Bloggang.com : PrettyNovember : Germany 2011 .......... ทิทิเซ่

Germany 2011 .......... ทิทิเซ่

Titisee อยากเจอเธอมานานแล้ว

ทิทิเซ่ เป็นทะเลสาบที่โอบล้อมด้วยป่าสนที่หนาแน่นเขียวครึ้มจนดูเหมือนสีดำ ใครๆ เลยเรียกที่นี่ว่า Black Forest เมื่อก่อนเคยสงสัยทำไมป่าถึงสีดำเพราะเคยได้ยินคำว่า Black Forest มานาน มันมีอะไรต่างจากเค๊กแบล๊คฟลอเรสต์หนอ เอ้า...ว่าไปนั่น แต่วันนี้ได้มาเหยียบมายืนสมใจแล้ว อีกทั้งที่นี่ยังเป็นถิ่นผลิตนาฬิกากุ๊กกูที่โด่งดังอีกด้วย

วันนี้เลยอ้อยอิ่งเดินเล่นบ้าง ถ่ายรูปบ้าง อยากจะซึมซับบรรยากาศ หิวก็แวะร้านอาหาร อิ่มก็ออกมาถ่ายรูปต่อ ให้คุ้มกับที่สงสัยมานาน

เมืองเล็กๆ ที่อยู่ได้ตั้งครึ่งค่อนวันไม่มีเบื่อ

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เห็นโลโก้สวยดีเลยตัดสินใจเข้าร้านนี้เลย ผลปรากฏว่าสวยแต่โลโก้ แบบนี้เพื่อนหญิงในร่างชายนางจะบอกว่า "พอแหลกล่าย" (ขอโทษที่ไม่ค่อยสุภาพค่ะ เขียนเพื่อให้มองเห็นภาพ)

สาวๆ กลุ่มนี้เชิญชวนคนหรือรถที่ผ่านไปมาร่วมบริจาคช่วยเหลืออะไรซักอย่าง พอเหลือบมาเห็นเราถ่ายรูปก็รัวทันที
Can you speak English? Are you Chinese?
Sorry, cannot, and I'm not chinese, I'm Thai, Do you know Thailand? อ้าว.....เวรกรรม ลืมไป ที่ตอบออกไปม้นภาษาอะไรล่ะนั่น
ตอบเสร็จก็เดินออกมาเลย กลัวถูกยื้อให้บริจาค เพราะรถคันนี้จอดอยู่นานทีเดียวเหตุด้วยพวก she ไม่ยอมให้ไปค่ะ

กำแพงด้านนึงของร้านค้า สัญญลักษณ์นาฬิกากุ๊กกู ใครๆ ก็แวะถ่ายรูป กว่าจะได้รูปนี้ เดินไปจนวนกลับมาก็แล้ว ยังไม่ได้ถ่ายเพราะสาวจีนกลุ่มนึงจองค่ะ ถ่ายกันเป็นที่สนุกสนาน ไอ้เราก็ยืนรอคิวแบบอยากถ่ายตอนไม่มีคนแล้วจะได้เดินไปจุดอื่นเลย ไม่ย้อนกลับมาแล้ว รอแล้วรออีกพวกเธอก็ยังสนุกสนานกันอยู่ จนเพื่อนรอไม่ไหวต้องเข้าไปยืนร่วมเฟรมไม่ยอมขยับ แบบว่าชั้นสวยกว่า ถ้าชั้นติดเข้าไปในรูปเธอเมื่อไหร่เธอจะหมองนะยะ พวกเธอถึงได้สลายตัวค่ะ แหม จริงๆ ก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกน๊า กลัวจะเสียชื่อยี่ห้อหญิงไทยใจงาม

สวยจัง...ถ้ามีหมอกลอยอ้อยอิ่งด้วยจะสวยซักแค่ไหนน๊า คงโรแมนติคปนน่ากลัวแบบหนังสยองขวัญ ฆ่าหั่นศพ อ่ะค่ะ

ทุ่มกว่าแล้วค่ะ บรรยากาศแบบนี้ถ้าไปคนเดียวคงเหงาน่าดู ครั้นเดินจูงมือกะเพื่อนสาวพอหันมามองหน้ากันก็หัวเราะกันคิกคักพร้อมกับสะบัดมือออก เฮ้อ! ขอควงแก้ขัดบ้างไม่ได้เล้ย เข้าที่พักดีกว่า อีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง

อันนี้ดอกแดฟโฟดิลใช่มั๊ยคะ ใครทราบช่วยเฉลยหน่อย

คืนนี้พักที่นี่ค่ะ โรงแรมเล็กๆ เงียบๆ ในป่าสน ได้บรรยากาศจริงจริ๊งงง

ประตูทางเข้า ประตูก็บานเท่านี้ ลิฟท์ยิ่งเล็กใหญ่เข้าได้ทีละ 2 คนที่ต้องทำตัวลีบๆ พร้อมกระเป๋า

หน้าตาห้องพักค่ะ ได้บรรยากาศป่าสน เตียงทำจากไม้สนด้วยป่าวหนอ

โต๊ะที่เห็นเป็นขอกลุ่มมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์กลุ่มใหญ่ เค้าเลี้ยงสังสรรค์เล็กๆ แบบเครื่องดื่มกับสแน๊คทันทีที่มาถึง ผู้หญิงก็มีค่ะเห็นแล้วเท่ห์ดีจัง อัธยาศัยดียิ้มแย้มชักชวนให้ร่วมแจมด้วย ฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ ภาษาเยอรมันไม่กระดิก ดูจากท่าทางการชักชวนอย่างเต็มอกเต็มใจแล้วเกือบยอมเข้าไปมีส่วนร่วม เพราะคนไทยใจง่ายอย่างเราชอบค่ะ แต่ติดว่าคุยกันไม่รู้เรืองเลยขอไปเดินถ่ายรูปดีกว่า จะอยู่เกะกะเค้าทำไมกัน

ตรงนี้อยู่ในส่วนของโรงแรมค่ะ คิดว่าคงเป็นพื้นที่ของเจ้าของโรงแรมมังคะเห็นแล้วอยากรู้อยากเห็นเลยเดินเข้าไปสำรวจเสียหน่อย แต่เพื่อนไม่กล้าบอกว่าน่ากลัวขอยืนรออยู่ตรงนี้ รักเพื่อนจริงจริง พอเดินเข้าไปได้ไม่เกิน 300 เมตร เห็นสุนัขตัวใหญ่สีดำตัวนึงนอนหมอบอยู่ค่ะ ใจหายแว๊บ กลัวก็ตรงนี้แหละ กลัวได้แผลไม่สวยกลับบ้านเลยต้องค่อยๆ เดินถอยหลัง ไม่ใช้กลับหลังหันนะคะ จะได้มองเห็นด้วยว่ามันตามมาหรือเปล่า บอกแล้วว่ากลัวแผลไม่สวย

พอออกมาเจอเพื่อนรีบบอกว่าฉันเจอหมาปีศาจล่ะ สีดำน่ากลัวมาก มันนอนนิ่งไม่เห่า ไม่กระดิก แต่ลูกกะตาจ้องเขม็งมาที่ชั้นเลย สงสัยเจอผีหมาเข้าให้แล้ว ไม่งั้้นมันต้องเห่าบ้างสิ พร้อมกับเสริมเติมแต่งให้เว่อร์เข้าไปอีก ผลปรากฏว่าคืนนั้นเพื่อนนอนไม่หลับค่ะ 555 จะกลัวอะไรนักหนา
เพื่อนขี้กลัวแต่เราขี้แกล้ง แล้วก็ชอบจังไปไหนจะขอนอนกับเจ๊.....ไม่เข็ด

ไปทางไหนดี เพราะไม่มีไทยแลนด์

พรุ่งนี้ไปเที่ยวไฮเดลเบิร์กกันต่อ เป็นที่สุดท้ายในเยอรมันจากนั้นจะเข้าฝรั่งเศสเลย

อย่าลืมมาดูกันนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่จบทริป ขาดๆ เกินๆ ไม่รู้ด้วยน๊า

Create Date : 04 สิงหาคม 2554

Last Update : 4 สิงหาคม 2554 10:02:57 น.

0 comments

Counter : 2566 Pageviews.