❀..ดาวและดิน....❀
❦
ณ ดวงดาว..วะวาววับประดับเด่น
สว่างเว้นมิเร้นร่างมิห่างหาย
ณ ห้วงหาวจะน้าวเหนี่ยวสิเกี่ยวกาย
ระทมถึงคะนึงหน่ายมิคลายคลา..
❦
ฤดีดวง..สิหน่วงหนักสลักร้อย
เพราะคิดคล้อยจะคอยข้างมิห่างหา
เพราะคร่ำครวญมิควรคบรึพบพา
ณ ฟากฟ้าถลาลง ณ ดงดิน..
❦
สะอื้นอก..วิตกตามลุลามล่วง
เพราะให้ห่วงมิลวงรุดจะสุดสิ้น
ละลิ่วลอยจะคล้อยคลามิชาชิน
จะด่าวดิ้นระรินร่างบ่ร้างเรา..
❦
สลดรัก..ประจักษ์ใจฤทัยแท้
มิเหลียวแลจะแพ้พลาดเพราะขลาดเขลา
สลดรักประจักษ์แจ้งแสดงดาว
สิซึมเศร้านะเจ้าใจ.. มิไป่ปอง..
❧ღ❦.. อิงดาว พราวฟ้า.. ❦ღ❧
"กลบท กินนรรำ"
ให้เขียนเป็น "กลอนเก้า" โดยแบ่งช่วงจังหวะ [๓ / ๓ / ๓]
ข้อบัญญัติ :
๑). ให้คำแรกของแต่ละช่วงในวรรคเป็น "ลหุ" (คำที่ ๑ ,๔ และ ๗)
๒). คำที่ ๒ และ ๓ ของแต่ละช่วงเล่นสัมผัสอักษรกัน
๓). ให้มีสัมผัสสระแทรกของทุกช่วงภายในวรรค (คำที่ ๓-๕ และ ๖-๘)
** อ้างอิง : ต้นแบบกลบทนี้มีปรากฏที่มาเฉพาะในตำรากลบท "จารึกวัดพระเชตุพนฯ"
ไพเราะดีครับ