เพื่อชีวิตและเพื่อเธอ โรสลิต้านามปากกาแทนตัวฉัน ใช้วาดฝันปันใจในน้ำหมึก ร้อยอักษรที่ขีดเขียนขอจารึก คือส่วนลึกข้างในจากใจฉัน
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
29 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
บ้านทรงไทยประยุกต์..เรือนไทย-เคจั่น ณ เมืองไทย (Thai-Cajun House) บทที่ 1

จุดเริ่มต้นของ...เรือนไทย-เคจั่น (Thai-Cajun House)...เกิดจากความฝันของสองเรา ที่มาจากความผสมผสานในการดำเนินชีวิตของคนสองคน สองวัฒนธรรม สองเชื้อชาติ สองประเพณี และสองแผ่นดิน

ฉันผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่เกิดและเติบโตมาจากครอบครัวเล็ก ๆ ในแผ่นดินอีสานใต้ติดเขตชายแดนกัมพูชา มีพี่น้องทั้งหมดหกคนและเป็นลูกสาวคนเล็กในครอบครัว ผู้ไม่เคยคิดฝันว่าชีวิตจะผลิกผันต้องเดินทางจากบ้านนาถิ่นทุรกันดาร เพื่อไปอยู่อีกฝากหนึ่งของซีกโลกกับคนที่ตัวเองรัก เพื่อสร้างชีวิตและครอบครัวเคียงคู่กัน


เธอคนที่ฉันรัก หนุ่มอเมริกันที่มีเชื้อสายเคจั่นจากมลรัฐหลุยส์เซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กในครอบครัวหนึ่ง หลังจากที่เรียนจบปริญญาโท เธอคนนี้ก็ได้เดินทางไปทำงานเป็นอาจารย์สอนในประเทศเกาหลีใต้เป็นระยะเวลาหนึ่งปี และบนเส้นทางนี้ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานและความรู้ในชีวิต โชคชะตาก็ดลบันดาลมาให้เราสองคนได้พบกัน ในช่วงเวลาที่เหมือนถูกฟ้ากำหนดเอาไว้อย่างเหมาะสม งดงาม และสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองกรุง ที่ ๆ ฉันและเธอไม่เคยคาดฝันเอาไว้ ว่าที่ตรงนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรักสองเรา


ความรักของสองเราเริ่มต้นด้วยรักแรกพบ และกลายเป็นรักข้ามพรมแดน เมื่อชีวิตต้องอยู่คนละประเทศ แม้ว่าระยะทางที่แยกสองเราอยู่ไกลกันมาก แต่ก็ไม่เคยมีสิ่งใดพรากรักของสองเราไปได้ เราสองคนรักกันมาก มีใจที่มั่งคงให้กัน และก็สัญญาว่าจะมีชีวิตและหัวใจเป็นของกันและกัน เมื่อรักก่อเกิดท่ามกลางเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉันกับคนรักก็ตกลงปลงใจแต่งงานกันหลังจากที่คนรักหมดสัญญาสอนหนังสือที่ประเทศเกาหลีใต้ เราสองคนย้ายไปอยู่อเมริกาด้วยกัน ชีวิตคู่ของเราสองคนไม่ได้พร้อมไปหมดทุกอย่าง เพราะยังเด็กทั้งคู่ แต่เราก็มีความสุขมาก เราต่อสู้อุปสรรคปัญหาเคียงคู่กันเสมอ สร้างครอบครัวและความฝันไปด้วยกัน คอยยืนเคียงข้างให้กำลังใจกันและกันเสมอมา


หลายปีที่เราแต่งงานกัน ความรักที่มีให้กันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เราสองคนยังรักกันเสมอ และยืนเคียงข้างต่อสู้ให้กำลังใจกันและกันไม่เคยห่าง เรามีความฝันเพื่อที่จะสร้างฐานะสร้างครอบครัวที่ดีไปด้วยกัน เมื่อเราทั้งสองเรียนจบมีหน้าที่การงานที่ดีทำ เราทั้งสองก็เริ่มต้นซื้อบ้าน ซื้อรถสร้างความั่นคงให้กับชีวิตที่อเมริกาเอาไว้ให้กันและกัน


ชีวิตที่อเมริกาแม้จะสุขสบายอยู่ดีมีสุขแค่ไหน หากแต่ชีวิตที่เมืองไทยฉันกับคนรักยังไม่ได้สร้างอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ทั้งที่สองเราตั้งใจไว้ว่า อีกสิบห้าปีข้างหน้าจะเกษียณและย้ายกลับไปอยู่ที่เมืองไทยบ้านเกิดที่รักของฉันอย่างถาวร แต่เราทั้งสองก็ยังไม่ได้สร้างอะไรไว้เลย และนับวันค่าเงินบาทก็แข็งตัวขึ้นเรื่อย ๆ อะไร ๆ ก็ราคาสูงขึ้นทุกวัน ทำให้ฉันและคนรักคิดว่า หากจะทำอะไรก็ต้องรีบทำให้เร็วที่สุด


เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2012 ฉันกับคนรักนอนดูสารคดีท่องเที่ยวเกี่ยวกับเมืองไทย เห็นภาพวิถีชีวิตความงดงามที่หลากหลายแบบ ทำให้เราสองหันมามองหน้ากันด้วยความคิดหลากหลาย มันมีคำถามมากมายที่เรานั่งถามตัวเอง ทุก ๆ ปีที่กลับไปเมืองไทย เราไปเช่าคอนโดราคาแพง ๆ อยู่ในเมืองกรุงเทพฯ แสนสุขสบาย มีอาหารการกินสะดวกสบาย มีสิ่งเอื้ออำนวยความสะดวกทุกอย่าง แต่ทำไมเรารู้สึกว่าที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ ๆ เราจะอยู่ทุกครั้งที่กลับไปเมืองไทย ได้เห็นภาพชีวิตพี่ ๆ ทุกคนมีบ้านเป็นของตัวเอง มีชีวิตสุขสบายตามอัธภาพ แต่ก็ไม่ใช่ชีวิตที่กลับไปเมืองไทยทุกครั้งต้องไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านพี่ ๆ เสมอ ฉันรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นทุกวัน ฉันไม่ใช่เด็กวัยรุ่นเหมือนสิบปีก่อน ฉันมีครอบครัวแล้ว และก็ควรที่จะมีอะไร ๆ เป็นของตัวเอง สามารถที่ยืนหยัดด้วยตัวเองได้ โดยที่ไม่เป็นภาระให้พี่ ๆ คนใด


หลังจากนั้น ฉันกับคนรักก็เริ่มคุยกันด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะเรื่องบ้านที่อยากจะมีไว้ที่เมืองไทย ในตอนแรกก็คิดจะซื้อบ้านจัดสรร ในเชียงใหม่หรือไม่ก็ในตัวจังหวัดใหญ่ ๆ  ที่เจริญหน่อย อาจจะเป็นอุบลฯ หรือขอนแก่น เพราะไม่ต้องมาเสียเวลานั่งควบคุมงานก่อสร้างทุกอย่าง แต่พอได้ปรึกษากับพี่สาวและพี่น้องคนอื่น ๆ ทุกคนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง พี่น้องทุกคนล้วนแต่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่ดินส่วนตรงกลางระหว่างพี่สาวทั้งสองที่ติดถนนใหญ่ในหมู่บ้าน คือที่ดินของฉันที่พ่อมอบให้ก่อนท่านเสียชีวิต ท่านได้กำชับพี่ ๆ ทุกคนให้ช่วยกันดูแลไว้ให้ฉัน ไม่ว่าหลังจากที่พ่อเสียชีวิต จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ยังไงก็ขอพี่น้องทุกคนช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนให้ฉันซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กในครอบครัวได้ปลูกบ้านบนที่ดินที่ท่านมอบไว้ให้


พี่สาวบอกกับฉันว่า เมื่อครั้งที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ท่านตั้งความหวังและความฝันไว้เสมอว่า ฉันจะต้องได้แต่งงานกับผู้ชายดี ๆ สักคน ผู้ชายที่พร้อมจะสร้างฐานะสร้างครอบครัวอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ถึงกระนั้นพ่อก็ไม่ได้คาดหวังว่าฉันจะต้องแต่งงานกับใคร ขอแค่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนดี จิตใจดี มีความเป็นผู้นำครอบครัว ดูแลลูกสาวของพ่อได้อย่างมีความสุขและอยู่กันจนแก่จนเฒ่าได้ แค่นี้พ่อก็ภาคภูมิใจมากที่สุดแล้ว


และตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันรู้ว่าพ่อหวังดีและอยากเห็นฉันมีชีวิตที่ดีเหมือนพี่สาวคนอื่น ๆ แต่ทั้งนี้พ่อก็ไม่เคยบังคับเรื่องการเลือกชีวิตคู่ของลูก ๆ แต่ละคนเลย พ่อจะให้อิสระในการเลือกชีวิตคู่แก่ลูก ๆ ทุกคนเสมอ และเคารพในการตัดสินใจของลูก ๆ ตลอด




ฉันรักพ่อมากและก็รักความฝันของท่าน เพราะพ่อคือทุกอย่างในชีวิตของฉัน เมื่อนึกถึงคำพูดของท่าน ฉันก็รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรกับชีวิต ในเย็นวันนั้นฉันนั่งคุยกับคนรักหลายอย่าง เราทั้งสองวางแผนชีวิตกันหลายรูปแบบ มีแผนชีวิตที่หนึ่ง แผนชีวิตที่สอง และแผนสำรองไว้รับรองเสมอ


สิบปีที่เราแต่งงานกันมันมีอะไรมากมายที่สองเรามีต่อกัน ไม่ใช่แค่ความรัก ความอบอุ่นและความเอื้ออาทรที่มีให้กันและกันเท่านั้น แต่มันมีอะไรมากมายที่ฉันและคนรักมีต่อกันที่ไม่สามารถบรรยายเป็นตัวอักษรได้ เราสองคนมีชีวิตและหัวใจเป็นของกันและกันเสมอ ความผูกพันและความเข้าใจที่เรามีต่อกันอย่างมั่งคง ฉันและคนรักคิดเสมอว่า เราจะต้องสร้างทุกอย่างให้กับตัวเอง ยามแก่เฒ่าจะได้ไม่ละลำบาก แก่ตัวไปก็ไม่ต้องไปทำงานรับจ้างใครเขา เป็นนายของตัวเอง มีที่นาที่ไร่ไว้ทำมาหากิน ปลูกผักปลูกผลไม้ เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ตามกำลังที่มี และก็มีเงินเกษียณไว้ใช้จ่ายในแต่ละวัน และเก็บไว้ดูแลตัวเองในกรณีเป็นค่ารักษาพยาบาลยามฉุกเฉิน และที่สำคัญไม่เป็นภาระให้พี่น้องและหลาน ๆ ด้วย


ฉันกับคนรักหันไปมองรอบ ๆ ตัวเอง เราทั้งสองอยากจะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตตัวเอง ทั้งชีวิตในอเมริกาและชีวิตที่เมืองไทย อย่างน้อย ๆ หากเรามีความมั่งคงในชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีความพร้อม ชีวิตเราก็คงจะไม่ต้องไปไขว่คว้ามาก หากกลับไปเที่ยวเมืองไทยในช่วงปิดเทอมก็อยากจะมีบ้านที่เมืองไทยไว้พักผ่อนสักหลัง บ้านที่เป็นชื่อของเราเอง ไม่ใช่บ้านพ่อ หรือบ้านของพี่ ๆ คนใดคนหนึ่ง


นับว่าเป็นความโชคดีอย่างมาก ที่คุณพ่อของฉันได้เก็บรักษาทรัพย์สินไว้อย่างดีมาก ก่อนท่านเสียชีวิต ท่านได้มอบที่ดินบางส่วนให้ฉันและพี่น้องไว้ทำมาหากิน ซึ่งจำนวนที่ดินผืนนี้ก็ถูกแบ่งตามสัดส่วนให้กับพี่น้องทั้งหกคน และทุกคนก็มีเหมือนกันหมด นั่นก็คือ ที่ดินปลูกบ้านในหมู่บ้านซึ่งติดถนนใหญ่คนละแปลง ลูกสาวคนรองได้บ้านหลังใหญ่ที่พ่อเคยอาศัยอยู่ก่อนท่านเสียชีวิต ส่วนคนเล็กได้บ้านหลังเก่าหากแต่ยังได้ที่ดินปลูกบ้านที่ติดถนนใหญ่ด้วย ลูกสาวคนที่สามได้ที่ดินติดถนนใหญ่เช่นกันแต่อยู่ทางทิศใต้สุด ส่วนพี่สาวคนโตและพี่ชายสองคนนั้นก็ได้ที่ข้างหลัง ซึ่งพ่อได้ขอให้สละให้น้อง ๆ ทั้งสามคนได้อยู่ด้านหน้า ซึ่งพี่ทั้งสามคนก็ตกลงใจไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ถึงกระนั้นพ่อก็ยังยุติธรรมกับลูกทุกคนเสมอ คนที่ไม่ได้บ้าน พ่อก็ยกไม้เก่า ๆ ที่ท่านซื้อเก็บสะสมไว้หลายสิบปีให้ลูก ๆ ไว้ปลูกบ้านด้วย นอกจากนั้นก็มีที่นา ที่ไร่ ที่ถูกจัดแบ่งให้เท่า ๆ กันตามความเหมาะสมที่ท่านปรารถนา


เมื่อครั้งที่พ่อเสียชีวิต ฉันมีอายุแค่เพียงสิบแปดปีกว่า ๆ ชีวิตไม่เคยสนใจทรัพย์สินในส่วนตรงนี้เลย เพราะมัวแต่ทำงานเก็บเงินเก็บทองรับผิดชอบชีวิตตัวเอง กอปรกับยังเด็กจึงไม่ได้วางแผนชีวิตอะไรมาก ชีวิตในช่วงเวลานั้นล้มลุกคลุกคลานก้าวผิดก้าวพลาดพอสมควร เคยท้อแท้บ่อยครั้ง แต่ก็อดทนต่อสู้เพียงลำพังอย่างเงียบ ๆ ช่วงเวลานั้นยอมรับเลยว่าไม่ได้คิดถึงอนาคตในบั้นปลายเลย  เพราะช่วงชีวิตในตอนนั้นไม่เคยฝันอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็มีแต่วันนี้และพรุ่งนี้เท่านั้น หากจะมีความฝันก็คงเป็นแค่ฝันเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่เท่านั้น นั่นก็คือ ฝันอยากทำงานและเก็บเงินส่งตัวเองให้ได้เรียนจบสูง ๆ เพื่อที่จะก้าวไปในหน้าที่การงานที่ดีและมั่งคง และช่วงเวลานั้นก็นับว่าโชคดีที่มีพี่สาวคนหนึ่ง (พี่กันต์ฐิตา) คอยดูแลทรัพย์สินส่วนตรงนี้ไว้ให้ตลอด


จวบจนที่ฉันได้พบกับคนรัก เราสองคนรักกัน และตกลงแต่งงานกัน จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ที่ประเทศอเมริกา เพราะคนรักจะต้องกลับไปเรียนต่อปริญญาเอกให้จบ ส่วนฉันก็กลับไปเรียนเคียงคู่คนรักเช่นกัน เวลาผ่านไปปีกว่า ๆ ก็ขอคนรักออกมาทำงานหาประสบการณ์ชีวิตไปด้วย ในช่วงเวลานั้นชีวิตคู่สองเรายังไม่ได้มีอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งเลย เราสองคนยังใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ไม่ได้คิดวางแผนอะไรมากเกี่ยวกับเมืองไทย อาจจะเป็นเพราะว่าชีวิตที่อยู่ต่างแดนก็มีความสุขดี แต่พอเวลาผ่านไป ได้เห็นภาพผู้หญิงไทยบางคนที่แต่งงานและสามีต้องจากไปทิ้งให้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง ทำให้ฉันฉุกคิดขึ้นมาเป็นระยะ ๆ และก็หันมามองย้อนภาพชีวิตตัวเองดูบ้าง ฉันรู้สึกว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับคนรัก ฉันจะมีชีวิตอยู่ที่อเมริกาเพื่ออะไร หากไม่ใช่เพราะคนรักและลูก (หากมีลูก) แต่ถ้าไม่มีคนที่ฉันรัก ชีวิตที่ต่างแดนก็ไม่มีความหมายอะไรกับฉันเลย


นับวันที่อายุมากขึ้น ฉันกับคนรักก็เริ่มคิดรอบด้าน เราสองคนตัดสินใจแน่นอนที่ปลูกบ้านที่เมืองไทยบนที่ดินที่พ่อยกให้ โดยฉันยอมจ่ายค่าถมดินให้กับพี่ชายคนรองสามหมื่นบาท และค่าน้ำใจอีกต่างหาก เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาบนที่ดินตรงนั้น ซึ่งพี่ชายคนรองเคยมีปัญหากับฉันเรื่องที่ดินตรงนั้นเมื่อสิบปีก่อน แต่พอฉันยื่นข้อเสนอที่จะเอาที่ดินคืน พี่ชายคนรองก็ยินยอมแต่โดยดี โดยที่พี่สาวสามคนและพี่ชายคนโตเห็นด้วยมาก ๆ 


หลังจากที่จัดการปัญหาเรื่องที่ดินเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เริ่มคุยกับพี่สาวคนรองที่ไว้ใจที่สุดเกี่ยวกับเรื่องบ้าน ซึ่งแบบบ้านที่คิดเอาไว้ก็มีหลายแบบมาก โดยในตอนแรกก็จะปลูกบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ ในงบไม่เกินหกแสน ยกระดับพื้นสูงขึ้น มีสองห้องนอน สองห้องน้ำ เพราะบ้านชั้นเดียวเป็นบ้านที่เล็ก ๆ และใช้งบประมาณไม่มากนัก ที่สำคัญบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านหลังแรกที่เมืองไทย ไม่อยากทุ่มทุนมาก เพราะมีแผนที่จะปลูกบ้านหลังที่สองไว้อยู่ในบั้นปลายชีวิตบนที่นาติด ๆ กับหมู่บ้าน เพราะทำเลดี  อยู่ติดกับแม่น้ำห้วย ซึ่งคนรักก็เห็นด้วยมาก ๆ


แต่แล้วความคิดเหล่านี้ก็ถูกเปลี่ยนไป เมื่อฉันและคนรักได้เห็นภาพน้ำท่วมเมืองไทยหลายครั้งหลายครา กอปรกับพี่สาวและเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ แนะนำให้ระมัดระวังเรื่องปัญหาน้ำท่วม เพราะเกรงว่าหากเจอปัญหาจะรับมือไม่ไหว แม้ว่าบ้านที่จะปลูกอยู่ในภาคอีสาน แต่ก็ยังมีปัญหาน้ำท่วมอยู่บ้าง หากแต่ไม่มากเหมือนคนภาคกลาง และด้วยความที่กลัวเรื่องปัญหาน้ำท่วม แผนการปลูกบ้านชั้นเดียวจึงถูกตัดไปจากใจ จากนั้นก็เริ่มคุยกับพี่สาวเรื่องบ้านสองชั้น ซึ่งบ้านสองชั้นก็มีหลายแบบมาก ๆ ราคาไม่เกินล้านห้าก็พอจะทำได้แน่นอน และนั่งก็หมายถึงว่า ฉันกับคนรักจะเพิ่มงบประมาณสูงขึ้่น ซึ่งฉันกับคนรักก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะยังไงก็คือบ้านของตัวเอง แม้ว่าเราสองคนจะดูภาพบ้านหลายแบบ แต่ก็น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ชอบบ้านปูนไปเสียหมด








ในระหว่างนั้น ฉันกับคนรักนั่งเลือกดูภาพบ้านที่เมืองไทยทางอินเตอร์เน็ตและทางหนังสือแบบบ้านที่เคยซื้อไว้เมื่อปี 2006 บ้านแต่ละหลังล้วนแต่เป็นบ้านปูน แม้แต่ทรงไทยประยุกต์ก็เป็นบ้านปูน แต่ถ้ามีไม้ก็จะใช้ไม้เทียมเป็นหลัก ไม่มีบ้านในแบบที่ใช้ไม้จริงเลย และแบบก็ค่อนข้างทันสมัย หากจะปลูกก็จะต้องเสียเงินซื้อแบบจากบริษัทที่ออกแบบบ้านนั้น แต่ฉันรู้สึกว่าเงินหลายหมื่นบาทน่าเสียดายที่ต้องไปทุ่มทุนซื้อแบบตรงนั้น และที่สำคัญช่างที่จะทำบ้านให้นั้น ก็เป็นช่างแถวบ้านเป็นหลัก ไม่ใช่ช่างที่มีระดับวิศวกรคอยควบคุมเหมือนบ้านคนอื่น ๆ ฉันเกรงว่าถ้าซื้อแบบมาจะไม่ได้ใช้เสียเปล่า ๆ  เพราะช่างแถวบ้านไม่มีใครอ่านแบบวิศกรเป็น แต่ละคนล้วนแต่สร้างบ้านจากประสบการณ์ที่สะสมเท่านั้น


ช่วงระหว่างนั้น ฉันมีโอกาสได้ดูละครเรื่อง "รอยไหม"  ย้อนหลังในเวบยูทู้ป ได้เห็นภาพ...คุ้มเจ้าหลวง...ที่เป็นหัวใจสำคัญของละครเรื่องนี้ ก็อดชื่นชมไม่ได้ เพราะคุ้มเจ้าหลวงเป็นบ้านในลักษณะไทยที่ผสมผสานกับแบบยุโรป ทำให้มีความงดงามอยู่มาก ฉันรู้สึกรักและชอบมาก ๆ โดยเฉพาะหลังคาที่มีลักษณะโดดเด่นแตกต่างจากเรือนไทยทรงอื่น ๆ ซึ่งคนทั่วไปที่รู้จักมักจะเรียกทรงหลังคาแบบนี้ว่า "บ้านหลังคาขนมปังขิง" และในส่วนด้านหน้าที่มีการประยุกต์หลังคาทรงปั้นหยานั้น ก็ทำให้ดูงดงามและมีเสน่ห์ไปอีกแบบ และเป็นแบบที่ยังไม่เคยมีใครในหมู่บ้านปลูกเลย จะว่าไปแล้วคุ้มเจ้าหลวงในละครเรื่องนี้ก็มีลักษณะคล้ายแบบบ้านในเมืองนิวออร์ลีนส์ ณ มลรัฐหลยุส์เซียน่า ประเทศอเมริกาอยู่มาก จะแตกต่างก็เพียงพวกลายไม้เชิงชายและหลายฉลุ ที่มีการตกแต่งในแบบที่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้มากที่สุด




Create Date : 29 พฤษภาคม 2556
Last Update : 29 พฤษภาคม 2556 23:25:20 น. 0 comments
Counter : 859 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

roslita
Location :
Okla -Alaba-Siana United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539
ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง
ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ
ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด


"Every Bitter Thing" โดย Hardy Jones ขอเชิญอุดหนุนได้จากเวบ http://blacklawrence.com/HardyJones.html และเวบ Amazon.com รวมทั้งเวบจำหน่ายหนังสือทั่วโลก

ขอฝากนิยายเรื่อง...นาฬิกาหัวใจ....ไว้ในอ้อมใจทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ พบกับนิยายเรื่อง... นาฬิกาหัวใจ.... ในเร็ว ๆ นี้ค่ะ ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ช่วยอุดหนุนและมอบแรงใจให้โรสลิต้าเสมอมาค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

ขอฝากหนังสือ...เรื่องเล่าสาววอลมาร์ท....ไว้ในอ้อมใจทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ พบกับหนังสือ...เรื่องเล่าสาววอลมาร์ท...ได้ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จะถึงนี้ และร้านหนังสือทั่วประเทศ สำหรับท่านที่อยู่ต่างประเทศ สามารถสั่งซื้อได้ที่ www.pinklemon.com และ www.naiin.com ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ช่วยอุดหนุนและมอบแรงใจให้โรสลิต้าเสมอมาค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

"รักแรก" เรื่องสั้นรวมเล่มปี 2007 กับนักเขียนหลาย ๆ ท่าน

Wal-Mart Family Cookbooks 2006 ส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจที่ไม่มีวันลืมเลือน กับเมนูอาหารที่ชนะเลิศ และมีโอกาสได้เป็น 1 ใน 80 คนที่มีผลงานรวมอยู่ในหนังสือเมนูอาหารเล่มนี้

สูตรอาหารคนต่างแดนแวะชมได้ที่ About My Cooking ค่ะ

กุ้งเผากับน้ำจิ้มสูตรเด็ด

เปาะเปี๊ยะสด

เนื้อแดดเดียว

ต้มจืดหมูสาหร่าย

ผัดวุ้นเส้น

ยำไส้กรอก

เปาะเปี๊ยะทอดกรอบ

หมูทอดสมุนไพร

ไก่ตะไคร้

ข้าวมันไก่คนต่างแดน

ปูผัดผงกะหรี่

ตำผลไม้รวม

เป็ดอบสมุนไพร

ลาบเครื่องในหมู

สปาเก็ตตี้ลูกชิ้นเนื้อเอ็น

Nacho อาหารเม็กซิกันแบบง่าย ๆ

Nacho กุ้งและหอยนางรมพันเบค่อน

ขนมจีนน้ำยาสามภาค (กลาง อีสาน ปักษ์ใต้)

ยำวุ้นเส้นกุ้งสด

ห่อหมกทะเล

ปีกไก่ย่างแซ่บ ๆ

กัมโบ (Gumbo) อาหารเคจั่นที่ขึ้นชื่อในรัฐหลุยส์เซียน่า
New Comments
Friends' blogs
[Add roslita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.