|
|
ในเรื่องพระธรรม : คำว่า “ธรรม” เป็นคำมีความหมายกว้าง ลึก เราเอามาใช้ในภาษาไทยเหมือนกับเป็นภาษาไทย เวลาพูดว่า “ธรรม” ก็เข้าใจ แต่ความจริงเป็นคำบาลี เราเอามาเขียนเป็นรูปสันสกฤตว่า “ธรรม” โดยมากภาษาไทยมักเป็นอย่างนั้น ถ้าแผลงมาจากบาลี มักเขียนแบบสันสฤต
ถ้าเขียนแบบบาลีก็ว่า “ธมฺม” เขียนแบบสันสกฤตนั้นต้องอ่านว่า “ธะร์มะ” ฉะนั้น ธรรมะจึงเป็นคำที่ใช้ทั่วไป และมีความหมายกว้าง กินความคลุมหมดทั้งสิ่งที่เป็นรูปและไม่ใช่รูป สิ่งที่ไม่ใช่รูป เรียกว่า นาม
เราควรรู้ว่า เขาเรียกว่า รูปธรรม นามธรรม
รูป นั้นเป็นสิ่งที่เป็นรูปร่าง สัมผัสได้ด้วยประสาททั้งห้า สิ่งที่สัมผัสด้วยใจ เรียกว่า นาม
เช่น ตาเห็นรูป ตานั้นเป็นรูป สิ่งที่เห็นนั้นก็เป็นรูป ความรู้สึกทางตานั้น เป็นนาม
หูได้ยินเสียง หูก็เป็นรูป เสียงก็เป็นรูป ความรู้สึกได้ยินนั้นเป็นนาม ฯลฯ
สิ่งที่เป็นรูป ก็เป็น รูปธรรม สิ่งเป็นนามก็เป็น นามธรรม
สิ่งที่เป็นความดีก็เป็นธรรม สิ่งที่เป็นความชั่วก็เป็นธรรม
สิ่งที่เป็นความดีเรียก ธรรม กุศลธรรม ถ้าเป็นความชั่วก็เรียก อกุศลธรรม กุศลธรรมคือธรรมฝ่ายดี อกุศลธรรมก็เป็นธรรมฝ่ายชั่ว
ธรรมคำเดียวเอาไปเติมแต่งเข้ามามากมายก่ายกอง หมายถึงอะไรๆ หมดทุกอย่าง
ความดี ความชั่ว ความสุขก็เป็นธรรม ความทุกข์ ก็เรียกว่าเป็นธรรมเช่นกัน ฉะนั้น เมื่อเราไปฟังพระสวด ในเวลามีงานศพจะได้ยินว่าอะไรๆ ก็ลงท้ายว่าธรรมทั้งนั้น “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา สุขายะ เวททะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา ทุกขายะ เวททะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา อะทุกขะมะสุขายะ เวทะทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา วิปากา ธัมมา วิปากะธัมมะ ธัมมา ฯลฯ” เป็นธรรมทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ธรรม ของทั้งหลายในสากลโลกเป็นธรรมทั้งนั้น ฝรั่งเวลาตีความหมายคำว่า "ธรรมะ" พยายามแปลเป็นภาษาอังกฤษ แปลว่า Lau Droftll Drama ไม่ได้เรื่อง ผลที่สุดเขาไม่แปล เขียนทับศัพท์ลงไปเลย พวกศึกษาปรัชญาด้านตะวันออกก็รู้ว่าหมายถึงอะไร อีกคำหนึ่งที่แปลไม่ไหวคือ "กรรม" จึงใช้ทับศัพท์เป็นคำเทคนิค.
Create Date : 17 ธันวาคม 2564 |
Last Update : 3 ธันวาคม 2566 18:06:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 300 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|