มีการศึกษา (Education) ไม่ได้แปลว่า มีความรู้ (Knowledge)
กระดาษหนึ่งแผ่น..ไม่ได้ทำให้คนฉลาดขึ้น การเรียนรู้..ไม่ได้มีอยู่แต่ในห้องเรียน
การต่อยอดจากสิ่งที่ดี ย่อมได้สิ่งที่ดีกว่า
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
"ครู" ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ในดวงใจผม

คำว่า "ครูอาชีพ" กับ "อาชีพครู" คำสองคำนี้ ดูผิวเผินแล้วไม่แตกต่างกันนัก แต่จริงๆ แล้ว ในความคิดเห็นของผม มันต่างกันราวฟ้ากับดินเชียวล่ะ คนหนึ่งทำด้วยชีวิตจิตใจ แต่อีกคนหนึ่งทำไปตามหน้าที่

ผมให้นิยามคำว่า "ครูอาชีพ" คือผู้ที่อบรมสั่งสอนศิษย์ ทั้งด้านวิชาความรู้ คุณธรรม จริยธรรม โดยทุ่มเทและอุทิศทั้งชีวิต จิตวิญญาณ และทุกเวลานาที เพื่อเป็นครู ทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย เพื่อให้ศิษย์มีวิชาความรู้ และเติบใหญ่ได้ดีในภายหน้า โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอื่นใด

ส่วนคำว่า "อาชีพครู" ผมจะนึกไปถึง คนที่มาเซ็นชื่อโดยลงเวลาก่อนเจ็ดโมงครึ่ง (แม้จะเป็นเวลาแปดโมงครึ่งแล้วก็ตาม) คนที่แสดงออกซึ่งความเป็นครูเฉพาะในชั่วโมงที่มีสอน คนที่สอนเฉพาะสิ่งที่ถูกกำหนดให้สอน คนที่เป็นครูเฉพาะเวลาที่อยู่ในโรงเรียน และคนที่รีบไปเข้าคิวเซ็นชื่อกลับบ้านเมื่อถึงเวลาเลิกเรียน


==============================

"ครู" ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ในดวงใจผม
โดย.. "ธีรวุฒิ"
ruetaisuk@hotmail.com


วันนี้ผมมีโอกาสพบปะสังสรรค์กับเพื่อนเก่าร่วมสถาบันอีกครั้ง หลังจากที่เราพยายามติดต่อกัน และนัดหมายกันมาได้ระยะหนึ่ง ในครั้งนี้มีเพื่อนบางคนเพิ่งมาเป็นครั้งแรก หลังจากที่ไม่ได้พบกันเลยตั้งแต่จบการศึกษา

หัวข้อสนทนาของเราในวันนี้ส่วนใหญ่จึงไม่พ้นเรื่องเก่าๆ เพราะเรื่องราวที่เล่าขาน ล้วนเป็นเรื่องที่น่าจดจำทั้งสิ้น บางคนเก็บความลับมาตั้งหลายสิบปี ก็เพิ่งจะมาบอกกล่าวกัน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แววตามีประกายแห่งความสุข

เพื่อนเก่าร่วมสถาบัน

บางคนมีความเห็นว่า พวกเราน่าจะพบกันให้บ่อยขึ้นกว่านี้ ขณะที่บางคนบอกว่า เขานับวันรอให้ถึงวันนัดหมายเร็วๆ เพื่อที่จะได้พบกันอีก ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าในแต่ละครั้งที่พบกันนั้น เรายังคุยกันไม่จบเรื่องราวเลย อย่างในครั้งนี้ก็เช่นกัน ตั้งแต่ก่อนเที่ยงวันจนถึงสี่โมงเย็น ดูเหมือนว่าเวลาจะน้อยเสียเหลือเกิน แต่..งานเลี้ยงก็ย่อมต้องมีเลิกรา

ขณะเดินทางกลับจากงานเลี้ยง ผมบอกกับเพื่อนที่ร่วมทางมาด้วยกันว่า ผมคิดถึงอาจารย์ ผมอยากไปกราบท่าน ท่านเป็นอาจารย์ประจำชั้น เมื่อตอนที่อยู่ปีหนึ่ง บ้านท่านอยู่ย่านฝั่งธนฯ ตามเส้นทางที่เราจะต้องผ่านอยู่แล้ว เพราะตลอดเวลากว่าสี่สิบปีหลังจบการศึกษา ผมยังไม่เคยไปกราบท่านเลย แต่ผมก็ยังระลึกถึงท่านอยู่เสมอมา

เมื่อพวกเราไปถึงบ้านอาจารย์ ทันทีที่พบกัน ทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ต่างก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ผมถามอาจารย์ว่า "อาจารย์สบายดีไหมครับ" (ขณะนี้อาจารย์อายุ 74 ปีแล้ว แต่ยังดูสดใสและแข็งแรง)
"ครูสบายดี"
"อาจารย์จำผมได้ไหมครับ"
"ครูจำเธอได้" อาจารย์ยังบอกชื่อ นามสกุล ของผมได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

เท่านั้นยังไม่พอ ยังบอกชื่อ นามสกุล ของเพื่อนร่วมก๊วนห้อง 405 อีก 5-6 คนได้อย่างแม่นยำ ยิ่งทำให้ผมประทับใจมากครับ (อาจารย์ท่านเรียกตัวเองว่าครูตลอดมา แต่พวกผมติดที่จะเรียกท่านว่าอาจารย์มาตั้งแต่สมัยเรียน)

อาจารย์พูดว่า "เวลาครูทำบุญทุกครั้ง ครูอุทิศส่วนกุศลให้ลูกศิษย์ของครูทุกคนเสมอมา ไม่ใช่พวกเธอรุ่นเดียวนะ ทุกคนเลย ครูขอ ว่าให้พวกเธอทุกคนจงมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป แต่ครูไม่ได้ขอให้พวกเธอร่ำรวยนะ เพราะว่ามันคงเป็นไปไม่ได้"

ผมรู้สึกปลาบปลื้มใจยิ่งนัก แต่ก็นึกเสียใจอยู่บ้าง ที่ไม่เคยได้ตอบแทนพระคุณท่าน เพียงแต่ระลึกถึงอย่างเดียว ซึ่งก็ไม่อาจเทียบเท่าได้กับสิ่งที่ท่านได้กระทำเพื่อพวกผมเลย วันนี้ผมและเพื่อนซื้อส้มโอ 3-4 ลูกมาฝากอาจารย์ ไม่ได้จัดเตรียมสิ่งของอื่นใดมาเลย เพราะมีโอกาสมาพบอาจารย์อย่างกะทันหัน

"ไม่ต้องเอาอะไรมาให้ครูหรอก แค่คิดถึงครูก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องลำบากมาหาครูก็ได้ ถ้ามีโอกาสก็โทรมาหาครู บอกว่าเธอยังอยู่สบายดี ครูก็ชื่นใจแล้ว" นี่เป็นคำพูดที่อาจารย์บอกพวกผมในวันนั้น

"มีรุ่นพี่เธอคนหนึ่งเขาโทรมาอวยพรครู ในทุกวันเกิดของครู ทำเช่นนี้เสมอมา 18 ปีแล้ว สิ่งที่เขาให้พรครู ครูก็ขอให้สิ่งเหล่านั้นกลับไปสนองตอบเขาด้วย ซึ่งทุกวันนี้เขาก็เจริญก้าวหน้าเป็นที่สุด ได้เป็นถึง Number One Executive ของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่มีชื่อเสียงบริษัทหนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียว ครูดีใจและก็ปลื้มใจกับเขาด้วย"

"ส่วนอีกคน เขาไปตั้งหลักปักฐานอยู่ที่อเมริกา ที่แอลเอโน่น เขาเคยมารับครู กับอาจารย์นันทวัน และอาจารย์อีกคนหนึ่ง พาไปเที่ยวอเมริกา และเขานัดเพื่อนๆ ที่อยู่ในอเมริกามาหาครู ครูดีใจมาก ที่เห็นพวกเขาประสบความสำเร็จในชีวิต ก่อนเดินทางกลับ เขายังช่วยกันรวบรวมเงินดอลลาร์มาให้ครู ก็มากพอสมควร ครูปฏิเสธ แต่พวกเขาก็ไม่ยอม ครูรู้สึกกระดากใจ ไม่อยากได้ของเขาหรอก แต่ก็ขัดเสียไม่ได้ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ครูก็เลยเอาเงินพวกเขา มาทำบุญกับองค์กรการกุศลแห่งหนึ่ง แล้วส่งใบโมทนาบัตรไปให้พวกเขา ว่าครูตั้งใจทำบุญต่อ เพื่อให้พวกเขาได้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป"

อาจารย์ยังเล่าให้ฟังอีกว่า "เพื่อนสนิทเธอ... (อาจารย์เอ่ยชื่อ) เขาเคยมาหาครูครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว เขามาบอกครูว่า ชีวิตเขาตกต่ำมาก ต้องไปขายไก่ย่างเล็กๆ น้อยๆ แทบไม่พอประทังชีวิต แต่เขาไม่ได้มารบกวนอะไรครูนะ เขาเพียงแค่นึกถึงครู อยากมาพบครู และอยากเล่าเรื่องของเขาให้ครูฟังเท่านั้น ตอนนั้นร่างกายเขาดูทรุดโทรมไปมาก ครูสงสารเขา เอาเงินยัดใส่มือเขา แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ตั้งแต่นั้นมาครูก็ยังไม่ได้พบกับเขาอีกเลย"

ผมและเพื่อน ฟังอาจารย์เล่าแล้วถึงกับอึ้ง เพราะนอกจาก ความรู้ทางวิชาการและคุณธรรม ที่พวกเราได้รับการอบรมสั่งสอนจากอาจารย์ ยังมีสิ่งหนึ่งที่เราได้รับจากอาจารย์เสมอมา นั่นคือ ความรักความห่วงใย ที่อาจารย์มีให้กับทุกคน เปรียบเสมือนแม่ที่คอยดูแลลูกๆ ของตนเอง พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งถ้าผมไม่เล่าให้พวกคุณได้ทราบ ผมคงอกแตกตายแน่ๆ

เมื่อครั้งที่อาจารย์ เป็นอาจารย์ประจำชั้นของพวกผม ท่านมีกุศโลบายที่แยบยลอันหนึ่ง วัตถุประสงค์เพื่อที่ท่าน จะได้รู้จักลูกศิษย์ของท่านแต่ละคนให้มากขึ้น ท่านให้นักเรียนเขียนทุกเรื่องราวของตัวเอง ใส่ลงในสมุดสีสันสวยงาม ที่อาจารย์จัดหามาให้คนละหนึ่งเล่ม ท่านสัญญาว่า จะเก็บเรื่องราวของแต่ละคนไว้เป็นความลับสุดยอด

ด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้อาจารย์ได้รู้จัก และเข้าใจในตัวลูกศิษย์ของท่าน ตลอดจนถึงครอบครัวของแต่ละคนเป็นอย่างดี ท่านทราบว่า ใครบ้างที่ลำบาก ใครบ้างที่ขัดสน หรือใครบ้างที่มีปัญหา ท่านพยายามหาทาง ช่วยเหลือแบ่งเบาให้กับแต่ละคนตามกำลัง อย่างเช่นในวันนั้น อาจารย์มาพูดกับผมเบาๆ ว่า
"ครูเอาข้าวสารมาฝากเธอ อยู่ที่โต๊ะครู ก่อนกลับบ้านแวะมาเอาไปด้วยนะ"

อาจารย์ทำเช่นนี้เสมอ บางครั้งยังมีปลาเค็ม ปลาย่าง แถมใส่มาด้วย ยิ่งมารู้ตอนนี้ว่า "ตอนที่ครูแอบเอาข้าวสารมาให้เธอ แม่ครูถามว่า เอาข้าวสารไปอีกแล้วหรือ ครูก็เข้าใจแม่ครูนะ เพราะฐานะทางบ้านครูในตอนนั้น ก็ใช่ว่าจะดีอะไรนักหนา แต่แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากนัก" ทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้น

ผมบอกอาจารย์ว่า โอกาสหน้าผมตั้งใจจะเอาข้าวสารมาให้อาจารย์บ้าง

"ไม่ต้องเอามาให้ครูหรอก" อาจารย์รีบปฏิเสธ
"ครูไม่ได้ขัดสนอะไร จริงๆ คิดไปแล้วมันก็เป็นเรื่องแปลกนะ จะด้วยอานิสงค์ที่ครูได้ทำกับเธอหรืออะไรครูไม่ทราบ พอทุกคนรู้ว่า ทุกวันนี้ ครูหุงหาอาหารรับประทานเอง ก็มีลูกศิษย์หลายคน เอาข้าวสารมาให้ครูเป็นจำนวนมากเลย ครูทานไม่ทันหรอก ขอบใจเธอมาก เพียงแต่เธอมาหาครู หรือถ้าไม่สะดวกที่จะมา เพียงแต่โทรมาบอกครูว่า เธออยู่สุขสบายดี ครูก็ดีใจแล้ว"

หลังจากอาจารย์พูดจบ ไม่รู้ว่ามันมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ในลำคอ น้ำตาแห่งความปิติเอ่อซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว ผมและเพื่อนเข้าไปกอดอาจารย์ และเมื่อพวกผมกำลังจะกลับ อาจารย์เดินมาส่งผมและเพื่อนถึงประตูรถ ซึ่งจอดอยู่ไกลจากตัวบ้านพอสมควร

ผมคิดไปไกลว่า สังคมวันนี้จะยังมีครูแบบนี้อีกหรือไม่ ครูที่ รักและเป็นห่วง ศิษย์ตลอดชีวิต ผมรู้สึกโชคดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เกิดมาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์นะครับ
อาจารย์ ลัดดา อิ่มประภา "ครู" ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ในดวงใจผมครับ







Create Date : 16 สิงหาคม 2551
Last Update : 31 มกราคม 2552 16:04:57 น. 19 comments
Counter : 848 Pageviews.

 

ครูเอกคะ

ในบล็อกก่อนที่พูดถึงการสร้างมุมหนังสือในหน่วยงานของเด็กพิการ

ป้าได้แจ้งว่าอยากให้ความร่วมมือ แต่ของป้าเป็นหนังสือแนวธรรมะ

ซึ่งครูเอกไปตอบที่บล็อกของป้าว่าใช้ได้

ป้าได้กลับมาถามขอรายละเอียดเพิ่มเติม และคาดว่าครูเอกจะไปแจ้งที่บล็อกป้าอีก

รออยู่นานก็ไม่มีข่าวเพิ่มเติม

ป้าก็เลยย้อนกลับมาถามอีกครั้งค่ะ



โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:21:29:50 น.  

 



หวัดดีเช้าวันหยุดค่ะ


โดย: Opey วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:9:26:11 น.  

 
เป็นบันทึกเรื่องราวที่มีคุณค่าจริงๆครับ อยากให้ทั้ง 2 มุมเป็นอย่างนี้ทั้งโลก คือครูก็เป็นครูด้วยจิตวิญญาณ ศิษย์ก็รู้บุญคุณครู รักและนับถือด้วยใจ อ่านแล้วซึ้งครับผม...


โดย: mitrapap วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:15:08:31 น.  

 
คุณพี่ เค้านอนไม่หลับ งานมะเสร็จ ช่วยด้วย


โดย: คุงน้อง (patra_vet ) วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:2:31:01 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกนะคะ ได้ไปอ่านเรื่องการให้บริการในร้านและห้างของคุณแล้วทำให้คิดได้ว่าเดี๋ยวนี้คนไทยคงเป็นแบบนี้หมดทุกที่นั่นเอง

โรงแรมที่ว่าชื่อ Navalai River Resort ค่ะ

ว่างๆ จะแวะมาอ่านเรื่องดีๆ จากบล็อกนี้อีกนะคะ


โดย: คนวังหน้า วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:23:11:30 น.  

 
ประทับใจกับ "ครู" ท่านนี้จังเลยค่ะ


โดย: แรมโบ้มัม วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:11:24:48 น.  

 

สวัสดีค่ะครูเอก

หนังสือที่ส่งไป มีประมาณ 14-16 เล่ม รวมเล่มเล็กๆๆ ด้วยน่ะนะคะ

ไม่น่ามีอะไรหายนะคะ


โดย: ม่านฟ้านาคราช วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:19:50:49 น.  

 
แม่ปุ๊กปุ๋ยก็มีครูในดวงใจ อยู่2คนค่ะ
ไม่ได้เป็นครูประจำชั้นทั้งสองคน แต่ก็รักท่านมาก
สองท่าน จากสองโรงเรียนต่างกัน
แต่ความเป็นครูที่มีหัวใจรักและห่วงใยนักเรียนนี่
ยกให้เป็นคุณครูผู้ยิ่งใหญ่เลยค่ะ
เป็นห่วงเรามากๆ ยิ่งออกไปนอกโรงเรียนพ้นสายตาเมื่อไหร่ รู้ได้เลยว่าุคุณครูเป็นห่วงมากๆกว่าเดิมอีก

ยิ่งปิดเทอม ครูยิ่งเป็นห่วง
เป็นบาปกรรมนะเนี่ย ทำให้ครูเป็นห่วง
คิดถึงครูจังเลยค่ะ
คุณครูศรีเวียง (คุณครูผู้ดุที่สุดในชีวิตการเป็นนักเรียน)
และคุณครู คุณแม่คนที่สอง คุณครูชญกุล ค่ะ


โดย: Shallow Grave วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:20:50:54 น.  

 
คุงคูในดวงใจคือพ่อ
(เพราะพ่อเป็นครูที่สอนลูกคนอื่นได้ แต่สอนลูกตัวเองไม่ได้ จะตีกันทุกที)
อิอิ
ช่วงนี้หายไปเรยนะค้า
พรุ่งนี้คุณน้องกำลังจะเผชิญชะตากรรมมาคุ
กลับมางอมแน่เลย


โดย: คุงน้อง (patra_vet ) วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:1:31:16 น.  

 


โดย: Opey วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:11:41:38 น.  

 


สวัสดีค่ะครูเอก

ม๊าคงจะช่วยเป็นตัวเงินนะค่ะ

แต่อันที่จริงอยากช่วยเรื่องหนังสือด้วยจริงๆเลย

จะลองหาวิธีดูนะค่ะ.........


โดย: นางมารร้ายจีจี้ วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:14:24:36 น.  

 
อยากจะบริจากหนังสือครับ เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตและวาระสารต่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์คุณช่วยมารับหนังสือที่จะบริจาคเองได้ไหมครับหนังสือเรามีเยอะมากเพราะเป็นบริษัททำเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ซอฟแวร์ช่วยติดต่อกลับด้วยครับ 02-6534948 คุณเริงฤดี


โดย: รุ่ง IP: 58.8.4.134 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:17:23:45 น.  

 
อยากจะบริจากหนังสือครับ เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตและวาระสารต่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์คุณช่วยมารับหนังสือที่จะบริจาคเองได้ไหมครับหนังสือเรามีเยอะมากเพราะเป็นบริษัททำเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ซอฟแวร์ช่วยติดต่อกลับด้วยครับ 02-6534948 คุณเริงฤดี


โดย: รุ่ง IP: 58.8.4.134 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:17:27:56 น.  

 


รายนามบริจาคสู่ห้องสมุดแบ่งปันน้ำใจเพื่อคนพิการ

1. คุณสอระ : บริจาค 100.-บาท
2. คุณ Baby I love you : บริจาค 500.-บาท
3. คุณนายกุหลาบ : บริจาค A$ 50
4. คุณหมีสีชมพู : บริจาค 2,000.-บาท
5. คุณบูรณี มหากณานนท์ : บริจาค 1,000.-บาท
6. คุณฟ้าใสทะเลคราม : บริจาค 500.-บาท
7. คุณ Litchi : บริจาค 500.-บาท
8. คุณผู้ไม่ประสงค์ออกนาม : บริจาค 300.-บาท
9. คุณ haiku : บริจาค 1,000.-บาท
10. คุณเอกชัย : บริจาค 200.-บาท
11. คุณผู้ไม่ประสงค์บอกชื่อ : บริจาค 500.-บาท
12. ครอบครัวสัจธรรม : บริจาค 500.-บาท

รวมเป็นเงิน 7,100.-บาทกับ A$ 50




โดย: อุ้มสี วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:23:04:41 น.  

 
สาธุค่ะ..ครูเอก

ขอให้หล่อๆ เเละ สมหวัง

ในทุกสิ่งค่ะ

อนุโมทนาบุญกะทุกๆท่านค่ะ...


โดย: Opey วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:9:42:08 น.  

 
แวะมาดูรูปค่ะ
นึกว่าเสร็จแล้ว
สรุปกลับถึงบ้านเกือบทุ่ม
เจอเพื่อนน่ะค่ะ อุตส่าห์ไปตั้งไกล
ยังไปเจอเพื่อนเลยไปนั่งกิน นั่งเมาท์กันยาวเลย
อิๆ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:20:16:54 น.  

 
เดี๋ยวนี้หาครู ที่มีจิตสำนึกของความเป็นครูโดยแท้จริงยากค่ะ ขอบคุณที่เล่าเรื่องราวดีๆ ค่ะ เพราะตัวเองก็มีครู ที่เป็นครูด้วยใจจริงเหมือนกันค่ะ ทำให้นึกถึงท่านเลยค่ะ


โดย: patthanid วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:21:04:07 น.  

 
คุณพี่ๆๆๆๆๆ

คุณพี่ไม่สนใจคุณน้องเลยนะฮ้า

แหมๆๆๆๆๆๆ

ใช่สิ เค้าอ่ะ มันไม่สำคัญ

ชิชิชิ


โดย: คุณน้อง (patra_vet ) วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:21:59:24 น.  

 
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ

พูดไม่ออก



โดย: BluemirroR วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:0:48:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ครูเอก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 112 คน [?]




เนื้อหาบทความ ภาพประกอบ ไฟล์ตัวอย่าง ทั้งหมดใน blog นี้ "สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗" อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ได้ โดยต้องระบุแหล่งที่มาของเนื้อหาให้ชัดเจน เพื่อแสดงถึงการรับรู้ในความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ไม่อนุญาตในการนำไปใช้เพื่อการแสวงหาผลกำไรทางธุรกิจ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร

ส่งข้อความหลังไมค์ถึงครูเอก
MSN : ysamroeng@hotmail.com
ชมรมนักเรียนสาธิตเสริมสมอง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
กิตติกรรมประกาศ

ผมใช้คอมพิวเตอร์ครั้งแรก โดยมีหนังสือชื่อ "เรียน DBASE III PLUS ด้วยตนเอง" ของ พ.ต.ประพัฒน์ อุทโยภาศ เป็นเสมือนอาจารย์ และมี บร.โรเบิร์ต ปาแนสโต (ซดบ.) เป็นผู้ให้โอกาส และ้คำแนะนำ ถือเป็นก้าวแรก ที่้ผมจับคอมพิวเตอร์ และสนใจเรียนรู้ มาตั้งแต่วันนั้น นอกจากเรื่อง "การเขียนโปรแกรมด้วย Clipper" แล้ว ผมไม่เคย ไปเรียนคอมพิวเตอร์ จากสถาบันใด อาศัยที่เป็น คนชอบอ่านหนังสือ และซื้อหนังสือเยอะมาก บวกกับลงทุน ซื้อเครื่องไว้ใช้งานเอง (เครื่องแรก Intel 386DX-40) จึงได้ฝึกฝน เรียนรู้ ต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้
มีของมาขาย

1. หนังสือ "Excel for HR"


การใช้ไมโครซอฟต์เอ็กเซล ในงาน HR แบบมืออาชีพ พิมพ์ครั้งที่ 2 เป็นหนังสือที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จากงานจริงๆ มาเป็นวัตถุดิบ เป็นหนังสือคอมพิวเตอร์เล่มแรก ที่เขียนขึ้นมาเพื่อ นักบริการทรัพยากรมนุษย์ (HR) โดยเฉพาะ เป็นตัวอย่างของการใช้โปรแกรม MS Excel ในงานประจำวันของ HR หาซื้อได้ที่ ร้านซีเอ็ดบุ๊ค ทุกสาขา, HR Center, ศูนย์หนังสือ สสท., ศูนย์หนังสือจุฬา, Thailand Book Tower, B2S เป็นต้น
หรือสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ 02-347-1066, 081-423-9828
ราคาเล่มละ 200 บาท จัดส่งฟรี

2. CD รวมไฟล์ตัวอย่าง Excel จากงานจริง


มีไฟล์ตัวอย่างมากที่สุด สามารถนำไปใช้งานได้ทันที หรือใช้ศึกษาเทคนิคการเขียนสูตร Excel อัพเดตใหม่ทุกสัปดาห์
ของแท้ไม่มีวางจำหน่ายที่ไหน
สนใจสั่งซื้อโดยตรงที่ 02-347-1066, 081-423-9828
ราคาแผ่นละ 200 บาท ค่าจัดส่งฟรี

หมายเหตุ : ปัจจุบันมีจำหน่ายทั้งสิ้น 3 ชุด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://sites.google.com/site/excel4hr/product
กิจกรรมของพวกเราที่ผ่านมา

โครงการห้องสมุดเพื่อน้อง รร.บ้านซับงูเหลือม จ.ลพบุรี

โครงการห้องสมุดเพื่อคนพิการ มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนพิการ ปากเกร็ด
รูปภาพหรือข้อความแสดงความเห็น เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ ของบุคคลทั่วไป และถูกส่งขึ้นแสดงในหน้า blog โดยอัตโนมัติ เจ้าของ blog มิได้มีส่วนรู้เห็น หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งไม่จำเป็นต้องร่วมรับผิดชอบ ต่อทุกความคิดเห็นใดๆ
Friends' blogs
[Add ครูเอก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.