Bloggang.com : แมวเซาผู้น่าสงสาร : ไหว้พระแก้วบุษราคัม @ วัดศรีอุบลรัตนาราม อุบลราชธานี

วัดสำคัญใจกลางเมืองอุบลราชธานีที่ผมไปทัวร์อีกแห่งคือ วัดศรีอุบลรัตนาราม หรือวัดศรีทอง (ก.พ.2558) ตั้งอยู่บนถนนอุปราช (ตรงข้ามทุ่งศรีเมือง) สร้างขึ้น พ.ศ.2398 สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ดินวัดกว่า 30 ไร่ถวายโดยพระอุปฮาชโท ต้นตระกูล ณ อุบล ซึ่งเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา พร้อมอาราธนาพระเทวธัมมีจากวัดสุปัฏนาราม มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปแรก

เมื่อเดินเข้าด้านในจะเห็นพระอุโบสถสร้างตามแบบวัดเบญจมบพิตรเพื่อประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองปางมารวิชัย ศิลปกรรมสมัยเชียงแสน แกะสลักจากแก้วบุษราคัม ขนาดหน้าตักกว้าง 3 นิ้ว สูง 5 นิ้ว เดิมเป็นสมบัติของเจ้าปางคำ ราชวงศ์เมืองเชียงรุ้งแสนหวีฟ้า ที่แตกหนีพวกฮ่อมาจากเมืองเชียงรุ้ง และมาสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (จังหวัดหนองบัวลำภู)

พระแก้วบุษราคัมมีความเกี่ยวเนื่องกับพระแก้วมรกต ด้วยสมัยพระเจ้าพรหมมหาราช แห่งอาณาจักรโยนกเชียงแสนครอบครองพระแก้วมรกตไว้ในพระนคร ดังนั้น ในดินแดนสิบสองปันนา ล้านนา และล้านช้าง ซึ่งลำธารอุดมด้วยรัตนชาติหลากสี จึงเกิดการสร้างพระพุทธรูปด้วยแก้วมณี อาทิ พระเสตังคมณี นครลำปาง พระแก้วขาว นครเชียงใหม่ และพระแก้วสีเหลืองนามพระแก้วบุษราคัม ต่อมาตกทอดถึงพระเจ้าตาบุตรเจ้าปางคำ ในปี พ.ศ.2314 นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานถูกเจ้าสิริบุญสารแห่งเวียงจันทน์ยกทัพมาตี พระเจ้าตาถึงอสัญกรรมในสนามรบ เจ้าพระวอและท้าวคำผงจึงอพยพหนีศึกมาสร้างเมืองที่บ้านดอนมดแดง อุบลราชธานี พร้อมอัญชัญพระแก้วบุษราคัมมาประดิษฐานในวัดหลวง โดยขออยู่ใต้ขันธสีมาพระเจ้ากรุงธนบุรี

จวบจนสมัยรัชกาลที่ 5 มีการปฏิรูปการปกครอง ทางการส่งข้าหลวงมากำกับดูแลหัวเมือง ทำให้เจ้าราชบุตรหนูคำ เจ้าเมืองสมัยนั้นเกรงว่าข้าหลวงจะแสวงหาสมบัติของบ้านเมืองไปเป็นของตน จึงนำพระแก้วบุษราคัมไปซ่อนไว้ที่บ้านวังกางฮุง (หมู่บ้านในอำเภอวารินชำราบ) กระทั่งวัดศรีอุบลรัตนารามถือกำเนิดขึ้น จึงอัญชัญพระแก้วบุษราคัมกลับมาเป็นพระพุทธปฏิมาประดิษฐานประจำวัด

เมื่อก่อนทางวัดจะเปิดให้ประชาชนกราบไหว้พระแก้วบุษราคัมเพียงปีละครั้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปัจจุบันมีการจัดระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดีจึงเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้านมัสการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.