|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
ต่อ
พระอรรถกถาจารย์ท่านสังเกตการใช้คำว่า บุญ แล้วแสดงความหมายไว้ให้เห็นแง่ด้านที่ละเอียดลงไปอีก ดังในคัมภีร์ปรมัตถทีปนี อรรถกถาอิติวุตตกะ (อิติ.อ.96) แสดงความหมายของคำว่า บุญ ไว้ ๕ อย่าง คือ
๑.หมายถึงผลบุญ คือผลของกุศล หรือผลของความดี เช่น ในข้อความว่า เพราะการสมาทานกุศลธรรมทั้งหลายเป็นเหตุ บุญย่อมเจริญเพิ่มพูน (ที.ปา.11/50/86)
๒.หมายถึงความประพฤติสุจริตในระดับกามาวจร และรูปาวจร เช่น ในคำว่า คนตกอยู่ในอวิชชา หากปรุงแต่งสังขารที่เป็นบุญ (= ปุญญาภิสังขาร)
๓.หมายถึงภพที่เกิด ซึ่งเป็นสุคติพิเศษ เช่นในคำว่า วิญญาณที่เข้าถึงบุญ (สํ.นิ.16/191/99)
๔.หมายถึงกุศลเจตนา เช่นในคำว่า บุญกิริยาวัตถุ (คือ เท่ากับกุศลกรรม)
๕.หมายถึงกุศลธรรมในภูมิสาม เช่นในคำว่า “ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายอย่ากลัวบุญเลย” * (ขุ.อิติ.25/200/240) ข้อนี้ตรงกันกับคำว่า โลกียะกุศล นั่นเอง
ความจริง ข้อที่ ๕ เป็นความหมายหลัก ตรงกับคำอธิบายในมหานิทเทสที่ว่า “กุสลาภิสังขารในไตรธาตุ (คือ กามธาตุ รูปธาตุ และอรูปธาตุ) อย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม เรียกว่าบุญ; อกุศลทั้งหมด เรียกว่าอบุญ (คือบาป)” (อิติ.อ.96)
* พึงเข้าใจเพิ่มเติมว่า "บุญ" เป็นโลกียะ เว้นแต่จะมีคำระบุกำกับไว้เป็นอย่างอื่น เช่น คำว่า "โลกุตรบุญ"
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2565 |
Last Update : 28 มีนาคม 2566 12:32:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 199 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|