ยาหน้าใส Tranxamic acid (Transamin®) กับภัยที่ซ่อนอยู่
คุณกำลังรับประทานยาที่ทำให้หน้าใส หรือทำให้ผิวขาวอยู่หรือเปล่า? ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามคุณควรอ่านดู
จริงๆแล้ว มนุษย์ ได้รู้จักกับยา Tranexamic acid (Transamin®) มานาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้ว โดยทางการแพทย์ได้นำยาทั้งในรูปฉีดและรูปกิน มาทำการรักษา ห้ามเลือด ในผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหารส่วนต้น และในภาวะเลือดประจำเดือนออกมากผิดปกติ โดยกลไกที่ห้ามเลือดที่แท้จริงเกิดจาก การที่ยา Tranexamic acid (Transamin®) ออกฤทธิ์ยับยั้งสาร plasmin ที่ทำให้ลิ่มเลือดละลาย ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดในผู้ป่วยที่เลือดกำลังออกอยู่และทำให้เลือดออกน้อยลงจนถึงทำให้เลือดหยุดในที่สุด
แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีงานวิจัยที่ค้นพบว่า Tranexamic acid (Transamin®) ได้ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จำเป็นในกระบวนการการสร้างเม็ดสีผิว (melanin) ผลที่ได้คือทำให้กระบวนการสร้างเม็ดสีผิวถูกยับยั้ง ผลที่ได้ก็คือทำให้ผิวขาวขึ้น ฝ้า กระ จางลง งานวิจัยบางงานได้คัดกรองผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงที่โอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันออก บางงานวิจัย ก็ไม่ได้คัดกรองออก งานวิจัยส่วนใหญ่จำนวนประชากรที่ทำวิจัย อยู่ในหลักสิบ คือมักมีไม่ถึง 100 คน ผลที่ได้เหมือนกัน คือทำให้สีผิวจางลง แต่ผลแทรกซ้อนไม่มีแน่ชัด อาจเนื่องมาจากประชากรที่นำมาวิจัยยังน้อยจนเกินไป และบางงานวิจัยก็ได้คัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงออกไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยาตัวนี้ ฉลากยามักมีคำเตือน ให้ระวังภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ที่ขา สมอง ที่ปอด และไม่ควรใช้ในผู้ที่มีภาะวะเส้นเลือดอุดตันอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบัน ยา Tranexamic acid (Transamin®) ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเป็นยาที่ช่วยห้ามเลือดเท่านั้น