ถ้าเพียงจันจว้า วรรณดำรง ไม่ใช่ผู้หญิงที่เจ็บป่วยด้วยโรคแสนประหลาด เธอคงได้มีชีวิตที่สดใสสมบูรณ์แบบเหมือนที่ผู้หญิงทั่วไปๆ แต่เมื่อความจริงไม่ใช่เลย โลกแห่งนิยายจึงเป็นหนทางแห่งการเติมเต็มความฝันที่เธอขาดหายไป และถ้ามีสิ่งใดบนโลกใบนี้เปลี่ยนคนในฝันให้เป็นคนที่มีตัวตน จับต้องและเป็นของจันจว้าจริงๆ เธอก็ยอมทุกอย่างเพื่อจะแลกสิ่งกับที่เธอต้องการ
ณ ตอนนี้ความฝันที่เคยเป็นแค่ความฝันก็กลับกลายเป็นความจริง แม้จะต้องแลกมาด้วยการตอบแทนที่สูงลิ่บ หากเมื่อจันจว้าจ่ายออกไป เธอก็คาดหวังในสิ่งที่เธอควรได้รับ พระเอกในนิยายที่เธอปรารถนาอยากให้เขาเป็นของเธอ แต่ใครล่ะที่คู่ควรเหมาะสมกับสาวช่างฝันอย่างเช่นจันจว้า บุรุษในอดีตผู้สุภาพอ่อนโยน เต็มไปด้วยความนิ่มนวลตามยุคสมัย จอมราชันแห่งดินแดนลุ่มแม่น้ำไนล์ที่ทรงอำนาจ หรือจะเป็นเจ้าหลวงผู้ต้องการกำลังใจในการกอบกู้แผ่นดินจากหญิงคนรัก
หรือทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ผู้ชายของจันจว้า เมื่อสิ่งที่เธอเห็นกับสิ่งที่เป็นอาจจะไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ทว่าภารกิจชายในฝันก็อาจจะไม่สำคัญเท่าคำสัญญาต่อการแลกเปลี่ยนที่จันจว้าได้มา ยิ่งนานวัน การขันต่อที่จ่ายไปด้วยเดิมพันที่เรียกว่าชีวิตกำลังจะกลืนกินชีวิตของจันจว้าไปทีละน้อย คำขอใดกันที่จะทำให้จันจว้าได้หลุดพ้นจากสิ่งที่เธอกว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
ความฝันก็ควรจะอยู่ในโลกแห่งความฝัน แต่เมื่อชีวิตจริงก็ต้องดำเนินไปตามครรลอง ตอนนี้จันจว้าได้เข้าใจในสัจธรรมที่แท้จริง จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น เคารพในตัวตนที่เธอกำเนิด ภาคภูมิใจในความเป็นจันจว้า วรรณดำรง เธออาจจะไม่ใช่นางเอกแบบที่เธอเคยฝัน หากเธอก็สามารถลิขิตชีวิตตัวเองได้ เลือกพระเอกที่คู่ควรกับความเป็นเธอได้โดยไม่ต้องแลกมาด้วยสิ่งใดยกเว้นเพียงแค่ความรักและความจริงใจจากผู้ชายที่มองเธอด้วยความรู้สึกว่าจันจว้าของนางเอกในหัวใจของเขาไม่ว่าเธอจะเป็นเช่นไร
รีวิวร้อนๆ อีกเล่มหนึ่งแล้วค่ะ ของใหม่ที่เพิ่งออกในงานหนังสือกันเลยทีเดียวค่ะกับขอเป็นนางเอกสักครั้งให้ชื่นใจ ภาคต่อของ ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ ของเจ้าป้าวรรณวรรธน์ ได้มาก็ต้องรีบอ่านไม่มีดองตามประสาแม่ยกนิยายของเจ้าป้านะคะ
ที่บอกว่าเป็นเล่มต่อเพราะว่านางเอกของเล่มนี้คือจันจว้า น้องสาวของวรรณวิวาห์นางเอกจากขอเป็นเจ้าสาวฯนั่นเองค่ะ เล่มนี้เธอคือหญิงสาวที่ช่างต่างจากพี่สาวอย่างที่เรียกว่าหน้ามือกับหลังมือเลยทีเดียว เธอป่วยด้วยโรคประหลาดทำให้ไม่อาจเรียนหนังสือได้อย่างราบรื่น และส่งผลให้เธอไม่อาจทำงานได้เหมือนคนอื่น และจากข้อจำกัดต่างๆเหล่านี้ทำให้จันจว้ารู้สึกกดดันลึกๆในใจ คงมีเพียงนิยายหวานๆ จะเติมเต็มความจริงอันปวดร้าวของเธอได้ เมื่อเธอมักสมมุติว่าเป็นนางเอกของเล่มนั้นเล่มนี้ แต่เมื่อเธอคิดจะใช้ความฝันเดียวที่มีทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับก็ดูเหมือนจะไม่ถึงฝั่งฝัน จนจันจว้าคิดว่าถ้ามีสิ่งใดจะทำให้เธอไม่ใช่จันจว้าอย่างที่เธอเป็น เธอก็จะยอมทุกอย่าง และนี้คือที่มาของการข้อแลกเปลี่ยนที่แสนน่ากลัว แต่จันจว้าไม่สนใจกับผลของมัน เพราะเธออยากสมหวังในสิ่งที่ต้องการ ทว่าพระเอกที่เธอต้องการทุกคนใครล่ะจะเติมเต็มความรักและความภาคภูมิที่ได้เป็นที่รักของเขาได้ หรือว่าความฝันก็ควรเป็นความฝัน ความจริงก็ควรเป็นความจริงที่เธอต้องพอใจในตัวเองถึงจะดีที่สุด
แน่นอนว่าบางคนอาจจะถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องอ่านทั้ง ขอเป็นเจ้าสาวฯ ก่อนจะมาอ่าน ขอเป็นนางเอกฯ ฟีน่าบอกได้เลยว่าจำเป็นค่ะ เพราะมีบทบาทของตัวละครหลักตัวละครหนึ่งที่เกี่ยวพันกันมากการกระทำจากเล่มแรก ส่งผลมาจนถึงเล่มนี้ รวมทั้งเหตุการณ์บางประการที่เราอาจจะงงได้ว่าตัวละครพูดถึงอะไร จึงขอแนะนำว่าควรอ่านเรียงกันค่ะ อันนี้ไม่ได้พูดเพื่อให้ต้องซื้อหรือขายของ แต่พูดตามเนื้อหาของเรื่องที่อ่านเลยค่ะ
ส่วนตัวนิยายเล่มนี้นะคะ ตัวละครที่มีบทบาทที่สุดคือนางเอกและตัวเอกที่เรียกว่าตัว(เกือบ)ร้ายค่ะ ดังนั้นเราจะพูดถึงนางเอกกันก่อน ถ้าวรรณวิวาห์คือตัวแทนของผู้หญิงแสนสมบูรณ์แบบ จันจว้าก็คือขั้วตรงข้ามทั้งสิ้นทั้งปวงค่ะ เธอมีร่างกายอวบอ้วนตามประสาคนเป็นโรคประหลาดจนไม่สามารถออกกำลังกายได้ หล่อเลี้ยงชีวิตด้วยนิยาย ความเพ้อฝัน เต็มไปด้วยความเนื้อน้อยต่ำใจในโชคชะตาอย่างสิ้นเชิง มีความดื้อดึงในทีเป็นที่ตั้ง เพราะเธอขาดความมั่นใจในตัวเองจนบางครั้งทำอะไรที่เรียกว่าขาดสติไปเลยนะคะ หากแต่ในความไม่เพียบพร้อมจันจว้าก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่กล้าเผชิญกับสิ่งที่เธอพลาดไป เมื่อไม่อาจแก้ไข ก็ต้องอยู่กับความจริงที่เธอเลือก แต่เรียกว่าโชคของเธอยังดีที่มีผู้ช่วยหลายคนรวมทั้งพระเอกของเรื่องด้วย
แต่ว่าพระเอกของเรื่องจริงๆ มีบทบาทไม่มากเท่าตัวนางเอกและตัวละครสำคัญ เรียกว่าตัวเอกแต่ไม่ใช่พระเอกจะดีกว่านะคะ แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่ความสำคัญ หลายๆเหตุการณ์ที่เขาคือคนที่ทำให้นางเอกรอดจากคำสัญญาซาตานมาได้ หากแต่ฟีน่าเป็นคนชอบผู้ชายที่ตรงกันข้ามกับพระเอกในเรื่องนี้นะคะ เลยไม่รู้สึกว่าเขาโดนใจฟีน่าจนเรียกว่านี้ล่ะพระเอกในดวงใจของฉัน ยิ่งเขาต้องมาประกบกับตัวเอกของเรื่องนี้ ฟีน่าผู้พ่ายแพ้ชายนิสัยเลวแบบที่สุดก็เลยไม่ได้เทใจให้พระเอก เรียกว่าคนดีๆไม่รัก รักทำไมแต่คนไม่ดีอะไรทำนองนั้น
และที่จะอดกล่าวถึงไม่ได้ก็คือตัวเอก ที่เป็นตัวร้ายของเรื่องผู้ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น เขาคือตัวละครที่ฟีน่าว่ามีบทบาทมากกว่าพระเอกนะคะ แต่ละครั้งที่เขาปรากฏในเรื่อง สายตาของฟีน่าจะดึงดูดไปหาเขา วาจาหรือว่าอำนาจที่แสดงออกมากลบพระเอกจนมิดเลยค่ะ อาจจะเป็นเหมือนที่ตามพระคัมภีร์ได้บอกไว้ว่าผู้ที่ถูกเรียกว่าซาตานคือสิ่งมีชีวิตที่เย้ายวนและดึงดูดใจก็เป็นได้ค่ะ ดังนั้นฟีน่าจึงแทบจะขอสละพระเอกแล้วคว้าตัวร้ายนี้ได้ไหมคะ
ในแง่ของความรู้สึกส่วนตัวหลังอ่านจบเป็นเช่นไร ฟีน่าขอแยกความรู้สึกเป็นสองกรณีนะคะ สำหรับแง่ความสนุก คงต้องยอมรับกันตรงๆตามประสาว่า ขอเป็นนางเอกสักครั้งฯ ยังไม่อาจเป็นนิยายที่สนุกที่สุดของฟีน่าค่ะ เพราะฟีน่าก็เหมือนจันจว้าที่ค่อนข้างบ้าชายหล่อเหลา เสน่ห์ที่กลบมิดทุกตัวละครอย่างเช่นองค์จิตรเสน ท่านบีนูหรือพระเอกคนอื่นๆของเจ้าป้า แต่ว่าเล่มนี้ พระเอกเป็นผู้ชายที่ธรรมดามากในสายตาฟีน่า แน่นอนว่าเขาก็รักนางเอก ปรารถนาดีและเป็นคนที่ไม่เคยละทิ้งหนทางที่จะช่วยนางเอกให้หลุดพ้นจากคำสัญญาที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำลงไป แต่ว่าความที่ตัวละครในเล่มนี้มันไม่ได้มีฉากหวาน กุ๊กกิ๊ก เขินอายและบิดหมอนนอนฝันเลยค่ะ มาในรูปของความรักแบบเพื่อนเสียมากกว่า คือฉากฟินๆของเรื่องนะคะ กลับตกไปอยู่ในประโยคหนึ่งของตัวละครที่แย่งซีนพระเอกได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เรียกว่ายกให้เขาเป็นพระเอกแทนพระเอกตัวจริงได้เลยค่ะ เข้าทำนองว่าประโยคน้อยนิดมหาศาล กลบฝังความพยายามที่แสนมีค่าของพระเอกด้วยคำพูดนั้นไปเลยล่ะ
ตัวเองไม่ได้ให้ความสำคัญกับว่านางเอกต้องสวยหยาดฟ้ามาดิน พระเอกหล่อรวยพันล้านมากเหมือนสมัยก่อนแล้วล่ะ แต่ฟีน่าช่วงนี้ขาดความหวานมากๆ แต่ขอเป็นนางเอกฯ ยังไม่เติมเต็มความหวานในแง่นิยายรักโรแมนติค เขินอายหน้าแดง ฝันเฟื่องและตบตีแย่งชิงบทบาทนางเอกมาเป็นของตัวเองสักเท่าไรนะคะ ประมาณว่าชีวิตจริงก็ออกจะธรรมดาๆอยู่แล้ว ก็เลยอยากได้พระเอกที่เราไม่มีวันได้เขามาเป็นของเราจริงๆ ซึ่งฟีน่าต่างจากจันจว้าตรงที่ว่าเราค่อนข้างโตแล้ว แยกความฝันกับความจริงออกจากกันอย่างสิ้นเชิง พระเอกในนิยายก็มีเพียงแค่ในนิยาย เขาคือชายที่มีจำนวนน้อยนิดเพียงหนึ่งในหมื่นล้านคน เราไม่มีวันเป็นนางเอกในชีวิตจริงได้ ไม่มีพรอันใดจะส่งเขามาให้เราได้ ดังนั้นขอฝันเฟื่องในฝันไปตามประสาดีกว่า ชีวิตที่หลังจากจากการนิยายจบไปแล้วทุกเล่ม ฟีน่าแทบไม่เชื่อในเรื่องเหล่านี้เลย รักแท้มีอยู่จริง แต่ฉันไม่ได้โชคดีมีมัน ดังนั้นฉันเพ้อฝันแต่ฉันจะไม่เพ้อเจ้อเด็ดขาดค่ะ
แต่ในแง่ความคิด คงต้องยอมรับว่านี้คือส่วนที่ค่อนข้างจะชอบมากกว่าเนื้อหานิยายรักนะคะ เมื่อแกนหลักของเรื่องคือ จงภูมิใจในสิ่งที่ตนเป็น เมื่อเรื่องให้นิยามว่านางเอกไม่ต้องการเป็นตัวเธออย่างที่เธอเป็น เธอไขว่คว้าจะเป็นคนอื่นที่เธอคิดว่าดีกว่าตัวเอง แต่ใครเลยจะรู้ว่า บางครั้งสิ่งที่เธอเป็นมันก็ดีที่สุดต่างหาก นิยายดำเนินเรื่องมาจากชีวิตจริงของคน ความรักที่เราอ่านก็เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตของคนคู่หนึ่ง เพียงแต่บางครั้งมุมมองที่เรามีเพียงด้านเดียว คือความงดงามของคำว่ารัก แต่ใครเลยจะรู้ว่ามันอาจมีมุมมืดที่เรามองไม่เห็น ไม่เข้าใจจนได้สัมผัสเองจะรู้ว่ารักไม่ได้จบลงด้วยคำว่าแต่งงานหรือสารภาพรักหากมันคือจุดเริ่มต้นของบางอย่างต่างหาก
หรือแง่มุมที่บอกว่า ปีศาจ ซาตานหรือสิ่งชั่วร้ายใดๆที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะไม่มีสิ่งใดทำร้ายเราได้เลย หากเราไม่ทำความชั่ว และไม่หยุดทำความดีเพียงเพราะความหวั่นไหวจากความหวาดกลัวจากสิ่งใดๆก็ตาม อย่าหมดศรัทธาในความดี หรือทำดีแต่ไม่มีใครเห็น ใครไม่เห็นแต่เรานี้ล่ะที่เห็นมันก็พอแล้ว
และสิ่งที่ฟีน่าชอบที่สุดก็คือตัวที่ช่วยแก้ไขเรื่องราวที่จันจว้าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ฟีน่าเองมองไม่เห็นว่าอะไรจะเป็นทางออกของปัญหานี้เลย จนพระเอกที่ฟีน่าบอกว่าเขาอาจมีบทบาทไม่สู้นางเอกและตัวเอก ได้ทำให้เราเห็นว่าทำไมเขาถึงเหมาะกับบทพระเอก แม้ว่าจะตกเป็นรองเรื่องด้านอื่น แต่เมื่อสิ่งที่เขาบอกให้นางเอกทำมันใช่และเรียกว่าคิดได้ไงกันคะ เป็นจุดที่ฟีน่าชอบที่สุดในเรื่องล่ะ มันคือจุดพีคที่หักทุกอย่างลง ลบทุกสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ลงอย่างสิ้นเชิง ปิดทุกจุดบกพร่องที่เคยพยายามมา แต่ว่าประเด็นเช่นกันที่ก็กลับไปส่งเสริมตัวเอกนี้อีกเช่นกันว่า คำพูดบางอย่างที่มาจากตรงนี้ทำให้เขากลับกลายเป็นพระเอกด้วยคำพูดนี้ได้อีกเช่นกัน ประดุจว่าเขาไม่ยอมที่จะปล่อยมือให้พระเอกได้เป็นพระเอกง่ายๆกันเลยทีเดียว ฉันรั้งตำแหน่งว่าที่พระเอกมาตลอด แต่ไฉนเขาจึงไม่ได้เป็นพระเอก ได้เป็นแค่ตัวเอกเท่านั้น จริงๆ เขาก็ไม่ได้อยากเป็นพระเอกหรอกนะคะ แค่ฟีน่ายกตำแหน่งนี้ให้เอง เพราะว่าฟีน่าชอบชายแบดบอยเท่านั้นเอง
ขอพูดเสริมตรงนี้นิดหนึ่งนะคะ คือถ้าใครได้อ่านเล่มนี้จะเจอตัวละครหนึ่งที่ชื่อลิลิธ เป็นอะไรที่แปลกใจสำหรับตัวเองมากว่า ปีนี้อ่านนิยายอีกเล่มหนึ่งมาก็เจอชื่อนี้ และเธอเองก็มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจมากว่า ทำไมเธอเพิ่งถูกปลุกให้มีชีวิตในช่วงนี้ ก็เพียงเพราะว่าเพิ่งมาการพูดถึงเธอนั่นเองค่ะ เหมือนว่าเธอรอคอยการปรากฏชื่อออกมาหลังจากสาปสูญไปแสนนาน และตัวละครนี้ก็ค่อนข้างมีความสำคัญมากด้วยค่ะ แต่จะแบบไหน อย่างไร ต้องอ่านเองนะคะ
สรุปแล้วสำหรับฟีน่าเป็นเช่นไร แน่นอนว่าในแง่ความเป็นนิยายรักน้ำตาลเรียกพี่ ขอเป็นนางเอกฯ ไม่ใช่นิยายที่จัดไว้สำหรับความเป็นนิยายรักหวานซึ้ง หน้าแดง เขินอาย อยากจะกรี๊ดพระเอก สมมุติตัวเองเป็นนางเอกสักเท่าไรนะคะ ไม่ใช่เพราะจันจว้าไม่ใช่นางเอกที่ถูกหล่อให้มาเป็นนางเอกตามขนบ สวย บอบบางเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ แสนดีรักทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ เพราะในบางแง่มุม เธอก็เด็กมาก เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้งจนลืมคนรอบข้าง เพ้อฝันและอาจจะเข้าขั้นเพ้อเจ้อไปเลย
ฟีน่าเองเป็นคนบ้านิยายมาก มากชนิดที่ว่าขนาดไหนก็คงรู้ดี แต่ฟีน่าไม่คิดว่าจะมีพระเอกในนิยายจริงๆ แยกความจริงกับนิยายออกจากกันแบบไม่เอาปะปนกัน อาทิเช่น พรหมจรรย์ในนิยายคือสิ่งสำคัญที่สุดในเรื่อง มันขจัดได้ทุกปัญหาแม้แต่คำว่ารักก็ได้มาง่ายๆจากสิ่งนี้ แต่ความจริงมันไม่ใช่ มันจะไม่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียมันได้ไปแบบนางเอกในนิยายได้มาเลย หรือในยามคับขัน นางเอกต้องมีพระเอกมาช่วย แต่ความจริง เราต้องแก้ไขมันด้วยตัวเองทั้งสิ้น ไม่มีใครช่วยเราหรอก ตนคือที่พึ่งที่ดีที่สุด อาจจะเพราะว่าเราเองผ่านชีวิตมาในระดับหนึ่ง และภาคภูมิใจในสิ่งที่เป็นอยู่ค่ะ ไม่คิดไขว่คว้าในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อาจจะฝันเฟื่องไปบ้างว่า ฉันจะตู่พระเอกคนนั้น คนนี้เป็นของเรา อย่างที่มาของฟีน่า เฉิน แต่มันก็แค่นิยาย เป็นความฝันสนุกๆเสียมากกว่านะคะ มันก็เหมือนที่นิยายเรื่องนี้สอนให้เราเข้าใจว่า จงอย่าคิดว่าตัวเองไร้ค่า คนเรามีค่าทั้งหมด แค่เราเองจะแปรเปลี่ยนความสามารถที่เรามีไม่เหมือนคนอื่นให้เป็นพรสวรรค์พิเศษที่ทำให้เป็นที่ยอมรับในสังคมหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง แน่นอนว่าประสบการณ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมันจะทำให้เราโตขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น อันนี้ฟีน่าพูดจากตัวเองเลยนะคะ จากผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ต่างจากจันจว้า เป็นคนที่ถ้าไม่ได้บอกว่านี้คือใคร จะไม่มีใครรู้จักเราเลย แต่เมื่อฟีน่าค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราพอจะมีคุณค่าในสังคม เป็นใครคนหนึ่งก็คือการอ่านมาก บ่นมาก เราก็เปลี่ยนมันให้สร้างคุณค่าในตัวเองได้จนกลายมาเป็นฟีน่าในวันนี้ เหมือนที่จันจว้าเองแล้วที่สุดเธอก็รู้ว่าพรสวรรค์ของเธอคืออะไร และทำให้มันสร้างความเป็นจันจว้าด้วยมันไม่ใช่ด้วยพรอันใด ขอบคุณที่โลกนี้มีนิยายค่ะ ขอบคุณที่มันก็ทำให้เรากลายเป็นนางเอกได้ด้วยสองมือเราเอง