จากสมาร์ทโฟนสู่ระบบ 3 G: ยุคปลายสุดของความทันสมัย เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน ทำแทนได้ทุกอย่างยกเว้น(มีเพศสัมพันธ์และรับ
จากสมาร์ทโฟนสู่ระบบ 3 G: ยุคปลายสุดของความทันสมัย เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน ทำแทนได้ทุกอย่างยกเว้น(มีเพศสัมพันธ์และรับประทาน) นายชลเทพ ปั้นบุญชู(นักสังคมวิทยาอิสระ) ภาคอารัมภบท จากจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีการสื่อสารที่เป็นลักษณะ เห็นหน้าค่าตา จนมาถึงยุคของการ สื่อสารกันตลอดเวลา ผ่านมือถืออัจฉริยะหรือที่เรียกว่า สมาร์ทโฟนกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระหว่างโครงข่ายอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า 3 G วิวัฒนาการมือถือในสังคมไทยนั้นมีความน่าสนใจทั้งในแง่ของรูปแบบ ระบบสัญญาณ หรือการให้บริการ สิ่งที่เป็นความทันสมัยนี้คงมิได้ก้าวกระโดดเลยเสียทีเดียวแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมามันย่อมมีผลต่อวิถีชีวิตประจำวันต่อตัวเราเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะโลกอินเตอร์เน็ตกับโลกทางสังคมของมนุษย์เริ่มหลอมรวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและผมเองก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะแยกออกจากกันได้หรือไม่? ภาคสารัตถะ ก่อนอื่นด้วยวิธีการเขียนแบบชิวชิวของผมบวกกับกลวิธีการเขียนที่ลักลั่นคือมีฟอร์มการเขียนเรียงความแต่ใช้ภาษาผิดจารีตประเพณีการเขียนคือใช้ภาษาปากคู่กับภาษาราชบัณฑิตยสภา เพราะผมเชื่อใจเจตจำนงที่ว่ามนุษย์ย่อมสร้างความแปลกเด่น(Unique)ตามแนวทางของอัตถิภาวะนิยมนั่นเอง(จริงๆแล้วก็ชอบทั้งสองแบบเลยมาใส่ไว้รวมกัน) ให้ดูขัดกันแต่ก็ไปด้วยกันได้? ผมเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแบบง่ายๆคล้ายๆกับนักปรัชญาว่า สมาร์ทโฟนคือ อะไร? มีผลต่อคนบนโลกนี้อย่างไร? และถามเชิงสังคมวิทยาว่า สมาร์ทโฟนสัมพันธ์กับคนได้อย่างไร? ผมอาจจะไม่ได้พูดถึงสมาร์ทโฟนในเชิงเทคโนโลยีมากนักเพราะผมเองไม่ใช่ผู้บัญญัติศัพท์เทคโนโลยีแต่การเรียกทับศัพท์คำนี้ผมขอแปลว่า โทรศัพท์อัจฉริยะ หรือแปลง่ายๆก็คือเก่งรอบด้าน ทำได้ทุกอย่าง ถ้าเปรียบกับคนก็คงได้ทั้ง คำนวณ ภาษา มิติสัมพันธ์การใช้ตรรกะ ความสามารถที่หลากหลายนี้ สามารถมองผ่านได้จากแอปพลิเคชัน (Applications) ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ สนทนา หรืออื่นๆตามที่ผู้บริโภคต้องการ และนั่นก็คือมือถือที่มีลักษณะพหุปัญญา สิ่งที่ สมาร์ทโฟน ทำได้นี้มันมีความสำคัญในแง่ของ การรวมเอาสื่อหลากหลาย (Multimedia) มารวมกันไว้ ควบคู่กับการเชื่อมโลก และผู้คนตลอดเวลา ราวประหนึ่งว่าเราอยู่กับตัวเอง พร้อมๆไปกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นผ่านตัวกลาง (Median) อย่างมือถือ สิ่งที่น่าสนใจคือ สมาร์ทโฟน มันทำให้คนบนโลกอยู่ในชุมชนเสมือนและเชื่อมต่อกันมากขึ้นทั้งในแง่ของเวลาและเครือข่ายปรากฏการณ์ที่ผมเห็นได้คือ ทุกครั้งที่โดยสารรถไฟฟ้า บนดิน ใต้ดินหรือแม้แต่ร้านกาแฟ หลายคนจะหยิบมือถือขึ้นมาหมกมุ่นกับการกดปุ่มหรือใช้นิ้วเลื่อนไปเลื่อนมา เพื่ออัพเดทข้อมูลต่างๆ ในสื่อออนไลน์จนเสมือนหนึ่งว่าผู้คนที่อัดแน่นอยู่บนรถไฟฟ้าแต่พวกเขาเหล่านั้นก็มีโลกส่วนตัวอย่างเงียบๆและพร้อมที่จะอยู่กับสังคมเสมือนที่พวกเขาต้องการภายใต้ฝูงชนแออัดรอบข้าง ผมว่าโลกกายภาพกลายเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่มากมายแต่ก็จัดว่าดูโดดเดี่ยวชอบกล ดังนั้นผมต้องกลับมาทบทวนแนวคิดเรื่องปฏิสัมพันธ์ทางสังคมว่าแท้ที่จริงแล้ว กระบวนการเรียนรู้ขัดเกลาทางสังคม หรือการสื่อสารระหว่างบุคคลและภายในบุคคลบนโลกปลายสุดของยุคสมัยใหม่นั้น คงอยู่ในโลกเสมือนไม่มากก็น้อยผมไม่แน่ใจว่าโลกกายภาพมันน่าเบื่อหรือเต็มไปด้วยระเบียบมากมายจนทำให้เป็นโลกที่ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างเล่นสมาร์ทโฟนของตนเอง สื่อสารกับกลุ่มของตนเอง และเลือกอยู่ภายใต้โลกส่วนตัวที่สร้างขึ้นแต่ผมก็ต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า โลกเสมือนนั้นมันหลากหลาย และถูกสร้างให้หลากหลายเพื่อก้าวพ้นข้อจำกัดของโลกกายภาพที่ความสัมพันธ์นั้นมีเงื่อนไขมากกว่าและถูกควบคุมได้ง่ายกว่า ผมตั้งข้อสังเกตว่าในโลกปัจจุบันที่เราอยู่คู่กับเทคโนโลยีและเทคโนโลยีเริ่มที่จะทำให้เราขยับตัวกับการเคลื่อนไหวของร่างกายน้อยลงแต่สามารถท่องโลกทางสังคมได้มากขึ้นโดยการนำเอาโลกทางสังคมต่างๆมารวมเข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้เครื่องมือที่มีความสามารถขั้นเทพเป็นพาหนะตามเจตจำนงที่เรามีอยู่ภายใต้โลกทางสังคมที่อุบัติขึ้นมาหรือนี่คือสิ่งที่มนุษย์พยายามที่จะเอาชนะ ความจำกัด เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของตนเองที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เป็นอยู่เหล่านี้ดีหรือไม่แต่ผมแค่กังวลว่าแล้วทักษะของการอยู่ร่วมกันในสังคมจะหายไปด้วยหรือเปล่า? เช่นการรับฟังผู้อื่น การสื่อสารระหว่างบุคคลหรือตีความอารมณ์ ความคิดพฤติกรรมระหว่างบุคคลโดยอาศัยประสบการณ์จากการสื่อสารระหว่างกันโดยตรงเพราะหลายคนก็ก้มหน้ายิ้มอยู่กับโลกเสมือนโดยที่ไม่อาจรู้เลยว่านอกจากมีคนอยู่รอบข้างแล้วเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นมีอะไรบ้างสิ่งต่างๆมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เราเลือกที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับโลกออนไลน์มากขึ้นก็อาจทำให้เราอยู่กับโลกจริงๆสุดแสนจะน่าเบื่อน้อยลง หรือนั่นเป็นเพราะว่าเราเลือกใช้ชีวิตตามเจตจำนงของตัวเองและคัดเลือกชุมชนตามต้องการภายใต้ยุคซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารกันได้รวดเร็วโดยที่เราสามารถเข้าไปอยู่ในกลุ่มอื่นๆได้ และกลุ่มอื่นๆก็มีลักษณะร่วมต่างๆเข้ามารวมกลุ่มกันสื่อสารระหว่างกัน ตามความสนใจ ผมคิดว่า ความง่าย และความรวดเร็วนี้เองเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้โลกชุมชนเสมือนในสมาร์ทโฟนเข้าถึงชนชั้นกลางในเขตเมืองมากขึ้นทุกค่ำเช้าเราก็จะเห็นคนหยิบมือถือขึ้นมาพร้อมกับนั่งมองอย่างใจจดใจจ่อตกกลางคืนก็ใช้ชีวิตกับโลกส่วนตัวที่มีสมาร์ทโฟนข้างกายตลอดเวลาบางสิ่งที่ยังคงทำไม่ได้คือ ใช้รับประทาน กับการมีเพศสัมพันธ์เพราะนี่คือข้อจำกัด แต่เราก็อยู่กับมันนานที่สุด เป็นเพื่อนรู้ใจใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าคนในครอบครัวและผูกพันกันมันจนแทบจะขาดไม่ได้เพราะชีวิตได้ขาดหายสิ่งที่คุ้นชินที่สุดไป แม้ว่ามันเป็นเพียงวัตถุแต่มันตอบสนองความต้องการทางจิตใจ และผ่อนคลายความรู้สึกยามเหงาทำให้เราอยู่ในโลกเสมือนและเสพกับความหลากหลาย จนข้าไปมีอิทธิพลกับการดำรงชีวิตประจำวันของเราทำให้ผมได้เห็นพัฒนาการนอกเหนือจากคุณสมบัติพิเศษในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนก็คือกลไกการทำงานของระบบทุนนิยมที่เข้มข้น เพราะมันได้เพิ่มประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับยุคปลายสุดของความทันสมัยและสร้างโลกทางสังคมกับวิถีชีวิตแบบใหม่ขึ้นมาผมขอเรียกมันว่า โลกแห่งการบริโภคแอบพลิเคชันซึ่งได้จำลองวิธีการใช้ชีวิตบนโลกกายภาพเข้าไปไว้ในมือถือผ่านการเชื่อมต่อไร้สายเราจึงแค่สัมผัสด้วยปลายนิ้วก็ใช้ชีวิตได้เกือบรอบด้าน ข้อสังเกตก็คือว่า ยิ่งแอบพลิเคชันถูกพัฒนามากเท่าไหร่ และยิ่งเสมือนโลกจริงมากเท่าไรทำให้เรารู้ว่าความสำเร็จของระบบทุนนิยมย่อมมีมากตามมาเพราะนั่นคือการบริโภคผ่านบริการต่างๆต้องมากขึ้นเท่านั้น นับได้ว่าเพิ่มในแง่ของสินค้าบริการจำนวนอุปสงค์ และอุปทาน ในตลาดวัฒนธรรมสมัยใหม่ จากนวัตกรรมที่เคยเป็นสิ่งเกินความจำเป็นในการดำรงชีวิตกายภาพได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันนั่นก็คือการสร้างสินค้าและบริการให้กลายมาเป็นความจำเป็นเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องความคุ้มทุนเพราะในโลกของทุนนิยมเวลายังกลายเป็นสิ่งมีค่า และมูลค่าเพราะถ้าหากเราเสียเวลาก็จะเสียโอกาสในการได้รับรายได้แต่ในขณะเดียวกันก็ขัดแย้งกันโดยใช้เวลากับการพักผ่อนหย่อนใจที่ต้องแลกมาด้วยการซื้อบริการหรือการใช้เงินเพราะการต่อลมหายใจของทุนนิยมคือ กระจายการถือครองเงินให้หมุนเวียนในตลาดแม้ขนาดการพักผ่อนยังต้องแลกด้วยการกินกาแฟในที่ที่มี Wi-Fi หรือการซื้อชั่วโมงอินเตอร์เน็ตตรรกะของทุนนิยมคือ การบริโภคไม่รู้จบ ก็จะยิ่งช่วยขยาย กำไร ได้นั่นเองเพื่อแลกมากับอรรถประโยชน์ ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างทุนทางวัฒนธรรมยิ่งตอกย้ำให้วิถีชีวิตสมัยใหม่นี้กลายเป็นลักษณาการทางวัฒนธรรมของชนชั้นกลางในสังคมเมืองเพราะชนชั้นกลางเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังโภคทรัพย์และพร้อมที่จะกระจายโภคทรัพย์หมุนเวียนไปยังตลาดดังนั้นนายทุนก็ยิ่งต้องเร่งพัฒนาการให้บริการสินค้าใหม่ๆอย่างเข้มข้นเพื่อสร้างลักษณะวิถีชีวิตแบบหนึ่งขึ้นมาควบคู่ไปกับการใช้เงินไปกับการบริโภคสินค้าและบริการตามฐานานุรูปของชนชั้นกลางในเขตเมือง เพราะตัวผมเองยังไม่แน่ใจว่าการบริโภคสินค้าบริการ ขึ้นอยู่กับตัวเราต้องการบริโภคสิ่งนั้นอย่างแท้จริงหรือไม่?แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือว่า ผู้ให้บริการจะผลิตหรือสร้างสินค้านั้นหรือไม่ตรรกะง่ายๆก็เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ ในยุคแรกผมคิดว่าคนสมัยนั้นช่วงแรกก็คงไม่ได้คิดว่าจำเป็นอะไร แต่ด้วยความง่ายและความเร็วซึ่งสามารถเอาชนะข้อจำกัดหลายอย่างสำหรับการคมนาคมทางบกในยุคนั้นรถยนต์ก็เริ่มขยายตัวขึ้น และกลายเป็นสิ่งจำเป็นขึ้นมา การบริโภคที่ต่อเนื่องควรจำเป็นต้องสร้างระบบความหมายเชิงสัญลักษณ์ขึ้นมาในตัวสินค้าเพราะเราจะไม่ใช่แค่บริโภคสินค้าบริการแต่เรายังบริโภคคุณค่าและความหมายในตัวสินค้าด้วยสิ่งเหล่านี้เองที่ผมยืนกรานว่ามันช่วยสนับสนุนให้การบริโภคเข้มข้นและต้องใช้เงินมากขึ้นและเป็นตรรกะของการบริโภคที่เชื่อมระหว่างความจำเป็นกับความฟุ่มเฟือยเข้าไว้ด้วยกันดังนั้นผู้ผลิตคือคนที่กำหนดทางเลือกในการบริโภคให้กับเรานั่นเองและผู้บริโภคก็เลือกในสิ่งที่มีอยู่ การตักตวง กำไรที่มากขึ้นและเนียนขึ้นยิ่งทำให้ผมเริ่มกลับมามองสมาร์ทโฟนใหม่ที่นอกเหนือจากนวัตกรรมล้ำยุคเพราะนั่นย่อมสะท้อนถึงความก้าวหน้าและกลไกการครอบงำและการขูดรีดในระบบทุนนิยมได้พัฒนาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีนั่นเอง ดังนั้นมันจึงเหลือแค่สอง(จริงๆมีมากกว่านั้น)สิ่งที่ผมยังไม่เห็นจากโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คือกินได้และมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงอึ้ง ทึ่ง เสียว และคงต้องตะโกนว่าเป็นไปไม่ได้ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ ว่าแล้วคงต้องรีบไปหา สมาร์ทโฟนมาใช้ซักเครื่องแล้วครับแต่ยังไม่มีเงินซักที............................
Create Date : 05 พฤษภาคม 2555 |
| |
|
Last Update : 5 พฤษภาคม 2555 9:02:08 น. |
| |
Counter : 1194 Pageviews. |
| |
|
|