ก่อนวันขึ้นบ้านใหม่ พี่สาวโทรศัพท์มาเล่าเรื่องราวสำคัญบางอย่างให้ฉันได้ฟัง เป็นเรื่องที่พี่สาวกับพี่เขยเพิ่งจะรับรู้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น พี่สาวให้เหตุผลว่า บ้านที่สร้างอาจจะเสร็จช้ากว่าที่วางแผนเอาไว้ และก็อยากให้ฉันและคนรักเข้าใจและเห็นใจช่างเชยและลูกทีมให้มาก ๆ จากนั้่นพี่สาวก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังทันที
พี่สาวบอกฉันว่า เพื่อนสนิทของช่างเชยที่ชื่อ "พ่อน้องเดี่ยว" ซึ่งเป็นคนที่เซ็นต์สัญญาทำบ้านหลังนี้กับช่างเชยไม่ยอมมาทำงานตามสัญญา ช่างเชยบอกว่าพ่อน้องเดี่ยวเป็นช่างที่ดูแลงานปูนทั้งหมดทุกครั้งที่รับเหมาเคียงคู่กัน แต่ในงานนี้พ่อน้องเดี่ยวกลับปฏิเสธที่จะมาทำงานกับช่างเชย เพราะคิดว่าถ้ามาทำบ้านหลังนี้ เกรงว่าจะขาดทุนไม่ได้อะไรเลย เนื่องมาจากช่างเชยและลูกทีมที่เก่งด้านงานไม้ทุ่มเวลาให้กับงานไม้ชั้นบนนานเกินไป ทำให้การทำงานล่าช้าไปมาก หากมารับทำงานด้านปูน กลัวว่าจะได้เงินน้อย และได้ไม่เยอะเหมือนที่คาดหวังเอาไว้ สุดท้ายจึงหนีงานและปัดความรับผิดชอบเสียอย่างนั้น
ส่วนช่างเชยเมื่อรู้ว่าเพื่อนสนิทที่รับเหมาเคียงคู่กันไม่ยอมมาทำงานด้านปูนและกระเบื้อง ก็ผิดหวังและเสียใจอยู่มาก หากแต่ช่างเชยเป็นช่างที่มีความรับผิดชอบสูง และมีจรรยาบรรณในอาชีพที่ดีมาก จึงจัดแบ่งลูกทีมบางส่วนมาทำงานปูนช่างล่างให้เสร็จ และก็หาจ้างคนแถวบ้านมาช่วยปูกระเบื้องในห้องน้ำและห้องครัวไปด้วย และนับวันบ้านจะเสร็จกว่าที่กำหนดอยู่มาก ช่างเชยก็ไม่ได้ท้อแท้แต่อย่างใด แม้จะรู้ว่าไม่ได้อะไรเลยในการสร้างบ้านหลังนี้ เพราะเงินค่าแรงทั้งหมดก็เบิกไปจ่ายลูกน้องหมดแล้ว คงเหลือแต่ค่าจ้างบิ้วอินตกแต่งเสาเท่านั้น แต่ช่างเชยก็ตั้งมั่นว่าจะต้องทำบ้านหลังนี้ให้เสร็จและออกมาสวยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฉันและคนรักได้แต่พูดปลอบโยนและให้กำลังใจช่างเชยผ่านพี่สาวและพี่เขยมาตลอด ในวันขึ้นบ้านใหม่เอาฤกษ์วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ฉันกับคนรักก็บอกพี่สาวให้มอบเงินก้อนหนึ่งให้ช่างเชยเป็นน้ำใจที่ช่วยปูกระเบื้องรอบบ้านให้ เพื่อให้ช่างเชยได้มีกำลังใจมากขึ้น อย่างน้อยก็ให้ช่างเชยรู้ว่า ทุกแรงกายแรงใจที่ช่างเชยและลูกทีมทุ่มเทให้กับบ้านหลังนี้ ฉันและคนรักระลึกถึงเสมอ และไม่เคยมองข้ามแต่อย่างใด โดยตั้งมั่นไว้เสมอว่า เมื่อกลับไปถึงเมืองไทย ก็จะมอบของขวัญและน้ำใจก้อนหนึ่งเป็นการขอบคุณน้ำใจให้ช่างเชยอีกต่างหาก ซึ่งน้ำใจจุดนี้ไม่ได้เยอะเหมือนค่าแรงที่จ่ายไป แต่ก็เป็นน้ำใจที่ฉันและคนรักตั้งใจจะมอบให้ช่างเชยและลูกทีมโดยเฉพาะ
ก่อนวันขึ้นบ้านใหม่ พี่สาวกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดและส่งภาพบางส่วนมาให้ดู ซึ่งภาพความคืบหน้าของบ้านมีไม่เยอะมาก อันเนื่องมาจากลูกทีมมีน้อยลง ทำให้งานเดินช้าแต่ก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย ภาพนี้เป็นภาพในส่วนของบันไดบ้านที่ทำเสร็จแล้ว
ภาพโดยทั่วไปรอบ ๆ ตัวบ้าน สีขอบบัวหน้าต่างก็ทาเรียบร้อยในรอบแรก ส่วนบัวด้านหน้าบ้านนั้นยังไม่มีการติดตั้งแต่อย่างใด
พื้นกระเบื้องในตัวบ้านและรอบ ๆ บ้านปูเสร็จแล้ว สีถูกใจฉันและคนรักมาก ๆ
ภายในบ้านคงเหลือตกแต่งภายใน โดยเฉพาะการบิ๊วอินเสาบ้าน ซึ่งช่างเชยจะเอาไม้ตกแต่งมาโอบเสาให้สวยงาม
ในส่วนของผนังห้องน้ำและห้องครัวก็เสร็จเรียบร้อย คงเหลือแต่พื้นและเค้าเตอร์เท่านั้น ตอนนี้ก็มีทีมช่างทำงานส่วนนี้อยู่ คาดว่าไม่น่าเกินหนึงอาทิตย์ก็น่าจะเสร็จ
พื้นด้านหลังบ้านปูเสร็จแล้ว ช่างเชยบอกว่า เสาลอยต้นนี้จะเอาไว้มาโอบตกแต่งให้สวย จะได้ไม่เห็นเสาคอนกรีต ช่างกำลังขุดหลุมเพื่อวางท่อสำหรับบ้าน แต่ก็ต้องหยุดก่อน เพื่อมาร่วมงานขึ้นบ้านใหม่เอาฤกษ์ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2012 ภายในบ้านชั้นบนในส่วนที่ยังไม่ได้ใส่หน้าต่าง
ห้องนอนใหญ่ ซึ่งเป็นห้องนอนของฉันและคนรัก พี่สาวบอกว่าห้องนี้จะเย็นมาก ๆ ในช่วงกลางวัน เพราะอยู่ทางทิศใต้ รับลมที่พัดผ่านเข้ามาเต็ม ๆ
ในส่วนระเบียงด้านหน้าบ้าน ซึ่งพี่สาวถ่ายภาพไปทางทิศตะวันออก จะเห็นภาพบ้านญาติพี่น้องและวิวต้นมะพร้าว ฉันรู้สึกรักและชอบมาก ๆ เลย
ช่างเชยบอกว่า พื้นบ้านชั้้นบนยังไม่เสร็จ จะต้องมีการลงสีและเคลือบเงาอีกรอบ คิดว่าเจ้าของบ้านกลับไปถึงเมืองไทย ก็คงจะได้เชยชมภาพพื้นบ้านแบบใหม่แน่นอน
เครื่องบ่ายศรีสู่ขวัญและสิ่งของอื่น ๆ ที่จัดเตรียมเอาไว้ในงานขึ้นบ้านใหม่
พี่สาวคนโตกับหลานสาวคนเล็กขอเป็นนางแบบให้กับบ้านหลังนี้
พี่สาวและพี่เขยทั้งสองคอยวิ่งเต้นดูแลเรื่องการสร้างบ้านให้ทุกอย่าง เมื่อว่างจากเรื่องบ้านก็ต้องวิ่งไปดูไร่ยางและไร่สำปะหลังไปด้วย และภาพความงดงามของชีวิตชาวไร่ชาวนาแบบนี้แหละ คือภาพความฝันที่ฉันและคนรักอยากจะกลับไปอยู่เมืองไทยให้เร็วที่สุด เพราะอยากอยู่กับธรรมชาติ มีชีวิตสบาย ๆ ที่ไม่ต้องแข่งขันกันมากมาย และได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ๆ ทุกวัน มีต้นไม้สีเขียวห้อมล้อมตลอด ได้ยินเสียงนกเสียงเป็ดไก่ออกากินกัน แค่คิดก็สุขใจที่สุด
ท้ายนี้ขอขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่แวะมาเยี่ยมบล็อกและฝากคำข้อความเอาไว้ ต้องขอโทษที่ผ่านมาไม่ได้เข้ามาเล่นที่บล็อกแกงค์เลย ส่วนใหญ่จะทำงานเป็นหลัก เพราะอยากสร้างฐานะและสร้างความฝันตัวเองให้เป็นจริง นับวันรู้สึกว่าตัวเองแก่ตัวลงเรื่อย ๆ เกรงว่าแก่ตัวไปจะไม่มีแรงทำงานสร้างฐานะ ชีวิตจึงอยู่แต่กับคนรักและงานเสียมากกว่า ยังไงก็กราบขอโทษและขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับมิตรภาพดี ๆ ที่มีให้กันเสมอมา และขออวยพรให้ทุก ๆ ท่านที่แวะมาเยี่ยมบล็อกโรสลิต้า มีความสุขมาก ๆ ค่ะ |