๆ
จึงมีกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ (เล่าทำไมวะเนี่ย?)
รู้สึกว่าช่วงอายุนั้นก็จะเล่นจิบน้ำชายามบ่าย โดยมีคุ้กกี้อังกฤษเป็นคอร์นพัฟหักครึ่ง
แล้วก็เล่นตุ๊กตาแบบเด็กๆ ธรรมดาทั่วไป

พอโตขึ้นมาหน่อย (แมนขึ้นมานิด)
ก็เริ่มเป็นผู้นำ เล่นผจญภัยปีนป่ายข้าวของ
มีลูกน้องเป็นน้องชายและญาติๆ ที่อายุน้อยกว่าประมาณ 2 - 3 คน
สมัยนั้นค่อนข้างเป็นเผด็จการ
อยากเล่นอะไรก็จะเล่น และเป็นหัวหน้าหรือผู้นำเสมอ

บางครั้งไปเยี่ยมญาติอีกฝ่าย ที่เราเด็กๆ กว่าเค้า
เราก็เอานิสัยเอาแต่ใจจากที่บ้านไปใช้กับเค้าด้วย
เค้าก็ไม่ค่อยพอใจกัน
จนมีวันนึง พี่เก๊ที่หวังดีก็มาแอบกระซิบว่าเราเอาแต่ใจมากนะ มีคนเค้าบอกๆ กันมา
หูย ตอนนั้นฟังก็เสียใจอ่ะ ไม่เคยคิดเลยว่าเราเป็นเด็กนิสัยไม่ดี
หลังจากนั้นจะทำอะไรก็เลยนึกถึงจิตใจคนอื่นมากเป็นพิเศษ
กลัวคนอื่นไม่ชอบ ตามใจคนอื่นไปหมด

อ๊ะๆ คิดว่าเดี๋ยวนี้จะยังมีนิสัยตามใจคนอื่นอยู่อย่างนั้นหรอ?
ไม่แล้วแหละ เพราะหลังจากช่วงตามใจชาวบ้าน ก็มีช่วงหลังตามใจอีกจ้ะ
พอตามใจคนอื่นมากๆ แล้วประสาทจะกินอ่ะ
ตอนนี้เลยเป็นตัวเราแบบพอเพียง
ตามใจเท่าที่จะตามใจได้ ถ้าคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็เดินคนละทาง
วิถีใช้ชีวิตง่ายๆ สไตล์อรุณี

จบ

(ตกลงประเด็นคือ?)


โดย: อะเระ ((my name is) luka ) วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:21:30:27 น.  

 
หลังจากนั้นจะทำอะไรก็เลยนึกถึงจิตใจคนอื่นมากเป็นพิเศษ ------- ชมตัวเองป่าวเนี่ย


โดย: อุปกรณ์ประกอบฉาก วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:2:27:24 น.  

 
แวะมาอ่านบล็อกแถ่กของอรุ ยาวดีมากเลย
อยากจะอภิมหาคอมเมนท์บ้างแต่ง่วงแล้ว เดี๋ยวมาใหม่จ้า


โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:3:38:09 น.  

 
อ่านจนถึงที่อรุเล่าให้ฟังว่าชอบเล่นจิบน้ำชายามบ่าย แล้วขำก๊ากกก ไม่ใช่อะไรนะ คือนึกถึงหนังเรื่อง อัพทาวน์เกิร์ล

ตอนเด็กชอบเล่นสู้กันกับน้องๆ และเด็กๆ ละแวกบ้าน
เลียนแบบหนังจีนกำลังภายใน
ใครเป็นฝ่ายธรรมะก็เป็นไป แต่พี่จองเป็นหัวหน้าพรรคมาร


โดย: King Of Pain วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:17:21:49 น.  

 
เอ้อๆๆๆๆ ใช่ๆ ตอนเด็กๆ ก็เล่นมวยปล้ำด้วย
ท่าสุดฮิตคือท่าอะไร ฟิกกะโฟเล๊กล็อกอะไรซักอย่าง

หลังจากนั้นจะทำอะไรก็เลยนึกถึงจิตใจคนอื่นมากเป็นพิเศษ ------- ชมตัวเองป่าวเนี่ย
ป่าว ไม่ได้ชม ก็บอกว่านึกถึงจิตใจคนอื่นมากเป็นพิเศษ
ก็เมื่อก่อนไม่ค่อยนึกถึงจิตใจคนอื่นเลยไง
การที่เรานึกถึงใครมากขึ้นไม่ได้แปลว่าเราเป็นคนดีแล้วซะหน่อย
ไอบ้า หาเรื่อง



โดย: เระ IP: 58.9.26.34 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:0:47:39 น.  

 
โห... รู้สึกผิดเลยนะเนี่ย
เหมือนมาแถกอเระ ..เอ๊ย.. อรุ แล้วทำให้น้องลำบาก

เอ่อ.. เรื่องโดนหลอกขอยืมเงินนั่น ก็เคยเจอหลายหน
แต่เยอะสุด ก็สองร้อยได้มั้ง ไม่ถึงหลักพันแบบอรุ

แต่พี่รู้นะ ว่าเขาหลอก เลยไม่คิดว่าจะได้คืน
คือคิดว่า คนแบบนี้ เขากล้าขอ ตรูก็กล้าให้วะ

เคล็ดลับคือ อย่าไปคิดว่าเขาหลอก
ต้องคิดว่า.. เราใช้หนี้เก่ากัน แล้วจะสบายใจ ไม่ต้องว่าตัวเองว่าฟาย

นะจ๊ะจ๊ะจ๊ะ


โดย: aston27 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:1:15:28 น.  

 
กูคิดงั้นเหมือนกัน ผู้หญิงกะผู้ชายมันต้องเท่าเทียมกันดิวะ เกลียดคำพูดที่ว่า "ก็เราเป็นผู้ชายอ่ะ" หรือ "ผู้ชายทำก็ไม่น่าเกลียด" หรือ "เธอเป็นผู้หญิงนิ" ... มึง อย่า มึงอย่า กูไม่ชอบ... แต่บางครั้งการเป็นผู้หญิงง่อยก็น่ารักดีนะ ทำนิดหน่อย พอสวยงาม แต่ถึงอรุจะแมนไม่แมน เก้งก็รักนะ หุหุ


โดย: เก้ง IP: 203.152.43.65 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:16:15:47 น.  

 


โดย: N o o n :: นูน IP: 125.25.143.62 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:12:59:21 น.  

 
แวะเอามะม่วงมาฝากไว้ ..

อีกสี่เพลาจะมาเอาคืน ..

ถึงครานั้น.. ฉันก็จะมีมะม่วง"ดอง" ไว้ทาน โฮะๆๆๆ..



โดย: aston27 วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:22:53:00 น.  

 
ประกาศหา Thebrightestsunisthepurestgun


โดย: รุ IP: 58.9.26.141 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:48:21 น.  

 
คนสวยอยู่นี่


โดย: อดีตสก็อตไบร์ท IP: 125.25.141.155 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:11:29 น.  

 


โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 11 สิงหาคม 2554 เวลา:15:56:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

(my name is) luka
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




We are young, we run green
Keep our teeth, nice and clean
See our friends, see the sights, feel alright
We wake up, we go out, smoke a fag
Put it out, see our friends
See the sights, feel alright...


Friends' blogs
[Add (my name is) luka's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.