สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


 
สิงหาคม 2561
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 สิงหาคม 2561
 

Blogger's Bootcamp By CP All สาระดีๆ ที่มีให้บล็อกเกอร์ คอนเทนต์นั้นสำคัญไฉน!!



เมื่อสองเดือนก่อนมีการประกาศรายชื่อของบล็อกเกอร์ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Blogger's Bootcamp By CP All จำนวน 60 คน ซึ่งภัทรานิตย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น มีคนบอกว่าเลือกแต่เพจดังๆ มางานนี้ ความจริงแล้วเค้าเลือกจากเนื้อหาในบล็อกของแต่ละคนที่ส่งเข้าไป ถ้าเลือกเพจดังๆ อิช้านคงไม่มีโอกาสได้เข้าไปเนอะ ไม่ดราม่านะจ๊ะ เพราะแต่ละคนมีทั้งดังมาก ดังน้อยและไม่ดังเลยอย่างเช่นภัทรานิตย์จ๊ะ  

ซึ่งก็ต้องขอบคุณ CPAll ที่ให้โอกาสได้เข้าไปพัฒนาศักยภาพในแคมป์นี้ บางที่เราไม่ได้ออกไปมองโลกในมุมมองของคนอื่น เราก็เลยไม่มีโอกาสได้รู้ว่าตอนนี้เค้าไปถึงไหนกันแล้ว มันมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป การเสพคอนเทนต์ก็เปลี่ยนไปมีหลายๆ ปัจจัยที่คนทำคอนเทนต์เองก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีที่มี Social เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตมากมายจนทำให้ป้าแก่ๆ อย่างอิช้านรู้สึกว่าเราวิ่งไม่ทันเด็กสมัยใหม่ แต่เชื่อสิทุกอย่างมันมีการเรียนรู้ได้เสมอ 

30 มิ.ย 2018 วันแรกของการเข้าแคมป์สถานที่จัดงานตึก CP Tower 1 เก้าโมงเช้าเลยจ๊ะ อิช้านมนุษย์บ้านนอกสไตล์ขับรถเข้ากรุงเทพฯ ตื่นตั้งแต่ตีห้าเรื่องความรู้เป็นงานถนัดของอิช้านค่ะ มีความตั้งใจสูงมาก ไปถึงก็มีเพื่อนๆ เริ่มลงทะเบียนรับของที่ระลึกกันแล้ว 



พอเข้ามาในห้องก็ได้เจอพี่เต้ย สาวไกด์ใจซื่อ อุ่นใจขึ้นมาทันทีเลยเพราะรู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นพี่เต้ยก็แนะนำให้รู้จักซันจากเว็บ Sunday Traveling และอีกหลายคนจากเพจที่ได้รับความนิยมระดับแนวหน้า ทุกคนน่ารักมากเป็นกันเองด้วยความเป็นสไตล์บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว แคมป์นี้จึงมีความเป็นกันเองบรรยากาศในการเรียนเลยดูสบายๆ สายชิลล์จ๊ะ 



จากนั้นคุณแดงแห่ง CPAll ก็กล่าวเปิดงาน Blogger's Bootcamp ในคร้้งนี้ แน่นอนต้องมีการกล่าวถึงที่มาที่ไปของ CPAll พี่นี้มีแต่ให้ผู้สนับสนุนหลายๆ โครงการที่เราไม่เคยรู้ ก่อนจะมาเป็น Blogger's Bootcamp ในสมัยที่ content มีบทบาทในสื่อออนไลน์ในยุคปัจจุบันนั้น CPAll เคยทำโครงการสนับสนุนการอ่านหนังสือโดยมีการส่งเสริมนักเขียนยุคใหม่ให้สร้างผลงานอย่างมีคุณค่า ต่อมาเมื่อออนไลน์เริ่มมีบทบาทมากขึ้นจึงเปลี่ยนมาเป็นโปรเจคนี้นั่นเอง จะเห็นว่าตามกระแสทันสถานการณ์จริงๆ 



สำหรับ CPAll นั้นปัจจุบันได้ให้โอกาสทางการศึกษาผ่านสถาบันปัญญาภิวัฒน์กว่า 10 รุ่น สนับสนุนทุนในระดับปริญญาตรีจนมีบุคลากรที่ได้รับทุนจบไปแล้วกว่า 20,000 คน สนับสนุนการใช้อักษรเบลล์ให้คนพิการทางสายตาได้ใช้ชีวิตได้ในปัจจุบันผ่านช่องทางเซเว่น หรือแม้แต่ในเซเว่นที่ถูกโจมตีอย่างหนักนั้น CPAll ก็ให้โอกาส SME ไทยได้มีโอกาสช่องทางการตลาดโดย 90% ในเซเว่นนั้นเป็นผลผลิตจาก SME จะมีของจาก CP เพียง 10% เท่านั้น ตัวอย่างเช่น กล้วยที่ขายในเซเว่นเป็นผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกรจากอำเภอท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการพัฒนานั้นนอกจากจะมีเงินทุนในการสนับสนุนแล้วยังต้องมีโอกาสอีกด้วย 

จากนั้นก็เข้าสู่กิจกรรมที่หนึ่งละลายพฤติกรรม โดยแจกกระดาษให้ทุกคนเล่นเกมบิงโกกัน เกมส์ก็คือให้ทุกคนไปหาคนที่มีความเกี่ยวข้องกับโจทย์ที่ให้ถ้าครบแถวก็จะบิงโกเป็นผู้ชนะในเกมส์แรก 



เกมส์นี้เหมือนการสร้างความสัมพันธ์นั่นล่ะ เพื่อให้ทุกคนจดจำลักษณะเด่นๆ ตามโจทย์ได้ เพราะทุกคนต้องไปสัมภาษณ์เพื่อนๆ ในห้องแต่ละคน จาก 60 มันจะก็จะกันได้บ้างล่ะอย่างน้อยๆ ต้องมี 6 คนที่บิงโกนี่ล่ะ เมื่อละลายพฤติกรรมกันแล้วก็เริ่มเข้าสู่ทฤษฏีที่จริงจังกันแล้วจ้า



วิทยากรท่านแรก คุณเอ็ม ขจร เจียรนัยพานิชย์ จาก Mango Zero บรรยายในหัวข้อ Content Quality & Reach เมื่อ Reach ลดลงบล็อกเกอร์จะปรับตัวอย่างไร? 

ก่อนหน้านี้ที่มารค์ประกาศการเปลี่ยนแปลงใน Facebook ใหม่ เนื่องจาก Facebook ออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้เชื่อมโยงกันไม่ได้เน้นเพจ ดังนั้นจึงได้ทำการลด Reach ของเพจให้น้อยลงล่าสุดผู้ติดตามเพจจะเห็นเพียงแค่ 4% เท่านั้น หากสังเกตุใน facebook คุณตอนนี้จะเห็นว่ามันเห็นเพจน้อยลงถ้าไม่ติดตามไว้เป็นเห็นโพสต์อันดับแรกนี่แทบจะไม่เห็นกันเลยทีเดียว ส่งผลทำให้หลายๆ เพจสตันกันไปเป็นทิวแถว 



ในเมื่อปัจจุบันคนใช้ Facebook เยอะมาก ถ้าอยากชนะในโลกออนไลน์ก็ต้องเอาชนะ Facebook ให้ได้ก่อน "อย่าสู้โดยไม่รู้ว่าเราสู้อยู่ในสนามรบอะไร" การที่จะสู้กับ Facebook นั้นสิ่งสำคัญก็ต้องรู้ Algorithm ของมันเสียก่อน เพราะอะไร Facebook จึงส่ง Feed นี้มาให้เราดู? มันมีวิธีการคิดดังนี้

- Interest คนสนใจมากน้อยแค่ไหน ถ้ากด See First ไว้ก็จะเจออย่างน้อย 3 โพสต์แรกที่เปิด Facebook มา 
- Type ประเภทของคอนเทนต์ VDO และ Live VDO จะมาก่อนเพราะถูกเห็นมากกว่าคอนเทนต์อื่น 
- Recency จะเห็นโพสต์ล่าสุดก่อน เพราะ Facebook มันให้ความสำคัญโพสต์ใหม่มากกว่าโพสต์เก่า จะเห็นคนที่เพิ่งโพสต์ก่อนเสมอ 
- Past Post Perfermance เรียกว่าผลบุญผลกรรมที่ทำมา หมายถึงถ้าเราทำวันละคอนเทนต์แล้วดีมาตลอดปี Facebook มันจะจำไว้แล้วจะเพิ่ม Reach ให้อัตโนมัติ เหตุนี้เองที่ทำให้เพจของแบรนด์มียอดต่ำ เพราะการโพสโฆษณาบ่อยคนจะไม่ Engage กับมัน 
- Post Performance ความสามารถของโพสต์จะวัดคุณภาพว่าใครดีไม่ดี โดยมันจะมีกลไกคือส่งโพสต์ไปกลุ่มแรกก่อน กลุ่มแรกสนใจไหมถ้ากลุ่มแรกชอบมันจะส่งไปกลุ่มต่อไป และต่อไปเรื่อยๆ 

เมื่อเรารู้แล้วว่ามันทำงานยังไงก็มาดูต่ออีกว่า แบบไหนที่ Facebook ไม่ชอบต้องหลีกเลี่ยง 5 สิ่งที่ไม่ควรทำเพราะพี่มาร์คเค้าไม่เห็นด้วยกับการกระทำเหล่านี้ ขืนไปทำเมื่อไหร่งานมานะจ๊ะทุกคน 
1. การโหวตด้วยรีแอคชั่น เพราะผลโหวต Facebook มันจะมองว่าเป็นสแปม
2. การใส่แคปชั่นบอกให้กด Reaction 
3. การบอกให้คนคอมเม้นท์
4. การแท็กเพื่อน 
5. การบอกให้แชร์ 

มาดูในมุมมองของวีดีโอกันบ้าง ลำดับในการเห็นนั้น Facebook เค้าตั้งไว้อย่างไร
70%  คือ VDO ที่ความยาวไม่เกิน 1 นาที
20%  คือ VDO ที่มีความยาว 3 นาที
10%  คือ VDO ที่โต้ตอบ

แล้ว VDO ที่น่าสนใจนั้นมีอะไรบ้างใน Trend ของปีนี้
1. VDO แนวตั้ง จะเพิ่มยอดคนดูได้ถึง 20-30% เพราะวีดีโอแนวตั้งมีพื้นที่แสดงผลมากกว่า ทำให้คนดูเลื่อนผ่านนานขึ้นและเห็นนานขึ้น หรือจะทำเป็นรูปแบบสัดส่วน 1:1 ก็ได้
2. Stories ฟีเจอร์ที่มาเป็นเวลาสั้นๆ แล้วหายไป แต่มันอยู่บนสุดของทุกคน ดังนั้นมันทำให้มองเห็นมากที่สุด เป็น Next Gen ที่มาแรงที่สุด สามารถดู Stat ได้อีกด้วย
3. Content Creative พวก info graphic ตัวอย่างตามรูปด้านล่าง 




อย่างไรก็ตาม Facebook ก็จะยังคงลด Reach ลงอย่างต่อเนื่อง หนทางแก้ปัญหาอีกทางหนึ่งก็คือ หนีไปใช้ Twitter ซึ่งปีที่แล้วมียอดใช้เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก หรือ Line ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถทำคอนเทนต์ได้น่าสนใจ หรือแม้แต่ youtube ก็สร้างรายได้ได้อีกด้วย หากไม่สามารถหนี Facebook ได้จริงๆ ยังมีช่องทางการทำ Facebook Group เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ยังไม่ลด Reach และยังสามารถสร้าง Community ให้กับเพจได้อีกด้วย 

Tip ของการทำเพจนั้น
1. การติดตามสถานการณ์สำคัญ เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ 
2. online และ offline ต้องมาด้วยกัน บางกรณีก็ต้องใช้ offline เข้ามาช่วยให้สื่อที่เราทำมีประโยชน์มากขึ้น
3. คนแชร์ต้องได้อะไรจากมัน มีประโยชน์อย่างไร 

และคุณเอ็มได้ทิ้งท้ายไว้ว่า "ยังไงก็ตามคอนเทนต์ที่ไม่มีประโยชน์ถึงจะมียอด Engage สูง มันก็ไม่มีประโยชน์ มาเลือกทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์กับคนอื่น" กันจ้า




วิทยากรท่านที่สอง คุณท้อฟฟี่ ชญาน์ทัต วงศ์มณี นักเขียนและนักสัมภาษณ์จากเพจ ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ และ The Standard บรรยายในหัวข้อ มีแบรนด์อยู่ก็สนุกได้ ทำคอนเทนต์พ่วงแบรนด์อย่างไรให้จริงใจและคุณภาพถูกใจเรา 



แบรนด์ที่ดีคือแบรนด์ที่มีจุดประสงค์ของการมีอยู่ ซึ่งจะนำมาสู่ภาระยิ่งใหญ่ที่เขาจะทำ หากเราทำบล็อกเราต้องตอบได้ว่า บล็อกของเราจะช่วยใช้โลกดีขึ้นได้อย่างไร?  
เราต้องตอบได้ว่า เราทำคอนเทนต์ทำไม? โลกนี้จะดีขึ้นอย่างไร? แบรนด์ต้องมีจุดประสงค์ทุกแบรนด์มีความหมาย มันช่วยโลกยังไง? กับคำถามเหล่านี้เราต้องตอบให้ได้เสียก่อน

Why? How? What? ถ้าเราตอบ 3 คำถามนี้ได้ มันจะมีเป้าหมาย 

วันสำคัญคือวันเกิดและเป็นวันที่เราพบว่าเราเกิดมาทำไม? การมีจุดมุ่งหมายที่ดีแบรนด์ก็จะเติบโตกว่าแบรนดือื่น แบรนด์เกิดมาทำไม? แบรนด์เชื่ออะไร? 
มีความสุขดีขึ้น ใช้ชีวิตดีขึ้น!! เก่งอะไร มีประโยชน์อะไร คนทำคอนเทนต์ที่ดีคือคนที่ทำงานนอกคอนเทนต์ให้เยอะ ตัวอย่างเช่น เชฟบางคนที่ทำอาหารอร่อย มันเกิดจากไปชิมไปดูอย่างอื่นนอกครัวแล้วเอาทั้งหมดมาใช้ในครัว 

ถ้าเราตอบคำถามว่ามันจะดีขึ้นยังไงได้นั้น มันจะมีเหตุผลของการดำรงอยู่ (IKIGAI) 
1. รัก
2. เก่ง
3. รายได้
4. โลกต้องการ
หากตอบ 4 อย่างนี้ได้ก็จะมีคุณค่าในอาชีพที่รักเพราะโลกต้องการเรา 

Content ที่ดีทำให้เกิดอะไรได้บ้าง 
1. ตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้น
2. วิเคราะห์วิจารณ์มัน อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เกิดขึ้นมันดีไม่ดีอย่างไร
3. ช่วยเขย่าความคิดอะไรบางคนได้ไหม
4. เชื่อมโยงคนเข้าด้วยกัน ชอบ+เชื่อ+ความเห็น มันเกี่ยวกันได้อย่างไร
ตัวอย่างเช่น โลกกับนมแม่เกิดขึ้นได้ยังไง?
จุดหมาย ต้องขยายสิ่งที่คนสนใจให้ได้ 
เป้าหมาย เพจเราช่วยเค้ายังไง? ทำให้คนได้ใช้ชีวิตดีขึ้นได้อย่างไร

การสร้าง Content ที่ดี
1. Me (ฉัน) เก่งอะไร สนใจอะไร มี Passion อะไร
2. You (เขา) คนอ่านใช้ชีวิตกันแบบไหน?  
Audience (ผู้ชม) Clients (ลูกค้า) Agency (เอเจนซี่) 3th Party Stakeholders (ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย)  
ความน่าเชื่อถือคือสิ่งสำคัญของเรา 
ตัวอย่าง โจทย์ "คนไทยเจ๋ง" เค้าจะไปหาคนที่ตอบโจทย์ เพราะเชื่อในเรื่องเดียวกัน เชื่อมต่อ passion เดียวกัน กระทบกับใครบ้าง? เป็นต้น
3. US (เรา) คอนเซปต์ยังไง
4. World (โลก) คอนเทนต์อะไรที่เขาสนใจ จะช่วยยังไง ความเก่งเชื่อมโยงบริบทของโลก คำไหนให้เค้าเจอเรา 
5. Love (รัก) อยากให้คอนเทนต์นี้ดีเพื่อให้เค้าดีขึ้น เค้าชอบอะไร จะคุยกับเค้ายังไง 
6. Respect (เคารพ) คอนเทนต์ที่ไม่ทำร้ายตัวเองเพราะความเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ

Content ที่ดีมาจากการตั้งคำถาม
- คิดให้กลับกัน
- ตั้งคำถามให้ดี เพื่อจะได้อะไรจากการถาม
- เราตั้งคำถามอะไรบ้างกับเพจของเรา
- เวลาเกิดอะไร เราได้อะไรกลับมาบ้าง
- คอนเทนต์ที่ดีต้องรู้ว่า เราจะคุยกับใคร
- ใช้ความสามารถนี้ไปช่วยคนอื่นอย่างไร

Content is King!! จงจำไว้

เรื่องของตัวเลขสถิติยอดไลด์ยอดแชร์อย่าไปสนใจกับมันมาก เพราะมันมีไว้ให้เอเจนซี่กับลูกค้าเค้าคุยกัน เราสนใจใน Content ของเราเป็นหลัก ดียังไงช่วยคนอื่นยังไงมีประโยชน์อย่างไรให้ได้ก่อน เพราะท้ายที่สุดคอนเทนต์คือ "ความน่าเชื่อถือ" เมื่อใดที่เราหวั่นไหวกับเงิน คนอ่านจะเสียความเชื่อมั่นในตัวเราได้ง่าย เมื่อไหร่ที่เราให้เงินมาอยู่เหนือคุณค่าตัวเอง ทุกอย่างก็จะจบ!!  สำหรับ Part ของคุณท้อฟฟี่ได้แง่คิดเรื่องการทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพเป็นหลัก แล้วทุกอย่างจะกลับมาเราเอง



ในช่วงบ่ายก็มีกิจกรรม Workshop โดยให้โจทย์แล้วจับกลุ่มช่วยกันคิดแล้วมาพรีเซ็นต์ให้วิทยากร Comment ว่าสิ่งที่เราคิดมันมีประโยชน์ยังไง ทุกกลุ่มก็ระดมความคิดและรูปแบบการนำเสนออย่างเข้มข้น เรียกว่าเรียนเสร็จใช้เลย วันแรกของการเข้าแคมป์ก็ผ่านไปอย่างสนุกสนานและได้รับความรู้กันไปทั่วหน้า

สำหรับตัวภัทรานิตย์เองก็จะปรับปรุงเขียนบล็อกให้มันมีประโยชน์มากขึ้น บางทีเราก็คิดไม่ออกเพราะเหมือนเขียนตามแต่ใจเราเลย พอย้อนกลับมาว่าเราเขียนทำไม ทำให้นึกได้ว่าเราลืมประโยชน์ของเนื้อหาไปนั่นเอง เดี๋ยวจะค่อยๆ ปรับนะจ๊ะผู้อ่านทุกท่าน





Photo and Story 
By Patthanid C.
www.atourthai.com




Create Date : 23 สิงหาคม 2561
Last Update : 23 สิงหาคม 2561 9:03:55 น. 0 comments
Counter : 1338 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com