ขับรถชมวิวกินสเต็กเมืองคาวบอย โอ้โห...สวยไม่ใช่น้อยเลยนะจ๊ะ...ทุ่งทานตะวัน
8/12/2008ถึงปากช่องก็เย็นย่ำ วันนี้เราพักที่ลีลาวลัยจองไว้ก่อนมาเป็นเดือนๆ ตอนแรกจองวันที่ 5 ธันวาคมแต่ว่าคุณสามีคนดีไม่ว่างเพราะต้องพาพ่อไปเที่ยววันพ่อที่เชียงราย จึงมีเหตุต้องทำให้เลื่อนวัน อดดูบอลลูน อดดูคอนเสริต์เลยเรา ถึงที่พักแล้วค่ะ ลีลาวลัย ขับรถมาทาง ถ.ธนรัตช์ แล้วเลี้ยวซ้ายที่ กิโลเมตรที่ 7 ค่ะ รีบเข้าไป check in เข้าที่พัก กว้างค่ะที่นี่พื้นที่มากมาย เต็มไปด้วยดอกลีลาวดี แต่ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ใบร่วงหมดเลยไม่ค่อยสวย รู้สึกว่าเจ้าของจะดูแลกันเอง เป็นแบบธุรกิจครอบครัว พื้นที่เยอะแบบนี้ บางส่วนก็ขาดการดูแล ไม่มีคนช่วยยกกระเป๋าต้องช่วยเหลือตัวเอง เค้าพาเราไปดูที่พัก บอกว่าจะให้ดู 2 แบบถ้าชอบแบบไหนก็ให้เลือกเอา เค้าจะให้ในราคาเท่าที่จองไว้ อันนี้แบบเรือนไทย บ้านส่วนใหญ่จะเป็นหลังๆ นะคะของเราที่จองไว้เป็นสไตล์บาหลีค่ะหลังนี้ใหญ่ค่ะน่าจะมี 4 ห้อง ห้องละ 3000 บาทเค้าพามาห้องที่แพงกว่าที่เราจองไว้ แล้วบอกว่าถ้าชอบก็เอาห้องนี้ก็ได้คนนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน สิ่งแรกที่ทำเมื่อเข้าห้องคือเปิดทีวี เราขอไปดูอีกห้องก่อนดีกว่า ห้องนี้คือห้องที่เราจองไว้ตั้งแต่แรกเตียงเล็กค่ะ แต่นอน 2 คนก็ยังพอนอนได้ค่ะคงต้องเบียดกันห้องน้ำแบบ openair ค่ะ กว้างกว่าห้องนอนซะอีก พี่ต้นบอกว่าถ้าเป็นดาราเข้าห้องน้ำแบบนี้ไม่ได้นะเนี่ย เดี๋ยวโดนถ่ายคลิป 555 แบบเราใครจะมาแอบถ่าย ตกลงเรา 2 คนชอบห้องนี้มากกว่าถึงแม้จะเล็กกว่าก็ตาม แต่บอกไม่ถูกอะรู้สึกชอบห้องนี้ซึ่งเราก็จองห้องนี้มาราคา 2700 บาท เลยปฏิเสธห้องแรกที่ให้ดูทั้งที่เค้าบอกว่าราคาสูงกว่าห้องนี้ หน้าห้องวิวก็ดีกว่าห้องแรกด้วยชอบสะพานอันเน้เราจะเข้าเมืองปากช่องไปหา steak อร่อยๆกิน ที่รีสอร์ทบอกว่าวันนี้ห้องอาหารปิดเพราะว่ามีคนพักแค่ 3 ห้องเอง อิอิ ผีจะหลอกเรามั๊ยหนอคืนนี้ ขับรถเข้าไปหาร้าน Lek's steak เพราะว่าได้ยินกิตติศัพท์ว่าอร่อยเป็นเลิศและเป็นสเต็กที่อร่อยที่สุดในเขาใหญ่เลย จริงไม่จริงเดี๋ยวก็รู้กว่าจะหาเจอขับเลยไปตั้งไกล ร้านอยู่ตรงข้ามกับร้านเรือนไทยแต่อยู่ทางซ้ายมือต้องเข้าซอยไปอีกนิดนุง เป็นร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่ไม่โต มีเราเพียงแค่โต๊ะเดียว ไปไหนช่วง weekday มันดีแบบนี้นี่เอง ไม่ต้องแย่งกันคนเยอะน่าเบื่อค่ะ อากาศเย็นเชียวค่ะ แต่ว่าเราก็ยังอยากกินน้ำเย็นนั่งรอค่ะ หิวตาลายเลยนะเนี่ยจานนี้ราคาสูงค่ะ เป็นเนื้อสัน ข้าวผัดและข้าวโพดหวาน จานละ 690 บาท เนื้อก้อนใหญ่เค้าแนะนำว่า สั่งจานเดียวก็พอเดี๋ยวจะทานไม่หมดจริงแล้วต้องเสิรฟ์คู่กับบิสกิต แต่เค้าบอกว่าหมดทำไม่ทันเพราะว่าหยุดติดกัน 3 วันที่ผ่านมาคนเยอะมาก เค้าจึงให้ขนมปังกระเทียมมา ขอบอกแข็งเหมือนหัวไอ้โจรจานเดียวอิ่มเหมือนที่เจ้าของร้านบอก เพราะเนื้อกินแล้วแน่น สเต็คอร่อยสมคำร่ำลือ เนื้อนุ่มฝีมือการหมักขั้นเทพความสุกแบบ Medium อร่อยเหาะจริงๆ แต่อย่างอื่นก็งั้นๆ อะค่ะ ทั้งสลัดและข้าวผัดไม่ได้วิเศษวิโสอะไรและราคาสูงมากด้วย อิ อิ คิดถึงซิลเล่อร์ยังไม่ดึกเกินไปยังมีเวลาไปเดิน outlet village คนไม่ค่อยมีเลยค่ะ หรือว่าใกล้จะปิด ที่นี่ปิด 2 ทุ่ม วัวควายสีสันสดใสเยอะแยะไปหมด ร้านปิดจนจะหมดแล้วล่ะค่ะ เราไม่ค่อยเสียเงินเลยได้แค่น้ำมันหอมระเหยมาแค่ขวดเดียวเอง เสื้อผ้าดูแบบผ่านๆ ไม่ค่อยถูกใจเลยไม่เสียตังค์ กลับที่พักไปนอนดีกว่า อากาศหนาวเย็นอาบน้ำหนาวสุดๆไปเลย ตื่นเช้ามารีบอาบน้ำแต่งตัวเก็บของขึ้นรถ แล้วซูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าดอกไม้ลอยน้ำสีสันสดใสทานอาหารเช้าที่นี่ค่ะตักอาหารได้ตามสบายค่ะ แต่มีให้เลือกอยู่ไม่กี่อย่างค่ะข้าวต้ม และ ABF ทำมาให้ใหม่ๆ ร้อนๆ ข้าวต้มอร่อยค่ะ ส่วนคุณสามีชอบข้าวเหนียวกลอยกินไปเยอะเลยทีเดียว รีบขับรถไปฟาร์มโชคชัย วิ่งหน้าตั้งกลัวรีบไปซื้อตั๋วตอน 10.00 น. แต่ไม่ทันค่ะเต็มแล้ว เราจึงได้ดูรอบ 11.30 น. นั่งรอเป็นชั่วโมงๆ เลยล่ะค่ะ ค่าตั๋ววันธรรมดาคนละ 230 บาท ขอแนะนำคนที่จะมาดูนะคะ ควรจะโทรมาจองล่วงหน้าก่อนค่ะ ไม่งั้นมีสิทธิไม่ได้ดูเอาง่ายๆนะคะ ซื้อตั๋วเข้าชมได้ที่นี่ค่ะถ่ายกับสาวๆเมืองคาวบอยมีเวลาเหลือเยอะ จึงเดินไปเดินมารอเวลาเข้าชมร้านขายขนมของฝาก ของที่ระลึก เฮ้อ...ไม่รวยแล้วใครจะรวยคะคุณโชค อยากเป็นคุณสู่ขวัญจังแหะ ถึงเวลาเข้าชมแล้วค่ะ กิจกรรมแรกคือดูวิดีทัศน์ประวัติความเป็นมาของฟาร์มโชคชัย และเดินเข้าไปชมรถรุ่นต่างๆ ของฟาร์มโชคชัยจุดต่อไปคือดูการรีดนมวัวค่ะ ก่อนอื่นดูบั้นท้ายวัวก่อนนะคะ ว้าย....ตัวนี้ฉี่เฉยเลยค่ะ เค้าบอกว่าเวลาวัวจะอึหรือฉี่เค้าจะยกหางค่ะ สาวๆ ที่จะสาธิตการรีดนมวัวให้เราดูรีดแล้วค่ะรีดแล้ว นมนิ่มๆ น้ำนมขาวๆ แต่พุ่งทีละนิดเค้าขออาสาสมัคร ยุให้เพื่อนสนิทที่ไปด้วยให้ออกไปแสดงความกล้า แต่พี่ท่านบอกว่าไม่ถนัดรีดนมวัว ชอบแต่รีดนมคน เจ้ย...คบได้ไหมละนั่น จากนั้นเค้าพาเราไปดูวิธีการทำไอติม อืมม์..มิลค์ แล้วก็แจกถ้วยเล็กๆ เล็กจริงๆเหมือนถ้วยใส่วุ้น ให้เรากินคนละ 1 ถ้วยรีบวิ่งออกมาแย่งขึ้นรถ เราจะไปชมไร่แล้วค่ะ พื้นที่มีเป็นหมื่นไร่รวยจังเลยอะ อิจฉาคุณสู่ขวัญอีกแล้วเค้าให้เรารอเวลาเพื่อที่จะชมโชว์คาวบอย ระหว่างที่รอก็เดินชมบริเวณรอบๆ และไปซื้อนมกับไอติมหม่ำกันก่อน หญ้าที่เก็บไว้ให้วัวกินต้องมีรถช่วยเก็บและม้วนไว้เป็นก้อนกลมๆ แบบนี้ แค่หญ้าพวกนี้ฟาร์มโชคชัยก็มีรายได้มหาศาลแล้ว เมื่อกี้เค้าแจกไอติมมาแหย่พยาธิ ซื้อกินเองก็ได้ ถ้วยละตั้ง 40 บาทกินให้หายข้องใจจากนั้นเค้าก็ประกาศเรียก ให้เข้าไปดูโชว์การแสดงของคาวบอยถ่ายรูปไม่ชัดเพราะไปนั่งมุมที่ย้อนแสง ดูเสร็จเค้าเรียกขึ้นรถพาไปดูหมาต้อนแกะน่าสงสารแกะจริงๆเลย หมาใจร้ายจากนั้นก็ไปดูสัตว์กันต่อ ให้อาหารสัตว์ด้วยนะคะ ให้อาหารกวาง ให้นมวัว และให้อาหารอูฐ กะต่าย ตะกร้าละ 30 บาทแล้วเดินออกมาดูโชว์สัตว์หมาป้อนนมวัว น่ารักมั่กๆ เจ้าตัวนี้อะเค้าบอกว่าวัวตัวนี้อายุ 1 เดือนกว่าๆ เอง นกนับเลขค่ะลืมถ่ายรูปหมากระโดดเชือกเลยค่ะ เพราะชอบมากดูจนเพลิน จากนั้นก็จบเพียงเท่านี้ ประทับใจค่ะฟาร์มโชคชัยออกมาซื้อเบอร์เกอร์อันละตั้ง 100 ไปกินในรถ ของกินที่ฟาร์มโชคชัยแพงไปหมดทุกอย่างเลยwidth='450' height='352' border=0>และได้อันนี้มา 1 ใบ ใบละ 280 บาทจริงแล้วอยากได้หมอนด้วยแต่ว่าคิดไปคิดมาเดี๋ยวจะรกเตียง เลยไม่เอาดีกว่าขับรถไปทางมวกเหล็กเลี้ยวซ้าย ผ่านแดรี่โฮม แต่ไม่แวะมุ่งหน้าตรงไปที่ไร่องุ่นกรานมอนเต้ Granmonte Vineyard & Wines เงียบมากเลยค่ะ ไม่ได้ไป weekend อะไรๆ ก็เงียบไปหมด ไม่มีรถบริการพาไปดูองุ่นใกล้ๆด้วย งั้นเราก็เดินดูเองละกันเค้าห้ามเดินเข้าไปค่ะ คือห้ามมุดเข้าไปในนี้องุ่นเขียวๆ สวยดีนะคะหิวแล้วค่ะอยากกินที่นี่อะ จดไว้ใน list แต่ว่าวินกอตโตก็ไม่เปิด เศร้า..เดินดูร้านค้าและบริเวณรอบๆอีกสักนิด มีกล้วยไม้สวยๆด้วยค่ะขับรถวนหาที่กิน ร้านไหนๆ ก็ปิดหมด ร้านนี้เปิดใหม่ได้ไม่นานเจ้าของเดียวกับจุลดิศเขาใหญ่ส่วนใหญ่ร้านรวงต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่เขาใหญ่ไม่ค่อยเปิดขายวันธรรมดาเลยต้องแวะร้านข้างทาง เพราะแสบท้องร้านนี้อยู่ก่อนถึง Primo Posto แต่ก๋วยเตี๋ยวอร่อยค่ะ มื้อนี้แค่ 2 จานราคา 80 กว่าบาทสามีบอกว่าแพงนะเนี่ยร้านเล็กๆ แต่ขายจานละ 40 ถึงแล้วค่ะร้านดังที่ใครๆ มามวกเหล็ก ปากช่อง ต้องมาที่นี่ สีสันสวยได้ใจแต่ว่า....มันปิดอีกแล้วค่ะ เราก็รู้นะว่าปิดแต่แอบมีความหวังว่าเค้าจะเปิด 555เฮ้อ... มุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่เลยดีกว่าค่ะ จ่ายค่าเข้าคนละ 80 ค่ารถ 50 เพื่อไปขับรถเล่นชมวิวจอดจุดชมวิว ลิงแอบขึ้นหลังคารถเราด้วยจากจุดชมวิว จะมีลิงอยู่เต็ม 2 ข้างทาง ต้องขับรถด้วยความระมัดระวังถึงแล้วค่ะเขาใหญ่เข้าไปอ่านเรื่องราวของเขาใหญ่ได้ที่นี่ค่ะ เสียเงินขึ้นมาทั้งคนและรถ 130 บาทขึ้นมาดูไม่คุ้ม ก็ลงดีกว่าเพราะวันนี้เราต้องไปพักที่สวนเมืองพร ซึ่งอยู่เขื่อนลำตะคองนู๊น รีบไปดีกว่าจะได้ไปชมความงามของที่พักได้นานๆ ขับรถไปเรื่อยจากปากช่องก็ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง แต่ตอนนี้เราอยู่เขาใหญ่คงไม่ต่ำกว่าชั่วโมงเป็นแน่แท้ จุดสังเกตต้องผ่านที่นี่ก่อนค่ะถึงแล้วค่ะสวนเมืองพร ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะ ก่อนมาได้ทำการจองที่พักไว้แล้วค่ะ 2 วัน 1 คืนราคา 2200 บาท แล้วเราก็บอกให้เค้าเก็บโต๊ะที่วิวดีที่สุดสวยที่สุดไว้ให้เราสำหรับมื้อเย็นไว้แล้วด้วยค่ะ บอกให้เค้ายก wellcome drink มาให้ที่นี่ค่ะ เพราะเราจะกินข้าวก่อนขึ้นห้องสั่งอาหารไป 3 อย่างค่ะ ต้มยำปลากระพง ปลาช่อนฟู และเต้าหู้กระทะร้อน อาหารไม่ค่อยอร่อยค่ะวันนี้และราคาก็ค่อนข้างแพง อยากนั่งอยู่นานๆ แต่วันนี้ไม่มีดนตรี ไม่มีนักร้องเลยค่ะ และคนบางคนก็หนาวด้วยค่ะจึงเปลี่ยนใจไปนั่งชมวิวบนห้องพักจะดีกว่า ห้องพักของเราคือห้อง 301 เป็นห้องกระจกทั้งหมดเลย ใสปิ๊งๆ ทั้งห้องเป็นสีขาว แต่มีโซฟาแดงสร้างความเด่นอยู่บริเวณมุมห้องห้องน้ำมีข้อเสียค่ะ สายฉีดชำระเสียน้ำพุ่ง แต่เราขี้เกียจโวยวายเลยปล่อยเลยตามเลย น้ำอุ่นก็ไม่อุ่นแถมไหลไม่แรง ล่าสุดอ่านรีวิวคุณชานไม้บอกว่าลื่น ทำให้เค้าล้มหัวแตกต้องไปเย็บตั้ง 5 เข็มเป็น Open Air ด้วยนะคะ แต่หนาวแบบนี้ขอบายระเบียงมีเก้าอี้ให้นั่งรับลมเย็นๆ โน่น...สระว่ายน้ำ แต่เราไม่ได้เดินไปดูเลย ขี้เกียจอย่างแรงเช้ามาตื่นขึ้นมาแต่เช้ารีบออกมาดูน้ำในเขื่อนลำตะคอง แต่หนาวเลยรีบไปอาบน้ำดีกว่า ถ่ายไว้เป็นที่ระลึกภาพบนหัวเตียงค่ะ สวยดีลงมาเก็บบรรยากาศกันอีกครั้งค่ะ สวยค่ะชอบมุมนี้ ใครๆ ที่มาที่นี่คงไม่มีใครลืมถ่ายรูปตรงนี้ ยกเว้นไม่ได้เอากล้องมา 555 ที่สวนเมืองพร มีที่พักอยู่แค่ 6 ห้อง มีต้นไม้ขายด้วยค่ะ เราพาไปเดินดูบริเวณรอบๆนะคะ แต่ว่าไม่ได้ไปทุกจุดนะคะ อันนี้ประมาณ cofee shop เลยค่ะ แต่ว่าปิดอีกแล้วเลยไม่ได้เข้าไปดูข้างในเลยค่ะ เค้าบอกว่าจะเปิดให้บริการเฉพาะ weekend เสียเวลารออาหารเช้านานเป็นชั่วโมง ทำให้เราสายไปเลย นี่แหละต้นตอทำให้เราเสียเวลาสายมากแล้วเรารีบ check out ออกจากสวนเมืองพร มุ่งหน้าเข้าปากช่องเพื่อแวะบ้านไม้ชายน้ำ บ้านไม้ชายน้ำเป็นร้านอาหารที่เก็บสะสมของเก่ามากมายก่ายกอง บางจุดก็ดูเหมือนรก แต่บางจุดก็ดูฮิปๆ ไปอีกแบบ เลือกนั่งริมน้ำค่ะ มีน้ำตกและโค้งน้ำลำตะคอง เสียงน้ำไหลชื่นฉ่ำหัวใจอะไรขนาดนี้ จะสั่งอะไรดีนะ ต้องเปิดไปหน้าอาหารแนะนำสั่งประเภทกินเล่นๆ มาดีกว่าค่ะ เพราะเมื่อ 10 โมงเพิ่งกินอาหารเช้ามา ตอนนี้ 11 โมงเอง เลยสั่งส้มตำกับหมูกรอบไข่ต้ม ผัดหมี่โคราช และหมูสะเต๊ะค่ะอาหารแพงค่ะ ที่ปากช่องอาหารแพงทุกอย่างเลย มีร้านขายของเล่นด้วยค่ะ ร้านนี้เค้าสวยค่ะ มีอะไรให้ดูเยอะแยะไปหมดดอกไม้สวยๆของบ้านไม้ชายน้ำออกจากบ้านไม้ชายน้ำเราจะไปชมทุ่งทานตะวันค่ะ โดยแวะเข้าไปทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ผู้ชายกับดอกไม้ เหลืองอร่ามสุดตาถ่ายรูปกับทุ่งทานตะวันและปล่อยนกให้มีอิสระภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้วเรา 2 คนขับรถชมวิวไปเรื่อยๆเอ...รถจอดกันทำไมนะ ลงไปดูดีกว่าอ๋อ...อุโมงค์ต้นไม้ ต้นไม้ข้างบนโน้มเข้ากัน ทำให้มีร่มเงาให้ถนนค่ะ เลี้ยวขวาเข้าไปชมไร่องุ่นปภัสราค่ะ องุ่นไร่คุณปภัสราจะมีสีดำ ไม่เหมือนที่กรานมอนเต้ที่มีสีเขียว อิอิ เพราะว่าไร่ปภัสราตัดองุ่นที่แก่แล้วมาผูกไว้ให้ดูค่ะ ขอกัดหน่อยได้ป่าว ที่นี่คนมาเที่ยวกันเยอะมากๆ ยิ่งด้านหน้าร้านอาหารที่ติดถนนคนยิ่งเยอะแทบไม่มีที่จอดรถ แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาเหมือนที่เราเคยมาครั้งก่อนก็เงียบๆเหมือนกันค่ะ มาทีไรก็มาซื้อน้ำองุ่นและพายองุ่นทุกครั้ง คราวนี้ได้เยลลี่ด้วยค่ะ แล้วก็ซื้อน้ำองุ่นกลับบ้านไปฝากแม่ด้วย บ้านสีขาวหลังนี้ คาดว่าเป็นบ้านของคุณพรเทพ และคุณปภัสรา เวลาที่มาพักที่นี่ หนทางยังอีกยาวไกล วันนี้ต้องกลับให้ถึงบ้านค่ะ ซึ่งขณะนี้บ่าย 3 แล้วเรายังไปไม่ถึงไหนเลย จึงไม่แวะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ค่ะ เพราะว่าเคยมาแล้วด้วยค่ะ จึงมุ่งตรงกลับบ้านเลย ทริปนี้ก่อนจากกันขอฝากดอกทานตะวันงามๆ ดอกนี้ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ