กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
 
พฤศจิกายน 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
space
space
27 พฤศจิกายน 2564
space
space
space

จีน-อินเดีย เกิด อินโดจีน-อินโดนีเซีย
 

235 อินโดจีน  ย้อนอดีต เคียงคู่ อินโดนีเซีย

   ในหนังสือนี้ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=samathijit&month=11-2021&date=24&group=29&gblog=13 ได้ปรารภเรื่องทัพมุสลิมเตอร์ก  ที่ยกมาตีชมพูทวีป และตั้งรัฐสุลต่านขึ้นที่เดลี  เมื่อ ค.ศ. 1206/ พ.ศ.๑๗๔๙  โดยบอกให้ทราบว่า  การทำลายล้างครั้งนั้น  เป็นจุดกำหนดแห่งการสูญสิ้นไปของพระพุทธศาสนาจากประเทศอินเดีย และได้เล่าความเป็นมาของชาวมุสลิมเตอร์กนั้นไว้  อันสืบเนื่องจากการเกิดขึ้นของศาสนาอิสลาม  ที่นับตามฮิจเราะฮ์ศักราช  เริ่มแต่  ค.ศ.622/ พ.ศ.๑๑๖๕
 
    ทั้งนี้ ได้เล่าไว้เพียงเท่าที่เกี่ยวกับชมพูทวีป
 
    เนื่องจากประวัติศาสตร์ของชมพูทวีปในอดีต  เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับประเทศไทย และดินแดนข้างเคียงโดยรอบมาช้านาน   จึงเห็นควรเล่าเรื่องของดินแดนแถบนี้ไว้ด้วย    เพื่อเป็นส่วนประกอบเสริมความรู้  แต่ในที่นี้จะเน้นเฉพาะดินแดนที่ได้รับอิทธิพลจากชมพูทวีปนั้นตลอดมาจนถึงยุคที่เปลี่ยนเข้าสู่ศาสนาอิสลาม ได้แก่  มาเลเซีย  และอินโดนีเซีย

   ทั้งนี้  จะพูดไว้เพียงคร่าวๆก่อน


235 จีน–อินเดีย แล้วเกิดมีอินโดจีน–อินโดนีเซีย
 
   จีน และอินเดีย  เป็นอู่อารยธรรมใหญ่  ที่เจริญต่อเนื่องมายาวนานหลายพันปี  อีกทั้งสองประเทศนี้ก็ตั้งอยู่ไม่ห่างไกลกันนัก   จึงมีการเดินทางติดต่อค้าขายถึงกันมาแต่โบราณ
 
   ในช่วงที่ตะวันตกเริ่มต้นคริสต์ศักราช   พระพุทธศาสนากำลังเจริญรุ่งเรืองมากในชมพูทวีป   และแผ่มาถึงประเทศจีน  ดังที่พระเจ้ามิ่งตี่แห่งราชวงศ์ฮั่นได้ทรงรับนับถือพระพุทธศาสนาเมื่อ  ค.ศ.65/พ.ศ.๖๐๘  และในอินเดียเอง   ไม่กี่ปีหลังจากนั้น คือใน ค.ศ.78/พ.ศ.๖๒๑ ก็เข้าสู่ราชสมัยของพระเจ้ากนิษกมหาราช  (มีนครหลวงชื่อปุรุษปุระ  คือ Peshawar)  องค์พุทธศาสนูปถัมภกที่ถือกันว่ายิ่งใหญ่มาก   ถัดจากพระเจ้าอโศกมหาราช
 
   ในยุคแห่งความรุ่งเรืองนี้  ผู้เดินทางระหว่างจีน กับ อินเดีย  นอกจากพวกพ่อค้าวาณิชแล้ว  ก็มีพระภิกษุที่เป็นธรรมาจารย์ และหลวงจีน  ที่จาริกไปเผยแผ่ มาศึกษาและสืบพระพุทธศาสนา  มากขึ้นตามลำดับ
 
   จีน กับ อินเดียนั้น   แม้จะดินแดนจะไม่ห่างไกลกันนัก  แต่มีภูเขาหิมาลัยขวางอยู่   การเดินทางบกไปมาระหว่าง ๒ ประเทศนี้ จึงต้องอ้อมไกลไปโดยทางที่เรียกกันมาว่าทางสายไหม (Silk Road; เส้นทางนี้ขยายไปเชื่อมกับถนนของจักรวรรดิโรมัน /Roman roads ด้วย)  ผ่านแผ่นดินที่แห้งแล้งกันดารแห่งเอเชียกลาง  ข้ามภูเขา และทะเลทราย  ยากลำบากอย่างยิ่ง ทั้งยังมีภัยจากโจรผู้ร้าย  ตลอดจนบางกาลบางสมัยมีสงครามและการสู้รบระหว่างคนต่างถิ่นต่างเผ่า เป็นอุปสรรคมาก
 
   ด้วยเหตุนี้  จึงมีการค้นหาทางเดินเรือขึ้นมาเป็นทางเลือก  และการจาริกทางทะเลก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามลำดับ
 
   ทางบกนั้น  ถ้าจากจีนมาอินเดีย  ก็ผ่านเอเชียกลาง  อ้อมวกเข้ามาทางแคว้นโยนก และหรือแคว้นคันธาระ (คืออัฟกานิสถานและปากีสถานในปัจจุบัน) โดยเฉพาะผ่านเมืองตักศิลาแล้วลงมาทางตะวันออกตามลำดับ
 

 
   แต่ทางทะเล   มีแผ่นดินเป็นแหลมใหญ่ หรือ คาบสมุทรคั่นกลางระหว่างจีน กับ อินเดียนั้น (ดูแผนที่จะเห็นชัด)  ซึ่งสมัยก่อนถอยหลังไปประมาณครึ่งศตวรรษนี้เอง  ยังมีคำเรียกรวมๆ ว่า “อินโดจีน”  หรือ คาบสมุทรอินโดจีน (Indochina/Indochinese  peninsula) ซึ่งแปลว่า ผืนแผ่นดินหรือคาบสมุทรที่อยู่ระหว่างอินเดีย กับ จีน
 
   อินโดจีน นี้ประกอบด้วย  (เรียงต่อจากจีนลงมา)  เวียดนาม  ลาว  กัมพูชา  ไทย  พม่า  มลายู  (ต่อมาขยายเป็นมาเลเซีย)  
 
   จากผืนแผ่นดินนี้  มองลงไปในทะเล  มีหมู่เกาะที่อยู่ในเส้นทางผ่านหรือใกล้ทางผ่าน อันชวนให้แวะอีกมาก เช่น สุมาตรา ชวา เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่รวมอยู่ในอาณาจักรที่ปัจจุบันเรียกชื่อตามสายตาของฝรั่ง ว่าประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia) ซึ่งแปลว่า“แดนหมู่เกาะอินเดีย” (มาจากคำกรีก-ละติน: Indo–(อินเดีย)+nes (เกาะ)+ - ia (ดินแดน,ประเทศ)
 
   นอกจากค้าขายแล้ว  พ่อค้าวาณิช เป็นต้น   ที่เดินทางผ่านไปมานั้น  บางทีก็แวะพำนักอยู่นานๆ ตลอดจนตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นหลักแหล่ง  กลายเป็นเจ้าถิ่นเสียเอง จึงปรากฏว่า  ต่อมา   ได้เกิดมีบ้านเมือง  ตลอดจนอาณาจักรต่างๆขึ้นมา  ตามชายฝั่งทะเล  และใกล้ทะเล   บนเส้นทางพาณิชย์เหล่านี้
 
   ผู้ที่สร้างบ้านตั้งเมืองเหล่านี้  มีทั้งชาวชมพูทวีปที่เป็นผู้นำตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่  ที่ถือว่าเป็นผู้เจริญ  ดังที่ตำราฝ่ายตะวันตกเรียกแว่นแคว้นเหล่านี้ว่า  Indianized kingdoms คือเป็นอาณาจักรเยี่ยงอย่างอินเดีย
 

 



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2564
Last Update : 21 ธันวาคม 2566 11:07:47 น. 0 comments
Counter : 754 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space