Group Blog
|
วิธีต้มตับไม่ให้คาว เวอชั่นทดลอง สวัสดีค่า วันนี้เอาเคล็ดลับการต้มตับไม่ให้คาวมาฝาก เราชอบอ่านการ์ตูนทำอาหารมากๆเลย เพราะบางทีเราก็ได้เคล็ดลับหรือเมนูมาจากการ์ตูนนี่ล่ะ เคยอ่านเจอเมื่อนานมาแล้ว จากการ์ตูนเรื่อง ฮันโซ ยอดกุ๊กสมองเพรช เล่ม 1 เค้ามีวิธีการต้มตับแบบไม่หลงเหลือความคาวด้วยแหล่ะ เราก็คิดจะลองทำนานแล้ว ไม่มีโอกาส เพราะเราไม่ชอบตับเลย แต่เราไม่ค่อยแข็งแรงไง หมอบอกให้เรากินตับ กินไข่ เยอะๆๆ เราก็เลยต้องพยามหาเมนูที่ตัวเองกินได้ และมีประโยชน์มาทำกินเอง ดังนั้นก็เลยลองต้มตับตามการ์ตูนเรื่องนี้ แล้วได้พบว่ามันไม่คาวเลยค่ะ รสชาติตับยังอยู่ครบ มันๆ อร่อยดี แต่ไม่มีกลิ่นของตับเลย แปลกดีเหมือนกัน ทำทีเยอะแล้วเก็บเข้าตู้เย็นไว้ใส่โจ๊กกินหรือทำข้าวผัดก็อร่อยดีค่ะ ใครมีลูกมีหลานไม่ชอบกินตับ ก็ลองเอาไปทำกันดูนะคะ ไม่ยากเลยค่ะ ตับหมู ตับไก่ ตับเป็ด ตับคน เจ๊ยยย อันหลังไม่ใช่ ใช้ตับอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่วันนี้เราใช้ตับหมูค่ะ ตอนแรกจะซื้อตับไก่ตามการ์ตูน แต่แฟนท้วงค่ะ เพราะเค้าชอบตับหมู ก็ตามใจเค้า( แต่คนกินมันเรานี่หว่า แถมอยู่คนละบ้านมาเกี่ยวอะไรด้วยว้า ) เริ่มแรกก็เอาตับไปล้างน้ำก่อน ล้างซัก 2-3 รอบ แล้วก็แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที *ขั้นตอนนี้ถ้าใครแช่น้ำทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ต้องเอามาแช่นมก็ได้ แต่เรากลัวจะมีกลิ่นตับอยู่ เลยเอามาแช่นมด้วยค่ะ ครบ 15 นาที ก็เทน้ำทิ้งซะ แล้วก็เทนมสดใส่ลงไปแทน จริงๆแล้วในการ์ตูนเค้าให้แช่น้ำเปล่า ครึ่งชั่วโมง หรือ 20 นาที แล้วก็ไปต้มเลย เค้าก็ว่าไม่เหลือความคาวนะ แต่เราอยากลองแช่นมดูด้วย ก็เลยลองดู กลัวไปเองว่าจะคาว แช่นมไว้ 30-60 นาที แต่เราเผลอลืมแช่ไว้ซะ 3 ชั่วโมง (เล่นเกมส์เพลินไปหน่อย ไม่ดีนะ) แต่ครั้งหน้าจะลองทำโดยไม่หมักกับนมแล้วค่ะ แล้วจะเอามาให้ดูใหม่ว่าจะยังมีกลิ่นคาวตับหรือเปล่า แยกตับกับนมซะ จริงๆแล้วควรเอาตับไปล้างน้ำเปล่า ล้างนมออกให้หมดก่อนนะ แต่เราลืมอ่ะ ลืมไป เราไม่มีนมสด เลยใช้นมข้นจืดแทนล่ะ ตั้งน้ำให้เดือดจัดๆ แล้วก็เทตับลงไปทีเดียวเลย เทตับลงไปแล้วก็รีบปิดฝาเลยนะ ลืมบอกว่าจับเวลา 20-25 วินาที แล้วค่อยปิดไฟค่ะ เมื่อปิดไฟแล้วก็ยกลงมา แล้วห่อด้วยผ้าขนหนูค่ะ ในการ์ตูนฮันโซเค้าอธิบายไว้ว่า ถ้าเราต้มต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ตับจะแข็งและเกิดฟองออกมา ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีเก็บความร้อนจะดีกว่า ถ้าใส่ตับลงในน้ำเดือด ( 100 องศา ) อุณหภูมิของน้ำจะตกราวๆ 75-80 องศาเซียลเซียส แต่เมื่อปิดฝา และเวลาผ่านไปสัก 20-25 วินาที อุณหภูมิจะกลับมาสูงขึ้นถึง 90 องศา ในจังหวะที่อุณหภูมิขึ้นถึง 90 องศา ถ้าเราปิดไฟแล้วเอาผ้าขนหนูมาห่อหม้อไว้ จะสามารถรักษาอุณหภูมิที่ราวๆ 75-80 องศาเอาไว้ได้ นี่แหล่ะคือจุดสำคัญ เพราะหากต้มตับด้วยความร้อนที่ 75-80 องศา จะไม่มีกลิ่นคาว เก็บความร้อนไว้สัก 20 นาที ตับก็จะสุกถึงเนื้อใน ทีนี้เราก็จะได้ตับที่ไม่มีกลิ่นคาวของเลือดเลยมากินแล้ว ลองชิมดูสักชิ้น มีรสชาติของตับครบถ้วน เข้มข้น มันๆ แต่กลับไม่มีกลิ่นคาวของตับเลย รู้สึกแปลกๆเหมือนกันแฮะ รสคล้ายๆครีมมันๆบอกไม่ถูก ถ้าใครชอบให้ตับออกรสเค็มๆ ในขั้นตอนการแช่น้ำหรือแช่นม ใส่เกลือลงไปเล็กน้อยได้นะคะ หมดปัญหาเรื่องกลิ่นคาวของตับแล้ว แต่เรามีปัญหาใหม่มาแทนนี่สิ เพราะที่บ้านเราเค้าชอบหยิบไปกินเล่นแทนอ่ะ เผลอแป๊บเดียวฉกหมดเลย T^T ใครมีลูกเล็กเด็กแดงที่มีปัญหาไม่ชอบกินตับ ลองทำเมนูนี้ได้เลยค่ะ คาดว่าเด็กๆน่าจะกินกันนะ เวอชั่นจริงขอไว้เป็นครั้งหน้านะคะ โปรดติดตามตอนต่อไป ประยุกต์ให้ก่ะหมูได้ป่ะครับ?
โดย: mrnon.com IP: 58.8.249.126 วันที่: 20 ตุลาคม 2553 เวลา:20:34:46 น.
รูปmangaประกอบ มาจากการ์ตูนเรื่องไหนอะครับ ดูข้อมูลแน่นดี น่าอ่านจัง จากมุมมองของผม คนชอบทำอาหาร และอ่านการ์ตูน^^
โดย: JIB IP: 110.169.166.90 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:13:39 น.
ขอบคุณมากๆ ครับ จะลองทำดู
โดย: กุ๊ก มือใหม่ IP: 125.25.75.186 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:21:23:45 น.
|
Rita_Bunny
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?] ในโลกที่สับสนวุ่นวาย ใครกันที่ถูกพิษรัก ในห้วงทะเลที่กว้างใหญ่ ใครกันดื่มยาแห่งความรักจนหมด ฟ้าไร้ขอบเขตและผืนดินไม่สิ้นสุดกลายเป็นความว่างเปล่า |