Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

แฮรี่ พ๊อตเตอร์ เล่ม 7 ตอนที่ 34-36 จบ

บทที่ 34 the forest agian

ในที่สุดความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับสเนป ก็กระจ่าง แฮรี่ได้รู้ว่า สเนป เสี่ยงตายเพื่อช่วยดัมเบิลดอร์ และตัวเขา ด้วยชีวิต

ดัมเบิลดอร์ฝากความหวังไว้ที่เขา เด็กชายคนหนึ่ง หวังว่าเขาจะทำลายฮอร์ครุกทุกชิ้น แต่แฮรี่ ก็โง่เองเพราะฮอร์ครุกไม่ได้ผูกพันแค่เวอร์ดี้ แต่ยังรวมถึงตัวเขาด้วย แฮรี่ จะต้องเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อทำลาย ฮอร์ครุกทุกชิ้น เขาอิจฉาพ่อแม่และ ทุกคนที่ตายอย่างง่ายดาย

แต่ดัมเบิลดอร์ ก็คาดหวัดมากเกินไป เพราะ นากินียังมีชีวิตอยุ่ ถึงแม้แฮรี่ตายไปแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่ง ที่จะทำให้เวอร์ดี้ ยังอยู่ในโลกนี้ได้ หลังจากเขาตาย ใครจะฆ่ามันได้ เป็น รอน เฮอร์ นี่เองสาเหตุที่ ดัมเบิลดอร์ ต้องการให้ ทั้งสองอยู่เคียงข้างเขา เพื่อทำภารกิจให้เสร็จสิ้น

แฮรี่ตัดสินใจเด็ดขาด เขากลับมาที่ฮอลใหญ่ เจอเนวิล และฝากให้เนวิล บอกรอน หรือ เฮอร์ ให้ฆ่า นากินี

เนวิลรับปาก และบอกว่า ทุกคนพร้อมจะสู้ แฮรี่ ทำหน้าเศร้า คลุมผ้าคลุม แล้วเดินจากมา จนมาเจอจินนี่กำลังปลอบ เพื่อนอยู่ แฮรีอยากตะโกนบอกให้จินนี้รู้ว่าเขาอยู่ใกล้ๆ อยากให้เธอห้ามเขา พาเขากลับบ้าน แต่ฮอกวอต คือบ้านของเขา ที่แห่งเดียวที่เขา และ เวอร์ดี้ และสเนป นับเป็นบ้าน แฮรี่เดินจากมาก

ผ่านมาถึงกระท่อมของแฮกริด แฮรี่คิดถึงวันเก่า ๆ ทีรอนเคยอ๊วก ตัวทาก เฮอร์ ช่วยดูแลนอเบิรท (เหมือนลาไปตายจริง)

สุดท้ายแฮรี่ ก็เปิดลูกสนิชลูกแรกออก ทายซิ ใช่แล้ว เป็นยาชุบชีวิต ในที่สุด แฮรี่ก็ ได้ Death Master ครบสามแล้ว

ในทีสุดแฮรี่ก็เข้า ยานี้ไม่ใช่เพื่อพาคนที่ตายแล้วกลับมา แต่เพื่อพามาเจอต่างหาก แล้วก็รวมญาติ เจอทุกคนที่ตาย ไป พ่อแม่ ลูปิน ทุกคนยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ลูปิน ถามว่าเขาตายยังไง แฮรีบอกตายหลังจากได้ลูกชาย

จะมีแฮรี่คนเดียวที่เห็นพวกเขา เหมือนมาเสริมพลังให้แฮรี่ แฮรี่ เดินมาเจอ โดโรฮอฟ กับ ยักซี ที่เหมือนจะรู้สึกถึง ผ้าคลุม แต่ผ่านไป พวกเขาขี่ อาราก็อก กลับมาแจ้งข่าวกับเวอรดีว่าตามแฮรี่ไม่เจอ

แต่เวอร์ดี้มั่นใจว่ายังไง แฮรี่ก็ต้องมา

แล้วแฮรี่ก็ทิ้งผ้าคลุม ปรากฏตัวขึ้นกลางวง ทุกคนตกใจ แฮรี่รู้ว่าเวอร์ดี้ ต้องเสกคาถาป้องกันนากินีไว้ ถ้าเขาชีไม้ไปที่มันต้องโดนขัดขวางแน่

ทันใดนั้น แฮกริดก็เข้ามาห้าม แต่โดน ผุ้เสพความตายสะกัดไว้

แฮรี่เผชิญหน้ากับ เวอร์ดี้

แฮรี พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิต เวอร์ดี้เรียกเขา

ทุกอย่างหยุดนิ่ง

แฮรี นึกถึงจีนนี้ สายตา ของเธอ ริมฝีปากของเธอยามที่พวกเขา

แฮรี่ต้องตัดสินใจ ณ เดี๋ยวนั้น ก่อนที่ความกลัว จะครอบงำเขาเสียก่อน เขาเห็นปากขยับ และ แสงสีเขียวพุ่งออกมา ก่อนที่ทุกอย่างจะ เลือนหายไป

จากคุณ : kwanmanee - [ 21 ก.ค. 50 03:48:31 ]

มีแปลไว้สองคนค่ะ

บทที่ 35 โอ๊ย บีบหัวใจอ่ะ

แฮรี่นอนคว่ำหน้า เขาแน่ใจว่าอยู่คนเดียวแน่ๆ ไม่แน่ใจว่านี่ยังเป็นตัวเขารึเปล่า จนครู่ใหญ่แฮรี่ ก็เริ่มได้สติ ว่าเขาเปลือยอยุ่ (ว๊าว) เขาเริ่มเช็คว่ามองเห็นไหม ขยับได้ แฮรี่ลุกขึ้น เริ่มเขินที่ตัวเองโป๊ มองไปรอบ ๆ คาดว่าจะอยู่ในห้องต้องประสงค์ เผอิญเจอเสื้อคลุมก็เลยหยิบมาใส่

แฮรีพยายามหาทางกลับไปที่ห้องโถงใหญ่ เสียงที่เหมือนเด็กร้อง ตั้งแต่เขาเริ่มได้สติ มาจาก เด็กเปลือยคน หนึ่งที่เดินเข้ามาหาเขา นันคือ ดัมเบิลดอร์

แฮรี่ คิดว่าตัวเองตายไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ป้องกันตัว แต่ยอมให้เวอร์ดี้ ฆ่าเขา

ดัมเบิลดอร์บอกว่า เมื่อเวอร์ดี้ ฆ่า แฮรี่ ทำให้ส่วนนึงของเวอร์ดี้ที่อยู่ในตัวแฮรี่ ถูกทำลายไป เพราะ เมือ่เวอร์ดี้กลับมามีร่างใหม่ (เล่มสี่) ต้องใช้เลือดของแฮรี่ ทำให้ เวทย์มนต์ ที่แม่แฮรี่ทำไว้ เข้าไปอยู่ในตัว เวอร์ดี้ ด้วย และ ในคืนที่เวอร์ดี้โดนเวทย์มนต์ ก็ทำให้แฮรี่กลายเป็นฮอร์ครุกที่ เจ็ด โดยไม่รู้ตัว

แฮรี่ ถามว่า ดัมเบิลดอร์ รุ้มาตลอดหรือ แต่ป๋าบอกว่าเดาเอา

ในที่สุดดัมเบิลดอร์ก็เล่าให้แฮรี่ฟัง เรื่องที่ผ่านมา ทั้งเรื่อง แม่ น้องชายน้องสาว ที่ อาเบอร์ฟาท เล่าให้ฟัง เป็นเรื่องจริง ดัมเบิลดอร์ สนใจใฝ่รู้มาก จนละเลย หน้าที่และความรับผิดชอบต่อ ครอบครัว ยิ่งมา เป็นเพื่อน กับ Gringenwald ที่บ้าเรื่อง Deaht Hallow ทำให้ทั้งสองเฝ้าตามหา ของทั้งสามชิ้น และเรื่องราวของสามพี่น้องก็จริง

จนเมื่อน้องสาวดัมเบิลดอร์ ตายยิ่งทำให้ ดัมเบิลดอร์ อยากรวบรวมมากขึ้นเพื่อพา แม่และน้องสาวกลับมา

ดัมเบิลดอร์ บอกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะสมที่จะครอบครอง HALLOW สำหรับ ตัวเขาเป็นเจ้าของได้ เพียง Elder Wan แต่แฮรี่ มีความเหมาะสม เพราะ เกี่ยวข้องกับความตาย ทั้งเป็นฮอร์ครุก และ สืบต่อ ผ้าคลุม ทางสายเลือด อีกทั้ง ต้องฟื้นคืนชีพ (มาฆ่าเวอร์ดี้ไง)

ดัมเบิลดอร์คาดว่า เวอร์ดี้รู้แค่ ไม้จะทำให้ เขาเพิ่งพลังอำนาจ ทำให้เวอร์ดี้ตามล่าแต่ ไม้ แต่ไม่รุ้วัตถุประสงค์ที่แท้จริง ทำให้ ดัม วางแผน ให้เวอร์ดี้ เอาไม้ไป โดยไม่รู้ว่า เขาวางแผน ให้ สเนป ต่างหากที่เป็นเจ้าของไม้ที่แท้จริง เพื่อกำจัด เวอร์ดี้ แต่ไม่สำเร็จ

สุดท้าย ดัมเบิลดอร์ บอกให้แฮรี่รู้ว่า สามารถเลือกที่จะกลับไป หรืออยู่ ตายกับป๋าที่นี่ก็ได้ ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

จากคุณ : kwanmanee - [ 21 ก.ค. 50 04:27:54 ]
35 สถานี คิงส์ ครอส

แฮรี่หมดสติในที่ที่เงียบและเปลี่ยว ระนะเวลาเท่าใดไม่แน่ชัด แล้ว แฮรี่ค่อยพบว่าตนเองอยู่ที่กว้างมากๆ และไปพบ อัลบัส ดัมบี้ ค่อยๆเดินมาหา "แฮรี่ เด็กมหัสจรรย์ เด็กกล้าหาญ แฮรี่เดินคุยกันมั๊ย"

"ง่า จารย์ตายแล้วนี่" แฮรี่
"ช่าย" ดัมบี้
งั้น ผมก็ตายแล้วสิ"
"ฉันไม่คิดเช่นนั้น" ดัมบี้
"ก็ผมให้ วูดดี้ฆ่า แล้วนะ เพื่อทำลายบางส่วนของ...ในผม "
"...สิ่งนั้นได้ถูกทำลายหมดแล้ว" ( ประมานว่าถ้าแฮรี่ไม่ตาย โวลดี้ก็ไม่ตาย แฮรี่จึงต้องตาย แต่มีหินคืนชีพเพื่อนจำได้เปล่า วูดดี้ม่ายสนใจเพราะมัวใส่ใจฮอคครุก)
แฮรี่เป็นฮอคครุก อันที่7 ที่วูดดี้ไม่ได้ตั้งใจทำ แล้วว่า ที่วูดดี้เอาเลือดแฮรี่มาบูชายัญตอนกลับคืนร่างมนุษย์ มาใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ทำให้ไม้กายสิทธิ์ของแฮรี่มีฤทธิ์มากกว่าของวูดดี้

แฮรี่แย้งว่า เฮอทำไม้ของผมหัก และ วูดดี้ก็ฆ่าผม ด้วย" แต่ดัมบี้บอก ว่าวูดดี้ล้มเหลว และแฮรี่จะชนะไม้กายสิทธิ์ แล้วดัมบี้ก็เล่าเรื่องที่เขาแกล้งยอมตายให้แฮรี่ฟัง และดัมบี้บอกแฮรี่ว่าอยากลัวความตาย แต่จงสังเวชผูที่มีชีวิตอยู่โดยปราศจากความรัก By returning, you may ensure that fewer souls are maimed, fewer families are torn apart. If that seems to you a worthy goal" ดังนั้นแฮรี่เลยมีกำลังใจกลับไปจัดการวูดดี้

เล่าให้ฟังสั้น ไปนอนแล้วนะง่วง

แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 04:19:21

จากคุณ : กงจู้ต้าถัง - [ 21 ก.ค. 50 04:17:21 ]

บทที่ 36 – The Flaw in The Paln
(ไม่ค่อยชอบบทสุดท้ายต่อจากนี้เลยค่ะ ช่วยแปลบทนี้ดีกว่า) .. ขอแก้สิ่งที่หายไปและที่ผิดค่ะ

แฮรี่รู้สึกตัวว่าเขากลับมาอยู่ในป่าอีกครั้ง และคาดว่าจะได้ยินเสียงพวกผู้เสพความตายตะโกนอย่างยินดีในการตายของเขาแต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าหนึ่งก้าวมาอย่างเร่งรีบและเรียกชื่อโวลเดอมอร์ เสียงนั้นคือเบลลาทริกซ์นั่นเอง แฮรี่รู้ว่าไม้กายสิทธิ์ของตัวเองยังอยู่ดีใต้เสื้อคลุมของเขาและมั่นใจว่าผ้าคลุมล่องหนต้องอยู่ที่ไหนซักแห่งใกล้ๆกันนี้
แฮรี่แอบเปิดตาขึ้นนิดหนึ่ง เขาเห็นโวลเดอมอร์พูดกับเบลลาทริกซ์ว่า "จะต้องทำแน่”พวกผู้เสพความตายต่างเข้ามารุมล้อมโวลเดอมอร์และแฮรี่เห็นโวลเดอมอร์ทรุดลงไปอยู่ที่พื้น เกิดอะไรบางอย่างขึ้นเมื่อตอนที่เขาเสกคำสาปพิฆาต? ทั้งเขาและโวลเดอมอร์ต่างก็ล้มลงทั้งคู่และตอนนี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมาทั้งคู่หรือ? เบลลาทริซ์ถามว่าแฮรี่ตายหรือยัง โวลเดอมอร์จึงสั่งให้ใครคนหนึ่งเข้าไปตรวจดู แฮรี่พบว่าเขาถูกสัมผัสด้วยมือที่นิ่มนวลของผู้หญิงและหล่อนสัมผัสได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นของเขา แต่หล่อนกลับกระซิบถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เดรโกยังมีชีวิตอยู่ไหม เขาอยู่ที่ปราสาทหรือเปล่า” และแฮรี่ตอบเบาๆว่า “อยู่” ผู้หญิงคนนั้นคือนาร์ซิสซานั่นเอง และนาร์ซิสซาได้ลุกขึ้นตอบกับทุกคนว่า “เขาตายแล้ว” พวกผู้เสพความตายพากันดีใจยกใหญ่ และเอาร่างของแฮรี่โยนขึ้นๆลงๆ จากนั้นโวลเดอมอร์ก็ให้ทุกคนมุ่งหน้าไปยังปราสาทโดยให้แฮกริดเป็นคนแบกแฮรี่ไป โวลเดอมอร์บอกกับทุกคนที่ปราสาทว่าแฮรี่ตายแล้ว ตายโดยการวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ทุกคนมองร่างที่นิ่งไม่ไหวติงของแฮรี่ที่ตอนนี้นอนอยู่ที่พื้น แฮรี่ได้ยินเสียงตะโกนอย่างไม่เชื่อและเสียงร้องไห้ของรอน เฮอร์ไมโอนี่และจินนี่ท่ามกลางเสียงของคนอื่นๆด้วย
โวลเดอมอร์บอกให้ทุกคนเงียบแล้วบอกว่าแฮรี่ตายยังงัยอีกครั้ง ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั่นเองก็มีใครบางคนแหวกวงล้อมของคนอื่นๆในปราสาทออกมาประจันหน้ากับเขา เบลลาทริกซ์เป็นคนบอกว่านั่นคือเนวิล ลองบอตท่อม ลูกชายของ Aurors โวลเดอมอร์จึงบอกว่าเขาจำได้แล้ว และพูดกับเนวิลว่าเขาคือพวกเลือดบริสุทธิ์ไม่ใช่หรือและเกลี้ยกล่อมให้เนวิลมาเป็นผู้เสพความตาย แต่เนวิลยืนหยัดในทางตรงข้ามและพูดคำว่า กองทัพของดัมเบิลดอร์ ซึ่งทำให้ทุกคนส่งเสียงขึ้นมาอย่างมีกำลังใจอีกครั้ง โวลเดอมอร์บอกว่าในเมื่อนี่คือทางเลือกของเนวิล เขาก็จะกลับไปใช้วิธีเดิมของเขา โวลเดอมอร์ขยับไม้หมวกคัดสรรปรากฏขึ้นมา และบอกว่าจะไม่มีบ้านอื่นเว้นแต่สลิธีริน เขาขยับไม้ไปที่เนวิล เนวิลถูกสะกดนิ่ง โวลเดอมอร์วางหมวกลงบนศีรษะของเนวิล พวกผู้เสพความตายขยับไม้เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในฮอกวอร์ต โวลเดอมอร์พูดว่าเนวิลจะเป็นตัวอย่างว่าคนที่ต่อต้านเขาจะเป็นเช่นไร โวลเดอมอร์ขยับไม้ ไฟลุกท่วมหมวกและเนวิล เกิดเสียงกรีดร้องไปทั่ว
แฮรี่ตัดสินใจว่าเขาทนไม่ได้แล้ว
จากนั้นมีหลายสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน
เกิดเสียงคนหลายร้อย เหมือนอยู่ในสงคราม กอร์ปถูกยักษ์ของโวลเดอร์มอร์โจมตี เกิดความโกลาหนไปทั่ว แฮรี่เอาผ้าคลุมล่องหนออกมาคลุมตัวเองไว้และแทบจะพร้อมๆกันนั้น เขาเห็นเนวิลขยับตัว เนวิลทำลายคำสาปของโวลเดอมอร์ได้ หมวกคัดสรรตกลงจากศีรษะของเนวิลและแฮรี่เห็นเขาถืออะไรบางอย่างที่มีสีเงินและมีทับทิมสีแดงติดอยู่ ไม่มีใครสามารถได้ยินเสียงของดาบท่ามกลางการต่อสู้อย่างโกลาหน เพียงขยับตัวครั้งเดียว เนวิลก็ใช้ดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ฟันหัวของงูนากินีขาดลอยกระเด็นไปในอากาศ โวลเดอมอร์ส่งเสียงกรีดร้องอย่างโกรธแค้นแต่ไม่มีใครได้ยิน แฮรี่เสกคาถาโล่ป้องกันระหว่างเนวิลกับโวลเดอมอร์
แฮกริดสังเกตว่าศพของแฮรี่หายไป และตะโกนเรียกชื่อแฮรี่ เกิดความโกลาหนขึ้นมาอีกครั้ง เซนทอร์เข้าโจมตีพวกผู้เสพความตาย บัคบีคกับกอร์ปสู้กับพวกยักษ์ แฮรี่เห็นว่าการต่อสู้ค่อยๆเคลื่อนเข้าไปทางโถงทางเข้า แฮรี่ตามเข้าไปและพยายามมองหาโวลเดอมอร์และเห็นเขากำลังมุ่งหน้าไปทางห้องโถงใหญ่ กำลังเสกคาถาและสั่งการพวกลูกน้องคนอื่นๆของเขาที่ตามเข้ามา แฮรี่เสกคาถาโล่ห์ป้องกัน เชมัส ฟินิกันและฮันนา แอบบอต เพิ่งจะผ่านเขาเข้าไป แฮรี่เห็นชาลี วีสลีย์ ฮอเรซ สลักฮอร์น พวกครอบครัวและเพื่อนๆของนักเรียนฮอกวอร์ต พวกเจ้าของร้านและคนที่อาศัยอยู่ในฮอกส์มีด และเขาเห็นเอลฟ์ประจำบ้านปรากฏขึ้นที่ทางเข้าห้องโถง ในนั้นมีเอลฟ์ตัวหนึ่งสวมล็อกเก็ตของเรกูลัส แบล็ค ครีเชอร์นั่นเอง มันร้องตะโกนให้สู้ ในนามของเรกูรัส นายของมัน
แฮรี่ตามเข้าไปในห้องโถงใหญ่และพบว่าโวลเดอมอร์อยู่ตรงศูนย์กลางของการต่อสู้ แฮรี่พยายามเข้าไปให้ถึง มีคนเข้ามาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นจอร์จและลี จอร์ดันสู้อยู่กับ Yaxley โดโลฮอฟกำลังเพลี่ยงพล้ำฟลิตวิก แมคแนร์ถูกแฮกริดโยนข้ามห้องโถง รอนกับเนวิลช่วยกันเอาชนะเกรย์แบ็ก ลูเซียสกับนาร์ซิสซาไม่ต่อสู้กับใครแต่วิ่งร้องเรียกหาลูกชายของพวกเขา
ตอนนี้โวลเดอมอร์รับมือกับ มักกอนนากัล สลักซ์ฮอร์นและคิงสลีย์ เบลลาทริกซ์สู้อยู่กับเฮอร์ไมโอนี่ ลูน่า จินนี่ เขาเห็นคำสาปพิฆาตพลาดจากจินนี่ไปนิดเดียวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจหันไปทางเบลลาทริกซ์ก่อน แต่นางวีสลีย์เข้ามาแทนทั้งสามคนและสู้กับเบลลาทริกซ์อย่างดุเดือด และเริ่มมีเด็กคนอื่นๆออกมาช่วย เธอบอกให้พวกเขาถอยไป นางวีสลีย์ฆ่าเบลลาทริกซ์ได้ โวลเดอมอร์กรีดร้อง และโกรธยิ่งกว่าเดิม สามคนที่สู้อยู่กับโวลเดอมอร์เริ่มล้าแล้วและถอยออกมา โวลเดอมอร์หันไม้กายสิทธิ์มาทางนางวีสลีย์ แฮรี่เสกคาถา “โพรเทโก้!” เกิดโล่ขึ้นระหว่างห้องโถงคั่นกลางเอาไว้ แฮรี่เอาผ้าคลุมออก เกิดเสียงตะโกนอย่างดีใจที่รู้ว่าแฮรี่ยังไม่ตาย โวลเดอมอร์กับแฮรี่ประจันหน้ากันอยู่กลางวงกลมที่ล้อมรอบโดยคนที่เหลือ เขาตะโกนบอกทุกคนว่าอย่าเข้ามาและเขาต้องทำมันพียงคนเดียวเท่านั้น
(ตรงนี้ขอสรุป อาจทำให้ขาดอรรถรสไปบ้าง) โวลเดอมอร์ยังคิดว่าเขาสามารถเอาชนะแฮรี่ได้ เพราะเขามี Elder wand แต่แฮรี่ก็ค่อยๆเผยความลับที่โวลเดอมอร์ไม่รู้ เรื่องการตายของดัมเบิลดอร์ เรื่องที่สเนปเป็นสายให้ดัมเบิลดอร์ เรื่องแม่ของเขากับสเนป และบอกว่าโวลเดอมอร์กำลังจะทำผิดอีกครั้งหากยืนยันจะสู้กับเขา ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ตายได้เท่านั้น และเนื่องจากการตายของดัมเบิลดอร์ซึ่งเป็นเจ้าของ Elder Wand เป็นการตายอย่างสมัครใจโดยให้สเนปเป็นคนทำ ดังนั้นสเนปไม่ใช่คนที่เป็นเจ้าของไม้คนต่อมา แต่เป็นเดรโก มัลฟอย! เพราะเดรโกใช้คาถากับดัมเบิลดอร์เป็นคนสุดท้ายก่อนสเนปและเขาทำสำเร็จ แม้จะไม่ได้เป็นคนฆ่าก็ตาม แฮรี่ย้ำกับโวลเดอมอร์ว่าเขารู้จากโอลิแวนเดอร์แล้วไม่ใช่หรือว่าไม้ต่างหากที่เลือกผู้ใช้ (บางครั้งแฮรี่เรียกโวลเดอมอร์ว่า ทอม และ ริดเดิ้ล ด้วย)
โวลเดอมอร์ช็อกแต่รีบพูดว่าถึงยังงัยเขาก็สามารถเอาชนะแฮรี่ได้ด้วยความสามารถของเขาเองโดยไม่ต้องอาศัยพลังอำนาจจากไม้ แต่แฮรี่บอกว่าโวลเดอมอร์คิดผิดแล้ว เพราะไม้อันที่เขาถืออยู่คือไม้ของเดรโก ซึ่งเขาเอาชนะมาได้ ถึงตอนนี้แฮรี่รู้สึกได้ว่าสายตาของทุกคนในห้องโถงจับจ้องมาที่เขา แฮรี่พูดต่อว่า โวลเดอมอร์คิดหรือไม่ว่าคราวนี้ไม้ที่เขาถือจะรู้ไหมว่าที่กำลังเผชิญหน้าอยู่คือคนที่เอาชนะเจ้านายเก่าของมันได้ และตอนนี้แฮรี่คือนายใหม่ของ Elder Wand! ทั้งสองคนตะโกนพร้อมกัน "อวาดา เคดฟรา” “เอ๊กซ์เปลลิอามัส”
เกิดระเบิดลูกใหญ่และ Elder Wand ปลิวไปในอากาศ แฮรี่กระโดดคว้าไว้ได้ ทอม ริดเดิ้ลปลิวไป นิ่งสนิท ตายด้วยคาถาของตนเองที่สะท้อนกลับ …..

(ตรงนี้ก็ขอสรุปคร่าวๆ) ทุกคนต่างโห่ร้องอย่างดีใจ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เข้ามากอดแฮรี่ รวมทั้งคนอื่นๆที่ต่างก็รุมล้อมเข้ามา พวกผู้เสพความตายที่เหลือถ้าไม่หนีไปก็โดนจับ (ตอนนี้คิงสลีย์รักษาการแทนในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนต์ ) พวกเขายกร่างของทอม ริดเดิ้ล เข้ามารวมกับผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ มีลูปิน ท็องส์ เฟร็ด คอลิน และคนอื่นๆอีกราว 50 คน ทุกคนรวมทั้งเซนทอร์ กอร์ป พวกผี นั่งรวมกันโดยไม่แยกบ้าน แฮรี่คว้าผ้าคลุมล่องหนมาสวม เขามองไปที่จินนี่ซึ่งอยู่กับนางวีสลีย์ แล้วเดินไปสะกิดรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ให้ออกไปข้างนอกด้วยกัน
พวกเขาขึ้นไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่ และพูดคุยกับรูปภาพอาจารย์คนใหญ่ก่อนๆรวมถึงดัมเบิลดอร์ด้วย สุดท้ายแฮรี่ตัดสินใจจะไม่เก็บ Elder Wand ไว้ เขาเสกคาถา “รีแพโร” กับไม้เดิมของตัวเองที่อยู่ในสภาพ “ซ่อมไม่ได้อีกแล้ว” แต่มันทำได้ ไม้กายสิทธิ์ของแฮรี่กลับมาดีเหมือนเดิม และเขาบอกว่าจะเอา Elder Wand ไปเก็บไว้ที่เดิม ดัมเบิลดอร์ในรูปภาพยิ้มให้แฮรี่ พวกเขายิ้มให้กัน


แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 08:53:30

จากคุณ : spring rain - [ 21 ก.ค. 50 05:57:47 ]


//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5630761/A5630761.html

บทส่งท้าย

มาต่อบท EPILOGUE NINETEEN YEAR LATER ให้คับ (หากผิดพลาดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะคับ ปะกิตไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่)

19 ปีต่อมา เป็นเรื่องตอนที่แฮรี่กับจินนี่กำลังจะไปส่งลูกๆขึ้นรถไฟไปฮอกวอร์ต แฮรี่กับจินนี่มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตชื่อเจมส์ คนรองชื่ออัลบัส เซเวอรัส คนเล็กชื่อลิลี่
โดยปีนี้เป็นปีแรกที่คนรองจะได้ไปเรียนที่ฮอกวอร์ต ระหว่างทางเจมส์กับอัลบัสก้อมีเถียงกันนิดหน่อย เพราะเจมส์ดันไปบอกว่าอัลบัสอาจจะได้อยู่สลิธิรินก้อได้
แต่อัลบัสไม่ต้องการอยู่สลิธิริน จนจินนี่ต้องห้ามเจมส์ไม่ให้แหย่น้อง เมื่อครอบครัวพอตเตอร์ทั้ง 5 เดินทางมาถึงสถานี เจมส์ที่เป็นคนโตก้อวิ่งผ่านกำแพงไปยังชานชาลาเป็นคนแรก
พอเจมส์ไปแล้ว อัลบัสก้อถามแฮรี่กับจินนี่ว่าจะเขียนจดหมายหาเค้าใช่มั้ย จินนี่จึงตอบว่า "ทุกวันถ้าลูกต้องการ" แต่อัลบัสก้อยังไม่เชื่อเถียงแม่ว่า "คนส่วนใหญ่ได้รับจดหมายจากบ้านแค่เดือนละครั้ง" แต่จินนี่ก้อบอกไปว่า ปีที่แล้วเธอเขียนหาเจมส์(พี่เอ๋ง)สัปดาห์ละ 3 ครั้ง จากนั้นทุกคนก้อวิ่งผ่านกำแพงไป ที่ชานชาลาครอบครัวพอตเตอร์ทั้ง 4 คน(เจมส์วิ่งหายไปไหนไม่รุ - -") ได้พบกับ รอน นู๋เฮอร์ และลูกๆ 2 คน ชื่อ Roses กับ Hugo พอเจอกันปุ๊บรอนก้อบ่นกับแฮรี่เรื่องใบขับขี่ของมักเกิ้ล รอนบ่นว่า "เจ๊เฮอร์(ไม่นู๋แล้ว) ไม่เชื่อว่ารอนจะสอบใบขับขี่ผ่านโดยที่ไม่ได้ใช้เวทย์ช่วย" เจ๊เฮอร์แอบได้ยินก้อเลยรีบบอกว่า "ป่าวนะ ชั้นเชื่อเทอต่างหาก" แล้วรอนก้อแอบกระซิบบอกแฮรี่ว่า "จิงๆแล้วตูใช้ว่ะ" แล้วพ่อๆก้อช่วยกันยกของขึ้นรถไฟ ระหว่างนั้นลูกๆก้อคุยกันว่าตัวเองจะได้อยู่บ้านไหนตอนเข้าฮอกวอร์ตแล้ว รอนเลยบอกลูกๆว่า "ถ้าลูกไม่ได้อยู่กริฟฟินดอร์ เราจะตัดลูกออกจากกองมรดก" เจ๊เฮอร์กับจินนี่เลยพร้อมใจกันเบรกรอน แล้วบอกลูกๆว่า "พ่อมันพูดเล่นน่ะลูก"

ซักพักก้อเห็นมัลฟอยยืนอยู่กับภรรยาและลูกชาย (มีบรรยายตัวลูกชายไว้ว่าลอกแบบมาจากมัลฟอยได้เหมือนพอๆกับที่ อัลบัสลอกแบบมาจากแฮรี่) พอมัลฟอยหันมาเห็นกลุ่มของแฮรี่

เฮียแกก้อพยักหน้าให้ยึกนึงแล้วหันกลับไปคืน (คงความหยิ่งไว้อย่างเต็มเปี่ยมจิงๆไอ้หมอนี่) รอนสั่ง Rosie ว่าต้องสอบชนะ Scopius(ชื่อลูกชายมัลฟอย) ให้ได้ทุกครั้งไป แล้วก้อ

ขอบคุณพระเจ้าที่ลูกคนนี้ได้สมองแม่มา (รู้ตัวด้วยนะนี่) เจ๊เฮอร์เลยดุรอนว่าอย่ายุให้เด็กๆเป็นศัตรูกันตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าเรียนสิ รอนก้อเลย "ขอโต๊ดก๊าบ" แต่ก้อยังไม่วายเสี้ยมลูกสาว

ว่า "อย่าไปเป็นมิตรกับหมอนั่นนัก(ลูกมัลฟอย) ปู่ของลูกจะไม่อภัยให้ลูกแน่ๆถ้าลูกแต่งงานกับพวกเลือดบริสุทธิ์ "(555+)

จากนั้นเจมส์ก้อกลับมาอีกครั้ง แล้วก้อบอกว่าเจอ Teddy (ลูกของลูปิน) ***ช่วงนี้อ่านไม่ค่อยเข้าใจอ่ะคับ ฝากเซียนปะกิตช่วยทีนะคับ ***
เข้าใจว่าเจมส์ไปเห็นเทดดี้กำลังจูบกับใครซักคนอยู่ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจมส์ แล้วบอกว่าถ้าเขาแต่งงานกันก้อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน รู้สึกว่าเจมส์จะกระตือรือร้นมากที่จะ

ชวนเทดดี้มาอยู่ด้วย แล้วก้อยอมแชร์ห้องกับอัลและเทดดี้ แต่แฮรี่ก้อเบรคว่า "เขาจะยอมให้เจมส์กับอัลอยู่ห้องเดียวกันก้อต่อเมื่อเขาต้องการให้บ้านแตกนั่นแหละ" จากนั้นจินนี่ก้อ

ฝากความคิดถึงไปถึงเนวิลล์ที่ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนวิชาสมุนไพรที่ฮอกวอร์ต จากนั้นพ่อแม่ลูก ก้อกอดจูบร่ำลากัน แฮรี่ก้อสั่งเสียกะอัลบัสว่า อย่าลืมนัดที่แฮกริดชวนไปดื่มชาศุกร์หน้า

อย่าไปวุ่นวายกับพีพฟ์(ผีจอมกวน) อย่าไปสู้กับใครโดยที่ยังไม่ได้เรียนรู้วิธีการสู้ อัลบัสที่ยังกังวลเรื่องบ้าน ก้อกระซิบถามแฮรี่ว่า "จะเป็นยังไงถ้าผมได้อยู่สริธิริน" แฮรี่ก้อย่อตัวลง

บอกกับอัลบัสโดยที่มีจินนี่แอบได้ยินว่า "อัลบัส เซเวอรัส ชื่อของลูกถูกตั้งขึ้นมาจากชื่อของอาจารย์ใหญ่ 2 คนของฮอกวอร์ต หนึ่งในนั้นเป็นพวกสริธิริน และเขาคนนั้นก้อเป็นผู้ชาย

ที่มีความกล้าหาญที่สุดที่พ่อเคยรู้จัก ถ้าเป็นอย่างนั้นสริธิรินก้อจะได้นักเรียนที่ยอดเยี่ยมเพิ่มอีกคน มันก้อไม่เห็นเป็นอะไร แต่ถ้าลูกต้องการ ลูกเลือกเองได้ว่าจะอยู่กริฟฟินดอร์ หมวกคัดสรรจะเอาวิถีทางที่ตัวลูกเลือกไปพิจารณาด้วย"
"จริงเหรอคับพ่อ" อัลบัสถามอย่างมีความหวัง "มันทำแบบนี้กับพ่อน่ะ" แฮรี่ว่า จากนั้นลูกๆก้อขึ้นรถไฟ ก่อนที่รถไฟจะออกนั้น

อัลบัสกับโรส ชะเง้อมองออกมานอกหน้าต่าง แล้วสังเกตเห็นว่ามีคนจ้องมาทางพวกเขามากมาย ก้อเลยออกปากถาม รอนเลยได้ปล่อยมุขสุดท้าย(กลัวแปลแล้วไม่ฮา) "ก้อแบบว่าคนมันดังอ่ะนะ" ("Don't let it worry you," said Ron. "It's me, I'm extremely famous.) เด็กๆได้ยินเข้าก้อหัวเราะ แล้วรถไฟก้อค่อยๆเคลื่อนตัว พวกแฮรี่โบกมือลาลูกๆ จนลิบตา
"เขาจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย" จินนี่ถาม แฮรี่เอามือไปจับที่แผลเป็นแล้วคอบจินนี่ว่า "ผมรู้ เขาไม่เป็นไรหรอก" แผลเป็นนั่นไม่ได้ทำให้แฮรี่เจ็บมา 19 ปีแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี


จากคุณ : ma_moon - [ 21 ก.ค. 50 06:51:33 ]

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5630761/A5630761.html

คอมเม้นท์เด็ดๆ

ความคิดเห็นที่ 229

เข้ามาขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกน้ำใจงามทุกท่านที่ช่วยกันย่อเรื่องให้เหล่ามักเกิ้ลผู้ที่อดรนทนรอฉบับภาษาไทยไม่ไหวได้อ่านกันนะครับ

( ขอขอบคุณมากๆเลยโดยเฉพาะคุณบีจัง ที่นำขบวนมาแต่แรก ร่วมสิบกว่าตอน )

ผมแวะเข้ามาหาข้อมูลเรื่องหนังสือที่เพิ่งออกก็เลยได้รู้เรื่องหมดเลย 555
( มิน่าว่าทำไมลูกสาว 2 คนไม่แวะเข้า 1000 ทิปเลยช่วงนี้คงเพราะกลัวเจอสปอยล์นี่เอง )

ส่วนผมชอบครับชอบ

แต่อย่างไรก็คงต้องซื้อฉบับแปลของนานมี มาเสพอรรถรสแบบเต็มๆอีกครั้งอยู่แล้วเพราะซื้อมาทุกเล่ม



เท่าที่อ่านเพื่อนๆสมาชิกสรุปเรื่องให้อ่านกันนี่ต้องยอมรับคุณ JK เลยนะครับว่าเป็นสุดยอดนักเขียนคนนึงในประวัติศาสตร์โลก
( ผมว่าอีก 100 ปีหนังสือชุดนี้ก็ยังมีคนอ่านและสะสม ประมาณว่าเป็นวรรณกรรมคลาสสิคในโลกอนาคต ไม่ด้อยไปกว่าโรอัลดาห์ล ในยุคนี้ )

ทั้ง 7 เล่มมีส่วนคาบเกี่ยว - ทาบซ้อน - และซับพล็อทมากมายมหาศาล

ส่วนตัวผมประทับใจกับเรื่องราวของสเนปมากมายครับ


-ลิลลี่เป็นคนดีที่แท้ คือดีทั้งความคิดและจิตใจ ( แฮรี่ได้ส่วนนี้ของแม่มาเต็มๆ )
คนที่ดีเพียบพร้อมเทียบเท่ากับลิลลี่ในเรื่องก็เห็นจะมีเฮอร์ไมโอนี่น่ะครับที่ใกล้เคียง

-เจมส์ กับ ซิเรียส ก็ดีนะครับแต่ดีเพราะทัศนคติดี เลือกที่จะอยู่ฝ่ายดี มีความกล้าหาญและเสียสละ
ทว่าส่วนตัวผมแล้วยังเห็นว่าเป็นความดีที่เห็นแก่ตัว เป็นความดีที่มองจากมุมของตัวเอง

-และที่ผมอึ้งก็คือสเนป

ไม่ได้อึ้งเพราะตอนจบสเนปเป็นฝ่ายดีหรอกครับ
( อันนี้เดาได้ตั้งแต่เล่มก่อนๆหน้านี้แล้ว )

แต่อึ้งเพราะฝีมือในการคลี่คลายเรื่องราวของ JK

สเนปหลงใหลศาสตร์มืดแน่นอนและมีทัศนคติที่ฝักใฝ่ความชั่ว

สเนปพร้อมทุกอย่างที่จะเป็นคนชั่วอย่างสมบูรณ์แบบ

แต่สุดท้ายแล้วพลังแห่งความรัก ( ที่ทอม ริดเดิ้ล ไม่เคยเข้าใจ ) ก็ขัดขวางสเนปเอาไว้ได้

อานุภาพของมัน ( ความรัก ) นี่ถูก JK ตีแผ่ให้ผู้อ่านเข้าใจและเข้าถึงได้มากกว่าเรื่องหวานแหว๋วทั้งหลายเสียอีก

คำว่า " ความรัก" คำเดียวครับที่ฉุดสเนปเอาไว้

แม้นคนที่ตัวรักจะตายไปแต่ความรักก็ไม่เคยตายไปจากหัวใจของสเนปเลย


ผมชื่นชมสเนปครับ

เพราะถึงสเนปจะเป็นคนไม่ดี พื้นฐานอุปนิสัยไม่น่ารัก

แต่สเนปเข้าใจความรักไม่น้อยไปกว่าใครๆและรักษามันไว้ยิ่งชีพ


เขาเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจและน่านับถือที่สุดตัวหนึ่งในนวนิยายชุดนี้ครับ



ขอบคุณผู้ย่อ + สรุปเรื่องให้ได้อ่านกันทุกท่านอีกครังด้วยครับ

ขอให้ความรักอยู่ในใจของทุกคนด้วยเช่นกัน

จากคุณ : ตอสระอือ - [ 21 ก.ค. 50 11:47:59 ]


//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5630761/A5630761.html




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2550
0 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2550 22:00:46 น.
Counter : 537 Pageviews.


ป้าซ่าส์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วันเปลี่ยน คนเปลี่ยน







Friends' blogs
[Add ป้าซ่าส์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.