PHETCHABUN :: ทริปนอนหนาวดูดาวเดือน ตอนที่ 6 เยือนภูหินร่องกล้า ณ ผาชูธง
ตอนที่แล้วพาไปเที่ยว "ลานหินปุ่ม" กันมาแล้ว ตอนนี้ก็จะพาไปเที่ยวผาชูธงต่อกันเลยค่ะ ไกลเหมือนกันนะเนี่ยตอนแรกคิดว่าระยะทางแค่นี้จิ๊บๆ เดินแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว พออายุมากขึ้นขาดการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การเดินป่าเนี่ยไม่ใช่เรื่อยง่ายๆ เลยเหนื่อยนะเนี่ย เอาล่ะตาม จขบ.เดินทางกันต่อค่ะ
เส้นทางการเดินก็ประมาณนี้ค่ะ เดินได้เรื่อยๆ ไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก ต้นไม้กะก้อนหินก้อนนี้ขนาดเบียดกันขนาดนี้มันก็ยังขึ้นเป็นต้นไม้ต้นใหญ่ได้เลย แต่ดูไปดูมาไม่รู้ใครค้ำใครเนอะ เดินมาก็เจอผาแก่งลาด .. ตรงนี้ไม่แนะนำให้ยืนใกล้เพราะเป็นจุดที่มีความเสี่ยงหากลื่นล้มได้มาก
ผาชูธง
อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 600 เมตร เป็นหน้าผาสูงชัน สามารถเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะภาพทิวทัศน์ของดวงอาทิตย์ตกดินจะสวยงามไม่แพ้จุดชมทิวทัศน์อื่นๆ บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ ผกค. จะขึ้นไปชูธงแดง (ฆ้อนเดียว) ทุกครั้งที่รบชนะทหารของรัฐบาล
Pha Chuthong Cliff or Flang-Ple Cliff A steep cliff overlooking a magnificent view of the Vally to the west. The communists used this cliff to fly their red flag after each victory over the government forces.
จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ที่ต้องบอกว่าคนต่อแถวถ่ายรูปกันเยอะเชียว พอถ่ายเสร็จก็เดินลงมาจากผา เอ่อ..ไปทางไหนต่อฟ่ะ เอาแล้วไงอาการหลงหาทางออกไม่เจอซะงั้น เดินย้อนกลับมาทางเก่าค๊า เข้าใจว่าอาจจะต้องมีแยกให้เดินกลับไรงี้ แต่ปรากฏว่าเดินไปไหนล่ะเนี่ยทางออก มีกลุ่มชาวเขาเดินผ่านมาพอดีเลยถามเค้าว่า ไปทางไหนต่อเค้าตอบมาว่าจากผาชูธงเดินตรงไป .. โห จะหลงก็ตรงนี้แหละ ไม่มีป้ายบอกทาง เดินกลับไปผาชูธงกันใหม่ จากนั้นเดินตรงไปเลยค๊า
เดินมาเจอโครงการดีดีของ Canon ด้วย ฝายน้ำล้น แหม..ภูมิใจจังที่เป็นสาวก Canon เอาล่ะเดินต่อไปกันค่ะ
เจอหลวงพี่มาเดินสำรวจป่าด้วยเหมือนกันเหอะ .. มาเป็นหมู่คณะทัวร์เลย จุดต่อไปจะเป็นซันแครกค่ะ เป็นอีกจุดหนึ่งที่ระบุไว้ในเส้นทาง "ซันแครก" เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่บ่อบอกให้รู้ว่าในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะเลมาก่อน แรงอัดของน้ำทำให้เกิดเป็นชั้นหินทราย ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ความร้อนจากแสงอาทิตย์ ความเย็นในเวลากลางคืน ทำให้แตกร้าวน้ำฝนช่วยทำให้เกิดการสึกกร่อน .. เห็นป่ะล่ะ จขบ.เดาไว้ไม่มีผิดที่นี่ต้องเป็นทะเลมาก่อนแน่นอน
จุดต่อมาก็เป็นร่องรอยกระสุนร่องรอยของการใช้อาวุธประหัตประหารของคนไทยที่ต่างกันเพียงอุดมการณ์ .. เหมือนตอนนี้เลยเนอะนี่ พ.ศ 2514 คนไทยก็ยังต่างอุดมการณ์เช่นกัน ดีนะที่ไม่มีร่องงอยกระสุนแบบนี้ในกรุงเทพมหานคร จะว่าไปเราแตกแยกยังไงก็ยังแตกแยกอย่างนั้น จริงๆ เราเป็นประเทศที่มีบทเรียนนะ แต่ไม่เคยจำและปรับใช้ให้มันดีขึ้นอ่ะ
ปืนต่อสู้อากาศยาน 93 ที่ พ.ค.ท ได้ใช้สกัดการโจมตีทางอากาศสามารถเคลื่อนย้ายได้ ตอนแรก จขบ.มองดูก็คิดในใจอันเล็กแค่นี้มันยิงไงหว่า แต่พอลองจับแม่เจ้าโว้ย..หนักอิบอายต้องใช้แรงโน้มตัวแบบนี้เลย คือเอาขายันฐานอ่ะ ถึงจะยกปืนขึ้นได้ คนยิงเนี่ยต้องมีรากฐานมั่นคงมากๆ อ่ะ แล้วพวกเราก็เดินต่อด้วยความที่เพื่อนนุ๊กอยากเข้าไปศึกษาประวัติศาสตร์เลยพาพวกเราไปยังสถานที่อีกสามจุด เอ้ามาแล้วจัดให้ครบจะได้รู้ว่าเค้ามีอะไร
รูปภาพบนป้ายกับภาพที่แสดงไม่ค่อยสัมพันธ์กันเลยเนอะว่าม๊ะ .. พอเดินเข้ามาก็เจอก้อนหินยักษ์อันนี้แหละ
ดูผิวเผินก็เห็นเป็นก้อนหินใหญ่ๆ ธรรมดาหาได้รู้ไม่ว่าด้านหลังก้อนหินก้อนนี้ เป็นที่หลบภัยทางอากาศ พ.ค.ท อาศัยสภาพธรรมชติลดความเสียเปรียบของการสู้รบ เพิงหินจึงเป็นที่หลบภัยอย่างดีบรรจุคนได้ประมาณ 200 คน จขบ.เดินไปสำรวจในก้อนหินมันช่องเล็กช่องน้อยไว้หลบได้จริงๆ ด้วยอ่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อการนี้จริงๆ คนธรรมดาคนก็คิดว่าอยู่ไม่ได้หรอก แต่คนที่อยู่กับสงครามสถานที่ไหนปลอดภัยยังไงก็อยู่ได้ จุดต่อไปเป็นสำนักอำนาจรัฐ บริเวณนี้บรรยากาศเย็นๆ ไงบอกไม่ถูกเรียกว่าเข้าไปตอนเย็นๆ แบบนี้ไม่น่าจะอยู่นานอ่ะนะ มันน่ากลัวเหอะ
นั่นไงมีหลุมศพด้วย เป็นหลุมศพผู้กองสมวิทย์ (ส.เล้าตุ๊) เป็นคนแรกที่นำลักธิคอมมิวนิตส์จากเวียตนามมาเผยแพร่ที่ภูหินร่องกล้า เสียชีวิต พ.ศ. 2522 เนื่องจากขัดแย้งกัน จขบ.เพิ่งเกิดเลยเหอะ บริเวณหลุมศพก็มีคนเอาดอกไม้กับบุหรี่มาไหว้ด้วยล่ะ ว่าแต่ตอนนี้เรากลับกันดีกว่าม๊ะ มันวังเวงพิกลง่ะ
สำหรับที่นี่ก็ใช้เวลาค่อนข้างเยอะพอสมควรในการเดินตามเส้นทางที่กำหนดไว้ แต่หากว่าทำให้ได้เรียนรู้ว่าความแตกแยกเนี่ยไม่ดีเลยนะ สุดท้ายผลของความแยกแตกก็มีอย่างที่เห็นเป็นร่องรอยจารึกให้คนรุ่นหลังสงสัยว่าเป็นคนไทยเหมือนกันทำไมต้องแตกแยกกันด้วย จะต่อสู้กันเองไปทำไมเนอะ .. การเดินทางของ จขบ.ยังไม่จบนะคะ ตอนหน้าเราไปตามหาใบเมเปิ้ลแดงในโรงเรียนการทหารกันค๊า ไอไลท์อีกที่ที่ไม่ควรพลาด ..
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 9:35:35 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2433 Pageviews. |
|
|
|