a little up-date
ว่างๆมาอัพหน่อยดีกว่า นานๆทีจะมีอารมณ์ ปกติก็ว่างนะแต่ไม่มีอามรณ์อัพบล็อก เป็นอารมณ์ที่จริงจังๆหน่อย สายชิวอย่างเราเลยมีอารมณ์แบบนี้ไม่ค่อยบ่อย
ผ่านมาแปปๆนี่ก็เดือน 9 ของปีละ เร็วม๊ากกก ปีนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ พิเศษอะไรเลย มีแต่ธรรมดา กับ แย่ ชิๆ ปีหน้าต้องดีแล้วแหละ นี่เร็วไปที่จะสรุปไปมะ เดี๋ยวไว้รอปลายปีค่อยมาสรุปใหม่อีกที
ช่วงนี้ผมยังไม่เข้าที่เข้าทาง ช่างตัดสั้นไป เลยไหล่มานิดหนอย กับสีเข้มไป รอเวลาไปย้อมใหม่
ล่าสุดไปดูหนังเรื่อง Sully ซึ่งเป็นเรื่องที่เราและเพื่อนกบท เคยได้ยินมาก่อนบ่อยมาก เพราะเป็นกรณีศึกษาที่ดังมากๆในวงการ คือการ ditching หรือ landingฉุกเฉิน บนผิวน้ำ ซึ่งโอกาสเกิดน้อยมากๆ แล้วยังอยู่รอดปลอดภัยทั้งลำอีก เคสแบบนี้ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ก็ได้เรียนเคสนี้บ่อยมาก เพราะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่เก่าเกินไป มีคนเอาไปทำภาพจำลองพร้อมคลิปเสียงจนหาได้ทั่วไป ซึ่งเราได้ดูโมเดลเหตุการณ์จำลองแบบเสมือนจริงตั้งแต่เครื่องขึ้น มีอุบัติเหตุ แลนด์ พร้อมกับคลิปเสียงของจริง ปีละหลายรอบตอนอบรม ซึ่งเคสนี้ก็เป็นที่กล่าวกันอยู่แล้ว ว่ากัปตันเก่ง คุมสติดีมาก ไอ้ตอนฟังคลิปคือเค้าก็พูดไรกันฟังยากๆใช่มะ พอตอนดูภาพจำลองคือเครื่องยนต์ไหม้ทั้งสองเครื่องละ ฟังน้ำเสียงที่คุยกัน ยังเป็นเสียงปกติอยู่เลย เราก็แบบ นี่เกิดเรื่องแล้วใช่มะ เสียงนิ่งมาก
ก็อยากไปดูมาก ว่าหนังจะประมาณไหน หนังสั้นมากนะ แต่ไม่ผิดหวังเลย ถึงแม้จะเป็นคนที่คลุกคลีเรื่องพวกนี้ คนในวงการการบิน ก็ไม่ผิดหวังแน่นอน ทอม แฮงสวมบทเป็นกัปตันได้ถึงบทบาทมาก เก่งมากจริงๆพวกดาราฮอลลีวูดเนี่ย ชอบ ถึงได้ชอบดูหนังเพราะชอบดูความเก่งของเค้า แล้วก็สร้างได้เหมือนจริงมาก แล้วมันจะมีเหตุการณ์อุบัติเหตุในหนัง ใช่มะ เค้าก็พูดบทตามคลิปเสียงของเหตุการณ์จริงเลย ฉากนั้นทำได้ดีมากจริงๆนะ จากใจคนที่เคยฟังแต่คลิปมาหลายรอบมากๆจนจำได้ แต่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาคนตอนที่พูด เห็นแต่ภาพเครื่องบินไปทิศทางไหนๆประมาณนั้น พอได้มาฟังแบบมีคนแสดงไปด้วย แล้วรู้สึกว่ามันจริงมากๆ ถึงมันจะไม่เหมือนเหตุการณ์จริง100%อยู่แล้วก็เถอะ เอาเป็นว่าประทับใจมาก ความสนุกของการรู้บทก่อนมันอยู่ตรงนี้นี่เอง แบบเมื่อก่อนที่เค้าจะชอบอ่านบทละครตามนสพ ที่มันจะเอามาพิมออกก่อนละครฉายช่วงนึงไรงี้ เคยไปอ่านแล้ว จำคร่าวๆ แล้วแบบตามดู สนุกดีนะ เหมือนสามารถวิพากษ์วิจารณ์การเล่นของตัวละครได้ ว่าเออ ทำได้ดีนะ หรือ เล่นแบบนี้ไม่เหมือนที่คิดไว้ในหัวเลยไรงี้
ยาวจังเรื่องหนัง นี่ง่วงมาก เพิ่งกลับจากไฟลท์ปักกิ่งค้าง ซึ่งเป็นไฟลท์ที่พูดได้เลยว่า ต้องตื่นเช้าที่สุด ที่สุดในบรรดาทุกไฟลท์ที่การบินไทยมีละ บอกก่อนว่าการตื่นเช้าของแอร์นี่มันไม่ธรรมดานะคะ ไม่ได้เช้าเหมือนมนุษย์ออฟฟิศทั่วไปนะ อย่างไฟลท์ของการบินไทยเช้าสุดก็ประมาณ 7 โมงนิดๆ อ่ะ 7.30 ละกัน ถือว่าไฟลท์เช้ามาก ซึ่งแอร์ก็พอๆกะผู้โดยสาร ต้องถึงบริษัทก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมง(ไฟลท์interนะ) แต่ผู้โดยสารคือประมาณๆเวลา ไปถึงประมาณนี้ๆ แต่แอร์คือเป๊ะๆ ถ้า2 ชั่วโมง1นาที คือสายค่ะ ต้องมาถึงก่อนค่ะ สายแล้วจะเรื่องใหญ่มากค่ะ มีโทษค่ะ เป็นแอร์ต้องห้ามสาย ส่วนใหญ่ก็จะมากันก่อนมาทำนู่นทำนี่กินข้งกินข้าวได้อยู่ละ เพราะต้องเผื่อเวลา ไม่ใช่มาพอดีๆมันเสี่ยงไป อ่ะต่อๆ ไฟลท์เช้าสุด คือต้องมาถึงอย่างช้า 05.30 สำหรับคนไม่ได้บ้านใกล้ ก็ควรจะออก อย่างช้า 04.30 มะ แล้วต้องแต่งหน้าทำผมอี๊ก เอาเป็นว่าไฟลท์เช้า คือต้องตื่น 03.30 ได้อ่ะ โหดมากกกก
แต่ๆ ย้อนกลับไปที่พูดถึงไฟลท์ปักกิ่ง ขาไปออกจากกทมห้าทุ่ม อยู่หนึ่งวัน อีกหนึ่งวัน wake up call ที่โรงแรมจะโทรมา คือเวลา ตี2 ค่า บ้าไปแล้ว นี่ถ้าอยู่บ้านยังไม่นอนหรอกนะ เพราะเครื่องออก 04.55 (เวลาไทย) แล้วโรงแรมอยู่ไกลสนามบินมาก แล้วไฟลท์ก็ไม่ได้สั้นนะ บิน 4-5 ชั่วโมง คือเพลียเวลาwake เนี่ยแหละ นี่ก็พยายามข่มตาหลับตอน4ทุ่ม ทั้งที่มันไม่ใช่เวลานอนเล้ย นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ ได้นอนน้อยมาก ปกติเรานอนหลังเที่ยงคืนตลอด เพลียมากจริงๆ ลงมา10โมง คนไม่มีธุระก็ยังพอกลับบ้านไปนอนไรงี้ได้ แต่ใครล่ะจะไม่มีธุระขนาดนั้น ส่วนใหญ่ก็ไปธุระไปแต๊ดแต๋กันต่ออยู่แล้ว เราก็ด้วย หลักการควรจะนอน แต่ถามพี่ๆในไฟลท์ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีใครได้นอนต่อจริงๆนะ ทุกคนก็ใช้ชีวิตวันนั้นต่อเลย เราเองกว่าจะกลับบ้านก็ 3 ทุ่ม สรุปก็ยังไม่ได้นอนจนถึงตอนนี้ 5 ทุ่มกว่าของอีกคืนละ
พูดถึงเวลานอนของแอร์ มันโหดมากจริงๆนะ บางทีคนธรรมดาอย่างเราก็รับไม่ไหว เพราะเวลานอนมั่วมากๆๆๆๆๆ เข้าใจเลยว่าคนเป็นแอร์ควรจะร่างกายแข็งแรง เพราะต้องอดนอนบ่อยมากๆๆๆๆๆๆๆ อดนอนแล้วไปนอนเวลาที่มันไม่ใช่เวลานอน บ่อยจริงๆ คนธรรมดาทั่วไป ช่วงไหนปั่นงานหนัก อาจอดนอน นอนน้อย จากเที่ยงคืน ต้องไปนอนตี4 ไรงี้ก็โหดละนะ หรือบางวันงานเช้าตรู่เว่อๆ ก็นอนน้อยไรไป แต่มันก็มีแค่ไม่กี่คืนหรอกป่ะ ที่ชีวิตจะไม่ปกติต้องอดนอน แต่ของแอร์นี่บ่อยมาก บินไฟลท์ยาวทีก็อดนอนที แล้วไฟลท์ข้ามคืนเนี่ยมีเยอะมากๆ ทั้งข้ามคืนแบบควิกเทิน(ไม่ได้ลงนอน) แล้วก็พวกไฟลท์ยุโรป หรือไฟลท์ค้างจีน ญี่ปุ่น เกาหลี พวกนี้ก็เป็นไฟลท์ข้ามคืน แต่ได้ลงนอน ทุกไฟลท์ต้องอดนอน1คืนไปนอนตอนเช้าแทนหมด เช้านี่ไม่ใช่ไปนอนตี4ตี5 นะ ได้นอนตอน7โมงเช้าอัพค่ะ ถ้าไฟลท์นานหน่อยหรือเวลาไม่ดีหน่อย เผลอๆได้นอนตอนเที่ยงตอนบ่าย โดยที่คืนก่อนนั้นไม่ได้นอนเลยนะ (มีจัดเรสนิดหน่อย ได้งีบ แบบแปปๆ) เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับแอร์สจ๊วต แต่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาของเรา เราไม่ชอบการเปลี่ยนเวลานอน แต่มันอดไม่ได้สำหรับแอร์จริงๆ หลายคนไม่มีปัญหา ก็นอนเช้าไปตื่นอีกทีเย็น อีกวันนึงที่หยุดก็กลับมานอนกลางคืนเหมือนเดิม แต่ของเราเนี่ย บินข้ามคืนทีไร เที่ยงๆบ่ายๆก็ตื่นละ ตื่นละไม่ง่วงด้วย นอนต่อไม่หลับ เหมือนร่างกายมันรู้อะว่าไม่ใช่เวลานอนมัน เลยไม่ชอบบินข้ามคืน (ที่หลายคนชอบ เพราะตังค์ดี) แล้วถ้าเวลานอนพังแบบนี้ คืนต่อไปจะเริ่มนอนเวลาเดิมไม่หลับละ แล้วแอร์นี่คือ เดี๋ยวไฟลท์เช้า เดี๋ยวไฟลท์ข้ามคืน สลับกันไปมา เวลานอนมั่วไปหมด เสียสุขภาพมากเลยนะ เข้าใจเลยที่เค้าบอกเป็นอาชีพทำงานแลกสุขภาพ คนรักการนอนเต็มอิ่มอย่างเรา ไม่ชอบจุดนี้เลย เพราะฉะนั้นต้องดูแลรักษาสุขภาพด้านอื่นดีๆด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่ขยัน ทำทุกอย่าง เอาทุกงานที่เข้ามา เที่ยวก็จะเที่ยว แลนด์กทมจะไปเที่ยวต่อ ลงไปไฟลท์ยุโรปจะออกเที่ยวเลยไม่นอน เคยทำมาหมดละค่ะ สมัยเมื่อก่อนแรกๆฟิตๆ และยังไม่เห็นความสำคัญของสุขภาพมากนัก เด็กๆตอนนั้นแข็งแรงอยู่ละ เดี๋ยวนี้28 เริ่มไปละค่ะ อะไรจะแก่เร็วขนาดนั้น ที่เป็นหนังศีรษะอักเสบหมอก็บอกแหละว่านอนดึกเปล่า ช่วงไหนร่างกายอ่อนแอโรคจะกำเริบ ตอบไม่ถูกเลยว่านอนดึกเปล่า เวลานอนของหนูไม่เคยเป็นเวลาเลยค่า ก็ฝากให้ดูแลสุขภาพร่างกายด้วยน้า ไม่ใช่ใช้งานหนักแล้วยังพักผ่อนน้อย กินไม่ดีอีกนะ ร่างกายไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปนะ ถึงตอนนี้จะแข็งแรงดี สักวันก็สามารถสึกหรอลงได้นะ อย่าชะล่าใจหล่าาาา เดี๋ยวนี้เลยไม่มีทางซะล่ะที่แลนด์แล้วจะออกเที่ยวเลย
แล้วเดี๋ยวนี้นะกลายเป็นมนุษย์ introvert ขั้นสุด เวลาไปค้าง บางทีเค้าก็จะนัดออกไปเที่ยวไปนู่นนี่นั่น เรานี่เมื่อก่อนไปไหนไปกันตลอด เดี๋ยวนี้แฮปปี้ มีความสุขที่จะออกคนเดียว สบายใจ ไม่ต้องเกรงใจอะไรใคร แต่ก็ไม่ทุกไฟลท์ขนาดนั้นนนะ บางไฟลท์ก็อยากออกไปกับคนอื่น ถ้าเค้ามีสิ่งไหนเสนอน่าสนใจไรงี้ โดยเฉพาะเรื่องกิน แต่ถ้าไม่มีอะไรพิเศษ จะออกไปหาไรกินคนเดียวมากกว่า แฮปปี้มากการได้ออกไปหาไรกินที่ต่างประเทศเนี่ย ไปคนเดียวเลือกร้านที่อยากกินได้สบายใจ แต่ถ้าคนอื่นใจตรงกัน ไปหลายคนก็ดีเลย สั่งได้เยอะ
นี่อัพอะไรเยอะแยะขนาดนั้นเนี่ย อ่านเองยังอ่านไม่ไหว บ่นๆเต็มไปหมด นี่ว่าจะบ่นน้อยๆละนะ เพราะอ่านมาว่า พยายามอย่าส่งกระแสลบออกจากตัว หน้าต่อไปจะไม่บ่นอย่างนี้ละ จำไว้ๆ ชิๆ
Create Date : 15 กันยายน 2559 |
|
2 comments |
Last Update : 15 กันยายน 2559 23:27:04 น. |
Counter : 774 Pageviews. |
|
|
|