โปรดช่วยอุปการะเด็กยากไร้ ccfthai.or.th เพียง 500 บาทต่อเดือน
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
คุณเป็นนักเล่นเกมแบบไหน

จากบล๊อกคราวที่แล้วคุณ kunjoja มาเม้นไว้ว่าแนววิธีเล่นเล่นหุ้นของผมเป็นแบบ "เล่นเกมที่จะชนะมากกว่าเกมส์ที่อาศัยการเก็งกำไร" เท่าที่ดูในกระทู้ต่างๆของสินธรกับเท่าที่คุยกับเพื่อนๆ จะเห็นว่าแนวนี้เป็นแนวที่ไม่น่าสนใจเท่าไหร เพราะทุกคนที่เข้ามาเล่นหุ้น ล้วนหวังจะเล่นแบบเก็งกำไรเพื่อรวยเร็วๆกันทั้งนั้น ใครๆก็มักจะพูดว่า "หุ้นรวยเร็วแต่เสี่ยงมาก" แต่ผมกลับมีความเห็นที่กลับกัน "หุ้นรวยช้าแต่มั่นคง" คงเป็นเพราะวิธีเล่นของผมเป็นแบบนี้

ผมเข้าใจว่าทำไมคนโดยมากคิดที่จะเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร แม้ผมเองก็เคยเล่นแบบนั้น หากเค้าติดตามอ่านบล๊อกผมมานานคงเคยอ่านเรื่อง "ผีเสื้อที่ไม่อาจโบยบิน" ของผม ครั้งนั้น ผมขาดทุนย่อยนับเพราะการเล่นแบบเก็งกำไร ไม่ใช่ว่าการเล่นแบบเก็งกำไรจะไม่ดี แต่มันแค่ ไม่เหมาะกับนิสัยผม การเก็งกำไรที่ดี คนเล่นต้องมีวินัยในการเล่น ต้องยึดหลักบางอย่าง อาจจะเป็นทางเทคนิค หรืออะไรก็แล้วแต่ สร้างสัญญาณซื้อและสัญญาณขายอย่างเป็นระบบ ซึ่งสัญญาณซื้อและสัญญาณขายควรมีโอกาสถูกมากกว่าผิด แต่จริงๆจะผิดมากกว่าถูกก็ใช้ได้ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเล่นเก็งกำไรคือ cut loss&let profit run หากสัญญาณซื้อขายถูก ก็ปล่อยให้กำไรขึ้นไปเรื่อยๆ แต่หากผิดก็คัทลอส หากเป็นคนที่ใจแข็งคัทลอสได้ แม้จะเก็งผิดมากกว่าถูกสุดท้ายก็กำไรมากกว่า เพราะพลาดไปก็ขาดทุนแค่เท่าที่จุดคัทลอส แต่ถ้ากำไรก็ได้ไม่จำกัดตราบเท่าที่ profit ยัง run ผมยอมรับว่า ผมใจไม่แข็งพอคัทลอสไม่ได้ พอเห็นหุ้นร่วงก็ปลอบใจตัวเองไปวันๆ เดี๋ยวมันก็ขึ้น บางทีก็ซื้อเพิ่ม ทำให้ติดดอย ขาดทุนหนักมาก

สำหรับแนววีไอนั้นต่างกัน วีไอจะประเมินธุรกิจ และพร้อมจะซื้อหุ้นดีในราคาที่สมเหตุสมผล กฏเหล็กของบัฟเฟตข้อนึงคือ "อย่ายอมขาดทุน" หลายคนคงงง เพราะมีอีกคำพูดนึงของบัฟเฟตที่ว่า "ถ้าทนเห็นหุ้นที่ ตนถืออยู่มีราคาลดลงไป 50 เปอร์เซนต์ ไม่ได้ ก็อย่าลงทุนในตลาดหุ้น" (วันที่เขียน 21 มค 2554 แดงเถือก ไม่รู้ทนกันได้รึเปล่า ) จริงๆแล้วการเป็นวีไอคุณต้องสามารถแยกราคาหุ้นออกจากมูลค่าหุ้นให้ได้ซะก่อน (พูดน่ะทำง่าย แต่พอเอาเข้าจริงๆยากมาก) จริงๆสิ่งที่บัฟเฟตอยากจะบอกคือ ซื้อหุ้นเมื่อเห็นกำไรจากมูลค่าหุ้น โดยที่ไม่สนแม้ราคาหุ้นที่ตนถือจะลงไปเท่าไหรก็ตาม หากมูลค่าหุ้นยังดีอยู่ถือหรือซื้อเพิ่ม

สมมุติว่าหุ้นตัวนึงราคา 10 บาท ทำกำไร 1 บาทต่อปี หมายความว่าถ้าคุณซื้อคุณกำไรแน่นอน 10% หากคุณประเมินมูลค่าหุ้นไม่ผิดนะ เมื่อหุ้นราคาลงไป 50% ราคาเหลือ 5 บาท คุณยังไม่ได้ขาดทุนนะครับ คุณก็ยังกำไรเหมือนเดิม 10% แต่ถ้าคุณมีเงินเหลือไปซื้อหุ้นอีก คุณก็จะได้กำไร 20% จากรอบใหม่นี้ หากคุณมองหุ้นที่มูลค่า คุณจะนึกถึงคำพูดของบัฟเฟตที่ว่า "เหมือนตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในฮาเร็ม" แต่หากคุณมองหุ้นที่ราคา คงเครียดน่าดู

ปกติกำไรของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จะไม่มาก 10-20% ถือว่าเป็นเรื่องปกติ (ผมหมายถึงกำไรที่เกิดจากการทำธุรกิจจริงๆนะครับ ไม่ใช่กำไรที่เกิดจากการเก็งกำไร) เวลาผมซื้อหุ้น ผมมักจะมองกำไรตรงนี้มากกว่า เพราะมันเป็นกำไรที่ค่อนข้างประเมินได้และสมเหตุสมผล ก็อย่างที่คุณ kunjoja บอกไว้ แนวการเล่นของผมค่อนข้างเล่นแบบเอาชนะอย่างเดียว เพราะนิสัยผมไม่ชอบขาดทุน ซื้อเมื่อเห็นกำไรเท่านั้น เหมือนที่บัฟเฟตบอกไว้ว่า "อย่ายอมขาดทุน"

เคยมีคนถามผมว่างั้นมูลค่าหุ้นอยู่ที่ไหน ผมก็ตอบไม่ได้นะครับ เพราะจริงๆมูลค่าก็ไม่ได้มีอยู่จริง เพราะการประเมินมูลค่าหุ้นนั้น เป็นการประเมินกำไรที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่มีใครบอกอนาคตได้หรอกครับ เราทำได้เพียงดูจากอดีตและคาดสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต บัฟเฟตมักจะชอบมองหาธุรกิจที่สามารถประเมินค่าอนาคตได้ง่ายๆโดยดูจากอดีต สำหรับผม ผมว่ามูลค่าหุ้นควรเป็นมูลค่าที่คุณเชื่อมั่น ทำให้คุณกล้าซื้อหุ้นในขณะที่คนอื่นขาย กล้าซื้อเพิ่มแม้จะมีแต่ข่าวร้าย สามารถทำให้คุณถือไว้ได้แม้ราคาจะพุ่งไปมากระดับหนึ่ง ดังนั้นควรเป็นมุลค่าที่คุณประเมินได้เองมากกว่า เพราะคุณคงไม่เชื่อใครนอกจากตัวเองมากที่สุด หากคุณไม่สามารถสร้างมูลค่าหุ้นที่ทำให้คุณสามารถทำอย่างนี้ได้ คุณก็ไม่เหมาะเป็นวีไอเช่นกัน

คุณล่ะครับ เป็นนักเล่นแบบไหน

เพื่อนๆช่วยกดโหวต.....ด้านล่างขวามือนะครับ (เป็นรูปนิ้วโป้ง เขียนว่า vote) น่าจะเป็นห้อง Business Blog นะครับ

ขอบคุณครับ


Create Date : 21 มกราคม 2554
Last Update : 21 มกราคม 2554 13:32:09 น. 10 comments
Counter : 943 Pageviews.

 


โดย: ผมไม่รุเรื่องหุ้นเลย.. (taruntura ) วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:12:54:12 น.  

 
ขอบคุณที่มาเม้นนะครับ หากเป็นสไตล์วีไอแนะนำอ่านหนังสือของบัฟเฟตครับ


โดย: ษุภณัฏฐ์ วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:13:07:01 น.  

 
ขอบคุณมากสำหรับการให้เครดิตผมครับ

เรือง game theory ผมเคยเขียนในแนวคล้ายๆกับคุณ ษุภณัฎฐ์ เอาไว้ ด้วยสิ่งที่ผมกลั่นกรองจากการอ่านแล้วคิดเอง เออ เอง ผิดถูกไม่รู้ แต่น่าจะต่อยอดความคิดไปอีกได้

ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ
ในบล็อกผม หัวข้อ game theory
ทำลิงค์ไว้
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kunjoja&month=09-2010&date=26&group=1&gblog=25


โดย: kunjoja IP: 110.77.226.141 วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:15:54:33 น.  

 
ขอบคุณครับคุณ kunjoja เขียนดีครับ มิน่าคุณถึงพูดว่าเกมที่ีผมเล่นเป็นเกมชนะอย่างเดียว เพราะความหมายของคุณคือผมกำลังเล่นหุ้นแบบ win-win



โดย: ษุภณัฏฐ์ วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:16:40:55 น.  

 
"หุ้นรวยช้าแต่มั่นคง" ... เห็นด้วยครับ ^^


โดย: มิ่ง IP: 58.11.83.239 วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:1:03:50 น.  

 
ขอบคุณที่มาเม้นนะครับ


โดย: ษุภณัฏฐ์ วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:5:47:22 น.  

 
เข้ามาให้กำลังใจคะ ^ ^v


โดย: zaiaew IP: 192.168.182.201, 124.121.202.60 วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:1:35:56 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ เราเป็นผู้มาเยือน และเป็นครั้งแรก สนใจเรื่องหุ้น แต่ไม่เคยเล่นแบบเก็งกำไร
เคยซื้อผ่านแบงค์ โดยไม่มี บัญชีของตัวเอง พอจะขายขายไม่ทัน เลยต้องมานั่งทำใจอยู่หลายวัน เพราะมันตกแล้วตกเล่า

คราวนี้มาว่าจะลองใหม่ ใช้บัญชีของตัวเอง มีอะไรจะแนะนำมั๊ยคะ


โดย: โชติกา IP: 110.49.235.37 วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:16:41:48 น.  

 
หาก login แล้ว จะเป็นตามภาพนี้
ของจริงต้องมีชื่อปรากฎ พร้อมกับ icon ต่อท้ายครับ

ไม่ต้องพิมพ์รหัสเพื่อส่งข้อความ


โดย: คนจนที่อยากรวย วันที่: 15 เมษายน 2554 เวลา:20:46:46 น.  

 
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาครับ
๑ คุณโชติกา ลองอ่านหนังสือของบัฟเฟต หรือ ดร นิเวศน์ หรือ หุ้นห่านทองคำดูครับ หรือไม่ก็ลองดูคลิปนี้ก็ได้ครับ //www.youtube.com/watch?v=X_qkprr7snE&feature=mh_lolz&list=FL5Oi942wLPC4
หรือไม่ก็ลองอ่านบล๊อกผมดูครับ


โดย: ษุภณัฏฐ์ วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:17:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Moritaka Muto
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add Moritaka Muto's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.