LovelyTrip เที่ยวทุกที่ที่ใจอยากไป
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2559
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 พฤษภาคม 2559
 
All Blogs
 

2คืน 3 วัน @เสียมเรียบ






ทริปเที่ยวจังหวัดเสียมเรียบ  ประเทศกัมพูชา อยากไปเห็น “นครวัด” หรือ Angkor Wat
มรดกโลกอายุพันปีด้วยตาตัวเอง สักครั้งหนึ่งในชีวิต ...เราไปตามรอยวลีเด็ด   “See Angkor Wat And Die”  ของ Arnold  Toynbee นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ   กันนะคะผู้ที่จุดประกายให้ผู้คนจำนวนมากจากทั่วโลกอยากมาเที่ยวชมความงดงาม ความมหัศจรรย์และความอลังการของที่นี่  

45 นาทีถึงเสียมเรียบ


เราเริ่มต้นเดินทางด้วยการบินร่วมทริปไปกับสายการบินไทยสมายล์ สายการบินโลว์คอร์สน้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพ-เสียมราฐ เมื่อกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมานี้เอง  www.thaismileair.com เรียกว่า เปิดประสบการณ์ใหม่ของการเดินทางในเส้นทางใหม่กับคณะตัวแทนท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศยุโรป


 ในทริปนี้มีทั้งสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศสอิตาลี นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์กและเบลเยียม ทุกคนเดินทางมาจากประเทศตัวเองถึงสนามบินสุวรรณภูมิแต่เช้าตรู่และเดินทางต่อไปยังจังหวัดเสียมเรียบด้วยกัน

คณะทัวร์ของเราออกจากกรุงเทพฯสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 07.25 น.เที่ยวบินที่ WE588 และถึงจังหวัดเสียมเรียบ เวลา08.20 น. ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที ด้วยเครื่องบินแอร์บัสรุ่นใหม่ A320-200 มี 162 ที่นั่ง  



บนเครื่องมีบริการอาหารเช้าเสริฟจากครัวการบินไทยหลากหลายเมนู  แต่เราเลือกเมนูสุขภาพ โจ๊กกุ้ง โรยด้วยขิงอ่อน กับน้ำส้มคั้น รสชาติถูกปากเลยอิ่มอร่อยสบายท้องแต่เช้า  ว่าแต่ยังไม่ทันหลับ เครื่องก็ลงจอดสนามบินนานาชาติเสียมเรียบแล้ว 



ที่นี่อากาศจะร้อนอบอ้าวมาก แดดแรง   มีลมน้อยหรือแทบไม่มีเลย แนะนำให้พกร่มหมวกและซันบล็อก+50 ขึ้นไปทาผิวก่อนออกไปฝ่าแดดเพื่อรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิวหนัง

เช็คอิน+มื้อกลางวันก่อนตะลุยนครวัด


หลังจากเสร็จภาระกิจที่ ตม.สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแล้ว มีไกด์เฟรนด์ลี่มากๆ ชื่อคุณ เพชร หรือ คุณจันตะนา เรียล เป็นชาวเสียมเรียบ ไกด์ฟรีแล้นซ์ จากบริษัททัวร์ TK หรือ ANGKORTk Travel & Tour พาพวกเราขึ้นรถบัสไปเช็คอินที่ โรงแรม โซฟิเทลอังกอร์โภคีธรา กอล์ฟแอนด์สปา รีสอร์ท โรงแรมห้าดาวของเมืองนี้ เพื่อให้ทุกคนได้พักออมเอาแรงและรับประทานอาหารกลางวันก่อนออกไปตะลุยเที่ยวชมโบราณสถานไฮไลท์ “นครวัด” หรือ Angkor Wat  ในช่วงบ่ายแก่ๆ


 บัตรเที่ยวห้ามหาย


ประมาณบ่ายสามโมง ทุกคนออกจากโรงแรมไปถ่ายภาพทำบัตรเที่ยวโบราณสถานในจังหวัดเสียมเรียบสำหรับ 3 วันที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกอร์ 

บัตรนี้สำคัญมากนะคะ เสมือนเป็นบัตรประจำตัวประชาชนของเราอีกใบหนึ่งเลยทีเดียว    เก็บไว้ให้ดี ห้ามทำหาย และทริปเราทุกคนรู้หน้าที่นำบัตรมาคล้องคอติดตัวทันที

 ไกด์บอกว่า ถ้าใครที่ทำบัตรหายแล้วนำบัตรของเพื่อนมาคล้องคอแทนถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเลยทีเดียว  จะถูกเจ้าหน้าที่จับและปรับ ต้องใช้เงินประมาณ 200 USD ประกันตัวออกมา หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 7,000 บาท ไม่คุ้มกันค่ะ 

อลังการ Angkor Wat มรดกโลกพันปี


ในที่สุดเราก็ได้มายืนอยู่หน้า “นครวัด” อารยธรรมขอมโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก มองจากทางเดินเข้าไปก็ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ อลังการจริงๆค่ะ

ไกด์บอกว่า มาแล้วต้องถ่ายภาพไฮไลท์ของที่นี่ พร้อมกับพาพวกเราเดินไปยืนด้านหน้าสระน้ำอยู่เยื้องทางขวามือของปราสาท เป็นมุมที่มองเห็นยอดปราสาททั้ง 5 ยอดสะท้อนลงบนผิวน้ำพอดี

หากใครหาไม่เจอให้ หันหน้าเข้าหาปราสาท สระน้ำจะอยู่ทางขวามือ จากนั้นก็เลือกมุมกล้อง   ใครชอบมุมไหนก็เลือกถ่ายภาพได้ตามอัธยาศัย หรือใครชอบแสงแรกของวันในช่วงเช้า กลางวัน หรือแสงสุดท้ายในช่วงเย็น ก็เลือกเวลามาถ่ายภาพได้


พอได้ภาพอย่างจุใจแล้วไกด์ก็พาพวกเราเข้าไปสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ อลังการและความมหัศจรรย์ ภายในตัวปราสาท ที่เต็มไปด้วยภาพสลักหินฝีมือมนุษย์เล่าเรื่องราวในอดีตมีทั้งเทพ อวตาร และนางฟ้า หรือ นางอัปสรา (Angle) 


นางอัปสรานี้ ชาวเสียมเรียบทุกคนยกย่องให้เป็นเทพธิดาดูแลศาสนสถาน ภาพสลักของ นางอัปสราในปราสาทนครวัด มีมากถึง 1,635องค์ใบหน้าไม่ซ้ำกัน ตั้งแต่บริเวณกำแพง ชั้นนอก จนถึงปรางค์ประธาน


ปราสาทนครวัด มีขนาดใหญ่มากถึง 200,000 ตารางเมตร ตัวปราสาทสูง 60 เมตร ยาว 100 เมตร และกว้าง 80 เมตรมีแผนผังที่ถือว่าเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดยอดของปราสาทขอม ใช้หินรวม 600,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้แรงงานช้างกว่า 40,000 เชือก และแรงงานคนนับแสนขนหินและชักลากหินมาจากเขาพนมกุเลนชึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 50 กิโลเมตร มีเสา 1,800 ต้น หนักต้นละกว่า 10 ตัน ใช้เวลาสร้างร่วม 100 ปี ใช้ช่างแกะสลัก 5,000 คน


 ไปนครธมเที่ยวปราสาทบายน


วันที่สองทริปเราไปตะลุยกันต่อที่ นครธม ไกด์บอกเราว่า ภาษาเขมร จะลากเสียง ธม เป็น โทมมมม ยาวนิดนึง แปลว่า ใหญ่ ฉะนั้น นครธม จึงแปลว่า เมืองใหญ่


ถ้าใครมาถึงที่นครธม จะเห็นประตูทางเข้าทางด้านซ้ายมีใบหน้าใหญ่ๆ ของเทวดาเรียงรายเป็นแถว    ส่วนด้านขวาเป็นแถวของยักษ์ (อสูร) เรียงรายแบกพญานาค อยู่สองข้างสะพาน 


และภายในนครธม บริเวณทางเข้าด้านใต้ เราจะเห็น หินทรายที่สลักเป็นรูปพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรใบหน้าอมยิ้ม เปี่ยมไปด้วยความสุขและความเมตตา เป็นพระพักตร์ 4 ทิศ คอยดูแลความสุข บรรเทาทุกข์ให้กับพสกนิกรของพระองค์ท่าน หากใครมาเที่ยวชม ปราสาทบายน แห่งนี้ เป็นต้องถ่ายภาพไฮไลท์ที่นี่กันค่ะ


ปราสาทบายน ที่อยู่ใน นครธม แห่งนี้ ตั้งอยู่ในใจกลางพระนคร ถูกสร้างโดยการนำหินมาวางซ้อนๆเป็นศิลปะแบบบายน  สร้างขึ้นในปลายคริสต์ศวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7   มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 9 ตารางกิโลเมตร เป็นปราสาทหลักของพระเจ้าชัยวรมัน แม้ไม่ใหญ่เทียมนครวัด แต่ก็สวยงามไม่แพ้กัน  


 ต้นไม้ใหญ่ปกคลุม ปราสาทตาพรหม


ช่วงบ่ายหลังอิ่มท้องที่ร้าน Tonle Mekong Restaurant ได้เดินทางต่อไปยัง ปราสาทตาพรหม Preah KhanTemple แหล่งท่องเที่ยวที่ภาพยนตร์ดังระดับโลกอย่าง ทูมไรเดอร์ เจมส์บอนด์ ฯลฯ เคยมาถ่ายทำจนทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักและอยากมาเที่ยว 

ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยค่ะถ้าใครมาแล้วไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ เป็นต้องถ่ายภาพกับต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นปกคลุมตัวปราสาทมากมาย ถึงขนาดต้องแย่งกันเข้าคิว สำหรับคนที่มาครั้งแรกมี เทคนิคการถ่ายภาพให้รวดเร็วคือ ให้เล็งพิกัดมุมที่สวยที่สุดจากกล้อง  จากนั้นเล็งจังหวะคนเดินออกให้รีบวิ่งไปยืน แล้วให้เพื่อนกดชัตเตอร์อย่างไว  สนุกมากค่ะราวกับเล่นเก้าอี้ดนตรีเลยค่ะ


สำหรับ ปราสาทตาพรหมแห่งนี้เป็นปราสาทที่ถูกปล่อยให้อยู่กับธรรมชาติ เป็นวัดในพุทธศาสนาและเป็นวิหารหลวงในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระราชมารดาของพระเจ้าชัยวรมันที่7 นับเป็นปราสาทหินในยุคท้ายๆ ของอาณาจักรเขมร ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

 Night market ตลาดฟินที่สุดของนักท่องเที่ยว



ตกค่ำพวกเราได้ไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืนSiem Reap night market ในฐานะที่ เสียมเรียบ เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเที่ยวทั้งยุโรปสหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไทย เวียดนามฯลฯ 


ใครชอบช้อปปิ้งมีทุกอย่างให้เลือกซื้อหาได้ตามใจชอบ    ใครชอบนั่งชิลๆ หรืออยากสนุกด้วยเสียงเพลงสามารถเดินข้ามสะพานเก๋ๆที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศสมาได้โดยไม่ต้องใช้รถและมีของให้ช้อปปิ้งด้วยเหมือนกันแต่น้อยกว่าอีกฝั่งหนึ่ง 





ฝั่งนี้ตลาดกลางคืนที่นี่จะคล้ายถนนข้าวสารบ้านเราชาวต่างชาติมานั่งดื่ม กิน ชิลกันเยอะมากใครเมื่อยล้า ก็มีสปาที่ตกแต่งหน้าร้านสวยงามเชิญชวนให้อยากเข้าไปใช้บริการ


เที่ยวหมู่บ้านน้ำตาลโตนด



วันสุดท้ายก่อนบินกลับกรุงเทพไกด์พาพวกเราไปเที่ยวหมู่บ้านน้ำตาลโตนด ที่ทั้งหมู่บ้านจะทำน้ำตาลโตนดออกมาขายหลากหลายให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อราคาไม่แพงทำกันสดๆ ตัดผลตาลจากไร่แล้วแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อกลับบ้าน

อย่าง น้ำตาลโตนดผง กระปุกขนาดกลางราคา 40 บาทไทยหรือ 3 กระปุกราคาประมาณ 2 USD(เท่ากับ 70บาท) 


นอกจากนี้ก็มีเครื่องใช้ในครัวที่เป็นงานแฮนเม้ด ราคาไม่แพงหรือเสื้อผ้าก็สามารถเลือกซื้อกันได้

ปราสาทสีชมพู อายุ 1,047 ปี



จากนั้น แวะเที่ยวปราสาทบันทายศรี (Banteay Srei) เป็นปราสาทชั้นเดียว ถูกสร้างอุทิศถวายพระอิศวรภายใต้พระนามว่า"ตรีภูวนมเหศวร" หรือ "ผู้เป็นใหญ่แห่งโลกทั้งสาม" ภาษาเขมรออกเสียงว่า บันเตยเสรย (บัน-เตย-สะ-เรย) แปลว่า ป้อมแห่งสตรี หรือปราสาทสตรี 






ไกด์บอกว่า ที่นี่งดงามที่สุดและมีความสมบูรณ์ที่สุดถือเป็นปราสาทแห่งเดียวที่สร้างเสร็จแล้วมีอายุ 1,047 ปีแต่ลวดลายก็ยังมีความคมชัด เหมือนกับสร้างเสร็จใหม่ ๆ เพราะสร้างด้วยหินทรายสีชมพูซึ่งหายากและคงทนมากเรียกว่าที่นี่มีการบูรณะน้อยที่สุดเพียงแค่ 2 รอบและไม่แตะต้องงานศิลปะดั้งเดิมด้วย

 ปราสาทบันทายสำเหร่ศิลปะแบบนครวัด



ตั้งอยู่นอกเมืองพระนครไปทางตะวันออกนักวิชาการสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2หรืออาจจะเป็นสมัยพระเจ้ายโศวรมันที่ 2 เป็นเทวสถานฮินดู ศิลปะแบบนครวัดภาพสลักส่วนใหญ่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องรามเกียรติ์ มีการแกะลายที่ชัดเจนลึกและหนักแน่น

บาราย อ่างเก็บน้ำเพื่อเกษตรกรรม


อ่างเก็บน้ำบาราย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ อองกอร์ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าบารายเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีนัยแสดงความหมายถึงทะเลที่อยู่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ เป็นแหล่งเก็บน้ำสำหรับการชลประทานของไร่นาต่าง ๆได้ใช้ในทางเกษตรกรรมกัน ปัจจุบันแล้ง มีน้ำน้อยชาวบ้านที่เคยทำนา ปลูกผัก ก็จะหันไปประกอบอาชีพอื่นเช่น ขายเสื้อผ้า เก็บผลไม้ตามฤดูกาลขาย มากที่สุดเป็นมะม่วงแก้ว

หมู่บ้านผ้าไหมขึ้นชื่อ


ที่สุดท้ายไป Silk Farm เสียมเรียบ เป็นฟาร์มเลี้ยงไหมและโรงทอผ้าไหมแบบกัมพูชาที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือลูกหลานชาวกัมพูชาในพื้นที่ให้ได้มีอาชีพและมีรายได้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับผ้าไหมมาก่อนที่จะได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับกรรมวิธีการผลิตผ้าไหม

สรุปว่า FAM Trip ในเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพ-เสียมเรียบ กับไทยสมายล์ ที่นครวัด ได้สร้างประสบการณ์ “SeeAngkor Wat And Die” สักครั้งหนึ่งในชีวิตให้เราได้บันทึกเรื่องราวของจังหวัดเสียมเรียบ และได้นำมาแบ่งปันกัน ขอบคุณสายการบินไทยสมายล์ ที่อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางของทริปนี้ ให้กับเราค่ะ.




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2559
4 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2559 7:32:50 น.
Counter : 4045 Pageviews.

 

อยากไปเที่ยวเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกอยากไปกับแฟน

 

โดย: สะใภ้ใจดี IP: 124.122.187.62 24 พฤษภาคม 2559 12:01:12 น.  

 

อยากไปๆๆสวยๆๆ

 

โดย: Vang_see IP: 115.87.226.57 26 พฤษภาคม 2559 9:58:30 น.  

 

นา่เทียวมากครับ

 

โดย: แซงค์ ชายคาตะวัน IP: 1.47.41.201 26 พฤษภาคม 2559 13:12:25 น.  

 

สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: peepoobakub 15 มีนาคม 2560 16:40:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Lovelytrip
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




จำนวนผู้ชม 5140140 ครั้ง
จำนวนผู้ชม Profile 970 ครั้ง

เที่ยวทุกที่ที่ใจอยากไป
New Comments
Friends' blogs
[Add Lovelytrip's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.