So love me love my dogs
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
1 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
O-net ปิ่นโต ถอนฟัน วันที่ 1 กุมภาพันธ์

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 วันนี้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ สอบวัดผล ป้าไปเป็นกรรมการคุมสอบนอกสถานที่ ครึ่งวันเอง ครึ่งวันที่เหลือตัดสินใจไปถอนฟัน ใช้เวลาตัดสินใจอยู่ครึ่งเดือนหลังจากฟันที่อุดไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มันแตกไปครึ่งซี่ ทบทวนดูแล้วเอามันออกดีกว่า ที่ใช้เวลาคิดนานเพราะป้ากลัวเข็มยาชาอะค่ะ


ป้ามีร้านเจ้าประจำ หมอฟันผู้ชายพูดเพราะ ฝีมือเยี่ยม ด้วยว่าไปโดยมิได้นัดหมาย ก็เลยต้องนั่งรอนาน นานขนาดเข้าห้องน้ำ 2 รอบอะ (กลัววววว)


ป้าชอบร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านทำผมเสริมสวย ร้านหมอที่ต้องรอนานๆ มีหนังสือนิตยสาร ไว้บนริการฆ่าเวลา


คุณหมอฟันของป้าเธอถ้าจะชอบท่องเที่ยว มีหนังสือ อสท. หลายเล่มเอาไว้ให้อ่านแก้รอนาน และอาการเครียดด้วยความกลัว


ป้าไปเจอเรื่องของ "ปิ่นโต" น่ารักมากเลยค่ะ ป้าผูกพันกับปิ่นโต มาตั้งแต่เป็นนักเรียนประถม บ้านป้ากับโรงเรียนมีรั้วลวดหนามกั้น เราพี่น้อง 4 คน ไม่ต้องหิ้วปิ่นโตไปโรงเรียน ได้เวลาพักกลางวันก็ผลัดกันไปรับปิ่นโตข้ามรั้ว ได้กินอาหารกลางวันร้อนๆ ทุกวัน พอเรียนมัธยม ป้าก็พกกล่องข้าวอลูมิเนียมสี่เหลี่ยม (คิดถึง อ่ะ มันหายไปไหนแล้ว) ใส่ข้าวไปกินบนรถรับ-ส่ง ตอนเช้า เพราะต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า ส่วนมื้อกลางวันอาศัยหากินที่โรงอาหาร จำได้ว่าชอบกินเส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำใสที่สุด แล้วก็ซื้อถั่วทอดโรยเกลือต้นหอมพริกขี้หนูกินทุกวัน ตามด้วยน้ำแดงหวานๆ หอมๆ 1 ถุง














ปิ่นโต 1

ปิ่นโต: นายครับ...นายครับ
เอาผมไป "ที่ทำงาน" ด้วยนะครับ
นาย: โอ๊ย! สมัยนี้ไม่มีใคร
เขาเอาข้าวไปกินที่ออฟฟิศหรอก
ปิ่นโต: ทำไมหลานผมที่ยุโรป เขาบอกว่า
เขายังได้ไปที่ทำงานกับนายเขาเลย
นาย: !!!!







ปิ่นโต 2

ปิ่นโต: นายครับ...นายครับ
เอาผมไป " วัด " ด้วยนะครับ
นาย: โอ๊ย ! ลำบาก ! ยุ่งยาก !
เดี๋ยวฉันให้เจ้า " ป๊าดติก "
กับเจ้า " ก๊อบแก๊บ " ไป
ปิ่นโต: แล้วมันก็หนีนาย
ไปเที่ยวอีกตามเคย
ไม่มารับใช้นายอีก
นาย: !!!!










ปิ่นโต: นายครับ...นายครับ
เอาผมไป " ปิก นิก" ด้วยนะครับ
นาย: โอ๊ย ! เชย ! ไม่ทันหมัย !
ให้ "ทัปเปอร์แวร์"
มันไปแทนแกละกัน
ปิ่นโต: นาย...นายส่งผมไปเข้าคอรส์
"ศัลยกรม หน้าตา...ทรงผม...
เสื้อผ้า" ได้ไหมครับ
นาย: !!!!



แล้วนายได้ถอนฟันรึเปล่า

ถอนแล้วไม่เจ็บด้วย


Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2554 22:05:45 น. 12 comments
Counter : 991 Pageviews.

 
ตามมาอ่านเรื่องปิ่นโตด้วยคนค่ะ
ตอนเด็กๆ ก็เอาปิ่นโตไปโรงเรียนเหมือนกัน
(แต่ชอบลาย hello kitty อิอิอิ)
หนังสือเล่มนี้ดูน่าอ่าน ท่าทางเรื่องราวสนุกค่ะ

สุขสันต์วันตรุษจีน
ขอให้มีความสุขมากๆๆๆๆ
ประสพความสำเร็จทั้งการงาน การเงิน ครอบครัว ฯลฯ นะคะ


โดย: diamondsky วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:55:45 น.  

 
*_____*


โดย: น้องเจนี่กะพี่เทจุน IP: 1.47.42.60 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:44:54 น.  

 
ตามมาจากบล๊อคถูกใจที่พี่ บอกว่า ตอนผัดเครืองแกงมีจามด้่วยแน่เลยย จริงๆด้วยค่ะพี่ ไม่ใช่หนเดียวด้วย ตามติดๆก้น ถือผ้าเช็ดหน้าเลยค่ะ 555 เป็นคนใต้ที่ชอบอะไรรสจัด น้ำหู น้ำตาใหลตั้งแต่ยังไม่ได้กิน ก็ตอนผัดเครืงอแกงนี่แหละค่ะ ยิ่งตอนทาน เผ็ดๆซู๊ดปากไปด้วย โหยได้รสชาติสะใจมาก อิแฟน นั่งมองแล้วก็งง ถามว่า ถ้าเผ็ดทรมานขนาดนั้นจะกินเข้าไปทำไม ดูถามเข้าสิ ก็คนมมันชอบแบบนี้นี่นา 555

ปล ชอบ เรืองน้ำตาปิ่นโตจังค่ะ สาวก็เป็นอีกคนหนึ่งด้วยค่ะ ที่ถูกเลี่้ยงมากับข้าวกล่อง ปิ่นโต สาวมีพี่สาวสี่คน ไปโรงเรียน เอาปิ่นโตไปสอง สำรับ หรือวันนใหนรีบ ๆก็ใส่กล่องไปคนละกล่อง แต่ชอบปิ่นโตเพราะได้นั่งทานล้อมมวงได้ใต้ต้นไม้กับพี่ๆ หลายๆคนได้แชร์กับข้าวกัน สนุกมากเลยค่ะ เป็นความทรงจำที่นึกขึ้นมาแล้วมีความสุขทุกทีเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะสำหรับเรืองสั้นๆดีดี ทีทำให้ถลิลหา อดีต


โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:04:05 น.  

 
มาอ่านปิ่นโตด้วยคนค่ะ ช่างเปรียบเทียบดีจัง

ป่านนี้ปิ่นโตบ้านป้าก็คงเสียใจนะ เพราะป้าเพิ่งได้กล่องข้าวใหม่ไม่นานนี่เองนา

ลูกหมูก็เคยถือปิ่นโต เกี่ยงกันกับพี่สาวเพราะอาย ดูเหมือนคนจนที่ต้องเอาข้าวไปโรงเรียน อยากเข้าแถวซื้อกับเค้าบ้าง เดี๋ยวนี้เหรออยากถือปิ่นโตแบบเก่า ข้าวเราอร่อยกว่าซื้อเป็นไหนๆ

จำได้คลับคลาว่าป้าลงเรื่องกิมจิมาก่อน เดี๋ยวจะเข้าไปดู ถ้าไม่ผิดจะได้ปล้นไปซะ เพราะจะทำจ้ะ


โดย: ลูกหมูตัวกลม วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:3:30:03 น.  

 
ป้ากิ๋มจ๋า อ่านเรื่องของป้าแล้วก็นึกถึงเรื่องของตัวเองเหมือนกันจ้ะ สมัยเด็กๆ พี่ชายคนโตของตุ๊กตาจะเป็นคนถือปิ่นโตไปโรงเรียน ถึงพักเที่ยงตุ๊กตากับพี่ชายคนรองก็จะมายืนรอพี่ชายคนโตแถวๆหน้าห้อง เพื่อรอหม่ำข้าวเที่ยงพร้อมกัน นึกถึงตอนนั้นแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่ชายคงจะหนักน่าดู เพราะต้องถือทั้งกระเป๋านักเรียนที่ตุงไปด้วยหนังสือ(ถ้าป้ากิ๋มจำได้สมัยก่อนรัฐอนุญาตให้ถือกระเป๋านักเรียนเท่านั้น ไม่มีแบกเป้แบบสมัยนี้ กระเป๋าสะพายก็ผิดระเบียบ) และพี่ต้องหิ้วปิ่นโตเถายาวที่ใส่กับข้าวกับปลาให้ตัวเอง+น้องๆอีก2ชีวิต แถมเวลาข้ามถนนก็ต้องจูงมือตุ๊กตาอีกด้วย ยิ่งคิดยิ่งสำนึกในพระคุณของพี่ชายคนโตค่ะป้ากิ๋ม ทุกวันนี้พี่ชายคนนี้ยังอยู่ค่ะ (พี่ชายคนรองเสียไปนานแล้ว) โอกาสหน้ากลับเมืองไทยต้องหาโอกาสนั่งกอดคอเล่าเรื่องย้อนอดีตกันซะละ


โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:01:33 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากป้ากิ๋มค่ะ

ตอนเด็กปิ่นโตของตุ๊กมีแต่เมนูไข่...


โดย: kamaron วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:11:31 น.  

 
น่าสงสารเจ้าปิ่นโตจังเลยค่ะ..
คนเขียนเปรียบเทียบเก่งจัง
เพราะเดี๋ยวนี้คนก็หันไปใช้
กล่องพลาสติก.. ถุงพลาสติก
กันหมดแล้ว น่าสงสารเจ้าปิ่นโต
นะคะ.. อิอิ..

แต่ที่ญี่ปุ่นนี้ยังหิ้วกันไปรร. ไปทำงาน
กันแทบทุกวัน แต่ว่าอาจจะศัลยกรรม
แล้ว เพราะว่าหน้าตาไม่เหมือนปิ่นโต
ที่เมืองไทยค่ะ.. อิอิ ^^



โดย: coco-wine วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:31:57 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่แนะนำเรื่อง ช้างพลาย


โดย: แว่นแว่น (cheering ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:59:37 น.  

 
สรุป.. ไปนั่งหัวเราะอ้าปากกว้างๆให้หมอถอนฟันใช่ป่ะจ๊ะป้า?

น่ารักดีเนอะ .. คุณค่าของน้องปิ่นโต เล่ามั่งๆ..

สมัยเด็กป้าโซเคยเจอชีิวิตปิ่นโตอยู่ช่วงเดียวไม่นานนัก จำได้ว่าตอนป.ห้าที่เรียนร.ร.ฝรั่ง เห็นเพื่อนๆเอาข้าวใส่อับไปกินกันก็อยากนั่งกินกับเค้าด้วย เพราะสามารถเลือกสถานที่หม่ำได้ตามใจชอบ ส่วนใหญ่เพื่อนก็จะไปนั่งใต้ต้นไม้ร่มๆ ลมเย็นๆ ทานกันไปหัวเราะต่อกระซิกกันไปเพราะเ็ป็นร.ร.หญิงล้วน..

แต่ต่อมาแม่เริ่มทำไม่ไหว เพราะต้องตื่นเช้าออกไปร.ร.เหมือนกัน ป้าโซเลยต้องไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่โรงอาหารทานเอง รสชาติไม่อร่อยสุดๆ

เรื่องของปิ่นโตที่จำได้อีกอย่าง คือตอนเด็กในวันพระที่ตรงกับวันหยุด แม่จะตื่นแต่เช้าืมืด ทำอาหารใส่ปิ่นโตไปถวายพระเลี้ยงพระร่วมกันกับคนอื่นๆ ปิ่นโตที่เตรียมไปเป็นเถาใหญ่ หลายชั้น พอถึงวัดก็เทอาหารจากปิ่นโตใส่จานเข้าสำรับถวายพระ..

เย้ยยย..ชักยาววว ป้ากิ๋มนี่น้าาาา.. ชวนเล่าความหลัง เดี๋ยวคนก็รู้หมดว่าสว. กร๊ากกกก..


ปล.สมัยนี้ก่อนทิ่มเข็มฉีดยาชา หมอเค้าเอาสำลีจุ่มยาชาทาๆเหงือกก่อนไม่ใช่เหรอคะ? มันก็ไม่เจ็บเวลาหมอทิ่มเหงือก..


โดย: ป้าโซ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:49:31 น.  

 
นั่นแน่ ไปปักหลักที่เฟซซะไม่ยอมอัพเรื่องหนุกๆให้อ่านเลยเน้อป้ากิ๋มเน้อ...


โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:55:27 น.  

 


โดย: AM NUCH วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:00:53 น.  

 
แวะมาอ่านจร้าว่างๆแวะไปเยี่ยมblogเราบ้างนะ bigeye


โดย: NSA (tewtor ) วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:10:42:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kim_tiger
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รักน้องหมา ไม่เกลียดน้องแมว อยากเลี้ยงเม่นแคระ





Click for เทศบาลนครพิษณุโลก, ประเทศไทย Forecast


Click for Nagoya Airport, ประเทศญี่ปุ่น Forecast


Click for Christchurch, ประเทศนิวซีแลนด์ Forecast


free counters
Friends' blogs
[Add kim_tiger's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.