BKK - AYUTTHAYA :: มาดูกันว่ามีอะไรในหมู่บ้านญี่ปุ่น
หลังจากที่พวกเราขับรถออกจาก ตลาดน้ำอโยธยา จุดหมายต่อไปนั่นคือหมู่บ้านญี่ปุ่น ซึ่งตอนแรกจะไปตลาดน้ำคลองสระบัวก่อน แต่เห็นหมู่บ้านญี่ปุ่นถึงก่อนเลยมาแวะที่นี่ดีกว่า หากจะว่าไปแล้ว จขบ. ผ่านไปผ่านมาหมู่บ้านญี่ปุ่นนี่ก็หลายครั้งหลายครั้ง ได้แต่สงสัยว่ามีอะไรข้างในนี้นะ ทริปนี้เลยไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปชมให้หายข้อข้องใจเสียที
ค่าเข้าชมก็คนละ ๕๐ บาทล่ะ ตอนแรกก็เดินเข้าไปแบบงง ทำไมมันเงียบอย่างนี้ล่ะ ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่าเรามิได้คาดหวังกับการมาเที่ยวที่นี่แต่อย่างใด แค่เพียงจะมาแวะให้หายข้อข้องใจเท่านั้นเอง แต่ที่นี่มีอะไรมากกว่าที่คิด ตาม จขบ. เข้ามาดูในอาคารจัดแสดงกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นเรามารู้จักความเป็นมาของที่นี่กันก่อน ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา เกิดจากความร่วมมือของนักวิชาการไทยและญี่ปุ่น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินสนับสนุนจำนวน ๙๙๙ ล้านเย็น ก็ตกราวๆ ๑๗๐ ล้านบาท เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี ความสัมพันธ์การฑูตไทย-ญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐
Annex Building เป็นอาคารผนวก เป็นอาคารหนึ่งในสองของอาคารศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา ตั้งอยู่บริเวณที่เคยเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่นในสมัยอยุธยา ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกใต้วัดพนัญเชิง และในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ในโอกาสครบรอบ ๑๒๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-ญี่ปุ่น สมาคมไทย-ญี่ปุ่นจึงได้ปรับปรุงอาคารผนวกและปรับนิทรรศการภายในใหม่หมดซึ่งแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
พวกเราเดินเข้ามาในอาคาร Annex Building โดยมีเจ้าหน้าที่ให้บริการแนะนำเป็นอย่างดี พาพวกเราเข้าไปยังห้องวีดิทัศน์ แหมเดินเที่ยวร้อนๆ ที่ตลาดอโยธยามาเข้าห้องนี้แล้วรู้สึกดีจัง ภายในห้องวิดีทัศน์ได้นำเสนอภาพรวมของพระนครศรีอยุธยา โดยอ้างอิงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และเสนอความคิดเห็นของนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ทั้งไทยและญี่ปุ่น
เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ยว่าทองหยอดกับฝอยทองไม่ใช่ขนมไทย แต่มีรากเหง้ามาจากโปรตุเกส ไอ้เราก็นึกว่าเป็นขนมไทยเสียอีก เท่าที่ดูวิดีโอเหมือนในสมัยนั้นไม่นิยมชมชอบชาวคริสต์เสียเท่าไหร่ เค้าจึงมารวมตัวกันอยู่ในหมู่บ้านญี่ปุ่นแห่งนี้ล่ะ
พอดูวิดีทัศน์จบ เจ้าหน้าที่ก็พาพวกเราออกจากห้องเพื่อมาสู่ห้องแสดงถัดไปเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่ต้องบอกว่า ไม่เข้ามาไม่รู้นะเนี่ยว่ามีห้องจัดแสดงแบบนี้ ยังกะพิพิธภัณฑ์สยามเลยล่ะ โดยจุดต่อมาที่เราเดินมาชมก็คือ แผนที่เดินเรือมายังกรุงศรีอยุธยา โดยนำเสนอเส้นทางเดินเรือสันนิษฐานจากทางซีกโลกตะวันออกและซีกโลกตะวันตก รวมทั้งทางใต้แถบมลายูที่มีหลักฐานการติดต่อกันในสมัยอยุธยา ขอบอกว่าเห็นเส้นทางเดินเรือแล้วคงเดินทางกันเป็นเดือนอ่ะ ไกลชะมัดเลยอ่ะ
ถัดจากแผนที่เดินเรือก็จะพบกับการจัดแสดงจำลองสินค้านำเข้าและส่งออกในสมัยอยุธยามีหลากหลายผลิตภัณฑ์เลยล่ะ
นอกจากนี้ยังมีข้าวของเครื่องใช้ของชาวญี่ปุ่นในสมัยกรุงศรีอยุธยาจัดแสดงอีกด้วย และจุดต่อมาที่ จขบ. ยอมรับเลยว่าไม่เคยเห็น นั่นก็คือแผนที่ Iudea (ยูเดีย)
เป็นแผนที่กรุงศรีอยุธยาที่เก่าแก่และงดงามที่สุดแผ่นหนึ่ง แผนที่ชิ้นนี้วาดขึ้นในช่วงซึ่งสถานที่สำคัญต่างๆ ยังอยู่ครบสมบูรณ์ แสดงสภาพเกาะเมืองล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐ เทือกเขา แม่น้ำ ลักษณะอาคารบ้านเรือน วัดวาอาราม ความวิจิตรโอฬารของพระบรมมหาราชวังตลอดจนถนนหนทางที่ปูด้วยอิฐ และคูคลองที่เชื่อมโยงต่อกันเป็นตาข่าย จนถูกขนานนามว่า "เวนิสแห่งตะวันออก"
แผนที่นี้เป็นภาพวาดสีน้ำมัน วาดโดย ดาวิดและโยฮันเนส วิงโบนส์ ชาวฮอลันดา เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๐๖ ตรงกับสมัยพระนารายณ์ มีขนาด 97 x 140 เซนติเมตร สันนิษฐานว่าเคยแขวนประดับอยู่ที่ห้องประชุม Heren XVII ภายในอาคารอินเดียตะวันออก ของบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไรคส์มิวเซียม กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งต้องบอกว่าแผนที่ใบนี้มีความละเอียดและงดงามมากๆ เลยล่ะ
ต่อมาก็เป็นแผนที่จากหนังสือของ เดอ ลาลูแบร์ เป็นภาพกรุงศรีอยุธยาและชุมชนต่างๆ ในสมัยพระนารายณ์ และภาพถ่ายทางอากาศเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน
และในโซนกลางก็มีการจัดแสดงประวัติชุมชนชาวต่างชาติในกรุงศรีอยุธยา โดยมีการเล่าถึงประวัติความเป็นมาของชนแต่ละชาติไว้โดยละเอียดไม่ว่าจะเป็น ลาว มอญ เขมร ขอม เวียตนาม พม่า แขก จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศล อังกฤษ โปรตุเกส และฮอลันดา และนอกจากนี้ยังมีโซน animation นำเสนอเรื่องราวการเข้ามาของญี่ปุ่นในอยุธยา ชุมชนญี่ปุ่น วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ อาชีพ ศาสนา รวมทั้งการลดจำนวนชาวญี่ปุ่นเป็นการ์ตูนเอนิเมชั่น น่าสนใจทีเดียวล่ะ
และโซนสุดท้ายที่ จขบ. ชื่นชอบมากๆ นั่นก็คือการลำดับเหตุการณ์ความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่น โดยแสดงด้วยตารางลำดับเหตุการณ์เปรียบเทียบเหตุการณ์โลก ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๘๙๓ ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนปัจจุบัน
แหม ถ้าสมัยเรียนประวัติศาสตร์มีชารต์แบบนี้บ้าง รับรองว่าท็อปแน่ๆ คือไม่ต้องมานั่งท่องตำราเป็นเล่มๆ ไงดูแล้วจำเอาง่ายดีแบบนี้ชอบ อิอิ
จากอาคาร Annex Building เดินมาทางซ้ายก็จะพบกับเรือโบราณจำลอง โดยได้จัดแสดงแบบจำลองเรือโบราณที่มีหลักฐานว่าเข้ามาติดต่อกับพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ เรือสำเภาจีน เรือสำเภาญี่ปุ่น เรือกำปั่นฮอลันดา เรือกำปั่นโปรตุเกส เรือกำปั่นมากัสซา และเรือสำเภาไทย
มาเที่ยวที่นี่เหมือนมาเติมความรู้เลยอ่ะ จขบ. ล่ะชอบสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้มากๆ พวกเราเดินต่อมายังริมน้ำเจ้าพระยา ช่วงนี้เป็นฤดูน้ำหลากน้ำเต็มตลิ่งเชียวล่ะ
จากนั้นก็เดินมาทางขวาก็จะพบกับสวนและศาลาญี่ปุ่น ที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา และเป็นที่ระลึกในวาระครบรอบ ๑๒๐ ปี ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ลักษณะเป็นสวนที่สวยงามร่มรื่นเป็นที่ผ่อนคลายสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม
จากนั้นก็เดินไปยังตึกจำหน่ายของที่ระลึก แหมเดินเข้าไปนึกว่าร้านโอท็อปบ้านเรา เราเหรอก็นึกว่าจะเป็นสินค้าญี่ปุ่นที่ไหนได้งานฝีมือไทยล้วนๆ เลยล่ะ
แต่ที่ฮาไปกว่านั้นคือเจ้าหน้าที่ที่ดูแล พูดไทยได้ด้วยนะเป็นคนญี่ปุ่น จขบ. กำลังยืนถ่ายรูปป้ายอยู่เค้าก็บอกว่า "ถ่ายทำไมอ่านออกเหรอ มาถ่ายตรงนี้ดีกว่า" แล้วก็พาพวกเราเดินไปตรงหน้าทางเข้าแล้วก็ชี้ขึ้นไปข้างบน "นั่นไงน่าดูกว่าอีก" โอ้แม่เจ้าแทบกรี๊ดตุ๊กแกตัวใหญ่ๆ ทำรังออกไข่กันบานทุ่งเลยเหนือทางเข้า อย่าหวังว่า จขบ. จะมีรูปมันมาฝากนะเพราะแค่เห็นก็กลัวแล้วอ่ะ
ลืมบอกไปว่าด้านในมีจัดแสดงรูปปั้นของออกญา เสนาภิมุขด้วยล่ะ น่าจะมีเกี่ยวพันอะไรสักอย่างกับญี่ปุ่นอ่ะ พอเดินดูเสร็จพวกเราก็เดินออกเพื่อเดินวนกลับไปยังจุดเดิม
ที่นี้ก็เป็นทีของ จขบ. ล่ะขอถ่ายรูปบ้างนะ ดีนะที่ทริปนี้มีตากล้องหัดถ่ายไปด้วย ไม่งั้นทริปนี้มีแต่รูปวิวแน่ๆ เลยอ่ะ
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากไปเที่ยวหมู่บ้านญี่ปุ่นก็สามารถไปได้ทุกวัน โดยเปิดตั้งแต่ ๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. หมู่บ้านญี่ปุ่นอยู่ตรงทางไปวัดพนัญเชิงวรวิหารล่ะ มีป้ายเห็นชัดเจนเลยล่ะ ลองไปดูนะอย่าคิดว่าไม่มีอะไร เพราะข้างในถือเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ได้ดีทีเดียว แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะคะ จะพาไปตลาดน้ำคลองสระบัวกันนะ ...
Create Date : 09 ธันวาคม 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2556 0:16:15 น. |
Counter : 6075 Pageviews. |
|
|
|
เล่าละเอียดดีมาก รูปก็เยอะ ชอบ ชอบ
แล้วจะกลับมาเก็บตก ข้อมูลอื่นอีก
น่ารักจ้า...