ที่นี่จึงเป็นที่พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชน บนเส้นทางถนนคนเดินตรอกโรงยาจะมีทุกวันเสาร์เวลา 16.00 น. - 21.00 น. มีของกินข้าวของเครื่องใช้สินค้ามากมายวางขายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินเดินถนนตรอกโรงยา ของกินก็เยอะมากเลือกกินกันไม่ถูกเลยทีเดียว
หลังจากที่สอบถามพี่ที่แพมาพวกเราก็ได้พิกัดสายแดกมาหนึ่งที่ พี่เค้าบอกว่าส่วนใหญ่คนอุทัยนิยมทานข้าวต้มร้านนี้
บอกเป้ากันชัดเจนขนาดนี้มีหรือที่แก๊งค์เราจะพลาด!!
ร้านเจ้หน่อย กลางวันขายข้าวหมูแดงกลางคืนขายข้าวต้มกุ๊ยล่ะ ร้านนี้จะงงๆ นิดหนึ่ง
มีสองชื่อกลางวันร้านเจ้หน่อย กลางคืนข้าวต้มกุ๊ยบายหนุ่ม
แต่ล่ะเมนูขอบอกว่าอร่อยทุกอย่าง ราคาไม่แพงด้วยพวกเรานี่สั่งเบิ้ลกันบ้างไรบ้าง
เต็มโต๊ะไปหมดนี่กินกัน 5 คนนะจ๊ะ ได้กินหลายเมนูเลย
เช็คบิลมาหมดนี่ 1,335 บาท อิ่มไปถึงพรุ่งนี้เลยทีเดียว โดยเฉพาะหมูกรอบที่นี่เด็ดจริงๆ
เดาว่าตอนเช้าหมูแดงต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ปลาลวกก็อร่อยมากเมนูยอดฮิตของที่นี่เลย ทุกโต๊ะสั่งหมดปลาลวก
พอทานเสร็จก็เดินย่อยเดินดูของตรงถนนตรอกโรงยาเนี่ยแหละ จากนั้นก็กลับที่พักกัน
หลายคนบอกว่านอนแพต้องระวังยุง สำหรับที่นี่อยู่แพไม่ต้องกลัวมีมุ้งกางให้รอบแพเลยจ้า
นั่งกันได้สบายๆ ไม่มีแมลงด้วย ไอเดียดีมากไม่ต้องกลัวยุง นั่งนับเลขกันสบายแระ
เช้าวันใหม่ !!
ตื่นมากินข้าวเช้าแล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมากันต่อ กว่าจะได้เช็คเอ้าท์เกือบเที่ยงเลยทีเดียว
ไปหากาแฟกินกันก่อนดีกว่า "บ้านจงรัก" คือเป้าหมายของเรา
ที่นี่นอกจากเป็นร้านกาแฟแล้ว ยังเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ของครอบครัวนี้ด้วย
ภายในร้านมีของเล่นสะสมน่ารักๆ เต็มไปหมด ด้านบนชั้นสองถูกเก็บรวมรวมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในอดีตของบ้านนี้
ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน มีโฉนดที่ดินของที่นี่ด้วยนะ ดีจังเก็บไว้เป็นความทรงจำดีอ่ะ
ใครที่มานั่งรอเครื่องดื่มก็เดินชมบ้านกันไปพลางๆ แถมคุณลุงที่อยู่ข้างบนก็เป็นนักเล่าเรื่องได้น่าสนใจมาก
ใครว่างๆ ก็ขึ้นไปชมชั้นสองนะ คุณจะได้ฟังเรื่องราวอันแสนประทับใจของบ้านจงรัก
จากนั้นก็ถามที่บ้านจงรักเนี่ยว่ามีอะไรอร่อย เค้าแนะนำก๋วยเตี๋ยวหน้าไปรณีย์มา
ส่งพิกัดกันมาชัดเจนขนาดนี้ต้องแวะกันหน่อยแล้ว
อร่อยสมคำบอกเล่า คนมาทานที่นี่กันเยอะเชียว เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ อารมณ์เหมือนร้านประจำหมู่บ้านแบบนั้นล่ะ
ตั้งอยู่ตรงข้ามไปรณีย์หาไม่ยากใกล้ร้านส้มตำ ราคาไม่ถูกนะจ๊ะชามละ 40 บาทเลย
จากนั้นพวกเราไปต่อยัง "วัดท่าซุง"
เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับการปรับปรุงโดยพระราชพรหมยานเถระฯ (หลวงพ่อฤษีลิงดำ) มีวิหารแก้ว ปราสาททองคำ
อันวิจิตรงดงามอลังการ เปิดให้เข้าชมสองรอบ 09.00 - 11.45 น. และ 14.00 - 16.00 น.
ภายในวัดอลังการดาวล้านดวงมาก วิบวับละลานตาไปหมด วัดนี้ไม่เคยมาแต่ทำไมเหมือนรู้สึกว่าเหมือนเคยมาแล้ว
สงสัยเป็นแดจาวูแน่ๆ เลยช้านน วัดนี้ลูกค้าบอกว่าถ้ามีโอกาสให้ทำบุญถวายพระองค์ใหญ่
องค์ใหญ่ถวาย 2,000 บาท ก็บอกบุญเพื่อนๆ ทั้งในออฟฟิตและที่มาด้วยกัน
รวบรวมได้พอดีเลยแบ่งบุญกันไป ไหนๆ มาแล้วก็ทำบุญกันหน่อย ไม่ได้มาบ่อยๆ ทำบุญนี้ต้องมีบุญร่วมกัน
ถึงได้มาทำบุญด้วยกันอีกรอบ ก็ปิดทริปอุทัยด้วยวัดท่าซุงเนี่ยแหละ
จริงๆ หากใครมีเวลามาสักสามวันสองคืนกำลังดี เพราะที่เที่ยวเยอะของกินก็เยอะร้านดังๆ ก็มากมาย
ขนมปังสังขยาเมืองอุทัยใครมายืนรอนี่รอกันลืมอ่ะ แนะนำให้โทรมาจองคิวก่อนแล้วค่อยมารับจะสะดวกกว่า
ขนาดจองมาแล้วยังต้องมายืนรอเลย จะมา Walk in นี่ไม่ได้นะจ๊ะ คิวอย่างยาว
ถ้าไม่อยากรอนานก็มาอีกร้านหนึ่งเดินตรงไปเลี้ยวซ้ายไม่ไกลนักก็เจอร้าน
ไม่ต้องรอนานมีของเพียบ ความอร่อยต่างกันความหวานมากหวานน้อย แล้วแต่คนชอบร้านนี้ก็ขายดีเหมือนกันเลย
บายบายเมืองอุทัยไว้มีโอกาสจะกลับมาใหม่นะ!!
Photo and Story
By Patthanid C.
คุณได้ทำการแปะ เรียบร้อยแล้วนะคะ