เลยเป็นเมืองท่องเที่ยวในใจของหลายๆคนที่ไปแล้วประทับใจกลับมากันมากมาย อากาศที่นี่ดี บริสุทธิ์มีความเป็นธรรมชาติ สูงมาก ผู้คนกับวัฒนธรรมติดใกล้ชิดกันอยู่มากเลยทีเดียว

เมืองเลยเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ภายใต้การดูแลของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) #อพท รวมเนื้อที่ 4.495,645.28 ไร่ ประกอบด้วย อำเภอเมืองเลยอำเภอเชียงคานอำเภอท่าลี่ อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย อำเภอนาแห้ว อำเภอภูกระดึงอำเภอหนองหินอำเภอภูหลวง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง

นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้วหลงรักด้วยเพราะต้นทุนการท่องเที่ยวของเมืองเลยที่มีอยู่มาเที่ยวแล้วมีความสุขให้มูลค่าทางจิตใจแก่นักท่องเที่ยวนั่นเองทั้งเรื่องของวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่ได้มาเที่ยวและสัมผัสบรรยากาศวิถีความเป็นไทย ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งก็มีหลายแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวในเชิงวิถีชีวิตภูมิปัญญาท้องถิ่นศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

1.พระธาตุศรีสองรักอ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย

ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมันห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดเลย มีรูปทรงลักษณะศิลปกรรมแบบล้านช้างองค์พระธาตุสูง 19.19 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 10.89 เมตรย่อมุมไม้สิบสอง องค์ระฆังทรง บัวเหลี่ยม คล้ายพระธาตุพนม พระธาตุหลวง(เวียงจันทน์) พระธาตุศรีโคตรบอง (แขวงคำม่วน) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2103 สมัยกรุงศรีอยุธยาหรือเมื่อ 458 ปีที่แล้ว โดยพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา(ไทย)และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง(ลาว)ในยุคพม่าเรืองอำนาจและขยายดินแดนต่างๆเพื่อขยายอำนาจกษัตริย์ทั้งสองพระองค์จึงร่วมมือกันพร้อมกับกระทำสัตยาธิษฐานว่าทั้ง2 ฝ่ายต่างจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน

ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันวิสาขบูชาชาวด่านซ้ายจะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุศรีสองรัก โดยจะนำต้นผึ้งที่ประดิษฐ์จากโครงไม้ไผ่ทรงหอปราสาทที่กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวก จากนั้นประดับด้วย ดอกผึ้ง ที่ทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆจับเป็นกลีบเพื่อถวายแด่องค์พระธาตุฯ

ธรรมเนียมปฏิบัติจากอดีตถึงปัจจุบันของผู้ที่เข้ามาสักการะพระธาตุศรีสองรักจะไม่นำสิ่งของที่มีสีแดง หรือสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงเข้าไปบริเวณองค์พระธาตุเนื่องจากเป็นสีที่สื่อถึงความรุนแรงและเลือดที่เป็นผลจากการทำสงครามนั่นเอง

2. ภูลมโล ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้ายจ.เลย

เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของ3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เสน่ห์ของภูลมโลอยู่ที่ความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ผลิบานสะพรั่งพร้อมกันเป็นสีชมพูบนพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่ช่วงหน้าหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมกราคมของทุกปี

มีข้อห้ามเมื่อมาเที่ยวที่แห่งนี้คือ ห้ามนำยานพาหนะที่อุทยานแห่งชาติไม่ได้อนุญาตเข้าไปในพื้นที่เขตภูลมโล เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวและรักษาระบบนิเวศในอุทยานไม่ให้เกิดความเสียหาย https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=raveetawan&month=02-2016&date=11&group=9&gblog=15

3.แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน จ.เลย

เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขงห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงยาวขนานสองฝั่งไทย-ลาวเป็นสถานที่ตากอากาศทางธรรมชาติสวยงามไม่น้อยหน้าต่างประเทศ ช่วงที่มองเห็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขงมากที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์– เดือนพฤษภาคม ช่วงนี้น้ำจะแห้งขอดมองเห็นแก่งสวยงามมากเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ตื่นแต่เช้าเพื่อชิมบรรยากาศธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติที่จัดสรรมาให้จะมองเห็นความสวยงามพร้อมหมอกยามเช้าเรียกว่า ความสุข สดชื่นที่ได้จากธรรมชาติเก็บเกี่ยวไม่มีวันหมดจริงๆ

4. อุทยานแห่งชาติภูเรือ อ.ภูเรือจ.เลย

ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดเลยประมาณ 59 กิโลเมตร ทิศเหนืออยู่ติดกับสปป.ลาว ช่วงที่น่าเที่ยวสัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติอันสวยงามของภูเรือคือช่วงหน้าหนาวอากาศจะหนาวเหน็บมาก ท้าทายนักท่องเที่ยว ยิ่งฟินถ้าได้กางเต็นท์สัมผัสความหนาวเหน็บเพื่อรอชมแสงแรกของเช้าวันใหม่อันสวยงามยามแสงพระอาทิตย์ทอแสงออกเหลืองอ่อนๆเรืองรองสัมผัสกับทะเลหมอกสีขาว

5.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อ.ภูกระดึงจ.เลย

คำว่า " ภู "หมายถึง " ภูเขา " "กระดึง " มาจาก " กระดิ่ง " ภาษาพื้นเมือง จ.เลยแปลว่า "ระฆังใหญ่ " ที่มาของชื่อ "ภูกระดึง " เล่ากันว่า บ้างเคยมีผู้ได้ยินเสียงระฆังของพระอินทร์อยู่บนเขานี้ บ้างก็เล่าว่า เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาบางส่วนหากเดินหนักๆ หรือใช้ไม้กระทุ้งก็จะมีเสียงก้องคล้ายระฆัง

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามใครที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึงแห่งนี้ไม่ผิดหวังที่จะเก็บเกี่ยวความงดงามของธรรมชาติและสูดอากาศอันบริสุทธิ์อย่างชุ่มฉ่ำใจเนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติสวยงาม เป็นแหล่งฮ็อตฮิตอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดเลยแล้วไม่พลาดที่จะแวะเวียนมาช่วงหน้าหนาว เพื่อ แชะ แช็ต แชร์ ให้โลกรู้

6.เรือนบ้านไม้เก่าเชียงคาน อ.เชียงคานจ.เลย

เรือนบ้านไม้เก่าที่นี่คือ เสน่ห์บ้านไม้เก่าแก่เมืองเชียงคานที่นักท่องเที่ยวมาแล้วต้องเก็บภาพกลับไปความเก่าแก่ของบ้านไม้ที่ได้รับการดูแลรักษาในระดับที่คงเค้าโครงเดิมให้มากที่สุดนั้นกลายเป็นความสวยงามแบบอาร์ตอาร์ตที่สร้างขึ้นเองไม่สู้ความสวยงามจริงตามธรรมชาติ

นอกจากเรือนบ้านไม้เก่าเชียงคานแล้วไม่ไกลกันมากยังมี “ภูทอก” จุดชมวิวทะเลหมอก ที่ยามเช้าจะสวยงาม 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็นสวยงามไม่แพ้ที่อื่นจริง ๆ ใครมาแล้วก็ไม่พลาดที่จะขึ้นมาเช็คอินณ จุดนี้

7. ชุมชนวัฒนธรรมคนไทดำบ้านนาป่าหนาด ต.เขาแก้ว อ.เชียงคาน จ.เลย

ชาวบ้านนาป่าหนาดเชื้อสายไทดำหรือไทชงดำ หรือไทโซ่ง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ในเชียงคานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5 สมัยที่ไทยทำสงครามปราบฮ่อในดินแดนเชียงขวางและสิบสองจุไท ในชุมชนไทดำยังคงสืบสานวัฒนธรรมหลายอย่างให้รุ่นหลังได้ชมกัน เช่น การทอผ้าที่มีลวดลายสวยงามในลักษณะต่างๆมีผ้าเปียวหรือผ้าสไบ ผ้าซิ่นผ้านุ่งลวดลายของชาวไทดำ ฯลฯ

8.ผีขนน้ำ บ้านนาซ่าว ต.นาซ่าวอ.เชียงคาน จ.เลย

ชาวบ้านนาซ่าว เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าไทยพวน อพยพมาจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงมีประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ คือ พิธีกรรมไหว้ผีบรรพบุรุษทำปีละครั้งเท่านั้น ชาวบ้านเรียกว่า “เลี้ยงบ้าน” มีการการบวงสรวงสัตว์เลี้ยงภายในบริเวณศาลโดยสัตว์ที่นำไปผูกหลักเลี้ยงจะตายเองโดยไม่มีการฆ่า

หลังเสร็จสิ้นพิธีจะฉลองด้วยการร้องรำทำเพลง เพื่อตอบแทนบุญคุณ ผีปู่ผีย่า ผีบรรพบุรุษในหมู่บ้านที่ช่วยชาวบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุขทำมาหากินได้อย่างอุดมสมบูรณ์

เรื่องเล่า “ผีขนน้ำ”ที่สืบๆต่อกันว่า ตามความเชื่อว่า “ผีขน” คือ วัว ควาย ที่ตายไปแล้วแต่วิญญาณยังวนเวียนตามห้วย หนอง คลอง บึง รอบๆ หมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านตักน้ำมาใช้วิญญาณของสัตว์จะตามเข้าหมู่บ้านมาด้วย ซึ่งได้ยินแต่เสียงกระดิ่ง แต่ไม่เห็นตัวชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า “ผีขนวัว ผีขนควาย” ต่อมามีการละเล่นผีขน ฝนมักจะตกชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า “ผีขนน้ำ” มาถึงปัจจุบัน

เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวเมืองเลยที่ขึ้นชื่อและได้ใจนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ วิถีชีวิตภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ที่ไม่เหมือนใคร มาเที่ยวแล้วมีความสุขใจเลยทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย และยิ่งนักท่องเที่ยวมากเท่าไหร่กลับยิ่งเป็นผลดีกับเมืองเลยที่ทุกคนต่างยิ่งร่วมกันอนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของเมืองเลยตลอดไป.

Create Date : 17 สิงหาคม 2561
Last Update : 19 สิงหาคม 2561 18:14:43 น.		0 comments
Counter : 1412 Pageviews.
Share Tweet