|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
โรคเท้าในเด็ก
มีแม่ ๆ ถามเกี่ยวกับเรื่องโรคเท้าในเด็กเข้ามาเป็นระยะ ๆ เลยคิดว่าเก็บลงใน blog ไว้ ไม่เสียหลาย
เรื่องนี้เคยลงในห้องชานเรือนแล้ว มาปรับปรุงข้อมูลเล็กน้อยให้เป็นปัจจุบันค่ะ
//topicstock.pantip.com/family/topicstock/2009/06/N7981641/N7981641.html
สืบเนื่องมาจากกระทู้ "ตามหาหมอกระดูกเด็กที่ศิริราช" ไม่ถนัดการเขียนแบบเชิงวิชาการ เอาเป็นว่ามาเล่าสู่กันฟังนะคะ
ด้วยความที่สังเกตุขาและเท้าของต้นกล้ามาระยะนึงว่าเดินแบบขาไขว้กัน นิ้วเท้าหันเข้าหากัน ได้ปรึกษากับคุณหมอของต้นกล้า คุณหมอแนะนำให้ไปพบคุณหมอเฉพาะทาง จึงตัดสินใจพากันไปพบคุณหมอมาค่ะ
ผลการตรวจ คุณหมอบอกว่าต้นกล้าเป็น Intoeing Gait ชนิด Internal Tibial Torsion หน้าแข้งบิดเข้าใน ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อโตขึ้น
ปัจจุบันคุณหมอ รศ.นพ.กมลพร แก้วพรสวรรค์ ไม่ได้ออกตรวจที่ รพ.พญาไท 3 แล้ว คุณหมอพีรจิต ลูกศิษย์ของท่านรับคนไข้แทน ออกตรวจเฉพาะวันอาทิตย์ อย่างไรลองโทรไปเช็ควันเวลาออกตรวจได้นะคะ โทร 1772
ภาพนี้ถ่ายตอนต้นกล้าอายุ 1 ปี 6 เดือน 6 วัน
คุณหมอได้สอนวิธีการดัดเท้า โดยดัดเท้าหันออกด้านข้าง
นอกจากการเดินแบบขาไขว้กัน นิ้วเท้าหันเข้าหากันแล้ว ต้นกล้ายังชอบเดินเขย่ง คุณหมอเลยสอนวิธีดัดเท้า โดยมือนึงจับที่น่อง อีกมือดึงที่ส้นเท้า
แต่สรุปคือ คุณหมอบอกว่าคุณแม่อย่าวิตกกังวลมาก นวดก็ได้ไม่นวดก็ได้ ลูกไม่ได้เป็นอะไร จะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อโตขึ้น
ระหว่างที่รอพบคุณหมอนั้น ได้อ่านแผ่นพับเกี่ยวกับโรคเท้าในเด็ก เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับแม่ ๆ ได้บ้าง เลยพิมพ์แล้วมาฝากกันค่ะ
ข้อมูลจาก แผ่นพับของ รพ.พญาไท
โรคเท้าในเด็ก
ผู้หญิงทุกคนที่มีโอกาสเป็น คุณแม่ มักจะพูดถึงวินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าลูกว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของชีวิต ก็เจ้าตัวน้อยอีกนั่นแหละที่เป็นสิ่งเติมเต็ม ให้ครอบครัวสมบูรณ์ขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่คุณแม่ปรารถนาที่จะเห็นลูกน้อยมีอาการครบสามสิบสองและร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ คุณแม่ก็มีความสุขแล้ว แต่ถ้าอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดของลูกผิดปกติ คนที่เดือดร้อนและกังวลในเป็นที่สุดก็คือคุณแม่นั่นเอง
มีคุณแม่ท่านหนึ่งวิตกเกี่ยวกับเท้าของลูก ที่ผิดปกติว่า
เท้าของลูกดิฉันไม่เหมือนของลูกเพื่อน เท้าของลูกดิฉัน แบนผิดปกติ คุณแม่บางรายบอกว่า เท้าของลูกดินฉันมีนิ้วเกิน นิ้วติดกัน นิ้วไม่ครบ ขาดหายไปก็มี
เป็นคำกล่าวของคุณแม่ที่ลูกมีเท้าผิดปกติเพราะเกรงว่า ถ้ารักษาไม่หาย เมื่อลูกโตขึ้นเป็นหนุ่มเป็นสาวจะทำให้เกิดปมด้อยได้ ความจริงความผิดปกติของเท้าเด็กนั้น อาจเป็นสภาวะทางสรีระของเท้าเด็กเองและธรรมชาติแก้ไขได้เมื่อเติบโตขึ้น
ความผิดปกติในเท้าเด็ก
ความผิดปกติในเท้าเด็กนั้นมีมากมาย ที่พบได้เช่น เท้าแบน เป็นความผิดปกติที่พบได้บ่อยมากในเด็กทารกทั่วไป เรียกตามประสาชาวบ้านว่า ตีนเป็ด สภาวะเช่นนี้ ถ้าพ่อแม่ไม่ให้ความสนใจนัก อาจจะไม่รู้เรื่องเสียด้วยซ้ำว่า ลูกมีฝ่าเท้าแบนทั้ง ๆ ที่บางครั้งเป็นมากด้วย บางท่านให้ความสนใจมากเกินไป ถึงกับพาลูก ๆ ไปหาหมอหลายแห่ง เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าลูกมีเท้าไม่ผิดปกติทั้ง ๆ ที่แพทย์ได้อธิบายแล้วว่า ในระหว่างที่ทารกอยู่ในครรภ์มารดานั้น ฝ่าเท้าอาจบิดไปบิดมาตามท่าทางของทารกที่ประคับประคองบีบรัดโดยมดลูกทำให้ฝ่าเท้าเฉออกนอกลำตัว หรือบิดเข้าหาตัวมากเกินไป พอคลอดออกมาลักษณะของเท้าจะกลับคืนสู่ปกติ เหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป ภายในช่วง 5 อาทิตย์หลังคลอด
ก่อนเด็กเดินได้ฝ่าเท้าจะมีลักษณะแบนราบ ไม่มีอุ้งเท้าอย่างที่เห็นในเด็กโต ในช่วงที่เด็กเริ่มหัดเดินเตาะแตะ จะเห็นว่าขาทั้งสองข้างและฝ่าเท้าทั้งสองถ่างออกกว้าง น้ำหนักตัวอาจตกลงมาทางด้านในของฝ่าเท้าแบน เมื่อเด็กอายุมากขึ้น เด็กเดินได้เก่งขึ้น การยืนการเดินทำได้ตรงและถนัดมากขึ้น เท้าทั้งสองข้างจะเข้ามาชิดกัน แนวน้ำหนักตัวจะตกลงไปตามแกนของกระดูกขาและลงไปทางด้านนอกของฝ่าเท้า ช่วงนี้จะเห็นว่าเด็กมีความเจริญเติมโตที่เป็นปกติและเริ่มมีอุ้งเท้าเกิดขึ้น
จากการสังเกตพบว่า เท้าแบนนั้นบางครั้งเป็นพันธุกรรม การที่ฝ่ายเท้าแบนในช่วงอายุ 7 ขวบแรก ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสรีระร่างการ ถ้าหากอายุเกิน 7 ขวบ แล้วฝ่าเท้ายังแบนอยู่ร่วมกับมีข้อเท้าเอียงล้มเข้าด้านในมาก ถือว่าเป็นความผิดปกติ และควรรีบไปรักษา
ส่วนใหญ่เด็กที่ฝ่าเท้าแบน ไม่ชอบวิ่งเล่น หรือออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างเด็กปกติทั่วไป เพราะจะรู้สึกปวดเมื่อยน่องเร็วกว่าปกติ แม้แต่การเล่นกีฬาบ่างอย่างก็ไม่สามารถเล่นสู้เพื่อนได้ จะเห็นว่าเด็กที่มีฝ่าเท้าแบนที่เราพบนั้นมีลักษณะของมืออ่อนเท้าอ่อน จนสามารถดันให้เท้าหรือมือแอ่นได้มาก ๆ เด็กที่มีฝ่าเท้าแบนมาก ๆ และถ้าใส่รองเท้าแข็ง ๆ เป็นประจำจะเห็นว่า เท้ามีขอบด้านในหนาขรุขระเกิดจากผิวหนังด้านนี้มีการเสียดสีกับหนังร้องเท้าที่สัมผัสกันตลอดเวลา
การรักษา
การรักษาเด็กที่มีฝ่าเท้าแบนนั้น ถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบ ยังไม่มีความจำเป็นต้องเดือดร้อนในการรักษา แต่คอยดูว่าเป็นมากขึ้นหรือไม่ พอเด็กโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่เท้ายังแบนมากร่วมกับข้อเท้าเอียงล้มมากขึ้น ควรพาไปรักษา ซึ่งอาจจะเริ่มจากการที่ คุณแม่พาลูกหัดเดินหรือวิ่งบนปลายเท้าและกระตุ้นให้เด็กออกกำลังกายบริหารร่างกายหรือเล่นกีฬา แพทย์บางท่านจะแนะนำให้ใส่รองเท้าพิเศษด้วย โดยเฉพาะส่วนเสริมอุ้งเท้า เพราะจะช่วยให้เด็กไม่รู้สึกเกร็งเท้าเวลาเดิน
ในกรณีที่มีฝ่าเท้าแบนในเด็กที่มีอายุมากขึ้น ตั้งแต่ 10-15 ปี อาจจะมีสาเหตุมาจากอย่างอื่น เช่น เอ็ดร้อยหวายตึง โรคข้ออักเสบ อาจเกิดจากการติดเชื้อโรคข้ออักเสบพวกรูมาตอยด์ หรือในบางรายอาจจะเกิดจากกระดูกผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด คือ กระดูกของเท้าติดกันจะทำให้เท้าแบนเกิดขึ้น ความผิดปกติเหล่านี้ สมควรได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เริ่มตั้งแต่การให้สวมใส่รองเท้าพิเศษ ถ้ามีอาการผิดปกติมาก จำเป็นต้องผ่าตัดรักษา
เท้าปุก หรือเท้าบิดเป็นความผิดปกติของเท้าที่เป็นตั้งแต่กำเนิด โดยมีลักษณะข้อเท้าผิดรูปแบบไป เช่น ข้อเท้าจิกลงล่างบิดเข้าใน และฝ่าเท้าหงายขึ้นทำให้มีรูปร่างเหมือนไม้กอล์ฟ อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ซึ่งสาเหตุของโรคเท้าปุกยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่ามีองค์ประกอบของสาเหตุหลาย ๆ อย่างรวมกัน เช่น สิ่งแวดล้อมในครรภ์มารดา ซึ่งมีผลต่อท่าของเท้าในขณะที่อยู่ในมดลูก, กรรมพันธุ์, กระดูกเท้าถูกสร้างมาผิดรูป, กล้ามเนื้อควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อเท้า และเท้าไม่สมดุลกัน
จะรู้ได้อย่างไรว่า.... เท้าลูกผิดปกติ
โดยปกติแล้วอาการเท้าบิดหรือเท้าผิดรูปของลูกน้อยจะสังเกตเห็นได้ชัดเพราะเท้าของลูกน้อยจะแสดงอาการให้เห็นชัดเจน ซึ่งลักษณะเท้าที่ผิดปกติมีลักษณะดังนี้คือ - เท้าบิดออกนอก ปลายเท้าจะชี้ออกด้านนอก - เท้าบิดเข้าใน นิ้วเท้าชี้เข้าด้านใน - เท้าแฟบ คือไม่มีเนื้อตรงส้นเท้า ฝ่าเท้า หรือปลายเท้า เวลาเดินจะตะแคงเท้าเดิน - ข้อเข่าห่าง มีลักษณะเหมือนเด็กขาโก่ง บางรายจะหายไปเองเมื่อโตขึ้น แต่บางรายต้องผ่าตัดแก้ไข - ข้อเข่าชิด หรือเข่าจูบกัน จะมีลักษณะเดินเข่าชิดขาท่อนล่างแยกออก
การรักษา
โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ ยิ่งรักษาเร็วเท่าไรยิ่งได้ผลดี การรักษาในเด็กแรกคลอด คือ การดัดเท้าให้กลับคืนสู่รูปร่างที่ปกติและควบคุมด้วยเฝือก ซึ่งหมอจะทำการดัดและเปลี่ยนเฝือกทุก ๆ สัปดาห์ จนได้รูปร่างที่ปกติแล้ว จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นการใส่รองเท้าสำหรับดัดเท้าหรือรองเท้าพิเศษให้เด็กตลอดเวลา เป็นเวลา 2 เดือน จากนั้นก็จะเปลี่ยนให้ใส่เฉพาะเวลากลางคืนจนอายุ 4-5 ขวบ ซึ่งวิธีการนี้อาจต้องมีการดัดเอ็นร้อยหวายร่วมด้วยเพื่อให้เท้ามีรูปร่างที่ปกติ
การรักษาด้วยการดัดเท้าร่วมกับการเข้าเฝือกนี้ถ้าทำตั้งแต่คลอดใหม่ จะได้ผลดีถึง 90% ส่วนอีก 10% ที่มีรูปร่างเท้ายังไม่ปกติแต่ดีขึ้นกว่าตอนแรกคลอดมาก ก็จะต้องรับการผ่าตัดรักษาตามด้วยการเข้าเฝือกและการใส่รองเท้าพิเศษ
นอกจากกรณีที่ต้องได้รับการผ่าตัดที่ต้องให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญดูแลแล้ว อาการอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการผิดปกติของเท้าลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลและป้องกันได้มีดังนี้
1. เมื่อลูกมีอาการผิดปกติตรงข้อเข่า ขาโก่ง อาการนี้คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ต้องตกใจ พอลูกอายุได้ 3 ขวบขึ้นไปจะหายไปเอง แต่ถ้าลูกน้อยมีอาการอักเสบตรงกระดูกข้อเข่าร่วมด้วย มักจะมีอาการรุนแรง คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบพาลูกน้อยมาพบแพทย์ เพื่อแก้ไขโดยการผ่าตัด
2. กรณีลูกน้อยมีอาการเข่าชิด คุณพ่อคุณแม่บางคนมักจะดัดขาให้ลูกน้อย ซึ่งการดัดหรือไม่ดัดนี้ไม่เป็นผลอย่างใด เพราะเมื่อลูกโตขึ้นร่างกายจะแก้ไขเองโดยธรรมชาติ แต่ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง คือ อย่าให้ลูกน้อยนั่งท่ากบ เพราะจะเป็นการส่งเสริมให้ขาลูกผิดท่าทางมากขึ้น และร่างกายจะแก้ไขได้ยาก
นิ้วเท้าเกิน, ติดกัน, นิ้วขาดหาย
การที่มีนิ้วเท้าเกินหรือติดกัน ในช่วงแรกเกิดยังไม่ต้องการการผ่าตัดใด ๆ เพราะถือว่าเป็นความผิดปกติมาแต่กำเนิด รอจนเท้าใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อยประมาณ 1-2 ขวบ ขึ้นไปอาจจะเริ่มรักษาได้ ในรายที่นิ้วเกินก็ผ่าตัดออก ในรายที่นิ้วติดกันก็ผ่าตัดแยกออก ส่วนรายที่นิ้วหายไปเหลือข้างละ 3-4 นิ้ว พบในเด็กน้อยมากควรจะให้การรักษาทางด้านจิตใจจะดีกว่า ยังมีความผิดปกติของเท้าอีกมาก ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านที่ลูกมีความผิดปกติเล็กน้อย ขออย่าให้วิตกกังวลมาก เพราะความผิดปกติบางชนิดสามารถหายได้เอง ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาพิเศษใด ๆ เพิ่มเติมเพียงแต่ดูแลให้ถูกวิธีเท่านั้น แต่สำหรับในรายที่เป็นมากควรนำไปรักษาอย่างถูกวิธีตั้งแต่เนิ่น ๆ และแนะนำให้รักษาตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ เพราะผลของการรักษาบางโรคจะดีกว่าการรักษาในอายุมาก
Create Date : 23 มกราคม 2553 |
|
15 comments |
Last Update : 23 มกราคม 2553 7:51:54 น. |
Counter : 8963 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Untrue 23 มกราคม 2553 8:16:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่นกลูกคนแรก IP: 203.144.144.164 23 มกราคม 2553 11:58:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: คิดดี IP: 124.122.225.144 30 พฤษภาคม 2553 11:17:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ระแนงไม้ IP: 58.9.72.203 28 สิงหาคม 2553 1:03:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: แบมบู IP: 119.42.91.185 5 ตุลาคม 2553 10:14:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: แบมบู IP: 61.7.132.237 5 ตุลาคม 2553 10:17:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: earth IP: 10.13.106.188, 202.28.179.13 5 มกราคม 2554 15:01:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชนิดา IP: 202.91.19.194 16 มีนาคม 2554 10:48:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: tiffy IP: 172.168.1.238, 58.9.210.216 19 ตุลาคม 2554 13:15:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: รียา IP: 115.67.226.75 8 พฤศจิกายน 2555 16:08:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: โอ IP: 124.120.169.160 9 เมษายน 2562 16:23:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดช. อุดมศักดิ์ IP: 125.24.191.202 20 สิงหาคม 2564 20:21:35 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]
|
"ความสุขอยู่รอบตัวเรา"
จาก Working Woman มาเป็น Terrible Mom ดูแลลูกและครอบครัว ยามว่างรวบรวมความสุขมาใส่ blog
+++ "สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใด ในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้ รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อค" +++
|
|
|
|
|
|
|