โปรดช่วยอุปการะเด็กยากไร้ ccfthai.or.th เพียง 500 บาทต่อเดือน
Group Blog
หุ้น
ชีวิตกับธรรมะ
<<
มิถุนายน 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
12 มิถุนายน 2553
พ่อค้าตลาดหุ้น
ผีพนัน2
ผีพนัน1
จงเป็นพ่อค้าที่มีเงินทุนสำรองอยู่อย่างสม่ำเสมอ
All Blogs
หุ้นกองหลัง
เงินล้านแรกยากที่สุด
คุณเป็นนักเล่นเกมแบบไหน
ผมได้กำไรจากหุ้นแค่ 10%
สินค้าที่ขายดีที่สุดในโลก
ประสบการณ์หุ้นที่ได้จากปี 2553
A Tale of Two Knights
เงินกับสินทรัพย์
คำศัพท์วันนี้ วีไอ vs ติดดอย
ผมไม่ได้เล่นหุ้น ผมทำธุรกิจเปิดร้านสะดวกซื้อที่มีหุ้นเป็นสินค้า
พ่อค้าตลาดหุ้น
ผีพนัน2
ผีพนัน1
จงเป็นพ่อค้าที่มีเงินทุนสำรองอยู่อย่างสม่ำเสมอ
ปีกน้อย...ที่ไม่อาจโบยบิน
ช่วงนี้ใครกล้าซื้อบ้าง ขอเสียงหน่อย
สรุปผลประกอบการสองปีกว่าๆ
ใบเลี้อย2ใบกับมุมมองสองวัย
คนที่ซื้อหุ้นแล้วสามารถเห็นราคาหุ้นตกต่ำกว่าที่ตัวเองซื้อมากๆ ไม่ขายคือวีไอ
หุ้นเป็นธุรกิจที่เหมาะกับคนที่ไม่เก่ง
เหตุผลกับอารมณ์
เงินสำรอง
หุ้นกับความรัก
ธุรกิจกับหุ้น
จินตนาการความพ่ายแพ้
เซียนกับโครตไม่เซียน
ชาววีไอ
ซื้อหุ้นเพราะอะไร
พ่อค้าตลาดหุ้น
ตอนที่สี่
*************************************************
พ่อค้าตลาดหุ้น
พ่อค้าตลาดหุ้น มักจะซื้อหุ้นในตลาดในช่วงที่เป็นขาลง และเป็นการซื้อแบบค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ แบบที่หลายๆท่านมักจะกล่าวถึงกรณีนี้ว่า เป็นการซื้อเฉลี่ยขาลง ซึ่งเป็นวิธีที่หลายๆคนก็บอกว่าไม่ถูก ในความเห็นผมเอง คำว่าถูกหรือผิด ไม่สามารถนำมาใช้ตัดสินเพียงวิธีการซื้อขายอย่างใดอย่างหนึ่ง การเป็นพ่อค้าที่มีทุนสำรองอยู่เสมอ พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ อย่าทุ่มจนหมดตัวนั่นเอง คนขยันไม่ได้ประสพความสำเร็จจากการเปิดสาขาทุกสาขา บางสาขาที่เปิดก็ต้องปิดไป เพราะทำกำไรไม่ได้ตามเป้าหมาย (ไม่คุ้มทุนและเวลา) สิ่งหนึ่งที่พ่อค้าตลาดหุ้นคิดอยู่เสมอก็คือ โอกาสในปัจจุบันมีมากกว่าในอดีตหลายเท่านัก แต่หลายๆคนมักจะพูดว่าโอกาสร่ำรวยในอดีตมีมากกว่าปัจจุบัน คิดดูง่ายๆ คนขยัน เปิดสาขาแห่งหนึ่ง ต้องมีเงินลงทุนตกแต่งร้านเพียงใด ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่หรือเสียเงินทองสร้างตึกเพียงใด แต่พ่อค้าตลาดหุ้นไม่ต้องเสียค่าเช่าหรือเสียค่าก่อสร้างสิ่งใดๆ เขาไม่ต้องเสียเงินให้กับใครเลย ยกเว้น เขาต้องเสียเงินให้กับสิ่งที่หลายๆคนเรียกว่า ค่าคอมมิสชั่น หรือค่ารถไปห้องค้า ซึ่งคิดๆดูให้ดีก็ยังถูกกว่าค่าโสหุ้ยต่างๆในการนำสินค้าไปถึงมือลูกค้าเสีย อีก ประเด็นเรื่องค่าคอมมิสชั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไรเลยหากการค้าขายหุ้นทุกครั้ง มีกำไรมากกว่าค่าคอมมิสชั่น ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการขายสินค้าที่บางอย่างกำไรมาก บางอย่างกำไรน้อย การที่ยอมให้โบรคได้คอมฯบ้าง อันที่จริงก็เป็นเรื่อง Think Win-Win แบบหนึ่ง สิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าตลาดหุ้นไม่มากก็ น้อย คนที่ทำให้โบรคได้คอมฯ มากหรือน้อยกว่าตนเองก็เป็นนักลงทุนในตลาดเองนั่นแหละครับ ซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการค้านั่นแหละครับ
พ่อค้าตลาดหุ้น ได้นึกเปรียบเทียบการค้าในตลาดหลักทรัพย์กับการขายสินค้าในห้างของคนขยันว่า ห้างของคนขยันมีพื้นที่จำกัด แต่พื้นที่ร้านค้าของ พ่อค้าตลาดหุ้น ไม่เคยเต็ม สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ไม่ว่า คนขยัน หรือ พ่อค้าตลาดหุ้น ต่างก็มีเงินทุนจำกัดอยู่ถึงจุดหนึ่งเหมือนกัน (แต่ไม่เท่ากันนะครับ) และต่างต้องค้นหาสินค้าราคาถูกที่มีคุณภาพมาวางขายให้ลูกค้าเลือกซื้อ (พ่อค้าตลาดหุ้นก็ต้องเฟ้นหาหุ้นของธุรกิจที่มีอนาคตซึ่งคนส่วนใหญ่อาจมอง ไม่เห็นมาเก็บไว้ในพอร์ทเช่นเดียวกัน) ดังนั้น การบริหารเงินทุน และการเลือกซื้อสินค้าเพื่อนำมาขาย จึงนับเป็นหัวใจของการประสพความสำเร็จอย่างแท้จริง แต่มีสิ่งหนึ่งที่มักเป็นตัวเร่งซึ่งทำให้หลายๆคนตัดสินใจผิดพลาด สิ่งนั้นก็คือ เวลา หลายๆคนมักนึกว่า ค้าขายในตลาดต้องใช้เวลาอันสั้นให้ได้กำไรอย่างรวดเร็ว แต่พ่อค้าตลาดหุ้นคิดว่า จะใช้เวลาเท่าใดไม่สำคัญ แต่เมื่อขายต้องมีกำไร จะกำไรมากหรือน้อยก็ไม่สำคัญแต่ต้องเป็นกำไรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ พ่อค้าตลาดหุ้นยังได้รับรู้ว่า ไม่ว่าตลาดจริงหรือตลาดหุ้นต่างมีความเสี่ยงในการลงทุนเหมือนๆกัน (ดังตัวอย่างจากสินค้ารสองอย่างข้างต้น) และการลงทุนในตลาดจริงหรือตลาดหุ้นให้ประสพผลสำเร็จสมควรต้องใช้เวลานานพอ สมควร บางสินค้าที่ได้กำไรมากมาย ก็เหมือนบางหุ้นที่กำไรหลายเท่า แต่กำไรเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน แต่คล้ายๆกับได้รับโชคลาภ อันอาจสืบเนื่องจากการทำบุญกุศลทั้งในภพนี้หรือภพก่อนหน้า พ่อค้าตลาดหุ้นยังค้นพบอีกว่า คนขยัน หาสินค้าตัวหนึ่งมาวางขาย ต้องมีองค์ประกอบของอุปสรรคมากกว่า พ่อค้าตลาดหุ้น หลายประการ เช่น
- ต้องมีคนเห็นซื้อสินค้านั้น (บางทีวางไว้ในที่อับ คนก็ไม่เห็น) แต่หุ้นทุกตัวมีลูกค้าเห็นทุกวัน
- ต้องมีลูกค้าแวะเวียนเข้าร้านในจำนวนมากพอควร (บางสาขาไม่ค่อยมีคนเข้า ก็ต้องปิดสาขาไป ซึ่งเสียเงินลงทุนเปิดร้านไปพอควร) แต่ตลาดหุ้นมีคนเข้ามาดูนับแสนรายทุกๆวัน
- ต้องห่วงว่าสินค้าของตนมีราคาแพงกว่าร้านคู่แข่ง (คิดในขณะที่ยังมีกำไรในการขายสินค้า) แต่ในตลาดหุ้น ไม่ต้องสนใจว่าราคาสินค้าใครจะแพงกว่า เพราะใช้มาตราฐานเดียวและเปิดเผยให้เห็นกันโดยถ้วนหน้า
- สินค้าในห้างของคนขยัน มีมากมายนับหมื่นรายการ แต่สินค้าในตลาดมีเพียง ไม่กี่ร้อยรายการ การบริหารจัดการถือได้ว่าน้อยกว่ากันมากนัก (แต่จำนวนหุ้นที่น่าซื้อมาขายกลับมีไม่มากนักในช่วงเวลาต่างๆกัน)
- สินค้าในห้างแทบทุกชนิด มีวันหมดอายุหรือเสื่อมคุณภาพ แต่หุ้นมีเฉพาะวันหมดอายุ ไม่มีวันเสื่อมคุณภาพ (แต่มีการเสื่อมราคา 5555)
- อีกหลายกรณีที่เคยนึกออกครับ แต่เวลาจะพิมพ์แล้วจำไม่ได้ ใครนึกออกช่วยๆกันเสริมหน่อยก็ดีนะครับ 5555
ดังนั้น พ่อค้าตลาดหุ้นจึงพบว่า การค้าขายในตลาดหุ้น จึงมีต้นทุนต่ำกว่า การค้าขายจริงๆมากมายนัก และการบริหารที่สำคัญที่สุดเพื่อประกอบการในฐานะพ่อค้าตลาดหุ้นให้ได้รับผล สำเร็จ อยู่ที่การบริหารเงินทุนและการเลือกซื้อหุ้นในช่วงเวลาต่างๆเท่านั้น และในช่วงเวลาที่ผ่านมา พ่อค้าตลาดหุ้นก็ค้นพบเห็นสิ่งที่ค่อนข้างเป็นความจริงหลายประการคือ
- หุ้นที่มีราคาสูงเกินไปในช่วงหนึ่ง ต้องมีราคาลดลงในสักวันหนึ่ง
- หุ้นที่มีราคาต่ำเกินไปในช่วง Panic ต้องมีราคาเพิ่มขึ้นหลังจากหาย Panic
- หุ้นทุกตัว ไม่เคยมีราคาคงที่
- ในขณะที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ก็มีหุ้นบางตัวมีราคาต่ำลง
- ในขณะที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง ก็มีหุ้นบางตัวมีราคาสูงขึ้น
- หากธุรกิจยังคงมีผลกำไร ราคาหุ้นจะไม่มีราคาเป็นศูนย์อย่างแน่นอน
- หากตลาดหลักทรัพย์มีเหตุต้องปิดดำเนินการ เงินของพ่อค้าตลาดหุ้น จะยังคงเหลืออยู่ประมาณกึ่งหนึ่งเสมอ
จบบริบรูณ์
*************************************************
Create Date : 12 มิถุนายน 2553
Last Update : 12 มิถุนายน 2553 21:40:52 น.
6 comments
Counter : 653 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามา ผมหวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะครับ
โดย:
veerar
วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:23:25:29 น.
โดย:
ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ
วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:20:42:39 น.
ผมพยายามฝึกเป็นพ่อค้าตลาดหุ้นบ้าง
แต่ผมว่าผมคงต้องเริ่มที่ ความใจเย็นและอดทนของตัวเองให้ได้ก่อนเป็นอันดับต้นๆ
รวมทั้งประเมินมูลค่าหุ้นให้ได้แม่นยำมากขึ้น หาความรู้ใส่มากๆ
สักวัน ผมจะได้เป็นพ่อค้ากับเค้าบ้าง
โดย:
kunjoja
วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:59:47 น.
โชคดีครับคุณ kunjoja
ขอบคุณคุณ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอกับคุณ veerar ที่เข้ามาเม้นนะครับ
โดย:
ษุภณัฏฐ์
วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:38:05 น.
ให้กีบจขบ.
โดนๆๆ
มีขึ้นก็ต้องมีลง
มีออกก็ต้องมีเข้า
โดย:
น้องนู๋ GaZib
วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:15:36:17 น.
ข้อถามหน่อยครับ
ผมอยากเล่นหุ้น ต้องทำไงบ้าง เตรียมตัวยังไง และจะเล่นหุ้นอะไรดีครับ .....
โดย: PjKoaw S Class IP: 124.122.128.62 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:04:11 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Moritaka Muto
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [
?
]
Friends' blogs
tempopo
soda123
jejeeppe
Again-With-Love
chat156
ชีวประภา
findlove
yagle
Chulapinan
จีนี่ในกระจกแก้ว
thanitsita
coffee4you
ซุ้มเฟื่องฟ้า
kunjoja
RoseTiara
tunsystem
คนจนที่อยากรวย
Webmaster - BlogGang
[Add Moritaka Muto's blog to your web]
Links
Books for investing
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สวัสดีครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามา ผมหวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะครับ