"True success is not the learning, but in its application to the benefit of mankind"
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
22 พฤษภาคม 2556

สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ๒๘ : อวสานซามูไรอโยธยา

"คำสวดวอนของข้าขอเมตตาเหล่าเทพเจ้า

ล้วนสัมฤทธิ์ผลถ้วนทั่วทุกประการ

แม้นครั้งหนึ่งเป็นชาวเมืองนี้(ซุมปุ)

ข้าอาศัยพึ่งพิงกรุงศรีอยุทธยา

วันที่เปี่ยมด้วยเมตตาในเดือนยี่ ปีคาเนที่สาม(พ.ศ.๒๑๖๙)

ยามาดะ นิซาเอมอง โนะโจ นางามาสะ"

-ข้อความบนภาพเรือรบที่ออกญาเสนาภิมุขส่งไป

ถวายศาลเจ้าเซ็นเง็นในเมืองซุมปุ(ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดชิซึโอกะ)


พ.ศ.๒๑๗๒ สมเด็จพระเจ้าปราสาททองเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุทธยา ทรงครองอำนาจในราชสำนักแบบเบ็ดเสร็จไร้ผู้ต่อต้าน แต่ก็ยังมีคนผู้หนึ่งที่พระองค์ไม่สามารถวางพระทัยได้แม่ว่าจะถูกพระองค์เขี่ยออกไปเมืองนครศรีธรรมราช(ซึ่งนับว่าไกลสุดกู่)แล้วก็ตาม คนผู้นั้นก็คือออกญาเสนาภิมุข(ยามาดะ นิซาเอมอง โนะโจ นางามาสะ)



ราชการเมืองนคร

ตั้งแต่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองยังเป็นเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ พระองค์กับขุนนางในราชสำนักได้บีบให้ออกญาเสนาภิมุขกับทหารอาสาญี่ปุ่นในบังคับทั้งหมดออกไปจากกรุงศรีอยุทธยา โดยอ้างว่าออกญานคร เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชเป็นกบฏ ให้ออกญาเสนาภิมุขเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นออกญานคร(Oija Ligoor)นำทหารญี่ปุ่นทั้งหมดลงไปปราบปรามให้สงบเรียบร้อย(อ่านตอนที่ ๒๒) แต่จริงๆแล้วแสดงให้เห็นถึงความไม่ไว้วางใจของข้าราชการไทยที่มีต่อชาวญี่ปุ่น ซึ่งไม่น่าเป็นที่ไว้วางใจนักเนื่องจากเคยมีประวัติก่อกบฏบุกพระราชวังหลวงมาแล้วสองครั้ง นอกจากนี้ประสิทธิภาพทางการรบก็มีสูง หากอยู่ใกล้ก็มีสิทธิจะกลายเป็นหอกข้างแคร่ได้


สำหรับทางเมืองนครศรีธรรมราช ออกญานครคนเก่า (ซึ่งอิงจาก 'ตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช' ว่าน่าจะเป็น'พระยาแก้ว' เป็นหลาน 'พระญา' ที่เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชใน พ.ศ.๒๑๗๑) ไม่ได้คิดกบฏ แต่ติดศึกกับทางปัตตานีจึงไม่ขึ้นไปถวายน้ำพระพิพัฒน์สัตยาที่กรุงศรีอยุทธยา เลยเป็นข้ออ้างที่พระเจ้าปราสาททองให้ออกญาเสนาภิมุขลงมาปราบปรามได้ เมื่อได้ข่าวว่าออกญาเสนาภิมุขกำลังลงมาเมืองนคร ออกญานครคนเก่าจึงหวังจะให้ออกญาเสนาภิมุขช่วยคุ้มครองตนจากพระราชอาญาในครั้งนี้เพราะตนเองไม่ได้คิดกบฏตั้งแต่แรก


ตามหลักฐานของเยเรเมียส ฟาน ฟลีต กล่าวว่าทหารญี่ปุ่นคงเป็นที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อออกญาเสนาภิมุขเคลื่อนทัพมาถึงนครศรีธรรมราช ปรากฏว่าไม่มีใครแสดงท่าทีว่าจะมีการก่อกบฏเลย แต่ออกญาเสนาภิมุขก็ยังสามารถหาคนที่แสดงท่าทีกระด้างกระเดื่องหรือจะก่อกบฏมาได้ แล้วจัดการลงโทษถึงตายหรือยึดทรัพย์แล้วเอาทรัพย์สินมาแบ่งสรรกันในหมู่ทหารญี่ปุ่น ในเวลาไม่นานสถานการณ์ในเมืองนครศรีธรรมราชก็สงบเรียบร้อย(ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้มีอะไรตั้งแต่แรก) ออกญาเสนาภิมุขก็กลายเป็นเจ้าเมือง และด้วยคำขอร้องจากออกญานครคนเก่า ออกญาเสนาภิมุขจึงตั้งออกญานครคนเก่าขึ้นเป็นหัวหน้าที่ปรึกษา(chief adviser) ทั้งนี้อาจเป็นการแสดงถึงการให้ความสำคัญกับคนในท้องถิ่นอยู่เพื่อที่จะได้ไม่มีใครในท้องถิ่นต่อต้าน


หลังจากนั้นออกญานคร(ยามาดะ)จึงส่งหนังสือขึ้นไปกรุงศรีอยุทธยาเพื่อรายงานสถานการณ์ แต่ออกญานครในตอนนั้นไม่รู้ว่าสมเด็จพระอาทิตยวงศ์ถูกเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์สำเร็จโทษไปแล้วขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าปราสาททอง



พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร 

จังหวัดนครศรีธรรมราช


ฟาน ฟลีตกล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงไม่พอพระทัยเลยกับความสำเร็จของยามาดะ(เป็นหนึ่งในหลายๆครั้งที่ฟาน ฟลีตพูดเหมือนอ่านใจพระเจ้าปราสาททองได้)ทั้งนี้คงเป็นเพราะพระองค์หวังจะยืมดาบฆ่าคน แต่พระองค์ทรงแสดงท่าทีว่าพอพระทัยและทรงยกย่องออกญานครมากมาย นอกจากนี้ยังทรงพระราชทานสิ่งของและหญิงสาวหลายคนไปให้เพื่อเป็นการปูนบำเหน็จความดีความชอบในครั้งนี้ด้วย โดยตั้งใจให้ออกญานครแต่งงานกับหญิงสักคนที่พระราชทานไปให้(เข้าใจว่าคือให้รับไว้เป็นอนุ)

แต่ในขณะเดียวกันพระองค์ทรงให้ออกญาพระคลัง(Oija Barckelang)ส่งหนังสือลับไปให้ออกญานครคนเก่าด้วย เนื้อความมีอยู่ว่าหากสามารถกำจัดชาวญี่ปุ่นออกไปได้จะได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชอีกครั้ง


เมื่อของกำนัลทั้งหลายแหล่ถูกส่งไปถึง ข่าวเรื่องสมเด็จพระอาทิตยวงศ์ถูกสำเร็จโทษก็ไปถึงเช่นเดียวกัน ข่าวนี้ทำให้ออกญานคร(ยามาดะ)เสียใจมาก ถึงกับเผลอออกอาการไม่พอใจสมเด็จพระเจ้าปราสาททองออกมา แต่พอรู้สึกตัวก็กลับมาแสดงท่าทียินดีต่อการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เรื่องนี้เป็นหนึ่งตัวอย่างของการไม่สามารถเก็บความรู้สึกของยามาดะซึ่งหลายครั้งมักแสดงท่าทีอย่างออกนอกหน้าว่ามีจุดยืนของตนเอง มีความจงรักภักดี และชอบขัดแย้งพระเจ้าปราสาททองนัก เสียใจกับคนที่ถูกพระเจ้าปราสาททองฆ่่าก็ร้องให้อย่างเปิดเผย ซึ่งบางครั้งแสดงออกต่อหน้าพระเจ้าปราสาททองด้วยซ้ำจึงถูกเพ่งเล็งจากพระเจ้าปราสาททอง ปัจจัยที่ว่ามาทั้งหมดทำให้นามาดะเป็นคนที่สามารถอ่านออกได้ง่าย  

ตรงข้ามกับสมเด็จพระเจ้าปราสาททองซึ่งฟาน (ฟลีตมักชอบพูดเหมือนรู้ว่าพระองค์คิดอะไรในใจ) สมัยก่อนครองราชย์ พระองค์ไม่แสดงความรู้สึกออกมา พระองค์สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าพระองค์สามารถเป็นมิตรและเข้าหาทุกๆคนได้จนสามารถดึงขุนนางในราชสำนักมาอยู่ข้างตนหมดได้ สามารถแสดงตัวอ่อนถ่อมตนจนอีกฝ่ายตายใจแล้วเชือดทิ้งที่หลังก็ได้ เก็บอาการว่าเป็นผู้จงรักภักดีไม่ต้องการราชสมบัติ แต่สามารถรอเวลาที่เหมาะสมก็สามารถยึดครองทุกสิ่งได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าพระองค์ความเหนือชั้นมากกว่ายามาดะมาก

หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป ออกญานคร(ยามาดะ)เริ่มไม่ไว้วางใจออกญานครคนเก่า ทั้งนี้อาจเป็นเพราะยามาดะก็อาจเริ่มระแคะระคายว่าว่าออกญานครคนเก่าจะเป็นคนของพระเจ้าปราสาททอง ทั้งนี้ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ลองพิจารณาว่าโทษของออกญานครคนเก่าคือการไม่ไปถือน้ำพระพิพัฒสัตยาซึ่งตามกฎมลเฑียรบาลโทษถึงตาย ต่อให้ยามาดะจะช่วยหรือตั้งเป็นที่ปรึกษาก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ทางราชสำนักไม่ได้ลงโทษใดๆนอกจากถูกปลด จุดนี้อาจทำให้ยามาดะสงสัยก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ออกญานครจึงไม่ให้ออกญานครคนเก่ามาพบหน้าอีก แต่ออกญานครกลับยังมีความสัมพันธ์อยู่กับออกพระนริศ(Opra Narit-ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๗๙ แปลว่าออกพระมะริด) น้องชายของออกญานครคนเก่าอยู่ ให้มาพบเป็นครั้งคราว


แผลสุดท้าย


 รูปยามาดะนำทหารญี่ปุ่นโจมตีศัตรู
ซึ่งน่าจะเป็นชาวปตานีหรือนครศรีธรรมราช

เมืองนครศรีธรรมราชเป็นหัวเมืองเอกทางใต้ของกรุงศรีอยุทธยา แต่เดิมค่อนข้างมีอำนาจในการปกครองตนเองในท้องถิ่นสูงสามารถเจรจาทำการค้ากับต่างชาติได้เองโดยไม่ต้องผ่านทางส่วนกลางที่อยุทธยา นอกจากนี้ยังเคยมีอิทธิพลในหัวเมืองใกล้เคียงเช่นพัทลุงดังเห็นว่ามีบางครั้งที่เจ้าเมืองพัทลุง(ซึ่งอาจเป็นเครือญาติ)ได้เลื่อนเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เครือญาติมักจะได้สืบทอดตำแหน่งการปกครองในแถบนี้ตัวอย่างเช่นพระยาแก้วกับพระยารามราชท้ายน้ำ การที่ยามาดะกับชาวญี่ปุ่นได้มาเป็นใหญ่อาจทำให้เกิดความไม่พอใจของคนในท้องถิ่นโดยเฉพาะบรรดาเชื้อสายเจ้าเมืองที่สูญเสียอำนาจด้วยก็เป็นได้


หัวเมืองแถบนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลายังมีความสำคัญในฐานะแหล่งผลิตพริกไทยซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญอีกด้วย สามารถส่งออกในปริมาณมากได้ทุกปี


เดิมเมืองนครศรีธรรมราชเคยมีความสัมพันธ์กับรัฐปตานี(ปัตตานี)ด้วยการสยุมพรทางเมือง โดยให้ออกพระยาเดชาลูกชายเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงกูนิงแห่งปตานี แต่ต่อมาเมื่อรายาอูงูพระมารดาของรายากูนิงขึ้นครองเมืองปตานีก็ตัดสัมพันธ์กับทางกรุงศรีอยุทธยาแล้วทำการโจมตีหัวเมืองแถบนั้นอยู่เนืองๆมาตั้งแต่ราวๆ พ.ศ.๒๑๖๘ ซึ่งผลครั้งนี้ทำให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพในแถบนั้น ไร่พริกไทยซึ่งเป็นสินค้าสำคัญก็เสียหายด้วย


ด้วยเหตุนี้ยามาดะในฐานะออกญานครจึงคงต้องรับศึกกับทางปตานีอยู่เนืองๆ จะกี่ครั้งไม่ทราบได้ แต่ราว พ.ศ.๒๑๗๓ ในการรบครั้งหนึ่งออกญานครได้รับบาดเจ็บที่ขา แต่ด้วยยาที่ออกพระนริศนำมารักษาก็สามารถบรรเทาความเจ็บปวดบาดแผลนั้นก็สมานตัวอย่างเร็ว ออกญานครจึงให้จัดงานเลี้ยงฉลองในโอกาสที่ตนจะแต่งงานกับนางที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองพระราชทานมาให้ งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างน่ารื่นเริง ทุกคนล้วนสนุกสนาน แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น



ชีวิตดุจความฝัน... ออกญานคร ยามาดะ นิซาเอมอง โนะโจ นางามาสะ สิ้นชีวิต...


ตามที่ฟาน ฟลีตกล่าวอ้าง(ซึ่งไม่รู้จริงมั้ยเพราะเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตรง) ออกพระนริศเป็นคนวางยาพิษในยาที่ใส่แผล(หรือใช้ยาพิษแทนยาหมดเลยก็ไม่ทราบ)

นับเป็นวาระสุดท้ายของชาวญี่ปุ่น ผู้รอนแรมมาไกลจากบ้านเกิดเพื่อเผชิญโชคจนสามารถเป็นใหญ่ในต่างถิ่น เป็นตัวแทนของไทยในการติดต่อเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับรัฐบาลเอโดะ หัวหน้าหมู่บ้านญี่ปุ่น เป็นผู้กุมทหารอาสาญี่ปุ่นซึ่งมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายครั้ง แต่กลับสิ้นชีพลงด้วยวัยราว ๔๐ ปีเท่านั้น

ถ้าสิ่งที่ฟาน ฟลีตเล่ามาเป็นความจริง การตายของยามาดะ นางามาสะครั้งนี้ก็เป็นไปตามการวางแผนของผู้ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงวิจารณ์ว่าเป็นคนที่ 'ฉลาดในทางอุบายมารยา' คนที่สามารคาดการณ์ได้ว่าทางเมืองนครศรีธรรมราชต้องการทวงสิทธิอำนาจที่ตนเคยมี แต่ถูกญี่ปุ่นฉกไปด้วยการวางแผนของคนผู้นี้เอง


ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น สมเด็จพระเจ้าปราสาททองนั้นเอง




Create Date : 22 พฤษภาคม 2556
Last Update : 25 พฤษภาคม 2556 18:40:43 น. 4 comments
Counter : 4435 Pageviews.  

 
เย่ จบแล้ว !!!


โดย: อตีตา IP: 115.87.192.228 วันที่: 25 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:30:21 น.  

 
ข้อความในรูป

奉挂御立願  
諸願成就  
令満之所  
当国主
今天竺暹邏国住居
寛永三丙寅歳 二月吉日 山田仁左衛門尉長政


โดย: งงงงงงงงงงงง IP: 203.144.144.162 วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:53:58 น.  

 
รบกวนแปลจากภาษาญี่ปุ่นให้หน้อยนะครับ

ของผมแปลมาจากภาษาอังกฤษอีกต่อนึงเลยไม้รู้ว่าความหมายจะคลาดเคลื่อนไปรึเปล่า


โดย: ศรีสรรเพชญ์ (Slight06 ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:26:56 น.  

 
เข้ามาอ่านค่ะ ขอบคุณค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:43:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ศรีสรรเพชญ์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




New Comments
[Add ศรีสรรเพชญ์'s blog to your web]