PP......นังอิจฉา.......Pp
ตัวละครที่ขาดไม่ได้ในละครและหนังไทยยุคหนึ่งคือ นังอิจฉา (ทำไมต้องเป็นนังอิจฉา ทำไมไม่เป็นนายอิจฉา ผู้เขียนไม่ทราบ)
ตัวละครคนนี้หรือก๊วนนี้มักอิจฉานางเอก (ทำไมต้องอิจฉานางเอก ก็ไม่ทราบอีกเช่นกัน) ก่อเรื่องป่วนเช่น ใส่ร้ายนางเอก หรือพยายามแย่งชิงพระเอกไปเป็นสมบัติของตัว
ในท้ายเรื่อง หากนังอิจฉาไม่ตกทุกข์ได้ยาก ก็สำนึกผิด ไปกราบขอโทษนางเอก นางเอกก็แสนดีมักให้อภัยนังอิจฉาเสมอ บางเรื่องนังอิจฉาก็ไปบวชเป็นชี เรื่องก็จบลงด้วยดี
แล้วก็สร้างเรื่องใหม่ที่มีนังอิจฉาต่อไป
ในฐานะนักเขียน ผมวิเคราะห์ดูโครงสร้างเรื่องสนุกๆ แทบจะสรุปได้ว่าเรื่องที่สนุกส่วนใหญ่จำเป็นต้องมี 'นังอิจฉา' ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปของนางมารร้าย
เหตุผลนั้นง่ายนิดเดียว เพราะคนเรามีสัญชาตญาณเชียร์คนแพ้
เมื่อตัวเอกของเรื่องถูกรังแกหนักๆ คนดูคนอ่านก็มักเกิดอารมณ์สงสาร ทำให้รักตัวละครนั้นได้ง่ายขึ้น พูดง่ายๆ คือ การสร้างตัวละครร้ายๆ แบบนี้ก็เพื่อขับเน้นตัวเอกให้เด่นขึ้น
แต่ในชีวิตจริงก็เช่นกัน ความอิจฉาริษยาคนอื่นมีแต่ทำให้คนที่ถูกริษยาดูดีขึ้น
การบอกแต่เพียงว่า "ความอิจฉาตาร้อนไม่เกิดประโยชน์อันใด เสียพลังงานเปล่าๆ" ไม่มีประโยชน์เท่ากับลองศึกษามันดู
ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ การอิจฉาริษยาก็เป็นคุณสมบัติหนึ่งของมนุษย์ จะมีมากหรือน้อยขึ้นกับหลายปัจจัย
ในนิทานธรรมเรื่องหนึ่ง พระเซนตาบอดผู้หนึ่งบอกว่า ความที่เป็นตาบอดทำให้ตนเองสามารถอ่านน้ำเสียง 'จริงใจ' ของคนอื่นได้ ทว่าตลอดชีวิตของท่าน แทบจะไม่เคยเจอใครที่ไม่มีน้ำเสียงไม่อิจฉาผู้อื่น แม้ในประโยคชื่นชมยกยอคนอื่น ก็มักมีน้ำเสียงแห่งความอิจฉาเจืออยู่ ไม่มากก็น้อย
นี่เป็นธรรมชาติของคน
ทำไมธรรมชาติพัฒนาอารมณ์ชนิดนี้ขึ้นมา? มีประโยชน์อะไร?
ทำให้มนุษย์ต้องเร่งพัฒนาตนเองให้เท่าเทียม หรือเก่งกว่าคนอื่น?
แต่ดูเหมือนคนที่ใช้ประโยชน์จากความอิจฉามีน้อยเหลือเกิน
เมื่อดูในชีวิตจริง พบว่าน้อยคนอิจฉาคนที่ร่ำรวยหรือเก่งอย่างสุดโต่ง ผมไม่เคยได้ยินใครบอกว่าอิจฉาความฉลาดของไอน์สไตน์ ความร่ำรวยของ บิล เกต
เราอาจอิจฉาคนอื่นที่มีชีวิตดีกว่าเราก็จริง แต่ไม่มากเท่าคนที่มีพื้นเพเดียวกับเรา โดยเฉพาะคนที่เริ่มต้นมาพร้อมกับเรา และคนที่ต่ำต้อยกว่าเรา
ยกตัวอย่างเช่น คุณกับเพื่อนซึ่งไม่เก่งเท่าคุณเริ่มทำงานในหน่วยงานเดียวกัน ไม่นานเขาได้รับเลื่อนตำแหน่งเหนือคุณ
ลูกน้องของคุณลาออกไปเปิดบริษัทใหม่ และเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว
เพื่อนของคุณที่มีคุณสมบัติสู้คุณไม่ได้เลยมีแฟนสวยและรวยมาก ขณะที่แฟนของคุณหน้าตาธรรมดามาก
บางครั้งความอิจฉานี้ถึงขั้นทำให้นอนไม่หลับ และคิดทำลายคนอื่น
ความอิจฉาในระดับนี้มีแต่ทำให้เราเสียมากกว่าได้ ทำลายเซลล์ประสาทและเพิ่มความเครียด มีแต่คนที่เกลียดตัวเองถึงทำกับตัวเองอย่างนี้
ทว่าแม้อารมณ์ชนิดนี้ลด-ละ-เลิก ยากกว่าเลิกบุหรี่ แต่เราลดได้โดยการฝึกฝนให้ตนเองมีเมตตา เมื่อมีเมตตาธรรม ก็ไม่เห็นว่าจะอิจฉาไปทำไม
ลองวิเคราะห์ดู :
เมื่อเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จกว่าเรา ก็ยอมรับว่า บางทีเขาอาจเก่งกว่าเรา (ซึ่งก็สมควรที่ได้ดิบได้ดีกว่าเรา)
โชคดีกว่า (ยอมรับว่าเรื่องวาสนาแข่งกันไม่ได้)
จังหวะดีกว่าเรา (นี่เป็นเรื่องโชค ที่บางคนอยู่ในสถานที่กับเวลาที่ถูกต้อง)
นักคิด นักเขียน เบอร์แทรนด์ รัสเซลล์ กล่าวว่า "ถ้ามีคนจำนวนมากในโลกนี้ที่ปรารถนาความสุขของตนเองมากกว่าความทุกข์ของคนอื่น เราคงมีโลกพระศรีอาริย์ในเวลาไม่กี่ปี"
ลองหัดมีเมตตา แล้วจะรู้สึกว่าโลกสวยขึ้น เหลือพลังงานมาทำงานที่สร้างสรรค์ ซึ่งท้ายที่สุดอาจทำให้คนอื่นอิจฉาเรา!
(พิมพ์ครั้งแรก เปรียว 2549)
winbookclub.com
Create Date : 22 มิถุนายน 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 22 มิถุนายน 2552 8:15:29 น. |
Counter : 671 Pageviews. |
|
|
|