อย่าปล่อยให้การเรียนรู้ของคุณ จบอยู่แค่ในโรงเรียน
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
วิจัยเมกัน เตือน DVD เพื่อการศึกษาทำให้เด็ก 0-2 ปี เรียนรู้ได้ช้าลง

ต้องยอมรับเลยหล่ะครับ ว่าเดี๋ยวนี้ TV มีอิทธิพลสูงมาก เพราะเป็นสื่อที่ผู้คนนิยม ไม่ต้องออกแรงเสพย์มาก แค่กดรีโมท เลือกๆ เอา มันก็ส่งข้อมูลเข้ามาหาแล้ว ผู้รับข่าวอาจจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ใช้การฟังเสียงอย่างเดียว พอถึงช่วงสำคัญก็ลุกมาดูสักหน่อย แล้วก็กลับไปนั่งทำภารกิจต่อในห้องน้ำได้เหมือนเดิม ต่างกับหนังสือที่ลำบากต้องเดินหาซื้อ (เสียตังแหล่ะ) ถือกลับมา แถมต้องเปิดอ่านอีก (ขี้เกียจมาก..) บางเล่มก็ภาพไม่สวย หรือมีแต่ตัวหนังสือ อ่านสักพักก็ตาลาย เอ้อ กลับไปดู TV ดีกว่า ไม่งั้นก็เปิดคอมเข้าเน็ท เขียน blog ดีก่า (เป็นอาการของคนติดเน็ท ติดเกมส์ ติดบล๊อก)

ย้อนกลับมาเรื่องเด็ก ที่เป็นอนาคตของชาติกันดีกว่า ทีมวิจัยคณะ Dimitri Christakis, University of Washington in Seattle, US (งงไหมอ่ะ คือ เหมือนลิเกคณะศิษย์หอมหวลประมาณนั้น คือ คุณ Dimitri เป็นหัวหน้าคณะ)

คณะนี้เขาพยายามจะทำวิจัยเพื่อยืนยันให้สังคมเชื่อว่า 'คุณพ่อ คุณแม่คร๊าบ...จับเด็ก 0-2 ปี นั่งดูทีวี ไม่ดีนะคร๊าบบบ' เพราะแกเป็นห่วงคนอเมริกัน ที่ฮิตกันเหลือเกิน พยายามนัก พยายามหนา พยายามหา DVD สารพัดแบบ มาให้ลูกดู โดยหวังว่า 'ลูกช้าน..ต้องฉลาดที่สุด' ขนาดสมาคมกุมารแพทย์ของอเมริกัน (ไม่รู้เรียกชื่อไทยแบบนี้ถูกมะ the American Academy of Pediatrics) ออกโลงเตือนแล้วนะ ว่า 'อย่าเพิ่งให้เด็กเล็กดูทีวีเลย..รอสัก 2 ขวบไปแล้วก่อน นะนะ ขอร้องละนะ'

ก็ไม่วาย พ่อแม่ทั้งหลาย กลัวลูกไม่ฉลาด แล้วจะเอาไปคุยอวดเพื่อนบ้านไม่ได้ เลยจับลูกนั่งดูทีวีต่อไป...

ทีมวิจัยคณะนี้เลยรอช้าไม่ได้แหล่ะ นั่งประชุม วางแผน แล้วได้ข้อสรุปว่า เอาหล่ะ เราจะใช้วิธีโทรศัพท์ไปเก็บข้อมูล จาก 500 ครอบครัว ที่มีลูกเกิดใหม่ในช่วง 16 เดือนก่อนหน้าละกัน

ว่าแล้วทีมวิจัยคณะนี้ก็ทำตัวเป็นหนุ่มสาว Hotline ยกหูโทรศัพท์ไปกริ๊งกร๊างตามบ้าน โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที/บ้าน ผลที่ได้ พบว่า พ่อแม่จะได้ยินคำจากเด็กอายุ 8-16 เดือน ประมาณ 90 คำ ที่เด็กเข้าใจ เช่น คุ๊กขี้ (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเด็กหมายถึงขนม หรือขนมตกใส่ขี้กันแน่ แต่ช่างเหอะ ) ชั๊กกี้ (ท่าบ้านนี้จะให้เด็กดูหนังผี) รัมมี่ (พ่อแม่เล่นไพ่ ต่อหน้าเด็กแน่ๆ) เป็นต้น พ่อแม่เด็กยังให้ข้อมูล เพื่อคุยทับเพื่อนบ้านอีกว่า 'ชั้นอ่านหนังสือให้ลูกชั้นฟังด้วยนะ', 'ยามที่เพื่อนชั้นขาดขาไพ่ ชั้นก็จะเอาลูกมานั่งดู DVD เพื่อการพัฒนาสมองในทีวีรอ จนกว่าจะเล่นไพ่กันเสร็จ', 'เราพยายามเลือก DVDโปรแกรมเพื่อการเรียนรู้ของเด็กมาให้เขาดู เพราะเราเชื่อว่ามันจะดีกับลูกเรา', 'เราเห็นจอร์จบอกว่าดี เราเลยลองซื้อมาให้ลูกดูบ้าง'

ข้อสรุปจากการเก็บข้อมูลในครั้งนี้ หลังจากที่คณะวิจัย ได้ควบคุมตัวแปร (ตามที่พยายามจะคุมได้) เช่น พื้นการศึกษาของพ่อแม่ จำนวนเด็กที่มีต่อครอบครัว และอื่นๆ ที่กระจอกข่าวไม่ได้บอกมา จากนั้นก็เอาข้อมูลที่เหลือมาวิเคราะห์ พบว่า ทุกๆ 1 ชั่วโมงที่เด็กดู DVD (ที่บอกว่าสำหรับส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก) เด็กจะเข้าใจคำเพิ่มขึ้น 6-8 คำ ซึ่งน้อยกว่าเด็กที่ไม่ได้ดู DVD ที่โดยเฉลี่ยเด็กจะเข้าใจหรือพูดคำออกมาได้ประมาณ 25 คำ (ซึ่งจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับอายุ และสภาพแวดล้อมในบ้าน)

Andrew Meltzoff ผู้ร่วมวิจัยในคณะเดียวกัน ออกโรง ให้การเพิ่มเติมว่า 'จากประสบการณ์ในการวิจัย ผมขอยืนยันว่า ในวันๆ หนึ่งเนี้ย เด็กจะมีชั่วโมงแห่งการเรียนรู้แบบตื่นตัวเจงๆ ไม่กี่ชั่วโมงหรอก ดังนั้น การที่เด็กได้เรียนรู้ จากผู้ใหญ่เนี่ย มันดีที่สุดแล้ว ดีกว่าปล่อยให้ไปนั่งดู DVD (หรือนั่งข้างวงไพ่ อิอิ)'

เมื่อโดนโจมตียอดขายจากงานวิจัย บริษัท Baby Einstein ก็ออกโรงมาชี้แจง ไขแถลงในทันทีทันใด ว่า 'DVD เพื่อการศึกษาของเรานั้น ทำออกมาเพื่อให้พ่อแม่มีเวลามากขึ้น แล้วก็ยังทำให้พ่อแม่มีส่วนร่วมกับลูกในขณะดูทีวีโปรแกรมของเรา โดยพ่อแม่อาจจะตบมือเป็นจังหวะ หรือชี้ไปที่วัตถุที่หน้าจอก็ได้' (เถียงแทนพ่อแม่ - ถ้างั้นตูสอนเองไม่ดีไง ) 'แล้วอีกอย่าง ชีวิตประจำวันของพ่อแม่ที่ทันสมัย ทีวีก็เป็นสื่อที่ใกล้ตัวที่สุด โปรแกรมของเราออกแบบมาดีกว่าโปรแกรมทีวีอื่นๆ แน่นอน เชื่อเหอะ ' (สุดยอดนักขายเจงๆ)

หัวหน้าคณะวิจัย Dimitri Christakis ขอออกโรงเป็นคนสุดท้าย แล้วพูดตบท้ายว่า 'ผมไม่ใช่พวก ต่อต้านการดูทีวีนะ แค่ผมไม่เชื่อเท่านั้นเอง ว่า TV มันจะเหมาะกับเด็กเล็กก็เท่านั้นเอง แล้วผู้ผลิตรายการ TV ก็ควรจะทำให้เห็นเป็นรูปธรรมออกมาด้วย ว่ามันพัฒนาเด็กได้จริงๆ'

ช่วงเวลาใกล้ๆ กัน Mabel Rice จาก the University of Kansas in Lawrence, US ซึ่งเป็นนักวิจัยด้านความผิดปกติของการใช้ภาษา ก็ได้เสนอผลการวิจัยที่ยืนยันว่า TV เนี่ยยังไม่จำเป็นเลยสำหรับเด็กเล็ก และยังเสนอแนะเพิ่มว่า สิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้ของเด็กเล็กก็คือ ปฎิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับพ่อแม่นั่นเอง

ครอบครัวอบอุ่น พร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก คุยกัน กอดกัน เข้าใจกันนะครับ

ใส่สีตีไข่ - Tahno
Journal reference: Journal of Pediatrics (DOI: 10.1016/j.peds.2007.04.071)


Create Date : 08 สิงหาคม 2550
Last Update : 25 สิงหาคม 2550 15:24:00 น. 2 comments
Counter : 707 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:3:50:26 น.  

 
ชอบใจ ขนมตกใส่ขี้ 555


ที่บ้านไม่มีทีวีค่ะ
ทีวีอเมริกา มีอะไรแปลกๆเยอะ
ผู้ใหญ่ยังไม่กล้าดูเท่าไหร่ค่ะ

เด็กแฝด สองขวบแล้วถึงได้เริ่มดูหนัง

ห้ามเกินวันละ 2 ชม ด้วยนะคะ

ไม่ค่อยเชื่อพวก Baby Einstein

หรอกค่ะ

แต่เบบี้ ไอศครีม ที่บ้านชอบค่ะ








โดย: เพลงเสือโคร่ง วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:7:22:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tahno
Location :
ดาวโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'Nobody will lose because of more science education' (Osborne,1998)

Friends' blogs
[Add Tahno's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.